‘กุลธิดา วูดส์’ คุณแม่ผู้อยู่เบื้องหลังเสื้อสีแดงเอกลักษณ์ของ ‘ไทเกอร์ วูดส์’

เมื่อ ‘ไทเกอร์ วูดส์’ ก้าวเท้าลงสู่แฟร์เวย์ แฟนกอล์ฟทั่วโลกจะเห็นเขามาพร้อมเสื้อโปโลสีแดงสด อันเป็นสัญลักษณ์ประจำตัว แต่น้อยคนนักจะรู้ว่า สีแดงที่ติดตัวเขามาตลอด 82 รายการแชมป์ PGA Tour นั้น มีที่มาจากความเชื่อของผู้หญิงคนหนึ่ง... ‘กุลธิดา วูดส์’ มารดาผู้ล่วงลับของเขา

ย้อนกลับไปในช่วงสงครามเวียดนาม หญิงสาวชาวไทยที่ทำงานเป็นเลขานุการในสำนักงานกองทัพสหรัฐฯ ในกรุงเทพฯ มีโอกาสพบกับ ‘เอิร์ล วูดส์’ ทหารหน่วยเบเร่ต์เขียว ความรักนำพาเธอจากแผ่นดินเกิดสู่อเมริกาในปี 2511 แม้จะพูดภาษาอังกฤษได้เพียงเล็กน้อย แต่ด้วยจิตวิญญาณอันเข้มแข็ง เธอพร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไซเพรส แคลิฟอร์เนีย

จากนั้นในวันที่ 30 ธันวาคม 2518 เธอได้ให้กำเนิดบุตรชายคนเดียว ‘เอลดริก ตันต์ ไทเกอร์ วูดส์’ ซึ่งต่อมากลายเป็นชื่อที่ดังกึกก้องในประวัติศาสตร์กีฬากอล์ฟ

สัญญาณแห่งพรสวรรค์เริ่มปรากฏเมื่อไทเกอร์อายุเพียง 10 เดือน เอิร์ลเล่าว่าวันหนึ่งหลังจากปลดเข็มขัดลูกชายออกจากเก้าอี้สูง เด็กน้อยเดินไปตีลูกกอล์ฟทันที “โอ้ พระเจ้า ผมได้อะไรที่พิเศษมาก ๆ มา” เอิร์ลรำพึง นับจากวันนั้น การเดินทางสู่ความยิ่งใหญ่ของไทเกอร์ก็เริ่มต้นขึ้น

ในขณะที่เอิร์ลวางรากฐานด้านเทคนิคกอล์ฟ คุณแม่กุลธิดาคือผู้หล่อหลอมจิตวิญญาณนักสู้ให้กับลูกชาย ไทเกอร์เคยเปิดเผยว่าเขา “กลัวแทบตาย” เมื่อต้องเผชิญกับความเข้มงวดของแม่ แม้ว่าพ่อของเขาจะเป็นทหารหน่วยรบพิเศษก็ตาม “พ่อมักจะเป็นคนที่หว่านเมล็ดพันธุ์และให้กำลังใจ ในขณะที่แม่คือผู้บังคับใช้กฎ” เขากล่าว

ความมุ่งมั่นในการฝึกซ้อมของไทเกอร์เริ่มต้นที่บ้าน เขาเล่าในหนังสือ ‘How I Play Golf’ ว่าในวันที่อากาศไม่ดี ขณะที่เด็กคนอื่นเบื่อหน่าย เขากลับสนุกกับการเปลี่ยนห้องนั่งเล่นให้เป็นพื้นที่ซ้อมชิพ ฝึกตีลูกข้ามโต๊ะกาแฟไปลงหน้าเตาผิง โดยต้องระวังไม่ให้เกิดเสียงดัง เพราะหากแม่ได้ยิน “ท่านจะตีผมแน่” เขาหัวเราะขณะเล่าว่า “ไม่มีอะไรในสนามแข่งที่กดดันเท่ากับตอนที่ต้องซ้อมชิพให้เงียบที่สุดเพื่อไม่ให้แม่ได้ยิน”

จุดเปลี่ยนสำคัญมาถึงเมื่อไทเกอร์อายุ 14 ปี ครอบครัววูดส์ตัดสินใจจำนองบ้านครั้งที่สองเพื่อส่งเขาแข่ง AJGA Tour แม่ของเขาเลือกที่จะอยู่บ้าน เพื่อให้สามีและลูกชายได้ไล่ตามความฝัน การเสียสละครั้งนั้นของทั้งครอบครัวกลายเป็นก้าวแรกสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่

ปรัชญาการแข่งขันที่หญิงสาวชาวไทยปลูกฝังให้ลูกชายนั้นแข็งแกร่งและตรงไปตรงมา “จงเล่นให้ถึงที่สุด ไล่ต้อนคู่แข่งจนพวกเขาไม่มีทางลุกขึ้นมาได้...” ทว่าความเข้มแข็งนี้มาพร้อมกับความรักและการสอนให้ลูกเป็นตัวของตัวเอง “ลูกไม่สามารถทำอะไรเพียงเพื่อให้คนอื่นพอใจได้ มันจะเปลืองพลังงาน และลูกจะไม่มีความสุขกับตัวเอง ลูกต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องสำหรับตัวเอง”

หนึ่งในความเชื่อที่กลายเป็นตำนานคือเรื่อง ‘เสื้อสีแดง’ กุลธิดาเชื่อว่าเป็นสีแห่งพลังสำหรับลูกชายที่เกิดราศีมังกร ความเชื่อนี้ผสานกับความเชื่อในพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทยที่มองว่าสีแดงในวันอาทิตย์เป็น ‘สีมงคล’
 

แต่ด้วยความเป็นวัยรุ่น ไทเกอร์อดไม่ได้ที่จะท้าทายความเชื่อของแม่ เขาเลือกสวมเสื้อสีน้ำเงินในบางครั้งแล้วเกิดชนะ “ผมแค่ล้อเล่นกับเรื่องนี้ แหย่แม่นิดหน่อย” แต่แล้วโชคชะตาก็พิสูจน์ให้เห็น เมื่อเขาสวมสีน้ำเงินในสองทัวร์นาเมนต์ต่อมา ปรากฏว่าพ่ายแพ้ทั้งคู่ “ผมเลยเปลี่ยนกลับมาใส่สีแดงและก็ทำผลงานได้ร้อนแรง จึงรักษาประเพณีนี้ไว้” เขาเล่าพร้อมรอยยิ้ม จนกระทั่งในปี 2552 เขาได้เขียนยืนยันบนเว็บไซต์ของตัวเองว่า “คุณควรฟังคำแม่เสมอ”

นั่นเป็นเหตุผลให้เมื่อปีที่แล้ว ไทเกอร์ได้เปิดตัวแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองในชื่อ ‘Sun Day Red’ โดยในงานเปิดตัว เขาได้กล่าวถึงความเชื่อเรื่องสีแดงที่ส่งต่อจากแม่มาสู่แบรนด์ของตัวเอง

“มันเริ่มต้นจากแม่ แม่คิดว่าการอยู่ในราศีมังกร สีที่มีพลังสำหรับผมคือสีแดง ดังนั้นผมจึงใส่เสื้อสีแดงมาตั้งแต่ยังเป็นนักกอล์ฟรุ่นจูเนียร์ และผมก็ชนะในบางทัวร์นาเมนต์ด้วย จากนั้นผมก็ไปมหาวิทยาลัยที่เป็นสีแดง คือสแตนฟอร์ด เราสวมเสื้อสีแดงในวันสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ และหลังจากนั้นผมก็ใส่เสื้อสีแดงมาตลอด มันกลายเป็นสัญลักษณ์ของผม”

นอกจากนั้นแล้ว กุลธิดายังให้ความสำคัญกับการรักษาสายสัมพันธ์กับรากเหง้าวัฒนธรรมไทยของลูกชาย เธอพาไทเกอร์กลับไปเยือนประเทศไทยครั้งแรกตอนอายุ 9 ขวบ และในช่วงต้นอาชีพ เขาได้กลับไปแข่งขันที่เมืองไทยถึงสามรายการและชนะทั้งหมด นับเป็นการตอกย้ำสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับแผ่นดินแม่

ตลอดเส้นทางสู่ความสำเร็จ กุลธิดาคือกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เธอไม่เคยขาดการแข่งขันมาสเตอร์ส และเดินตามลูกชายครบทั้ง 18 หลุมในทุกการแข่งขัน แม้กระทั่งในวัยชรา เป็นภาพที่คุ้นตาของแฟนกอล์ฟที่จะเห็นร่างเล็ก ๆ ในหมวกปีกกว้างและแว่นกันแดด ยืนดูลูกชายอย่างภาคภูมิใจ

กระทั่งในวาระสุดท้าย กุลธิดายังคงอยู่เคียงข้างลูกชาย เพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนจากไป เธอยังได้ไปชมการแข่งขัน TGL ของไทเกอร์ในเซาท์ฟลอริดา และในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ไทเกอร์ได้แจ้งข่าวการจากไปของมารดาผ่านโซเชียลมีเดีย

“ด้วยความเศร้าโศกอย่างสุดซึ้ง ผมขอแจ้งให้ทราบว่า คุณแม่ที่รักของผม กุลธิดา วูดส์ ได้จากไปอย่างสงบในช่วงเช้าของวันนี้ แม่ของผมเป็นพลังแห่งธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จิตวิญญาณของท่านโดดเด่นอย่างปฏิเสธไม่ได้ ท่านมีไหวพริบในการแหย่และหัวเราะ ท่านเป็นแฟนตัวยงและผู้สนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม หากไม่มีท่าน ความสำเร็จส่วนตัวทั้งหมดของผมคงเป็นไปไม่ได้ ท่านเป็นที่รักของคนมากมาย แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลานทั้งสองคน แซมและชาร์ลี ขอบคุณทุกท่านสำหรับการสนับสนุน คำภาวนา และการให้ความเป็นส่วนตัวในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้สำหรับผมและครอบครัว รักแม่ครับ”

กุลธิดา วูดส์จากไปในวัย 78 ปี ทิ้งไว้เพียงตำนานของสตรีไทยผู้เข้มแข็ง ที่ไม่เพียงเป็นมารดาของนักกอล์ฟระดับตำนาน แต่ยังเป็นแบบอย่างของความรัก ความเสียสละ และการอบรมเลี้ยงดูที่เปี่ยมด้วยวินัยและความมุ่งมั่น 

เสื้อสีแดงที่ไทเกอร์สวมใส่ในทุกวันอาทิตย์จะยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ความเชื่อมั่น และคำสอนของแม่ที่จะอยู่ในใจเขาตราบนิรันดร์

 

เรียบเรียง: พาฝัน ศรีเริงหล้า
ภาพ: Getty Images 
 

อ้างอิง:

Yahoo Sports. "Tiger Woods Says Mother Kultida Woods Has Died." Yahoo Sports, 4 Feb. 2025, https://sports.yahoo.com/tiger-woods-says-mother-died-174230565.html.

VanHoose, Benjamin. "All About Tiger Woods' Parents, Kultida and Earl Woods." People, https://people.com/sports/all-about-tiger-woods-parents-kultida-earl-woods/. Accessed 5 Feb. 2025.

The New York Times. "Kultida Woods, Mother of Tiger Woods, Dies at 82." The New York Times, 4 Feb. 2025, https://www.nytimes.com/athletic/6112905/2025/02/04/kultida-woods-death-tiger/.

Thai Examiner. "Tiger Woods Has Deep Thai Roots Through His ‘Tiger Mom’ Mother Kultida Woods." Thai Examiner, 20 June 2019, https://www.thaiexaminer.com/thai-news-foreigners/2019/06/20/tiger-woods-american-thai-golf-mother-thailand-tiger-mom/.