ทีมนับคะแนนเลือกตั้งซันเดอร์แลนด์: เจ้าของสถิติประกาศคะแนนเลือกตั้งใน 50 นาที

ทีมนับคะแนนเลือกตั้งซันเดอร์แลนด์: เจ้าของสถิติประกาศคะแนนเลือกตั้งใน 50 นาที
ภาพของหนุ่มสาวที่ถือกล่องวิ่งอย่างกระฉับกระเฉงอาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นการแข่งขันกีฬาคล้ายกีฬาพื้นบ้านอย่างการ "วิ่งเปี้ยว" หรือไม่? แต่จริง ๆ แล้ว นี่ไม่ใช่เกมกีฬาหากเป็นการทำงานที่ "แข่งกับเวลา" ของเจ้าหน้าที่นับคะแนนการเลือกตั้งในเขตซันเดอร์แลนด์ของประเทศอังกฤษ เจ้าของสถิติประกาศผลการเลือกตั้งเร็วที่สุดติดต่อกันมานานนับทศวรรษ ระยะเวลาที่ใช้ในการประกาศผลการเลือกตั้งสำคัญไฉน? นอกจากการได้มาซึ่งผลเลือกตั้งที่น่าเชื่อถือตรงกับเจตนารมณ์ของประชาชนแล้ว การประกาศผลเลือกตั้งให้เร็วที่สุดก็ถือเป็นอีกหัวใจสำคัญของหน่วยงานผู้ทำหน้าที่ตรวจนับบัตรเลือกตั้ง การนับคะแนนในประเทศประชาธิปไตยจึงต้องเริ่มต้นนับทันทีตั้งแต่ปิดหีบลงคะแนน เนื่องจากการประกาศผลที่ช้า ก็ยิ่งทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่าเกิดปัญหาอะไร? มีการหมกเม็ดหรือไม่ มีความพยายามที่จะตุกติกเล่นนอกกติกาอะไรรึเปล่า? วิธีการนับคะแนนจึงต้องเป็นไปโดยโปร่งใส และการประกาศผลการเลือกตั้งก็จำเป็นต้องทำให้เร็วที่สุดเช่นกัน และที่ซันเดอร์แลนด์จากภาคอีสาน (ของประเทศอังกฤษ) ก็จริงจังมากกับการประกาศผลเลือกตั้งให้เร็วที่สุด หลังพวกเขากลายเป็นทีมแรกของประเทศที่ประกาศผลการเลือกตั้ง1992 และพวกเขาก็พยายามรักษาตำแหน่งด้วยการพัฒนากระบวนการนับคะแนนให้เร็วยิ่งขึ้นเรื่อยมา บิล ครอเฟิร์ด (Bill Crawford) ซึ่งทำหน้าที่หัวหน้าทีมนับคะแนนเลือกตั้งของซันเดอร์แลนด์ระหว่างปี 1975 ถึง 1992 กล่าวกับ Buzzfeed ว่า เดิมทีเดียวพวกเขาก็แค่พยายามนับคะแนนให้ทันวันรุ่งขึ้นหลังการปิดหีบเลือกตั้งในค่ำวันก่อนเท่านั้น จนในช่วงต้นทศวรรษ 90s ก็มีเจ้าหน้าที่บางรายนึกครึ้มขึ้นมาเสนอสิ่งที่ท้าทายการทำงานของพวกเขาว่า พวกเขาน่าจะประกาศผลเลือกตั้งให้ได้ผ่านในวันเดียวกับวันเลือกตั้งไปเลย ก่อนหน้านั้น ทอร์เบย์ (Torbay) มักจะเป็นเขตแรกที่ประกาศผลเลือกตั้งของประเทศโดยจะประกาศตอนเวลาประมาณ 23.45 นาฬิกา (การนับคะแนนเริ่มเวลา 22 นาฬิกา) ทางซันเดอร์แลนด์ก็คิดว่า ถ้าทำได้เร็วกว่านั้นเพียงห้านาทีสิบนาที นอกจากจะทำการนับคะแนนเสร็จในวันเดียวแล้ว ก็จะทำให้พวกเขากลายเป็นเขตแรกที่ประกาศได้ของประเทศ และพวกเขาก็สามารถทำได้สำเร็จในการเลือกตั้งเมื่อปี 1992 การจะไปถึงเป้าหมายนั้นพวกเขาต้องเตรียมงานนานนับเดือน ตั้งแต่การเทรนอาสาสมัครนักเรียนชั้นมัธยมที่ทำหน้าที่เคลื่อนย้ายกล่องใส่บัตรลงคะแนน (เป็นไอเดียที่น่าสนใจในการส่งเสริมให้เยาวชนมีส่วนร่วมกับระบอบประชาธิปไตย) ว่าควรจะยกกล่องยังไง แต่งตัวแบบไหนเพื่อความคล่องแคล่วทั้งการวิ่ง และรับส่งต่อกล่องลงคะแนนตั้งแต่จุดลงคะแนนมาถึงจุดนับคะแนน มีการพิมพ์บัตรลงคะแนนด้วยกระดาษที่บางลงเพื่อให้นับง่ายขึ้น และหาอาสาสมัครเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ชินกับการนับเงินมาช่วยในการจัดการบัตรลงคะแนนเสียง นอกจากนี้พวกเขายังมีการจัดเก็บสถิติการเคลื่อนย้ายกล่องเก็บบัตรลงคะแนนเสียงต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี เพื่อวิเคราะห์ความลื่นไหลในการจัดการของเจ้าหน้าที่ ในระดับที่หากกล่องใดมาถึงช้าเกินปกติเพียงไม่กี่นาทีก็ต้องมีการวิเคราะห์ว่าปัญหาเกิดมาจากอะไร "มันอาจจะเกิดจากรถติดไฟแดงบนถนนบางช่วง คุณก็ต้องมองหาทางออกสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าว่าจะทำอย่างไร ไม่อย่างนั้นก็อาจจะต้องเปลี่ยนเส้นทาง" ครอเฟิร์ดกล่าว แม้จะนับคะแนนของผู้ลงคะแนนนับหมื่น (ผลการเลือกตั้งในปี 2015 ผู้ชนะในเขต Houghton and Sunderland South ได้คะแนนประมาณ 21,000 คะแนน ผู้ใช้สิทธิรวมราว 40,000 คน) ให้เสร็จได้ภายในระยะเวลาอันสั้นจนหลายคนตกใจ แต่ทางซันเดอร์แลนด์ยืนยันว่ากระบวนการที่พวกเขาใช้ในการนับคะแนนเป็นไปตามกฎเกณฑ์และระเบียบการจัดการการเลือกตั้งทุกประการ และในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2015 พวกเขาก็ได้ทำสถิติสุดยอด ด้วยการนับคะแนนเสร็จภายในเวลาเพียง 50 นาทีเท่านั้น (International Business Times) ความพยายามในการสร้างสถิติของซันเดอร์แลนด์ทำให้พวกเขาตกเป็นเป้าที่จะถูกโค่นล้มหลังคว้าแชมป์การนับคะแนนในการเลือกตั้งทั่วไปมาถึง 6 สมัยติดต่อกัน จนกระทั่งในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2017 พวกเขาก็ถูกเมืองคู่แข่งร่วมภาคอีสานอย่างนิวคาสเซิลโค่นล้มแชมป์ได้สำเร็จ โดยทางนิวคาสเซิลสามารถประกาศผลได้ในเวลา 23 นาฬิกา ก่อนหน้าซันเดอร์แลนด์เพียง 7 นาที แต่ก็ยังช้ากว่าสถิติเดิมในปี 2015 ของซันเดอร์แลนด์ (Metro) ทั้งนี้ ต้องย้ำว่าความเร็วไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่จะเป็นตัวชี้วัดความโปร่งใสในการนับคะแนนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หลายประเทศมีการนับคะแนนเป็นเวลาหลายวัน (บ้างก็เป็นเดือน) ก่อนจะประกาศผลอย่างเป็นทางการด้วยเหตุผลทางเทคนิคต่าง ๆ แต่หากประเทศเหล่านี้อยากจะลดความเคลือบแคลงสงสัยของประชาชนถึงความล่าช้าในการประกาศผลคะแนนจะมาดูงานการนับคะแนนที่ซันเดอร์แลนด์หรือนิวคาสเซิลบ้างก็น่าจะดี