ThaiHealth Academy ส่งต่อความรู้ สร้างสังคมไทยสู่ ‘สังคมสุขภาวะ’  

ThaiHealth Academy ส่งต่อความรู้ สร้างสังคมไทยสู่ ‘สังคมสุขภาวะ’  
โลกปัจจุบันคือโลกแห่งความซับซ้อน ไม่แน่นอน และเปลี่ยนแปลงเร็วจนยากจะคาดเดา สภาพการณ์เช่นนี้หลายคนนิยามไว้ว่าคือ ‘โลกผันผวน’ (VUCA World) ซึ่งกำลังท้าทายชีวิตของเราทุกคนในแทบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน การเงิน ความสัมพันธ์ รวมถึงเรื่องของสุขภาวะด้วย ThaiHealth Academy ส่งต่อความรู้ สร้างสังคมไทยสู่ ‘สังคมสุขภาวะ’   เมื่อประเด็นทางสุขภาวะคือหนึ่งในโจทย์ใหญ่ที่ทุกสังคมต่างเผชิญ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เล็งเห็นว่า ถึงเวลาอันเหมาะสมในการยกระดับการขับเคลื่อนด้านสุขภาพ สู่บทบาทใหม่คือ การเป็นผู้สนับสนุนยกระดับขีดความสามารถของภาคีเครือข่าย และการขยายฐานความรู้และทักษะด้านสุขภาพสู่หน่วยงาน หรือองค์กรภาคสังคมต่างๆ ด้วยการปั้น ‘นักสร้างเสริมสุขภาพมืออาชีพ’ ผ่านการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ในนาม ‘สถาบันการเรียนรู้การสร้างเสริมสุขภาพ’ (ThaiHealth Academy) ในรูปแบบองค์กรกึ่งธุรกิจที่ไม่แสวงหากำไร สำหรับก้าวใหม่ของ สสส. ในปี 2565 นี้ นำโดย รศ. ดร.นพ. นันทวัช สิทธิรักษ์​ ผู้อำนวยการสถาบันการเรียนรู้การสร้างเสริมสุขภาพ นายแพทย์ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาจากโรงพยาบาลศิริราช ที่ตัดสินใจมารับหน้าที่นี้ด้วยเหตุผล ‘อยากเห็นคนไทยมีสุขภาพดี ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ในสังคมที่น่าอยู่มากขึ้น’  ThaiHealth Academy ส่งต่อความรู้ สร้างสังคมไทยสู่ ‘สังคมสุขภาวะ’   นำองค์ความรู้ออกสู่สังคม “ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ผมเป็นอาจารย์อยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชมาเป็นเวลากว่า 30 ปี นอกจากการเป็นแพทย์ด้านจิตวิทยาแล้ว อีกภารกิจหลักคือการจัดอบรมพัฒนาบุคลากรทั้งภายในและภายนอกองค์กร เราชอบทำงานด้านการเรียนรู้ มีความใฝ่ฝันว่าอยากจะสร้างแรงจูงใจ เปลี่ยนแปลงทัศนคติและพฤติกรรมของคน นำมาสู่การมีสุขภาพที่ดี และใช้ชีวิตได้ดีขึ้น พอได้ยินว่า สสส. ต้องการทำเรื่องนี้จึงมองเห็นว่า เราน่าจะทำความรู้และทักษะที่มีมาขยายผลออกไปสู่สังคมวงกว้างได้ จึงตัดสินใจมารับหน้าที่ผู้อำนวยการสถาบันการเรียนรู้การสร้างเสริมสุขภาพ” ThaiHealth Academy ส่งต่อความรู้ สร้างสังคมไทยสู่ ‘สังคมสุขภาวะ’   รศ. ดร.นพ. นันทวัช เล่าถึงผลงานวิจัยที่ผ่านมาของเขา ที่ครอบคลุมประเด็นทางสุขภาพในหลากหลายมิติ ทั้งประเด็นเรื่องพฤติกรรมการใช้สารเสพติดของคน โรคทางพันธุกรรม และภาวะทางสุขภาพในกลุ่มผู้สูงอายุ ฯลฯ  “เราทำงานวิจัยมาเยอะ โดยเฉพาะงานเกี่ยวกับสุขภาพในมิติต่างๆ แต่โดยส่วนตัวผมมีความสงสัยว่า งานวิจัยต่างๆ ของเราที่ได้ตีพิมพ์จะสามารถนำมาใช้เปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นได้ขนาดไหน บทบาทใหม่ภายใต้ สสส. จึงถือเป็นแรงบันดาลใจและความท้าทายหนึ่งของผม ในการที่จะเติมเต็มความฝันของการเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นให้ได้” ThaiHealth Academy ส่งต่อความรู้ สร้างสังคมไทยสู่ ‘สังคมสุขภาวะ’   หลักสูตรจากประสบการณ์กว่า 2 ทศวรรษ สถาบันการเรียนรู้การสร้างเสริมสุขภาพ (ThaiHealth Academy) ถือเป็นหน่วยงานลักษณะพิเศษใน สสส. มีลักษณะเป็นองค์กรรูปแบบกึ่งธุรกิจที่ไม่แสวงหากำไร ที่จัดตั้งขึ้นเพื่่อสนับสนุนการยกระดับขีดความสามารถของภาคีเครือข่ายที่ร่วมขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาวะ รวมถึงมุ่งขยายฐานผู้รับประโยชน์ไปยังกลุ่มบุคคล หน่วยงาน และองค์กรภาคสังคมต่างๆ ตลอดจนภาคเอกชน ในการสร้าง ‘นักสร้างเสริมสุขภาพมืออาชีพ’ ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการก่อให้เกิด ‘สังคมสุขภาวะ’ ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล  “ปัจจุบัน สสส. ได้ตกผลึกบทเรียนและองค์ความรู้ที่สั่งสมจากการทำงานด้านสุขภาพมาตลอด 20 ปี กลั่นเป็น 51 หลักสูตร ที่เข้าถึงง่าย และนำไปใช้ได้อย่างกว้างขวาง นอกจากนี้เรายังมีรูปแบบของการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละองค์กร หรือหน่วยงาน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลักษณะพิเศษโดยเฉพาะ ซึ่งจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างตรงจุด และมีศักยภาพมากขึ้น” ThaiHealth Academy ส่งต่อความรู้ สร้างสังคมไทยสู่ ‘สังคมสุขภาวะ’   หลักสูตรกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงสู่องค์กรสุขภาวะ (Transformation Strategies for Well-being Organization) หลักสูตรการผลักดันนโยบายสาธารณะ (Policy Brief / Policy Advocacy) และหลักสูตรถอดรหัสองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Thriving & Enchanted Organization) ฯลฯ คือตัวอย่างของหลักสูตรที่ทางสถาบันการเรียนรู้การสร้างเสริมสุขภาพ นำมาใช้ในการพัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่าย และปั้นนักสร้างเสริมสุขภาวะมืออาชีพ ThaiHealth Academy ส่งต่อความรู้ สร้างสังคมไทยสู่ ‘สังคมสุขภาวะ’   สร้างสังคมไทย สู่สังคมสุขภาวะ “สิ่งที่คาดหวังคือ ผมอยากให้คนที่เข้ามาอบรมกับเราแล้วเขาได้นำทักษะความรู้ออกไปสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนสังคม หรือมีส่วนทำให้เกิดการผลักดันเป็นนโยบายที่ให้การคุ้มครองด้านสุขภาพที่ดีขึ้นแก่ประชาชน ซึ่งจะสะท้อนออกมาผ่านภาพของสังคมที่คนไทยมีสุขภาพดีขึ้น คนเป็นโรคกันน้อยลง ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากขึ้น ท่ามกลางสภาพของชุมชนที่น่าอยู่ขึ้น”  การขยับครั้งสำคัญของ สสส. ผ่านการเพิ่มบทบาทในการเป็นผู้อบรมให้ความรู้เพื่อสร้าง ‘นักสร้างเสริมสุขภาวะมืออาชีพ’ นอกจากสะท้อนถึงความสำเร็จขององค์กรแล้ว ยังตอกย้ำกับเราทุกคนว่า การทำให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งสุขภาวะ และเป็นสังคมที่่น่าอยู่ ไม่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยองค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนในสังคมจะต้องร่วมกันเรียนรู้ และร่วมมือกันเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง