13 พ.ย. 2566 | 17:56 น.
- เฌเรมี โดกู นักเตะดาวรุ่งที่น่าจับตารายใหม่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับผลงานสถิติที่ยอดเยี่ยมในวัย 21 ปี
- โดกู ได้รับฉายา ‘ราชาแห่งการเลี้ยงบอล’ จากสไตล์การเล่นของเขา
- ความเร็วและความอันตรายในการทำเกมรุกของโดกู ทำให้เขาเป็นที่จับตาทั้งจากแฟนบอลและกองหลังทีมคู่แข่ง
‘เฌเรมี่ โดกู’ สร้างสถิติใหม่ในพรีเมียร์ลีกจากเกมเมื่อวันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2023 ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านรับมือการมาเยือนของบอร์นมัธ โดย ‘เรือใบสีฟ้า’ เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 6-1
1 ประตู 4 แอสซิสต์ ใน 1 แมตช์ ทำให้เขาเป็นแข้งอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ ทำสถิติเทียบเท่านักเตะระดับพระกาฬในอดีตไม่ว่าจะเป็นเดนิส เบิร์กแคมป์ เชส ฟาเบรกาส พอล ป็อกบา แฮรี่ เคน เป็นต้น
สกอร์ 6-1 ดังกล่าว 5 จาก 6 ลูกเป็นผลงานที่ ‘เฌเรมี่ โดกู’ (Jérémy Doku) มีส่วนร่วม คือ 1 ประตู และ 4 แอสซิสต์ (จ่าย)
เกิดคำถามตามมามากมาย ว่า ‘เฌเรมี่ โดกู’ เป็นใคร มาจากไหน แม้ว่าเขาจะเปิดตัว และลงเล่นให้แมนฯ ซิตี้ไปเป็น 10 นัดในฤดูกาลนี้แล้วก็ตาม
‘เฌเรมี่ โดกู’ เริ่มต้นเส้นทางนักเตะอาชีพกับสโมสรอันเดอร์เลชท์ (Anderlecht) ในเบลเยียมบ้านเกิด เมื่อฤดูกาล 2018-2020 ขณะนั้น เขาอายุเพียง 15 ขวบเท่านั้น
3 ฤดูกาลกับอันเดอร์เลชท์ ‘เฌเรมี่ โดกู’ โชว์ฟอร์มเข้าตาแมวมองฝรั่งเศส โดยสโมสรแรนส์ (Rennes) ได้ซื้อตัวเขามาด้วยมูลค่า 26 ล้านยูโร อยู่กับแรนส์ 3 ฤดูกาล ก่อนที่แมนฯ ซิตี้ จะคว้าตัวมาด้วยราคา 55 ล้านยูโร เมื่อต้นฤดูกาล 2023-24
‘เฌเรมี่ โดกู’ ลงประเดิมสนามให้กับ ‘เรือใบสีฟ้า’ ในแมตช์เปิดบ้านเอาชนะฟูแล่มไปได้ 5-1 และมายิงประตูแรกให้กับแมนฯ ซิตี้ นัดไปเยือนและเอาชนะเวสต์แฮมได้ 3-1
นับตั้งแต่นั้น ‘เฌเรมี่ โดกู’ ได้รับการจับตามองจากแฟนบอลพรีเมียร์ลีก และคอบอลทั่วโลก พร้อมด้วยคำถามตัวโต ๆ ว่า ไอ้หมอนี่เป็นใคร มาจากไหน ถึงได้โชว์ฟอร์มสะเด็ดสะเด่าถึงเพียงนี้?
โดกูน้อย ผู้เจิดจ้า
นักเตะชาวเบลเยียมผู้ได้รับฉายาว่า ‘Eden Hazard คนใหม่’ โดกู เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 2002 ที่ Borgerhout ย่านชานเมืองของ Antwerp ประเทศเบลเยียม เป็นลูกคนที่ 2 ในบรรดาบุตร 4 คนของครอบครัว
เขาวิ่งเล่นหน้า Bosuil สนามฟุตบอลของ Royal Antwerp ซึ่งเป็นสโมสรฟุตบอลแห่งหนึ่งของเมือง Antwerp เป็นประจำ โดย ‘โดกู’ ได้ยินเสียงแฟนบอล Royal Antwerp ตะโกนเชียร์อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
‘โดกู’ เรียนชั้นประถมศึกษาที่นั่นจนจบจึงย้ายไปเข้าเรียนในโรงเรียนประจำในกรุงบรัสเซลส์ ตั้งแต่อายุ 12 ขวบ ที่ Purple Talents โรงเรียนประจำแห่งนั้น เขาเข้าร่วมการฝึกฟุตบอลกับเพื่อน ๆ และคุณครูอยู่เสมอ
จากนั้น คุณพ่อพา ‘โดกู’ ไปที่ Devils of KVC Olympic Deurne เพื่อทดสอบฝีเท้า จนเข้าตาสโมสร Beerschot AC ที่เคยผลิตนักเตะชื่อดังอย่าง Toby Alderweireld, Mousa Dembélé, Radja Nainggolan, Jan Vertonghen และ Victor Wanyama
เพียงแค่ 1 ปี ‘โดกู’ ก็คว้าแชมป์เยาวชนกับ Devils of KVC Olympic Deurne เสียแล้ว
แต่กลายเป็น RSC Anderlecht ที่ได้เซ็นสัญญากับ ‘โดกู’ ในปี ค.ศ. 2012 ขณะนั้นเขาอายุเพียง 10 ขวบ และย้ายไป Anderlecht ในปีถัดมา
ที่ Anderlecht ‘โดกู’ ได้พบผู้เล่นชั้นยอดมากมาย และได้ค้นพบตัวเองว่า ตนนั้นเลี้ยงลูกได้ดี และมีความเร็วจัด ทำให้เขาได้รับการเรียกตัวติดทีมชาติเบลเยียมชุด U15 ในทันที
ตามมาด้วยฉายา ‘ราชาแห่งการเลี้ยงบอล’ จากวิธีที่เขาวางเท้าบนลูกบอล และรอให้ฝ่ายตรงข้ามเข้ามาหา เมื่อคู่แข่งวิ่งกรูกันเข้ามา ‘โดกู’ จะเลี้ยงหลบ และวิ่งต่อไปด้วยความเร็วพร้อมลูกฟุตบอลในทันที
ฟอร์มการเล่นล่อตาล่อใจ ‘ลิเวอร์พูล’
ตอนที่ ‘โดกู’ อายุ 15 เขาเริ่มได้รับข้อเสนอจาก 5-6 สโมสรใหญ่ของยุโรป
ไม่ว่าจะเป็นอาร์เซนอล เชลซี และสโมสรดัตช์อีก 2-3 แห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ลิเวอร์พูล’ ต้องการได้ลายเซ็น ‘โดกู’ เป็นอย่างมาก เมื่อต้นฤดูกาล 2017/2018
ในเดือนมกราคม 2017 ‘ลิเวอร์พูล’ เชิญพ่อแม่และ ‘โดกู’ มาเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ ใน ‘แอนฟิลด์โร้ด’ รวมถึงพบกับเยอร์เกน คล็อปป์ (Jürgen Klopp) โดยทีมงานหวังว่า ‘โดกู’ จะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งระยะยาวของ ซาดิโอ มาเน (Sadio Mané) ในขณะนั้น
ทว่า การเจรจาครั้งนั้นไม่ประสบความสำเร็จ ‘โดกู’ อายุ 16 ปี 182 วัน กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ Anderlecht ที่ได้ลงเตะในดิวิชั่น 1 ตามรอยโรเมลู ลูคาคู (Romelu Lukaku) [16 ปี 11 วัน[ และ ยูริ เทเลมองส์ (Youri Tielemans) [16 ปี 82 วัน]
อย่างไรก็ดี ‘โดกู’ อยู่กับ Anderlecht เพียง 3 ฤดูกาล ก็ได้ย้ายไปแสวงโชคที่ฝรั่งเศส กับสโมสร Rennes ค่าตัว 26 ล้านยูโร ‘โดกู’ ย่างเท้าเข้าสู่ลีกใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
‘โดกู’ โชว์ฟอร์มได้ดีกับ Rennes เป็นอย่างมากทำให้เขาได้รับโทรศัพท์จากสตาฟโค้ชทีมชาติเบลเยียมเมื่อวันที่ 5 กันยายน ปี ค.ศ. 2020 เพื่อติดทีมชาติชุดใหญ่ 3 วันหลังจากประเดิมสนาม ‘โดกู’ ทำประตูแรกให้กับเบลเยียมในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกทันที
ต่อด้วยรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 ‘โดกู’ ได้ลงเล่นเคียงข้าง Batshuayi, Trossard, Praet และ Benteke ร่วมกันถล่มเบลารุสไป 8 ประตู
‘โดกู’ เล่นได้ดีทั้งเท้าซ้ายและเท้าขวา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเท้าขวา ทำให้เขาสามารถลงเล่นในตำแหน่งปีกได้ทั้งปีกซ้ายและปีกขวา โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีกซ้าย
มีการวิเคราะห์ถึงความเร็วของ ‘โดกู’ จากคะแนนเต็ม 100 ‘โดกู’ มหัศจรรย์มีอัตราเร่ง 94 ความเร็ว 90 ความว่องไว 95 และระดับศักยภาพที่ 86 ใกล้เคียงกับ คริสเตียโน โรนัลโด้ ตอนรุ่ง ๆ
ก้าวลงเรือสีฟ้า
ฤดูกาลสุดท้ายกับ Rennes ‘โดกู’ สร้างสถิติประทับใจแมวมองแมนฯ ซิตี้ ด้วยการ ‘เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งสำเร็จ’ 6.8 ครั้งใน 90 นาที สูงสุดของ 5 ลีกใหญ่ยุโรป ผนวกกับสถิติพาบอลขึ้นหน้า 356 เมตรใน 90 นาที ที่มากที่สุดในบรรดานักเตะของ 5 ลีกใหญ่
ชื่อเสียงอีกอย่างหนึ่งของ ‘โดกู’ คือการเป็น ‘ม้าตีนต้น’ หรือ ‘ความเร็ว ณ จุดออกตัว’ ที่ก็เป็นอันดับ 1 ใน 5 ลีกใหญ่ยุโรปเช่นกัน ความสามารถเฉพาะตัวของ ‘โดกู’ พร้อมเสมอกับการดวลตัวต่อตัวกับคู่แข่ง ผนวกกับการยืนตำแหน่งได้ดีทั้งปีกเบอร์ 7 (ปีกขวา) หรือปีกเบอร์ 11 (ปีกซ้าย) ดังได้กล่าวไป
นี่คือเหตุผลที่ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ตัดสินใจคว้าตัว ‘โดกู’ มาเสริมความแข็งแกร่งในแนวรุกกับสนนค่าตัว 55.5 ล้านปอนด์ ภายใต้สัญญา 5 ปี ที่ไม่เพียงมาทดแทน ‘ริยาด มาห์เรซ’ ที่ย้ายไป อัล อาห์ลี ในซาอุดีอาระเบีย แต่ถึงขั้นมาแทนที่ซุป’ตาร์อย่าง ‘แจ็ค กรีลิช’ เลยทีเดียว!
ดังที่กล่าวไป ‘โดกู’ เล่นได้ทั้งเท้าซ้ายและเท้าขวา เขาจึงยืนเป็นปีกได้ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฐานะนักเตะขวา ที่เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือแมนฯ ซิตี้ เน้นการเลี้ยงตัดเข้าใน และจ่ายบอลตัดหลัง ภายใต้ความเร็ว และสายตาที่เฉียบคม โดยเฉพาะทักษะการยิงประตู ทั้งในกรอบเขตโทษ และยิงไกล
ล่าสุด ‘โดกู’ ทำได้ 1 ประตู และ 4 แอสซิสต์ สร้างสถิติสุดโหดในพรีเมียร์ลีกในนัดที่ช่วยทีมเรือใบสีฟ้าเปิดบ้านยำ บอร์นมัธ 6-1 รั้งตำแหน่งผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก (21 ปี กับ 161 วัน) ที่มีส่วนร่วมโดยตรงถึง 5 ประตูในเกมเดียว
นอกจากสถิติมีส่วนร่วมโดยตรง 5 ประตูในเกมเดียวแล้ว ‘โดกู’ ยังทำสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ทำ 4 แอสซิสต์ในเกมเดียวอีกด้วย
“ผมภูมิใจอย่างมาก” โดกู กล่าว
“การเตะบอลอยู่ในทีมนี้ ผมเล่นง่ายมาก เพราะเรามีการเคลื่อนที่กันอยู่ตลอด ทุกคนในทีมต่างเป็นนักเตะชั้นยอด และเมื่อคุณมีผู้เล่นระดับท็อปอยู่รอบกายแบบนี้ มันจึงง่ายที่จะหาจังหวะผ่านบอลให้ถูกที่ถูกเวลา ทุกแอสซิสต์ของผม เกมนี้มีรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่ตราบใดที่มันเป็นการทำแอสซิสต์ ผมก็แฮปปี้ทั้งนั้นแหละ” โดกู กล่าวทิ้งท้าย
เรื่อง: จักรกฤษณ์ สิริริน
ภาพ: เฌเรมี โดกู ในเกมกับเชลซี เมื่อ 12 พ.ย. 2023 ไฟล์จาก Getty Images