แพทริค มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็ก “พ่อมด” กับแขนสุดมหัศจรรย์ ที่เกือบไปเป็นนักเบสบอล

แพทริค มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็ก “พ่อมด” กับแขนสุดมหัศจรรย์ ที่เกือบไปเป็นนักเบสบอล

       ย้อนกลับไปในควอเตอร์ที่ 4 ของการแข่งขันซูเปอร์โบว์ลครั้งที่ 54 ก่อนหมดเวลา 7.13 นาที แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ ตามหลัง ซานฟรานซิสโก โฟร์ตี้ไนเนอร์ส อยู่ 10 ต่อ 20 และเป็นดาวน์ที่สามที่ชีฟส์ต้องการถึง 15 หลา ตอนนั้นหลายคนอาจจะคิดว่าชีฟส์จบเห่แล้วแน่ ๆ แต่ท่ามกลางความกดดันนั้น แพทริค มาโฮมส์ (Patrick Mahomes II) ควอเตอร์แบ็กของชีฟส์ ได้ขว้างบิ๊กเพลย์สุดมหัศจรรย์ไปให้ ไทรีก ฮิลล์ ปีกนอก รับเปลี่ยนดาวน์ที่สาม จนกลายเป็นเพลย์ตัดสินเกมที่ต่อมาทำให้ชีฟส์คว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ลในรอบ 50 ปี และยังส่งให้ควอเตอร์แบ็กวัย 24 คว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ประจำซูเปอร์โบว์ลครั้งนี้

“Mahomes Magic” คือชื่อเรียกช่วงเวลาที่มาโฮมส์มักจะเนรมิตเพลย์มหัศจรรย์ขึ้นมา การที่ควอเตอร์แบ็กสักคนหนึ่งจะสร้างเพลย์แบบนั้นขึ้นมาได้ จำเป็นต้องมีแขนที่ทรงพลังและแม่นยำ บวกกับการอ่านเกมที่เฉียบแหลม มันคือเรื่องของพรสวรรค์ที่ใช่ว่าควอเตอร์แบ็กทุกคนจะมี

ถ้าพูดถึงกีฬาอเมริกันฟุตบอลหรือ NFL โดยเฉพาะตำแหน่งพระเอกของเกม หลายคนอาจจะคุ้นชื่อของเหล่าคนดังอย่างเช่น ทอม เบรดี้, เพย์ตัน แมนนิ่ง, แอรอน ร็อดเจอร์ส รวมถึงตำนานอย่าง โจ มอนทาน่า หรือ แดน มาริโน่ ที่ผ่านมามันอาจจะเป็นช่วงเวลาของบุคคลเหล่านี้ แต่เมื่อฤดูกาลเปลี่ยนผ่านในวันที่ต้นไม้ผลัดใบทิ้งไป ใบไม้ใหม่สีเขียวสดใสผลิงอกออกมาบ่งบอกถึงยุคใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ชื่อของ แพทริค มาโฮมส์ กลายเป็นตัวแทนของเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังก้าวขึ้นมาแทนที่ใบไม้ที่ร่วงหล่น

แพทริค มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็ก “พ่อมด” กับแขนสุดมหัศจรรย์ ที่เกือบไปเป็นนักเบสบอล

       ในปี 2017 ชีฟส์สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการทิ้งสิทธิดราฟต์สามสิทธิเพื่อเทรดอัพขึ้นไป 17 อันดับ ขยับไปอยู่ที่ 10 เพื่อดราฟต์ควอเตอร์แบ็กวัยหน้าละอ่อนจากมหาวิทยาลัยเท็กซัส เทค ที่มีชื่อว่า แพทริค มาโฮมส์

มาโฮมส์เป็นลูกชายแท้ ๆ ของ แพท มาโฮมส์ ซีเนียร์ อดีตพิชเชอร์ทีม นิวยอร์ก เม็ตส์ แห่งศึก MLB มาโฮมส์เติบโตที่เมืองไทเลอร์ รัฐเท็กซัส เขาก็เหมือนกับเด็กอเมริกันทั่วไปที่หลงใหลกีฬาอเมริกันเกม และมีความฝันที่จะเดิมตามรอยเป็นนักเบสบอลเหมือนกับพ่อ แม้เบสบอลจะเป็นอะไรที่ใกล้ตัวเขาแต่เด็ก แต่ฟุตบอลก็เป็นอะไรที่มาโฮมส์รู้สึกถึงความพิเศษได้เสมอ

ในช่วงมหาวิทยาลัยที่เท็กซัส เทค มาโฮมส์เลือกเอาดีทั้งสองชนิดกีฬา โดยเฉพาะในเบสบอล เขาแสดงถึงพรสวรรค์ที่ตกทอดมาจากพ่อ จนทำให้ถูกหมายมั่นว่าจะก้าวขึ้นไปเป็นยอดผู้เล่นใน MLB ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนั้นมาโฮมส์ผู้พ่อไม่อยากให้ตัวเองมีผลต่อการตัดสินใจของลูกชายเขาตัดสินใจให้มาโฮมส์เลือกทางเดินของตัวเอง

เขาหลงรักมัน (ฟุตบอล) เขาเล่นเบสบอลมาตลอด เขาโตมากับมันเรียกได้ว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา แต่ฟุตบอลเป็นเรื่องใหม่สำหรับเขา และเขาก็เริ่มหลงรักมันมาโฮมส์ ซีเนียร์ พูดถึงลูกชาย

จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตของเด็กคนนี้เกิดขึ้นในปี 2014 เมื่อ ดีทรอยต์ ไทเกอร์ส สนใจจะเซ็นสัญญาดึงเขาไปร่วมทีม แต่ท้ายสุดมาโฮมส์ตัดสินใจเลือกเส้นทางของตัวเองด้วยการปฏิเสธสัญญาฉบับนั้น เพื่อหวังจะเอาดีในฟุตบอลแทนมีแต่คนบ้าเท่านั้นที่ทิ้งเงินล้านแบบนั้นตอนนั้นหลายคนอาจคิดว่าการปฏิเสธเงินล้านของมาโฮมส์เป็นเรื่องที่ผิดพลาด แต่ไม่นานเขาก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเขาเกิดมาเพื่อจะเป็นควอเตอร์แบ็กและสิ่งที่เขาเลือกคือสิ่งที่ถูกต้อง

งานนี้แฟน ๆ NFL คงต้องขอบคุณ แรนดี้ มาโฮมส์ (แม่ของมาโฮมส์) เพราะย้อนกลับไปไม่นานในช่วงที่มาโฮมส์กำลังคิดถึงอนาคตของตัวเอง เขาเดินเข้าไปหาแม่พร้อมกับความคิดในหัวที่จะเลิกเล่นฟุตบอล เขาถามแม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากเขาเลิกเล่นมัน ซึ่งสิ่งที่เธอพูดกับมาโฮมส์ในวันนั้น กลายเป็นคำพูดครั้งสำคัญของโลกนี้เลยก่อนที่เขาจะขึ้นปีสุดท้ายในช่วงมัธยม เขาเดินมาหาฉันและบอกว่าจะเลิกเล่นฟุตบอล แต่ฉันบอกเขาว่าลูกจะเสียใจแน่ ๆ ถ้าเลิกเล่นมัน’”

[caption id="attachment_19226" align="aligncenter" width="1080"] แพทริค มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็ก “พ่อมด” กับแขนสุดมหัศจรรย์ ที่เกือบไปเป็นนักเบสบอล ครอบครัวมาโฮมส์[/caption]

      มาโฮมส์เริ่มฉายแววเทพออกมา และกลายเป็นดาวดังของ NCAA โดยตลอดสามปีของเขาที่เท็กซัส เทค มาโฮมส์โชว์ฟอร์มด้วยการวิ่งทำทัชดาวน์ 22 ครั้ง ระยะรวม 848 หลา รวมถึงขว้าง 93 ทัชดาวน์ ระยะรวมกว่า 11,252 หลา และในวันที่ 3 มกราคม 2017 มาโฮมส์ก็ตัดสินใจประกาศตัวเพื่อเข้าดราฟต์ของ NFL ในคลาสปี 2017 ก่อนที่ท้ายสุดเขาก็ถูกชีฟส์ดราฟต์มาในอันดับที่ 10

ครั้งหนึ่ง แบรด ไชล์เดรส อดีตผู้ช่วยของ แอนดี้ รีด เฮดโค้ช เคยออกมาพูดถึงเบื้องหลังการดราฟต์มาโฮมส์ ว่าการดราฟต์ทุกครั้งมันคือการกระโจนเข้าหาความศรัทธา ตอนนั้นเรานั่งดูเทปที่แพทริค ขว้าง 700 กว่าลูก สมัยอยู่ที่เท็กซัส เทค เราไม่ได้ดูแค่ครั้งเดียวนะ เราดูวนหลายครั้ง เราเชื่อในสิ่งที่เห็น และเรารู้ทันทีว่าเขามีอะไรที่พิเศษกว่าคนอื่น

มาโฮมส์ในวัย 22 ปี เข้าลีกมาในฐานะควอเตอร์แบ็กสำรองของ อเล็กซ์ สมิธ ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นควอเตอร์แบ็กตัวจริงในฤดูกาลต่อมา (2018) ระหว่างหนึ่งปีนั้นถือเป็นช่วงเวลาเตรียมความพร้อมของมาโฮมส์สำหรับการขึ้นมาเป็นควอเตอร์แบ็กระยะยาวของแฟรนไชส์ซึ่งไชล์เดรสเล่าว่าสิ่งแรกที่โค้ชรีดทำกับมาโฮมส์คือการสร้างวินัยและภาวะการเป็นผู้นำอันเป็นแนวทางเดียวกันกับที่เขาเคยให้โดโนแวนแม็คแนบบ์อดีตควอเตอร์แบ็กทำสมัยที่เคยคุมฟิลาเดลเฟียอีเกิลส์

เราอธิบายแพทริคว่าเขาจำเป็นจะต้องมาซ้อมคนแรกก่อนทุกคนตอน 7 โมงเช้าเสมอ มันสำคัญมากที่จะแสดงให้ทุกคนเห็นถึงการทำงานหนัก และมันจะมาพร้อมกับความเคารพด้วยเช่นกัน ไชล์เดรสย้อนความหลัง ด้านโค้ชรีดก็เคยออกมาพูดถึงเด็กในคาถาคนนี้เช่นกันว่าแพทริคซึมซับสิ่งต่าง ๆ ได้เร็วมาก ควอเตอร์แบ็กบางคนเริ่มเกมของตัวเองในแบบรุ้กกี้ แต่แพทริคก้าวไปไกลกว่านั้น เขาดูและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากอเล็กซ์ (สมิธ) มากกว่าที่จะเล่นแบบพวกรุ้กกี้

แค่ 5 นาทีแรกของการซ้อมครั้งแรกกับทีม มาโฮมส์ก็แผลงฤทธิ์ให้ เรจจี้ แรกแลนด์ ไลน์แบ็กเกอร์ของทีมได้เห็นเขาถอยหลังกลับไปประมาณ 3 หลาไปทางซ้ายแล้วโยนบอลแบบไม่ต้องมอง ได้ระยะประมาณ 15 หรือ 20 หลา จนผมต้องถามคนอื่นว่าคุณเห็นสิ่งที่เขาเพิ่งทำไหม’”

จากรุ้กกี้สู่ MVP! พรสวรรค์ของมาโฮมส์สร้างความน่าทึ่งให้กับลีกอย่างมากนับตั้งแต่ออกสตาร์ทเป็นแม่ทัพของทีมหัวหน้าเผ่าแค่ฤดูกาลแรกในฐานะตัวจริง มาโฮมส์ก็โชว์ฟอร์มหรูพาชีฟส์จบซีซันด้วยสถิติ 12–4 ถึงแม้ต่อมาชีฟส์จะไปไม่ถึงฝันแพ้นิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ ในรอบชิงแชมป์สาย AFC ช่วงต่อเวลาไป 31–37 แต่ด้วยฟอร์มสุดน่าทึ่งของมาโฮมส์ในฤดูกาลนั้น ท้ายที่สุดมันส่งให้เขากลายเป็นผู้เล่นทรงคุณค่าประจำฤดูกาลปกติปี 2018

ผมมีสองเป้าหมายในฐานะการเป็นควอเตอร์แบ็กของทีมนี้ หนึ่งคือการคว้าแชมป์ลามาร์ โทรฟี่ (แชมป์สาย AFC ) สองคือซูเปอร์โบว์ล

แพทริค มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็ก “พ่อมด” กับแขนสุดมหัศจรรย์ ที่เกือบไปเป็นนักเบสบอล

       ในฤดูกาล 2019 มาโฮมส์เริ่มต้นฤดูกาลใหม่ด้วยความหวังที่จะพาชีฟส์ไปไกลกว่าเดิม แต่ในเกมที่ 7 ของฤดูกาลที่ชีฟส์ บุกปราบเดนเวอร์ บรองโก้ส์ สบาย ๆ 30-6 เแฟน ๆ ชีฟส์ก็สะดุ้งตาเหลือก เมื่อมาโฮมส์ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสะบ้าเข่าขวา จนทำให้เขาต้องพักยาวนับเดือน ตอนนั้นหลายคนคงคิดว่าฤดูกาลของชีฟส์ได้พังลงแล้ว แต่การฟื้นตัวที่เร็วเกินคาดทำให้มาโฮมส์กลับมาประจำตำแหน่ง ก่อนจะผงาดพาชีฟส์ทะลุเข้าไปเป็นแชมป์ซูเปอร์โบว์ลได้ในบั้นปลาย

หลังจบเกมซูเปอร์โบว์ลครั้งที่ 54 มาโฮมส์สร้างสถิติขว้างเข้าเป้า 26 จาก 42 ครั้งจากระยะ 286 หลาเป็น 2 ทัชดาวน์ บวกกับวิ่งเอง 29 หลา 1 ทัชดาวน์ กลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยสุดของลีกที่กวาดทั้ง MVP รอบชิงชนะเลิศ และฤดูกาลปกติ ทุบสถิติตัววิ่งระดับตำนานของดัลลัส คาวบอยส์ อย่าง เอ็มมิตต์ สมิธ ที่เคยทำไว้ขณะอายุ 24 ปี 233 วัน เมื่อฤดูกาล 1993

เพื่อนฉันเชื่อว่านี่คือช่วงเวลาของเรา ฉันรู้ว่านี่คือช่วงเวลาของพวกเรา เราจะเชื่อกันและกัน และจะเชื่อไปพร้อม ๆ กันนี่คือคำพูดปลุกใจของมาโฮมส์ก่อนเกมที่ส่งให้ชีฟส์พลิกกลับมาคว้าแชมป์

สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับมัน (ฟุตบอล) คือคุณได้แสดงให้เด็ก ได้เห็นว่า ไม่ว่าคุณจะเติบโตมาจากที่ไหน ชนชาติอะไร คุณสามารถจะทำตามความฝันได้ สำหรับผม การเป็นควอเตอร์แบ็กผิวสี มีพ่อเป็นผิวสี แม่ผิวขาว ได้แสดงให้เห็นว่ามันไม่สำคัญว่าคุณมาจากที่ไหน ไม่สำคัญว่าคุณคือนักกีฬาเบสบอล หรือนักกีฬาบาส คุณก็แค่ทำตามความฝันของคุณ และไม่ว่าความฝันของคุณคืออะไร จงทำงานหนัก มีระเบียบวินัย หมั่นฝึกฝนมาก และคุณก็จะไปอยู่จุดนั้นได้

 

ที่มา: https://www.chiefs.com/video/the-story-of-quarterback-patrick-mahomes

https://www.arrowheadpride.com/2018/6/13/17458512/patrick-mahomes-father-recalls-the-first-time-he-knew-his-sons-arm-was-ridiculous

https://fox5sandiego.com/2020/01/18/qb-patrick-mahomes-mom-talks-of-raising-the-mvp-his-siblings/

https://heavy.com/sports/2020/02/patrick-mahomes-what-race-black-nationality-ethnicity/