กลุ่มไม้ขีดไฟ เปิดสวน ชวนสนุก เรียนรู้วิถีใหม่แบบห้องเรียนไร้กรอบ

กลุ่มไม้ขีดไฟ เปิดสวน ชวนสนุก เรียนรู้วิถีใหม่แบบห้องเรียนไร้กรอบ
“โควิดก็ต้องกลัว แต่การเรียนรู้ก็ต้องเดินหน้า” ประโยคสั้นๆ นี้ เชิญชวนให้เด็กและผู้ปกครองเดินทางมารวมกันที่สวนไฟฝัน ปากช่อง โคราช เมื่อวันเสาร์ที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อช่วยกันทำกิจกรรมเรียนรู้วิถีใหม่แบบห้องเรียนไร้กรอบ ที่จัดโดยกลุ่มไม้ขีดไฟ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กลุ่มไม้ขีดไฟ เปิดสวน ชวนสนุก เรียนรู้วิถีใหม่แบบห้องเรียนไร้กรอบ เด็กหลายๆ คนเป็นขาประจำ ที่เคยมาแล้วหลายครั้ง บางคนก็เป็นหน้าใหม่ที่เพิ่งได้ลองมาสัมผัสการเรียนรู้นอกห้องเรียนท่ามกลางธรรมชาติในสวนชวนเล่นแห่งนี้เป็นครั้งแรก แต่สิ่งที่เด็กๆ และผู้ปกครองทุกคนต่างมีเหมือนกันนั่นคือความฝัน และความตั้งใจ ที่อยากจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จนเกือบลืมไปเลยว่าพวกเราเพิ่งปลดล็อกดาวน์ผ่อนปรนจากเหตุการณ์โควิดกันมาไม่นาน กลุ่มไม้ขีดไฟ เปิดสวน ชวนสนุก เรียนรู้วิถีใหม่แบบห้องเรียนไร้กรอบ แต่งานนี้ก็ไม่ได้ละเลยมาตรการความปลอดภัยในแบบวิถีใหม่ ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิ การสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน จัดให้มีจุดล้างมือพร้อมสบู่ และเจลแอลกอฮอล์ ที่สำคัญแต่ละกิจกรรมพยายามจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วม เพื่อเป็นการรักษาระยะห่างทางสังคม และการเป็นพื้นที่โล่งกว้างอากาศปลอดโปร่งของสวนไฟฝัน ช่วยให้ห้องเรียนที่ไม่มีผนังแห่งนี้หายห่วงจากโควิดได้ระดับหนึ่งเลยทีเดียว กลุ่มไม้ขีดไฟ เปิดสวน ชวนสนุก เรียนรู้วิถีใหม่แบบห้องเรียนไร้กรอบ พี่เอ-สุมณฑา ปลื้มสูงเนิน หนึ่งในสมาชิกกลุ่มไม้ขีดไฟ ใช้เวลาว่างหลังจากการดูแลความเรียบร้อยของแต่ละกิจกรรม มาเล่าให้ฟังถึงการแนวคิดของโครงการแบบวิถีใหม่ที่ให้ความสำคัญในเรื่องการป้องกันความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อโควิด ควบคู่ไปกับการเปิดโอกาสสร้างจินตนาการ และการเรียนรู้ อันเป็นหัวใจหลักของกลุ่มไม้ขีดไฟที่ยึดถือมาตั้งแต่วันแรก “เราพยายามปรับกิจกรรมให้เข้ากับวิถีใหม่มากที่สุด ทั้งการเปลี่ยนกิจกรรมการแนะนำตัวที่ตอนแรกต้องมีการสัมผัสตัวกันเพื่อสร้างความคุ้นเคย และกิจกรรมที่มีเด็ก ๆ เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ให้เป็นกิจกรรมที่เหมาะสมกับช่วงนี้ ซึ่งเราพยายามหาวิธีการที่เหมาะสม หลายอย่างก็ปรับจากที่เราเคยทำและมีความถนัดอยู่แล้ว บางอย่างก็ต้องหาความรู้เพิ่มจากอินเทอร์เน็ต” กลุ่มไม้ขีดไฟ เปิดสวน ชวนสนุก เรียนรู้วิถีใหม่แบบห้องเรียนไร้กรอบ กิจกรรมเวิร์คช็อปของสวนชวนเล่นมีทั้ง การทำเก้าอี้จากไม้เหลือใช้ เปิดครัวทำขนมปังสุดอร่อย กิจกรรมปั้นดินเหนียวให้เป็นกระถางน่ารักๆ สำหรับใส่ต้นกระบองเพชร หัดทำของเล่นจากไม้ไผ่ และการทำศิลปะภาพพิมพ์ที่เอามาพิมพ์จริงบนถุงผ้ารักษ์โลก นอกจากนี้ยังมีลานสนุก ให้เด็กๆ ได้ปีนป่ายวิ่งเล่นกันทั้งวันในแบบ New Normal อีกด้วย ซึ่งผลตอบรับที่ได้ค่อนข้างดีกว่าที่ทางกลุ่มไม้ขีดไฟคาดไว้ เพราะมีเด็กๆ และผู้ปกครองเดินทางมาร่วมกิจกรรมมากกว่าที่คิด ทั้งจากพื้นที่ใกล้เคียง และมาไกลจากกรุงเทพฯ เลยก็มี กลุ่มไม้ขีดไฟ เปิดสวน ชวนสนุก เรียนรู้วิถีใหม่แบบห้องเรียนไร้กรอบ น้องจิ๊กซอว์ เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มไม้ขีดไฟมาแล้ว 5 ครั้ง ซึ่งครั้งนี้ได้จูงมือน้องชายมาด้วย พร้อมกับคุณปู่คุณย่าที่มาเป็นผู้ปกครอง “จริงๆ โควิดก็ยังมีอยู่ แต่ถ้าเรารู้จักการป้องกันตัวเองก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ วันนี้หนูใส่มาร์กและก็พยายามล้างมือบ่อยๆ พอได้มาลองทำขนมปังด้วยตัวเองก็สนุกมากค่ะ” เธอบอกความรู้สึกของกิจกรรมในวันนี้ พร้อมทั้งชวนให้ลองชิมขนมปังร้อน ๆ หอมกรุ่นที่เธอเพิ่งลองทำด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก กลุ่มไม้ขีดไฟ เปิดสวน ชวนสนุก เรียนรู้วิถีใหม่แบบห้องเรียนไร้กรอบ โดยแต่ละกิจกรรมมีระดับความยากง่ายแตกต่างกัน กิจกรรมอย่างการทำขนมปังนมข้นหวาน และการปั้นดินทำกระถาง เด็กๆ อาจลองทำด้วยตัวเองได้ แต่การทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือการทำศิลปะภาพพิมพ์ที่มีการใช้เครื่องมือของมีคมเล็กน้อย เด็กๆ จะต้องมีผู้ปกครองคอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา “ครั้งนี้เราจัดกิจกรรมเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ โดยที่มีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลืออยู่ใกล้ๆ ทำให้เขารู้สึกถึงความห่วงใยของผู้ปกครองจากการกระทำ ที่ไม่ต้องบอกออกมาเป็นคำพูด เป็นการให้ความรู้พร้อมสร้างเสริมความสัมพันธ์ภายในครอบครัวไปด้วยกัน” กลุ่มไม้ขีดไฟ เปิดสวน ชวนสนุก เรียนรู้วิถีใหม่แบบห้องเรียนไร้กรอบ กิจกรรมสวนชวนเล่นครั้งนี้ เป็นเพียงหนึ่งในกิจกรรมนำร่อง จากโจทย์ที่ว่าโลกหลังโควิด เรายังจะมาเรียนรู้ด้วยกันได้เหมือนเดิมหรือเปล่า ซึ่งคำตอบที่ช่วยยืนยันถึงความสำเร็จของโครงการเล็กๆ นี้ คือเสียงหัวเราะ และรอยยิ้มของทั้งเด็กๆ และผู้ปกครอง ที่ได้มีโอกาสออกมาสัมผัสโลกกว้าง เพื่อสร้างจินตนาการ และการเรียนรู้ใหม่ๆ ที่หาไม่ได้ในห้องเรียน หลังจากนี้น่าจะมีโครงการดีๆ ที่จะช่วยต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ และค้นหาความถนัดของเด็กๆ ตามออกมาอีกเรื่อยๆ เพราะต่อจากนี้ “โควิดไม่ต้องกลัว เพราะการเรียนรู้ต้องเดินหน้า”