ธีราทร บุญมาทัน นักเตะไทย จะทะลุกำแพงเจลีกได้ไหม

ธีราทร บุญมาทัน นักเตะไทย จะทะลุกำแพงเจลีกได้ไหม

ธีราทร บุญมาทัน นักเตะไทย จะทะลุกำแพงเจลีกได้ไหม

ธีราทร บุญมาทัน: Live in Japan 2ND Take ในช่วงที่กระแสฟุตบอลไทยกลับมาอีกครั้งเมื่อทัพช้างศึกทีมฟุตบอลทีมชาติไทยทำผลงานได้ตามเป้า นั่นคือผ่านเข้ารอบ น็อกเอาท์ เอเชียนคัพ ได้สำเร็จ ชนิดแฟนบอลไทยยิ้มออกท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งฟอร์มการเล่นไม่น่ามองจากนายใหญ่ต่างแดน วาทกรรมมากมายของผู้บริหารที่ขว้างงูไม่พ้นคอถูกแฟนบอลล้อไปจนถึงขู่ไล่ล่าชื่อเพื่อไล่ออก เท่านั้นไม่พอ คนระดับรองนายกฯ ยังไม่วายขอแจมให้นายกสมาคมพิจารณาผลงานด้วย ก่อนที่สถานการณ์จะสร้างวีรบุรุษ ส่งให้ชื่อของ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย และ มร.โรบิน อย่าง โชคทวี พรหมรัตน์ ที่รับเผือกร้อนอย่างไม่มีทางเลือกกลายเป็นฮีโร่ แน่นอนว่าการผ่านเข้ารอบหลังจากแพ้อินเดียในนัดเปิดสนาม แต่กลับมาชนะบาห์เรน เสมอยูเออี ถือว่าประสบความสำเร็จมากพอแล้วสำหรับทีมชาติไทยนาทีนี้ ต่อให้เกมวันอาทิตย์ (20 มกราคม) ที่ทีมชาติไทยเจอกับทีมชาติจีนจะออกมาแบบไหนก็ตาม  ทันทีที่ มิโลวาน ราเยวัช โค้ชคนเก่าออกจากตำแหน่ง ดูพวกเขากลับมาคืนฟอร์มเก่งได้เร็วราวดีดนิ้ว กระปรี้กระเปร่ากันเต็มที่ ตั้งใจเล่นแบบที่แฟนบอลไม่ได้เห็นมานาน ยิ่งเจาะลงไปให้ลึกเราจะเห็นถึงความต่างที่ชัดเจนของ 3 ผู้เล่นตัวหลักตัวอิมพอร์ตมาจากญี่ปุ่น ไล่เรียงจากผู้เล่นทีมยอดเยี่ยม เจลีก ที่ผ่านมาอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ จาก คอนซาโดเล ซับโปโร ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าจากซานเฟรชเช ฮิโรชิมา รองแชมป์ทีมล่าสุด รวมทั้ง ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายจาก วิสเซล โกเบ ทีมชาติไทยที่มีและไม่มีสามรายนี้ผลงานต่างกันเยอะทีเดียว ทั้งสภาพร่างกายที่แกร่งกว่าเดิมเหนือกว่าเพื่อนร่วมทีม ประสบการณ์ ความเข้าใจเกมที่เพิ่มมากขึ้นจนก้าวมาเป็นหลักให้ทีมได้สบาย สำคัญมากคือการควบคุมอารมณ์มีสมาธิกับเกม คงไม่ผิดนักหากจะพูดว่า เจลีก เพิ่มพูนเรื่องเหล่านี้แก่พวกเขา ดังนั้นการข่าวที่ทำเอาแฟนบอลไทยฮือฮากับการเดินทางรอบ 2 ของ ธีราทร บุญมาทัน ในฟุตบอลแดนปลาดิบร่วมกับทีมยักษ์อย่าง โยโกฮามา เอฟ มารินอส ถือเป็นเรื่องน่ายินดียิ่งนัก   นี่คือข้อมูลของโยโกฮามา เอฟ มารินอส สถานีล่าสุดของธีราทร - Yokohama F. Marinos เป็นทีมเก่าแก่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1972 อยู่ใน เจลีก มายาวนานที่สุด 26 ปีเท่ากับ Kashima Antlers แน่นอนว่านี่คือ 2 ทีมที่เล่น เจลีก - Marinos ถือเป็นหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดใน เจลีก พวกเขาคว้าแชมป์มาแล้ว 3 สมัย 1995, 2003, 2004 เท่ากับ จูบิโล อิวาตะ และ ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา มีเพียง คาชิมา แอนท์เลอร์ส แชมป์ 8 สมัย - Marinos มีผู้เล่นที่ผ่านฟุตบอลโลก เคยร่วมทีมมาแล้วถึง 11 ราย เป็น ญี่ปุ่น 9 ราย ออสเตรเลียและ อาร์เจนตินา ชาติละ 1 คน - Marinos มีความหมายถึง ทหารเรือ หรือ sailors ในภาษาสเปน - ชื่อของ Marinos เคยปรากฏอยู่ในการ์ตูนฟุตบอลระดับตำนาน อย่าง กัปตันซึบาสะ โดยมีเพื่อนร่วมทีมของกัปตันซึบาสะ อย่าง อิซาวะ มาโมรุ ร่วมทีม มารินอส ในภาคลุยเจลีก นั่นเอง   นักเตะไทยใน เจลีก 2018 ย้อนกลับไปฤดูกาลที่ผ่านมา แฟนบอลไทยชื่นใจไปตามๆ กัน เมื่อทุกสุดสัปดาห์เราจะได้เห็นนักเตะไทยแท้ๆ ไม่มีครึ่งควบชาติใด โลดแล่นใน เจลีก ถึง 3 คน ยิ่งต้นฤดูกาลถือเป็นสีสันที่พีคเร็ว ชนาธิป และ ธีรศิลป์ เปิดตัวได้ดี โดยเฉพาะรายหลังทำประตูได้ตั้งแต่เกมแรก ย้ายมามองที่ อุ้ม ธีราทร ก็ไม่เลว แม้จะใช้เวลานานกว่าเพื่อนร่วมชาติ แต่โอกาสก็มาถึงกับบทบาทแบ็กซ้ายที่ถนัด หลายครั้งเขาทำได้ดีหวือหวา ด้วยทีเด็ดจากจังหวะโยนเข้ากลางอันเลื่องชื่อของเจ้าตัว แม้จะไปญี่ปุ่นก็พิสูจน์ได้ว่านี่คืออาวุธหนักระดับเอเชีย ไหนจะได้เล่นร่วมกับแข้งแชมป์โลกถึง 2 รายทั้ง ลูคัส โพลโดสกี้ และ อันเดรียส อิเนสต้า แทบทุกเกมที่ธีราทรลงสนามให้โกเบ ก็มักเป็นที่จับตามองของแฟนๆ เสมอ จนเวลาผ่านไปสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า โกเบ ค่อยๆ แผ่วลงไป ทั้งการที่อันดับของทีมร่วงหล่นอยู่ในโซนอันตราย เช่นกันกับโอกาสลงสนามของ อุ้ม ที่เลือนลาง สุดท้าย ต้นสังกัดไปลุ้นรอดตกชั้น 100% ในนัดสุดท้าย ซึ่งเป็นไปตามคาด ธีราทร ไม่ได้ไปต่อ ปิดฉากขวบปีแรกกับชีวิตพ่อค้าแข้งอาชีพในแดนอาทิตย์อุทัย ด้วยการลงสนาม 27 เกมลีก, 4 เกม J-League Cup และ 3 เกม Emperor's Cup พร้อมเดินทางกลับมาพักใจที่เมืองไทยร่วมต้นสังกัดเดิม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด รวมทั้งเก็บตัวทีมชาติเพื่อลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย ทว่าเบื้องลึกแล้วข่าวสะพัดในวงกว้างว่าโอกาสใน เจลีก ของอุ้ม ยังไม่จบลงแบบปิดตาย ข่าวลือบ้าง เล่าบ้าง กระซิบข้างหูบ้างสรุปกันง่ายๆ ตามนี้ ตั้งแต่ช่วงปลายฤดูกาลที่ผ่านมามีหลายทีมต้องการตัวของ ธีราทร ไปร่วมงานต่อ หนึ่งในนั้นคือสังกัดเดิมที่ยืมไปอย่าง วิสเซล โกเบ น่าเสียดายการตกลงไม่เป็นตามต้องการของสองฝ่าย บ้างกล่าวอ้างว่าทีมเจลีกอยากได้ตัวไปใช้ด้วยสัญญายืมตัว ทว่าต้นสังกัดเองอยากขายขาดเสียมากกว่า สุดท้ายไม่มีอะไรในกอไผ่ จนมาสรุปจบกันที่ โยโกฮามา เอฟ มารินอส ที่เสียแบ็กซ้ายตัวเก่ง เรียวซึเกะ ยามานากะ ไปให้กับ อุราวะ เร้ดไดมอนส์ ธีราทรจึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่พวกเขาต้องการ แต่ “ยืมตัวนะ” ทั้งนี้เรื่องรายละเอียดสัญญา เชื่อว่าอีกไม่นานคงปรากฏตามหน้าสื่อต่อไป นับนิ้วดูแล้วเวลาการเจรจาไม่น่าจะเกินเดือน สิ่งต้องสงสัยในตอนนี้มีหลายประเด็นน่าติดตาม เรื่องใหญ่คือโอกาสครั้งนี้ของ อุ้ม จะออกมางอกเงยและปักหมุดหมายได้ในระยะยาวเหมือนที่ ชนาธิป ทำได้มาแล้วหรือไม่ ต้องโดดเด่นเป็น MVP ทีมติด รวมดาราลีก ทว่าเรื่องหลักที่แฟนบอลเอาใจช่วยขอให้ “อุ้ม” ได้มีโอกาสพิสูจน์ตัวเองในสนามจริงมากขึ้นเป็นพอ   ปีแห่งการพิสูจน์ตน ถามถึงความเป็นไปได้ระดับไหน แน่นอนมันเปิดกว้างทีเดียว ปกติทีมจากญี่ปุ่นหรือทีมฟุตบอลทั่วโลกให้ความสำคัญอย่างมากกับปีแรกของนักเตะต่างชาติ หากผลงานนี้ทะลุเป้า ลงเป็นประจำ ยิงกระจาย มากมายแอสซิส หรือแกร่งทนเป็นภูผาในเกมรับ ย่อมสอบผ่านไม่ยากด้วยผลงานที่ชัดเจน แล้วผู้เล่นที่มีโอกาสไม่มากนัก สิ่งที่ทีมหรือแมวมองต้องการเห็นก็คือ Potential ความเป็นไปได้จากศักยภาพของผู้เล่นคนนั้นที่ทำให้ทีมเชื่อว่ายังมีดีอยู่ ยังคุ้มค่าที่จะเสี่ยง ทุ่มเทไหม สู้ไหม สร้างประโยชน์หรือก่อโทษมากกว่ากัน ฝีเท้าได้แต่สันดานดิบบ่อนทำลายก็จบ ซึ่ง ธีราทร ผ่านจุดนั้นมาแล้วด้วยหลักฐานที่ว่ายังมีทีมมากมายต้องการเขาอยู่ กลับกัน ธีราทร ผ่านขวบปีแรกซึ่งเป็นขวบปีที่ยากเสมอ และอาจจะยากที่สุดสำหรับนักเตะที่ต้องย้ายไปเล่นต่างแดน เขามีประสบการณ์แล้วกับการปรับตัวทั้งสภาพอากาศ ความเป็นอยู่ อาหาร รวมทั้งสิ่งสำคัญเรื่องการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นชีวิตจริง หรือการเจรจาภาษาลูกหนังบนผืนหญ้า เขารู้ด้วยประสบการณ์ตรงว่าชีวิตนักฟุตบอลต่างแดนเป็นอย่างไร รู้แล้วว่าฟุตบอลญี่ปุ่นเล่นแบบไหนและต่างจากบ้านเรามากเพียงใด คำว่ามืออาชีพใน เจลีก มาตรฐานอยู่ขั้นไหนเขาสัมผัสมันแล้ว 1 ฤดูกาลเต็มๆ เช่นกันกับเรื่องน่ากลัวที่คลี่คลายปมหมดห่วง นั่นคือครอบครัวที่พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ จากขวบปีแรกที่ต้องห่างภรรยาและเจ้าตัวน้อย ตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น ชนาธิป เป็นตัวอย่างใกล้ตัวที่ชัดเจน ขวบปีแรกได้เล่นบ่อยจริงแต่ยังลูกผีลูกคน หลายฝ่ายกังวลว่าจะได้ไปต่อไหมเมื่อเปลี่ยนโค้ช ทั้งนี้เมื่อเวลาผ่านไป เจ ปรับตัวได้ ทุกอย่างออกมาสวยงาม เชื่อลึกๆ ว่า ธีราทร ก็น่าจะได้ผลที่ไม่ต่างกันนัก ด้วยความสามารถและความมุ่งมั่นที่ยอดเยี่ยม ไม่มีแฟนบอลไทยคนไหนกังขาในเรื่องนี้ พร้อมอวยพรให้ทุกอย่างเป็นใจในขวบปีที่ 2 ของเจ้าตัว พิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าเราดีพอ   ความเป็นไปได้ของนักเตะไทย อย่างไรก็ตามชื่อของ ธีราทร บุญมาทัน ยังไม่น่าจะเป็นนักเตะไทยคนสุดท้ายในแผ่นดินญี่ปุ่นฤดูกาลนี้ ด้วยฟอร์มที่เข้าตาของหลายต่อหลายคนในรายการชิงแชมป์เอเชีย ทำให้หลายชื่อเป็นที่ต้องการทั้ง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กลางไดนาโมจาก บีจีปทุม หรือกัปตัน ธีรศิลป์ แดงดา ที่หลายทีมในเจลีกต้องการไปเสริม ด้วยเหตุที่ว่าเจ้าตัวเป็นนักเตะที่ปรับตัวได้ดี เล่นได้ทุกตำแหน่งในเกมรุก โดยเฉพาะบทบาทการเชื่อมเกม สร้างเกมราวกองกลาง ซึ่งจุดนี้หาได้ยากในกองหน้าญี่ปุ่นแท้ๆ ทว่าปัญหามันอยู่ที่หลายทีมในเจลีกที่สนใจต่างอยากได้ มุ้ย ไปร่วมทีมในฐานะ Super Sub สำรอง ที่เปลี่ยนเกมได้ไว้ใจได้เสมอ ในมุมกลับสำหรับนักเตะนี่ถือเป็นอีกเรื่องที่ทำใจยาก คงต้องตามกันต่อว่าจะจบแบบไหนกัน แต่รับประกันได้เลยยิ่งแข้งไทยขนกันไปต่างแดนเยอะๆ มันมีแต่เรื่องกำไรกันทุกฝ่าย นักเตะพัฒนาฝีเท้า ทักษะและการเรียนรู้ความเป็นมืออาชีพ ส่งผลชัดเจนต่อทีมชาติไทย ยิ่งกว่านั้นยังเป็นแรงบันดาลใจแก่รุ่นน้องต่อๆ ไปว่า อาชีพนักฟุตบอลเป็นอาชีพที่ไปได้ไกล และไปได้ไกลกว่านักเตะแถวหน้าในประเทศ ค่าเหนื่อยหลักหลายหมื่นไปจนเกือบล้านต่อเดือนหากเล่นในไทย เล่นบนลีกสูงสุด คุณยังออกไปเล่นยังต่างแดนในลีกชั้นนำของทวีปอย่างญี่ปุ่นได้หากพยายามมากพอ ดูสิพี่ๆ เขาทำได้เราก็ทำได้ ช่องทางได้เปิดกว้างแล้ว   ญี่ปุ่น เจลีก ได้อะไรจากดีลนักเตะไทย เรื่องนี้ตอบไม่ยาก ในแง่ทีมพวกเขาได้นักเตะทักษะดี คุ้มเหลือเกินเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไปจากค่าเฉลี่ยค่าจ้างต่อปีตามตำแหน่งของเจลีก หลังจบปี 2017 กองหน้าจะมีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปีตก 9 ล้านบาท กองกลาง 6.7 ล้านบาท กองหลัง 6 ล้านบาท และผู้รักษาประตู 5.4 ล้านบาท เท่ากับว่าทีมในลีกญี่ปุ่นจ้างกองหน้าเฉลี่ยเงินเดือน 750,000 บาท แน่นอนราคานี้หาฝีเท้าดีๆ ได้มากมายในไทย ราคานี้หากเป็นคนไทยต้องตัวติดธงชาติผลงานเป็นที่ยอมรับทั้งสิ้น เช่นกันกับเรตติ้งความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรมของเจลีกในประเทศไทย ทั้งเรตติ้งการรับชมเกมถ่ายทอดสด นักท่องเที่ยวไทยที่ไปเยือนเจลีกมากขึ้นในรอบสองปี รวมทั้งภาพข่าว รายการประชาสัมพันธ์ทั้งทางตรงทางอ้อมไปสู่สายตาคนไทยทั้งประเทศ เรื่องนี้ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาที่พวกเขาอยากเปลี่ยนเจลีกที่ทุกคนยกให้เป็นลีกชั้นนำของเอเชียให้เป็นลีกของคนเอเชียนั่นเอง ด้วยองค์ประกอบแบบนี้ เชื่อแน่ว่าเราได้เชียร์เจลีกแบบที่มีคนไทยลงสนามให้ได้ลุ้นกันเรื่อยๆแน่นอน   FYI สรุปปี 2018 ที่ผ่านมาเรามีนักเตะไทยไปเล่นที่ ญี่ปุ่นดังนี้ ธีราทร บุญมาทัน | วิสเซล โกเบ | สัญญายืมตัวจากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ธีรศิลป์ แดงดา | ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา | สัญญายืมตัวจากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ชนาธิป สรงกระสินธ์ | คอนซาโดเล ซัปโปโร | สัญญายืมตัวจากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ก่อนซื้อขาด เชาว์วัฒน์ วีระชาติ | เซเรโซ โอซากา U23(J3) | สัญญายืมตัวจากบางกอกกล๊าส เอฟซี(บีจี ปทุม ยูไนเต็ด) จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ | เอฟซี โตเกียว U23(J3) | สัญญายืมตัวจากทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ล่าสุดปี 2019 (ณ กลางเดือนมกราคม) ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ |โออิตะ ทรินิตะ | สัญญายืมตัวจากบีจี ปทุม ยูไนเต็ด   เชื่อว่าปีนี้จำนวนไม่น่าจะลดหย่อนกันเท่าไหร่   เรื่อง: พรรษิษฐ์ วิชญคุปต์