ร่วมย้อนระลึกถึงประติมากรชาวฝรั่งเศส ผู้เรียกผืนแผ่นดินไทยว่าบ้าน กับนิทรรศการสุดพิเศษ ณ เอส เอ ซี แกลเลอรี ในกรุงเทพ ฯ

ร่วมย้อนระลึกถึงประติมากรชาวฝรั่งเศส ผู้เรียกผืนแผ่นดินไทยว่าบ้าน กับนิทรรศการสุดพิเศษ ณ เอส เอ ซี แกลเลอรี ในกรุงเทพ ฯ
กรุงเทพฯ 17 ธันวาคม 2563ศิลปินบางคนรังสรรค์ความคิดและจินตนาการ ทั้งยังแสวงหามุมมองใหม่ ๆ ในการนำเสนอผลงานภายใต้สภาพแวดล้อมหรือสถานที่ที่คุ้นเคย แต่ทว่าศิลปินด้านประติมากรรมร่วมสมัยอย่างวาเลครี กูตาร์ (Valérie Goutard) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อวาล (Val) เลือกออกเดินทางจากบ้านเกิดของเธอที่ฝรั่งเศสมาตั้งรกรากในประเทศไทยเพื่อสานต่อความเชื่อและแรงปรารถนาอันแรงกล้า ซึ่งผืนแผ่นดินแห่งนี้เองทำให้เธอได้สร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่นจนได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในประติมากรที่สำคัญที่สุดในศตวรรษนี้   ผลงานของวาลจะได้รับการเฉลิมฉลองและจัดแสดงอีกครั้งในเดือนมกราคมนี้เพื่อเป็นการย้อนระลึกถึงเธอและงานศิลปะที่เธอรักและรังสรรค์ขึ้นในช่วงที่เธออาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยงานนิทรรศการดังกล่าวจะจัดขึ้นภายใต้ชื่อ The Reflection of Infinity  ณ เอส เอ ซี แกลเลอรี  (ศุภโชค ดิ อาร์ต เซ็นเตอร์) โดยเน้นนำเสนอสาระสำคัญของชีวิตและการทำงานของวาลในประเทศไทย ทั้งยังเป็นการรวบรวมผลงานที่หลากหลายมากที่สุด   วาลเป็นศิลปินที่เรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยเริ่มต้นจากการสร้างสรรค์ผลงานด้วยดินเหนียว เธอสร้างสตูดิโอของตัวเองขึ้นในกรุงเทพฯ เมื่อปี 2547 และแสดงผลงานชุดแรกของเธอในปีเดียวกัน ซึ่งวาลได้กล่าวถึงผลงานชุดนั้นว่าเป็นการผสมผสานระหว่างเสรีภาพอันยิ่งใหญ่และความเป็นชุมชนที่อบอุ่นของเอเชีย  โดยผลงานของเธอได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวางในช่วงเวลาอันสั้น และในช่วงเวลานั้นเองเธอยังได้พบกับนายเฟรเดริก โมเรล (Frédéric Morel) สุภาพบุรุษคนหนึ่งที่ต่อมาคือสามีและตัวแทนของเธอและยังคงอาศัยอยู่ในประเทศไทย   ผลงานประติมากรรมเกือบทั้งหมดของวาลสร้างสรรค์ขึ้นจากสัมฤทธิ์ที่หล่อโดยทีมช่างชาวไทยของเธอ ณ โรงงานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา งานของวาลมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นในด้านความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่กับส่วนโค้งและความแตกต่าง วาลเคยกล่าวถึงงานของเธอว่าเป็นดั่งพื้นที่ที่ “ความสมบูรณ์และความว่างเปล่าปฏิสัมพันธ์กันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด”   การจัดแสดงผลงานของวาลที่จะมีขึ้นนี้มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ กล่าวคือจะมีการนำเสนอผลงาน 3 ชิ้น ที่ไม่เคยจัดแสดงต่อสาธารณชนมาก่อน ได้แก่ Chaos, Crossing the ordeal and Wisdom รวมถึงผลงานในคอลเลกชัน Tenth Eonion Initiative ซึ่งเป็นประติมากรรมแก้วและสัมฤทธิ์ที่วาลร่วมมือกับศิลปินชั้นครูผู้เชี่ยวชาญงานศิลปะจากแก้วมูร่าโน (ARS Murano) ในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี   ผลงานของวาลได้รับการจัดแสดงและติดตั้งถาวรทั่วเอเชียและยุโรป สำหรับในกรุงเทพฯ นั้นสามารถชมผลงานของเธอได้ตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ ดังนี้
  • Ville fantastique II ตั้งอยู่ในสวนเบญจสิริ (ซึ่งเธอและสามีมอบเป็นของขวัญให้แก่กรุงเทพมหานคร)
  • Attraction II ที่สมาคมฝรั่งเศส กรุงเทพ ฯ
  • Inle Balance III ที่โรงแรมโซฟิเทล สุขุมวิท
  นอกจากนี้ยังมีผลงานชุด Ocean Utopia ที่ได้รับการติดตั้งอย่างพิถีพิถัน ณ ใต้ท้องทะเลนอกชายฝั่งเกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี ในปี 2559 โดยผลงานชิ้นนี้มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ที่ยืนสูงตระหง่าน ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของหอยนานาชนิด สาหร่ายและปะการังหลากสี ดังที่วาลได้ตั้งใจไว้   ในงานเปิดตัวผลงาน Attraction II ของวาลในปี 2562 ดร. ชิงชัย หาญเจนลักษณ์ นายกสมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ ฯ ได้กล่าวว่า “วาลเกิดเป็นคนฝรั่งเศส แต่เสียชีวิตด้วยหัวใจดุจดังคนไทยคนหนึ่ง” ทั้งนี้นิทรรศการ The Reflection of Infinity เชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมเดินทางย้อนไประลึกถึงเส้นทางอาชีพศิลปินของวาลที่สะท้อนถึงแรงบันดาลใจและอิสรภาพที่เธอรับรู้และสัมผัสได้ในช่วงที่เธออาศัยอยู่ในประเทศไทยและสร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้ ทั้งยังแสดงออกถึงความรักที่เธอมีต่อผืนแผ่นดินไทยและคนไทยอีกด้วย   นิทรรศการดังกล่าวจะจัดขึ้นที่เอส เอ ซี แกลเลอรี  (ศุภโชค ดิ อาร์ต เซ็นเตอร์) ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2564 จนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2564   ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ของเอส เอ ซี แกลเลอรี สามารถเข้าชมได้ที่นี่ https://www.facebook.com/sacbangkok/