‘เทพฤทธิ์ ศรีชวาลา’ แห่ง B&G Park กับการบริหารอสังหาฯ มูลค่ากว่าพันล้านบาท บนทำเล Super Prime Area

‘เทพฤทธิ์ ศรีชวาลา’ แห่ง B&G Park กับการบริหารอสังหาฯ มูลค่ากว่าพันล้านบาท บนทำเล Super Prime Area
ถ้าถามถึงทำเลยอดฮิตตลอดกาลของกรุงเทพฯ คงมี ‘ย่านอโศก’ ติดอยู่ในลิสต์ของใครหลายคนอย่างแน่นอน เพราะความโดดเด่นของทำเลที่ตั้งใจกลางเมืองย่านศูนย์กลางธุรกิจ รวมทั้งการเป็นจุดเชื่อมต่อหรือ Interchange ของระบบขนส่งมวลชนสายหลัก อย่างรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก กับรถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิท ซึ่งเป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่มีจำนวนผู้ใช้บริการมากที่สุด รวมถึงใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน ไม่ว่าจะเป็นทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านพระราม 4 และด่านท่าเรือ ไปบางนา – ดาวคะนอง และ ด่านสุขุมวิท ไปดินแดง – แจ้งวัฒนะ จึงนับว่าเป็นย่านที่สะดวกสบายง่ายต่อการเดินทาง โดยเฉพาะบริเวณ ‘แยกอโศก’ จุดตัดถนนสุขุมวิท-อโศกมนตรี อันเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้าทั้งสองสาย ถือเป็นทำเลยุทธศาสตร์ เป็นแหล่งรวมธุรกิจที่สำคัญและเป็นศูนย์รวมของห้างสรรพสินค้า โรงแรม คอนโดมิเนียม ร้านค้า ร้านอาหาร สวนสาธารณะ รวมถึงอาคารสำนักงานที่อยู่บริเวณนี้ซึ่งมีอัตราการเช่าพื้นที่หรือ Occupancy Rate ในภาพรวมเฉลี่ยกว่า 95% ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ‘เทพฤทธิ์ ศรีชวาลา’ แห่ง B&G Park กับการบริหารอสังหาฯ มูลค่ากว่าพันล้านบาท บนทำเล Super Prime Area ใครที่สัญจรผ่านไปมาในย่านนี้ น่าจะเคยผ่านตาอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและสวยงามของการออกแบบอาคาร บริเวณหัวมุมแยกอโศก ที่มีชื่อว่า ‘โครงการอินเตอร์เชนจ 21’ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อของระบบขนส่งมวลชนทั้ง 2 เส้นทางโดยมีทางเชื่อมทางเดินจากสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก เข้าสู่ชั้น 3 และทางเชื่อมจากสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิทเข้าสู่ชั้นใต้ของอาคาร โดยโครงการนี้อยู่ภายใต้การบริหารของ ‘บริษัท บี แอนด์ จี พาร์ค จำกัด’ (”B&G Park”)   ‘B&G Park’ คือใคร? ‘B&G Park’ เกิดจากการร่วมทุนระหว่าง Bischoff Textil AG บริษัทผลิตและจำหน่ายผ้าระดับโลกสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ และครอบครัวศรีชวาลา ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ธุรกิจอาคารสำนักงาน ได้แก่ โครงการอินเตอร์เชนจ 21 และธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ อาทิ โรงแรมอวานี หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ วิลล่าส์ โดยมี ‘คุณเทพฤทธิ์ ศรีชวาลา’ รับหน้าที่เป็นหัวเรือใหญ่ ‘เทพฤทธิ์ ศรีชวาลา’ แห่ง B&G Park กับการบริหารอสังหาฯ มูลค่ากว่าพันล้านบาท บนทำเล Super Prime Area “โครงการอินเตอร์เชนจ 21 เริ่มเปิดดำเนินการในปี 2551 เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าระดับพรีเมียม ซึ่งนอกจากการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว B&G Park ได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาบริหารจัดการภายในอาคาร เป็นโครงการที่ผสมผสานระหว่างพื้นที่สำนักงาน และพื้นที่พลาซาขนาดใหญ่ มีร้านค้าปลีก ร้านอาหาร จุดบริการต่าง ๆ และสถานบริการเพื่อสุขภาพและความงามจำนวนมาก จึงเรียกได้ว่าเป็นอาคารสำนักงานให้เช่าแบบครบวงจรบนทำเลแยกอโศก ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่าง CBD อย่างสยาม สีลม สาทร กับ New CBD ในย่านพระราม 9 – รัชดาภิเษก” ‘เทพฤทธิ์ ศรีชวาลา’ แห่ง B&G Park กับการบริหารอสังหาฯ มูลค่ากว่าพันล้านบาท บนทำเล Super Prime Area เพราะธุรกิจบริหารอสังหาฯ ไม่ใช่แค่สร้างตึกแล้วให้คนมาเช่า! คุณเทพฤทธิ์ เล่าถึงภารกิจในการบริหารโครงการอินเตอร์เชนจ 21 ว่า แม้จะมีทำเลที่เป็นจุดดึงดูด แต่ B&G Park ยังคงให้ความสำคัญกับการจัดหาผู้เช่าที่มีคุณภาพและบริหารให้กระจายตัวในแต่ละธุรกิจอย่างเหมาะสม โดยบริษัทฯ มีกระบวนการสรรหาและการคัดกรองผู้เช่าพื้นที่อย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้เกิดการแข่งขันระหว่างผู้เช่า ลดการพึ่งพิงทางรายได้และลดความเสี่ยงในกรณีที่อุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งอยู่ในช่วงขาลง หรือได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่าง ๆ อีกทั้งยังเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่อาคารสำนักงาน “เราพิจารณาตั้งแต่ประวัติ ความน่าเชื่อถือ และศักยภาพของผู้เช่าอย่างละเอียด เพื่อลดความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ ลดอัตราการหมุนเวียนของผู้เช่า และรักษาอัตราการเช่าพื้นที่ให้อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง โดยขั้นตอนการทำงานก็คือ บริษัทที่ปรึกษาจะส่งรายละเอียดผู้เช่ามาให้ทางเราตรวจสอบ จากนั้นจะมีการสัมภาษณ์ผู้เช่าทุกรายก่อนทำสัญญาเช่า เพื่อทำความเข้าใจธุรกิจ เป้าหมายที่สำคัญคือเพื่อเป็นการตรวจสอบและยืนยันศักยภาพของผู้เช่า” ‘เทพฤทธิ์ ศรีชวาลา’ แห่ง B&G Park กับการบริหารอสังหาฯ มูลค่ากว่าพันล้านบาท บนทำเล Super Prime Area จากอาคารสำนักงานให้เช่า สู่ทรัพย์สินจัดตั้งกองทรัสต์ BGREIT  ล่าสุด B&G Park เตรียมเปิดตัว ‘ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ บี แอนด์ จี หรือ BGREIT’ เพื่อเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าของโครงการอินเตอร์เชนจ 21 เป็นระยะเวลาประมาณ 25 ปี รวมเป็นมูลค่าสูงสุดจำนวนไม่เกิน 8,043 ล้านบาท โดยมาจากการระดมทุนจำนวนไม่เกิน 6,543 ล้านบาท และเงินกู้ยืมระยะยาวจำนวนไม่เกิน 1,500 ล้านบาท ซึ่งกำลังเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ “ความโดดเด่นของโครงการอินเตอร์เชนจ 21 ที่สะท้อนผ่านการเติบโตของอัตราค่าเช่าและ Occupancy Rate ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเช่ากว่า 97% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอัตราการเช่าอาคารสำนักงานในย่านอโศก ทำให้ BGREIT เป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนมั่นคง สม่ำเสมอ และยังมีโอกาสร่วมรับผลประโยชน์จากโครงการอสังหาฯ คุณภาพเยี่ยม บนทำเลที่เรียกได้ว่า Super Prime Area ของกรุงเทพฯ อีกด้วย”   อ้างอิง แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์/ร่างหนังสือชี้ชวน ในเว็บไซต์สำนักงาน ก.ล.ต. https://mgronline.com/onlinesection/detail/9620000053653