รีวิวคอนเสิร์ต เอ็ด ชีแรน ‘+ - = ÷ x’ Mathematics Tour Bangkok 2024 มันส์จนไฟลุก สุขจนน้ำตาไหล

รีวิวคอนเสิร์ต เอ็ด ชีแรน ‘+ - = ÷ x’ Mathematics Tour Bangkok 2024 มันส์จนไฟลุก สุขจนน้ำตาไหล

‘เอ็ด ชีแรน’ กับการกลับมาเยือนไทยเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 ปี ในคอนเสิร์ต ‘+ - = ÷ x’ Mathematics Tour Bangkok 2024

  • ทันทีที่ ‘แคลัม สก็อต’ ร้องถึงท่อน “I’d climb every mountain…” ผู้ชมในราชมังฯ ก็พร้อมใจกันเปิดแฟลชมือถือ ค่อย ๆ สร้างทะเลดาวที่ละดวง กระทั่งถึงท่อน “cause I need you to see. That you are the reason” สนามกีฬาแห่งนี้ก็แทบไม่เหลือที่ว่างให้ความมืด 
  • ‘เอ็ด ชีแรน’ มาถึงก็ใส่เต็มทั้งร้องทั้งเล่น เปิดตัวทั้งแสง สี เสียง พลุ ตั้งแต่เพลงแรก ๆ ไหนจะเวทีที่ทั้งหมุน 360 องศา มีทั้งยกขึ้นยกลง กระโดดไปกระโดดมา วิ่งวุ่นทวนเวทีบ้างตามจังหวะเพลง 
  • ‘เอ็ด ชีแรน’ จัดเต็มเพลงรักในช่วงท้ายของโชว์ วอร์มเสียงกันก่อนด้วย ‘Thinking Out Loud’ ใครมากับแฟนก็ได้ถือโอกาสจับมือกันตอนนี้แหละ ตามด้วย ‘Tenerife Sea’ ที่ชวนให้แนบชิดกันมากขึ้นอีก และ ‘Perfect’ เพลงชาติคู่แต่งงาน ปิดท้ายด้วย ‘Afterglow’

“มาดูคอนเสิร์ตยังไงให้เหมือนมาเลือกเพลงแต่งงาน”

ประโยคนี้ผุดขึ้นมาในหัวเป็นระยะ ระหว่างชมคอนเสิร์ต ‘+ - = ÷ x’ Mathematics Tour Bangkok 2024 ของ ‘เอ็ด ชีแรน’ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 

เพราะตั้งแต่เปิดเวทีตอนทุ่มนึงเป๊ะ ๆ แขกรับเชิญอย่าง ‘แคลัม สกอตต์’ (Calum Scott) ก็ทำเอาสาว ๆ อยากจะพุ่งเข้าร้านชุดแต่งงาน ด้วยเพลงรักความหมายดีที่มาพร้อมเสียงร้องระดับดีเว่อร์ กับอินเนอร์ที่จัดเต็มสุด ๆ 

ส่วนตัวที่ฟังแล้วรู้สึกเหมือนหูเคลือบทองคือ ‘Biblical’ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างฟังเพลงนี้คือ ถ้าใครสักคนมาคลั่งรักเราเท่าเพลงนี้ อย่ารอช้าเลย ไปแต่งงานกันให้รู้แล้วรู้รอดเลยเถอะ 

แต่เดี๋ยวก่อน! Biblical ไม่ใช่เพลงเดียวของแคลัมที่เราจะบรรจุในลิสต์เพลงแต่งงาน เพราะเขายังมีเพลงดังอย่าง ‘You Are The Reason’ ด้วย

ทันทีที่แคลัมร้องถึงท่อน “I’d climb every mountain…” ผู้ชมในราชมังฯ ก็พร้อมใจกันเปิดแฟลชมือถือ ค่อย ๆ สร้างทะเลดาวที่ละดวง กระทั่งถึงท่อน “cause I need you to see. That you are the reason” สนามกีฬาแห่งนี้ก็แทบไม่เหลือที่ว่างให้ความมืด เสมือนเป็นการ ‘ขอบคุณ’ นักร้องหนุ่ม ที่มอบเพลงนี้มาเติมเต็มความรักของคู่รักทุกคู่บนโลก 

ซีนนี้เล่นเอาน้องคลาม ที่หัดพูดภาษาไทยมาหลายคำ ถึงกับซึ้งจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ คาดว่าคงรู้สึกคุ้มค่ากับการปีนภูเขามาแล้วทุกลูก แหวกว่ายมาแล้วในทุกมหาสมุทร เพื่อมาเจอกับแฟนเพลงชาวไทย เจ้าตัวเลยจัดการเปลี่ยนเนื้อเพลงตอนท้ายเป็น “Thailand, You are my reason” เรียกเสียงกรี้ดและปรบมือดังสนั่นจากคนไทย.

นับเป็นการ give and take ที่น่ารัก ระหว่างศิลปินกับแฟนเพลง ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และยังคงเรียกน้ำตาให้กับเราได้ แม้ในระหว่างที่กำลังพิมพ์เล่านี้ 

ช่วงเวลาแห่งความสุขที่แคลัมมอบให้ผู้ชมชาวไทยผ่านไปอย่างรวดเร็วใน 40 นาที หลังจากนั้นก็เป็นเวลาของเจ้าของเวทีอย่าง ‘พี่หมี’ เอ็ด ชีแรน 

พี่คนนี้มาถึงก็ใส่เต็มทั้งร้องทั้งเล่น เปิดตัวทั้งแสง สี เสียง พลุ ตั้งแต่เพลงแรก ๆ ไหนจะเวทีที่ทั้งหมุน 360 องศา มีทั้งยกขึ้นยกลง กระโดดไปกระโดดมา วิ่งวุ่นทวนเวทีบ้าง ปล่อยไหลตามการหมุนวนของเวทีบ้าง ขณะเดียวกันมีไฟที่ลุกวาบอย่างน่าตื่นเต้นตามจังหวะเพลง (ที่พาดหัวไปว่า “มันส์จนไฟลุก” อยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่ใช่คำเปรียบเปรย แต่หมายความว่า มีไฟลุกวาบขึ้นมาจริง ๆ)

ถึงจุดหนึ่งเราก็แอบสงสัยว่า พี่หมีแกดีดขนาดนี้เพราะอิทธิฤทธิ์ไข่เจียวปูของเจ๊ไฝหรือเปล่านะ? 

นอกจากเอนเนอร์จี้ที่จัดเต็ม ที่เราชอบมากคือ ๆ เอ็ดดูมีความสุขมากจริง ๆ ตอนที่ร้องเพลง แล้วออร่าความสุขของเขามันเปล่งประกายออกมาอย่างเห็นได้ชัดในเพลงจังหวะหนัก ๆ หรือเพลงที่เขาได้แร็ป

หากลองนึกย้อนกลับไปว่า ในอดีตเขาเป็นเพียงเด็กหัวแดง พูดติดอ่าง ถูกเพื่อนล้อเลียนจนเสียความมั่นใจ ต้องหัดร้องเพลงตาม ‘เอ็มมิเน็ม’ จนหายติดอ่าง พอฝันอยากจะเป็นนักดนตรี เส้นทางก็ไม่ได้เรียบง่าย เข้าขั้นลำบากเลือดตาแทบกระเด็น เพราะต้องยอมเป็น ‘คนไร้บ้าน’ อยู่ช่วงหนึ่ง ตระเวนเล่นดนตรีเปิดหมวกตามสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอน ก่อนที่ฝีมือจะเข้าตาค่ายใหญ่

ถ้าเห็นภาพเส้นทางก่อนจะกลายมาเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในวงการเพลงดังเช่นทุกวันนี้ ทุกวินาทีที่ได้เห็นเขาเปลี่ยนกีตาร์ตัวแล้วตัวเล่า ทั้งดีดทั้งเคาะอย่างเพลิดเพลินคลอไปกับเสียงร้องในบทเพลงที่เปี่ยมไปด้วยความหมาย

คุณจะไม่ปลื้มยังไงไหว?

อาจเป็นเพราะความสุขนี่เอง ที่ทำให้เอ็ดแรงดีไม่มีตก แม้จะผ่านเพลงจังหวะเร็ว ๆ มาหลายเพลง ไม่ว่าจะเป็น Tides, BLOW, Shiver, Castle on the Hill และ Don’t ที่เล่นเอาเหงื่อโซมไปทั้งตัว ต้องกระดกน้ำดื่มนับครั้งไม่ถ้วน 

ในช่วงกลางของคอนเสิร์ต นอกจากผลงานชุดใหม่ ๆ ยังมีเพลง ‘I Don’t Care’ ที่เอ็ดร้องกับ ‘จัสติน บีเบอร์’ กับ ‘Love Yourself’ ที่เขาแต่งให้จัสตินร้อง ซึ่งพอมาเป็นเสียงร้องของเอ็ด จะให้อารมณ์ตัดพ้อ พ่อแง่แม่งอนมากกว่า

ที่มีสีสันอีกช่วงคือเพลง ‘Galway Girl’ ที่ได้สาว ‘อลิเชีย’ ขึ้นมาโชว์สีฟิดเดิล (หน้าตาคล้ายไวโอลิน) วิ่งวนรอบเวที และที่เรียกเสียงฮือฮาสุดคือตอนที่เธอฉีกขา 180 องศากลางเวที… สาวบางโพก็สาวบางโพเถอะ เจอแม่สาว Galway คนนี้เข้าไป มีเฉาแน่นอน

แล้วในที่สุดเพลงรักที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงในช่วงท้ายของโชว์ วอร์มเสียงกันก่อนด้วย ‘Thinking Out Loud’ ใครมากับแฟนก็ได้ถือโอกาสจับมือกันตอนนี้แหละ ตามด้วย ‘Tenerife Sea’ ที่ชวนให้แนบชิดกันมากขึ้นอีก และ ‘Perfect’ เพลงชาติคู่แต่งงาน

เราเป็นคนนึงที่แอบคิดเสมอว่า ถ้าเจอคู่รักมาขอแต่งงานกันในเพลงนี้ จะทำเป็น ignore เพื่อดื่มด่ำกับเพลงในคอนเสิร์ต แต่เอาเข้าจริง พอเห็นคนเริ่มกรี้ด แล้วฝ่ายชายหยิบแหวนขึ้นมา สารภาพตามตรงว่าแอบน้ำตาไหลตาม ยิ่งพอเหลือบมาเห็นคู่คุณลุงคุณป้าข้าง ๆ นั่งโอบกันฟังเพลงนี้อย่างสงบท่ามกลางเสียงวี้ดว้ายรอบตัว มันก็อดไม่ได้จริง ๆ แหละ ที่จะยินดีให้กับทุกความรักที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นความรักของคนแปลกหน้าก็ตาม

ส่วนตัวเราคิดว่าบรรยากาศแบบนี้ ยิ่งทำให้ความหมายของเพลงลึกซึ้งขึ้นอีก ลองคิดดูสิ มันจะมีสักกี่เพลงบนโลกกันนะ ที่คู่รักอยากให้ร่วมเป็นสักขีพยานความรู้สึกท่วมทันที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน อีกอย่างเอ็ดก็ไม่ได้หยุดร้อง เขายังคงทำหน้าที่ของตัวเองเพื่อมอบความสุขให้กับคนอื่น ๆ ต่อไป (อันนี้เห็นต่างกันได้ ไม่เป็นไรเลยค่ะ)

อีกเพลงรักที่ดีงามในคอนเสิร์ตครั้งนี้คือ ‘Afterglow’ ที่เราคิดว่ามันเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะอำลาพาร์ทเพลงรักได้อย่างงดงามสมศักดิ์ศรี ‘เจ้าพ่อเพลงรัก’ 

ช่วงท้ายพี่หมีเอ็ดของเรายังลงไปเปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อฟุตบอลทีมชาติไทย ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลงที่ complete คอนเสิร์ตได้ดีที่สุดอย่าง ‘Shape of You’ ซึ่งเรียกทุกคนลุกขึ้นมาเต้นได้อย่างพร้อมเพรียงกัน และจบด้วยเพลง ‘Bad Habits’ ที่ทันทีที่สิ้นเสียงร้อง พลุก็พุ่งออกมาจากทุกทิศทุกทางของเวที จังหวะเป๊ะแบบไร้ที่ติ สวยงามตราตรึงในหัวใจ เวลาผ่านไปหลายปีก็ยากที่จะลืม 

คนอื่นอาการเป็นยังไง มาแชร์กันได้นะคะ

 

เรื่อง : พาฝัน ศรีเริงหล้า
ภาพ : แฟ้มภาพจาก Getty Images