25 เม.ย. 2568 | 10:30 น.
กร ทัพพะรังสี นายกสมาคมมิตรภาพไทย-จีน และอดีตเลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ) ซึ่งร่วมอยู่ในเหตุการณ์วันลงนามในแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูต ระหว่าง หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย กับ นายกรัฐมนตรี โจว เอิน ไหล แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พุทธศักราช 2518 กล่าวในโอกาสเป็นประธานงานแถลงข่าว “สายใยรักสองแผ่นดิน : 50 ปี สายใยมิตรภาพไทย-จีน” ซึ่งสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน และมูลนิธิปัญญาวุฒิ ร่วมกันจัดขึ้น ณ โรงแรมแม่น้ำรามาดาพลาซ่า เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 โดยระบุว่าแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างราชอาณาจักรไทย กับสาธารณรัฐประชาชนจีน ดังกล่าว คือสะพานเชื่อมสายใยมิตรภาพระหว่าง 2 ประเทศ ที่เกิดขึ้นบนการให้เกียรติและเคารพในอธิปไตยของแต่ละฝ่าย อีกทั้งยังเป็นยันต์เกราะเพชรคุ้มกันประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากภัยคุกคามจากประเทศเพื่อนบ้าน
“ในฐานะที่ผมอยู่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ สามารถพูดได้เต็มปากว่ารัฐบาลจีนให้เกียรติ และให้ความเป็นกันเองกับรัฐบาลไทยอย่างมาก เนื่องจากตามธรรมเนียมปฏิบัติผู้นำระดับสูงของจีน จะไม่ยอมพบเจรจากับผู้นำรัฐบาลอื่นใดที่ยังมีความสัมพันธ์ทางการฑูตอยู่กับไต้หวัน แต่กรณีประเทศไทย ได้รับการยกเว้นเป็นพิเศษ”
กร กล่าวด้วยว่าภายหลังการลงนามในแถลงการณ์ร่วมกันผ่านไปแล้ว นายกรัฐมนตรีโจว เอิน ไหล ได้บอกกับพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ รมว.ต่างประเทศขณะนั้นว่าการลงนามในแถลงการณ์ร่วม คือพันธสัญญาระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล ซึ่งน่าจะได้ขยายไปสู่ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนไทยกับประชาชนจีน โดยรัฐบาลจีน สนับสนุนให้จัดตั้งสมาคมมิตรภาพจีน-ไทยขึ้นในประเทศจีน ขณะที่พล.อ.ชาติชาย มาสถาปนาสมาคมมิตรภาพไทย-จีน ขึ้นในประเทศไทย และท่านรับหน้าที่เป็นนายกสมาคมคนแรก
“หลังจากท่านชาติชาย พ้นหน้าที่ไปแล้ว นายกสมาคมมิตรภาพไทย-จีนคนที่ 2 ก็คือผม และผมดำรงตำแหน่งนายกสมาคมมิตรภาพไทย-จีนต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ โดยตลอดระยะเวลานับตั้งแต่ประเทศไทยกับจีน สถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างกัน กระทั่งถึงทุกวันนี้ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศได้เจริญพัฒนาก้าวหน้าไปมาก ครอบคลุมทุกมิติทั้งระดับราชวงศ์ เรื่อยไปถึงภาคประชาชนทุกสาขาอาชีพ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่ง และหวังว่าเรื่องราวดีๆที่น่าประทับใจจะได้ถูกนำเสนอผ่านภาพยนตร์ ดราม่าโรแมนติก เรื่องสายใยรักสองแผ่นดิน ให้คนทั้งโลกได้ซาบซึ้ง”
ดร.กำพล มหานุกูล นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน กล่าวว่าโครงการจัดทำภาพยนตร์สายใยรักสองแผ่นดิน เฉลิมฉลอง 50 ปีสายใยมิตรภาพไทย-จีนนี้ นับเป็นกิจกรรมที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง ที่จะมีส่วนอย่างสำคัญในการสื่อสารเหตุการณ์สำคัญที่ร้อยรัดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีนให้ยั่งยืนยาวมาถึง 50 ปี และจะมั่นคงยั่งยืนตลอดไป ผ่านศิลปะการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์
“ผมต้องขอขอบคุณผู้มีอุปการคุณทุกท่าน ที่มองเห็นคุณค่าความสำคัญของโครงการนี้ และกรุณาให้การสนับสนุน เพื่อผลักดันให้โครงการนี้สามารถเดินหน้าไปได้”
ศักดิ์ชัย พฤฒิภัค เลขานุการมูลนิธิปัญญาวุฒิ กล่าวว่าโครงการนี้ถูกจุดประกายขึ้นช่วงปลายปี 2567 และได้นำหารือกับดร.กำพล นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน เพื่อประสานพลังกันขับเคลื่อน โดยนายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน ได้นำโครงการนี้ไปปรึกษากับเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชฑูตจีนประจำประเทศไทย และได้รับคำแนะนำจากบุคลากรของสถานเอกอัครราชฑูตจีนประจำประเทศไทย ให้นำเสนอเรื่องราว 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน เป็นแบบภาพยนตร์อิงข้อมูลความจริง ที่ใครๆก็ดูสนุก และได้สาระความรู้
“คำแนะนำของเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชฑูตจีนประจำประเทศไทย คือที่มาของภาพยนตร์สายใยรักสองแผ่นดิน ซึ่งทั้งสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน และมูลนิธิปัญญาวุฒิ ต่างเห็นพ้องกันที่จะเชิญชวนคุณปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้กำกับภาพยนตร์แถวหน้าของเมืองไทย และอาจารย์ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีคณะดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ประพันธ์ดนตรีชาวไทย ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ให้มาช่วยทำให้ภาพยนตร์สายใยรักสองแผ่นดิน เป็นภาพยนตร์ที่น่าประทับใจ”