The People Talk: สุนทรพจน์วง ‘BTS’ ที่เชื่อว่าสถานการณ์โควิด-19 ไม่ใช่จุดจบของโลกและคนรุ่นใหม่

The People Talk: สุนทรพจน์วง ‘BTS’ ที่เชื่อว่าสถานการณ์โควิด-19 ไม่ใช่จุดจบของโลกและคนรุ่นใหม่

The People Talk: สุนทรพจน์วง ‘BTS’ ที่เชื่อว่าสถานการณ์โควิด-19 ไม่ใช่จุดจบของโลกและคนรุ่นใหม่

*The People Talk รวมสุนทรพจน์เปลี่ยนโลก *** สุนทรพจน์ของ BTS ศิลปินชาวเกาหลีที่ได้รับการแต่งตั้งเป็น ‘ผู้แทนพิเศษประธานาธิบดี เพื่อคนรุ่นใหม่และวัฒนธรรม’ กล่าวไว้ที่การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ครั้งที่ 76 เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2021   “เราไม่สามารถยืนนิ่งเฉยได้ ขณะที่ชีวิตของเรากำลังเผชิญหน้าความท้าทาย” จีมิน กล่าวระหว่างสุนทรพจน์ที่ BTS วงบอยแบนด์สัญชาติเกาหลี ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ‘ผู้แทนพิเศษประธานาธิบดี เพื่อคนรุ่นใหม่และวัฒนธรรม’ ขึ้นพูดสุนทรพจน์บนเวทีประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ครั้งที่ 76 นอกจากจะโด่งดังไปทั่วโลกทั้งด้านความสร้างสรรค์ของเสียงดนตรี BTS ยังเป็นบอยแบนด์เกาหลีที่โด่งดังในด้านสังคม พวกเขาได้เป็นตัวแทนชาวเกาหลี ชาวเอเชีย และเป็นตัวแทนของผู้คนจากช่วงวัยเดียวกันกับพวกเขาในระดับโลก เพื่อพูดถึงเรื่องราวความเป็นไปของโลกอยู่บ่อยครั้ง เช่นเดียวกับสุนทรพจน์ครั้งนี้ ที่ BTS ได้เป็นตัวแทนของวัยรุ่น ไปจนถึงคนในช่วงวัยยี่สิบ เพื่อกล่าวกับโลกว่าพวกเขาไม่ใช่ ‘คนรุ่นหลงทาง’ อย่างที่มักจะถูกเรียก และกล่าวว่าแม้ตลอดสองปีที่ผ่านมา วัยรุ่นมากมายจะต้องเสียโอกาสในการใช้ชีวิต ในการเฉลิมฉลองความสำเร็จ และสูญเสียทางเลือกบางประการที่พวกเขาเคยมีในสถานการณ์ปกติ แต่ว่าพวกเขาไม่ได้กำลังสูญหาย หากกำลังเรียนรู้เพื่อ ‘ต้อนรับ’ ความเป็นไปได้ใหม่ และทางเลือกใหม่ พร้อมกันนี้ BTS ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของธรรมชาติ และความสำคัญของการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และนอกจากจะสื่อสารด้วยคำพูดแล้ว พวกเขายังสื่อสารผ่านการร้องและเต้นใน ‘Permission to Dance’ ที่แสดงหลังจากจบสุนทรพจน์ความยาว 6 นาที เพื่อส่งต่อความหมายและความคิดบวกในบทเพลงให้กับผู้คนอีกด้วย และนี่คือสุนทรพจน์ของพวกเขา RM: เรียน ฯพณฯ อับดุลลา ชาฮิด ประธานสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 76 ฯพณฯ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ ฯพณฯ ประธานาธิบดี มุน แจอิน และผู้นำที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้อยู่ที่นี่ ในวันนี้ พวกเรา BTS ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนพิเศษแห่งสาธารณรัฐเกาหลี เรามาที่นี่ ในวันนี้เพื่อแบ่งปันเรื่องราวของผู้คนในยุคสมัยแห่งอนาคต ก่อนที่จะมาที่นี่ เราได้สอบถามคนหนุ่มสาว เหล่าเยาวชนจนถึงผู้ที่อายุราวยี่สิบปีจากทั่วโลก เกี่ยวกับเรื่องราวของพวกเขาในสองปีที่ผ่านมา และเกี่ยวกับโลกใบนี้ที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบัน จินจะแบ่งปันคำตอบที่เราได้รับมา จิน: ครับ เพียงแค่มองดูก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกดี ๆ จากภาพเหล่านี้, มีหลายครั้งในช่วงสองปีที่ผ่านมาที่ผมรู้สึกสับสนและกังวล แต่ก็ยังมีผู้คนที่ร้องตะโกนว่า ‘ใช้ชีวิตต่อกันเถอะ มาทำให้ดีที่สุดในช่วงเวลาแบบนี้กัน’ จีมิน: เพราะเราไม่สามารถยืนนิ่งเฉยได้ ขณะที่ชีวิตของเรากำลังเผชิญหน้าความท้าทายที่ทำให้ผิดหวัง จองกุก: ทั้งที่ตัวผมไม่ต่างไปจากเดิม แต่โลกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ราวกับเป็นโลกคู่ขนาน ผมรู้สึกเศร้าเมื่อได้ยินว่าต้องยกเลิกการสอบเข้าและพิธีรับปริญญา ทั้ง ๆ ที่เป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง การพลาดสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องน่าผิดหวัง เราเศร้าเสียใจเมื่อทัวร์คอนเสิร์ตที่วางแผนมานานถูกยกเลิก และเราก็โหยหาช่วงเวลาที่เราได้ทำมันจนสำเร็จ ชูการ์: ถึงเวลาแล้วที่เราต้องไว้อาลัยให้สิ่งที่โควิด-19 พรากไปจากเรา นี่คือช่วงเวลาแห่งการค้นพบว่า ทุกเหตุการณ์ธรรมดาที่เราเคยมองข้ามไปนั้นมีค่าเพียงใด จีมิน: อย่างที่ชูการ์บอก บางสิ่งที่ล้ำค่าได้ถูกมองข้ามไป ผู้คนจำนวนมากตอบคำถามของเราด้วยการแบ่งปันภาพช่วงเวลาอันมีค่าของพวกเขา หลายคนใช้เวลาไปกับธรรมชาติ ผมคิดว่าตลอดสองปีที่ผ่านมา พวกเขาได้ค้นพบช่วงเวลาที่ดีจากการอยู่ใกล้และใส่ใจธรรมชาติ เจโฮป: ใช่ครับ อาจจะเป็นเพราะเรารู้สึกหวาดกลัวต่อเวลาของเราที่มีบนโลกนี้อย่างจำกัด ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาสำคัญ แต่สำหรับวิธีแก้ปัญหานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นหัวข้อที่หาข้อสรุปได้ยาก RM: จริงอยู่ที่มันเป็นหัวข้อสนทนาที่ยากทีเดียว แต่ผมได้เรียนรู้ระหว่างเตรียมตัวสำหรับวันนี้ว่ามีคนหนุ่มสาวจำนวนมากที่มีความสนใจในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม และเลือกศึกษาสิ่งนี้ อนาคตคือดินแดนที่ไร้การสำรวจ และนั่นคือที่ที่เรา (คนหนุ่มสาว) ต้องใช้เวลาอาศัยมากกว่าใคร ๆ วี: ดังนั้นคนหนุ่มสาวเหล่านี้จึงค้นหาคำตอบ สำหรับคำถามที่ว่าเราจะต้องใช้ชีวิตในอนาคตอย่างไร ผมหวังว่าเราจะไม่มองว่าอนาคตนั้นมีแต่ความมืดมนน่าหดหู่ ยังมีผู้คนมากมายที่ใส่ใจโลก ยังมีหน้ากระดาษอีกมากที่โลกยังเปิดไปไม่ถึง ผมคิดว่าเราไม่ควรพูดราวกับว่าตอนจบของเรื่องราวนี้ได้ถูกเขียนไว้นานแล้ว จองกุก: แน่นอนว่าบางครั้งโลกก็ติดหล่ม ย่ำอยู่กับที่ แม้ว่าคุณพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้า บางครั้งก็เกิดความรู้สึกว่าคุณกำลังหลงทาง บางช่วงเวลาเราก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน RM: ผมได้ยินมาว่าทุกวันนี้วัยรุ่น ไปจนถึงคนอายุราวยี่สิบ ถูกเรียกว่า ‘คนรุ่นหลงทาง’ (lost generation) เนื่องจากการขาดหายของช่วงชีวิตที่โควิด-19 พรากไป ผู้คนบอกว่าพวกเขาหลงทางในช่วงเวลาที่ต้องการโอกาสที่หลากหลายและการทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ ผมคิดว่ามันไม่เข้าท่านักที่จะกล่าวเช่นนั้นโดยตัดสินเอาจากสายตาของผู้ใหญ่ เมื่อมองไปยังเส้นทางที่พวกเขาเดิน จีมิน: ดูรูปเหล่านี้สิ หลายคนพยายามอย่างมากที่จะสร้างมิตรภาพออนไลน์ด้วยวิธีใหม่ ๆ และใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี เด็ก ๆ เหล่านี้กำลังเรียนรู้สิ่งใหม่ ค้นหาสิ่งที่ยังไม่มีใครค้นพบ พวกเขาไม่ได้ดูสูญหายหรือหลงทางแม้แต่น้อย จิน: ราวกับว่าพวกเขาพร้อมเสมอที่จะค้นพบความกล้าหาญและความท้าทายที่อยู่ข้างหน้า เป็นเหตุผลให้ผมคิดว่าชื่อที่เหมาะกับพวกเขามากกว่า ‘คนรุ่นหลงทาง’ คือ ‘คนรุ่นต้อนรับ’ (welcome generation) แทนที่จะหวาดกลัวซึ่งความเปลี่ยนแปลง คนรุ่นนี้จะกล่าวว่า ‘ยินดีต้อนรับ’ กับทุกสิ่งและก้าวเดินหน้าต่อไป RM: ถูกต้องครับ หากเพียงแต่เราเชื่อมั่นในความเป็นไปได้และความหวัง แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เราจะไม่หลงทาง แต่จะค้นพบสิ่งใหม่ ๆ แทน ชูการ์: เราอาจจะมีทางเลือกที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นัก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะทำอะไรไม่ได้เลย นั่นคือสิ่งที่ผมคิด เจโฮป: สิ่งสำคัญคือทางเลือกที่เราทำเมื่อต้องเผชิญหน้าความเปลี่ยนแปลง หลายคนได้รับข่าวว่าเราจะมาที่ UN และเกิดความสงสัยว่าเราได้รับการฉีดวัคซีนหรือไม่ RM: ผมจะใช้โอกาสนี้ตอบว่า ใช่ครับ พวกเราทั้งเจ็ดคนได้รับการฉีดวัคซีน การฉีดวัคซีนเป็นตั๋วเพื่อพบปะกับแฟน ๆ ที่รอคอยเราอยู่ และสามารถยืนอยู่ตรงหน้าพวกคุณในวันนี้ได้ อย่างที่เราได้กล่าวไป เราไม่ได้นิ่งเฉย และได้ทำสิ่งที่เราพอจะทำได้ในตอนนี้เช่นกัน วี: เช่นเดียวกับการฉีดวัคซีน มีความพยายามด้านอื่น ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้โลกใบนี้ที่กำลังเผชิญหน้ากับความเป็นจริงรูปแบบใหม่สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ ผมหวังว่าวันที่เราจะได้พบกับตัวต่อตัวอีกครั้งจะอยู่ไม่ไกล จนกว่าจะถึงตอนนั้น ผมหวังว่าเราจะสามารถเติมพลังบวกให้แต่ละวันของกันและกันได้อย่างมากเพียงพอ RM: เราคิดว่าโลกหยุดนิ่งแล้ว แต่จริง ๆ มันยังหมุนต่อไป ผมเชื่อว่าทุกทางที่เราเลือกทำ คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่จุดจบ ผมหวังว่าโลกใบใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น เราทุกคนจะสามารถกล่าวคำว่า ‘ยินดีต้อนรับ’ ออกมาได้ สำหรับวันนี้ เมื่อเรามองไปยังอนาคต ‘Permission to Dance’ คือสิ่งที่เราอยากแบ่งปันกับทุกคนในวันนี้   เรื่อง: จิรภิญญา สมเทพ ทีมา: https://popcrush.com/bts-address-climate-change-pandemic-un-address/