“2023-2024 BamBam THE 1ST WORLD TOUR ENCORE [AREA 52] IN BANGKOK” ‘วันที่ความฝันเป็นจริง’ การเดินทางที่ไม่สิ้นสุดของแบมแบม

“รอบหน้าเราเจอกันที่ราชมังนะครับ”

คือ คำพูดของแบมแบม ใน ‘BamBam THE 1ST WORLD TOUR [AREA 52] in BANGKOK’ เวิลด์ทัวร์ครั้งแรกที่ประเทศไทยเมื่อเดือนตุลาคม 2023 

และทุกคนรู้ แบมแบมไม่เคยพูดเล่น แล้วทุกคนก็รู้ว่าระบบของชายคนนี้เขาขลังจริง ๆ 

วันที่ 12 มีนาคม 2024 แบมแบมก็ประกาศปิดเวิลด์ทัวร์ครั้งแรกในชีวิตที่บ้านเกิดอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่ธีนเดอร์โดมสเตเดียมเหมือนครั้งแรก แต่จัดที่สนามราชมังกีฬาสถาน โดยใช้ชื่อคอนเสิร์ตครั้งนี้ว่า “2023-2024 BamBam THE 1ST WORLD TOUR ENCORE [AREA 52] IN BANGKOK”

และคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็ไม่ทำให้เหล่าอากาเซ่ (ชื่อแฟนคลับ GOT7) ผิดหวัง เพราะแบมแบมคือศิลปินเดี่ยว K-POP คนแรกที่จัดคอนเสิร์ตที่นี่ และยังทำโปรดักชันแบบ Full Scale 

เริ่มตั้งแต่การแสดงสุดปัง เพราะแบมแบมใส่สุดทุกโชว์ ผังเวทีรอบสนาม โอบล้อมผู้ชมทุกโซน จอ LED ที่ใหญ่พอ ๆ กับความยาวของสนามราชมังฯ  มีโชว์โดรน มีพลุแบบอลังการตั้งแต่เพลงแรก ๆ มีพลุน้ำคลายร้อน และยังมีแขกรับเชิญตัวท็อปอย่าง ‘ซึลกิ Red Velvet’ 

ถือเป็นการปิดจบทัวร์ที่สวยงาม ประทับใจกันทั้งศิลปินและแฟนคลับ 

สำหรับแฟนคลับ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการมาเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จอีกขั้นของ ‘แบมแบม’ 

ส่วนแบมแบม การได้แสดงโชว์ต่อหน้าแฟนคลับราว 50,000 คน ทำให้เขามีความสุขและเป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่เขาจะไม่ลืม

แบมพูดว่า “ผมสัญญาว่า ผมจะจำวันนี้ไปตลอดชีวิต” 

บทความนี้ชวนทุกคนเดินทางเข้าสู่ ‘พื้นที่ของแบมแบม’ เหมือนกับชื่อทัวร์ ‘AREA52’  ช่วงเวลาที่ความฝันของแบมแบมและอากาเซ่เป็นจริง ทั้งยังเป็นผลลัพธ์ความสำเร็จการพิสูจน์ตัวเองมาตลอด 10 ปีของแบมแบม

คอนเสิร์ตที่สะท้อนความเป็น All Rounder ของแบมแบม

เวิลด์ทัวร์ครั้งนี้แบมแบมโชว์สกิล ร้อง เล่น เต้น แรป hype คนดูทุกโชว์ ทุกการแสดง

เขาขนทัพเพลงมามากมายให้แฟนเต้นตาม ร้องตามตลอดทั้งคอนเสิร์ต เช่น Wheels Up, Let’s Dance, Tippy Toe, Slow Mo, Sour&Sweet, Ride or Die, พี่ไม่หล่อลวง และ Ribbon

ส่วนที่ประทับใจที่สุดของคอนเสิร์ตครั้งนี้ คือ การแสดงเพลง Who Are You ที่ครั้งนี้ แบมไม่ได้เต้นคนเดียว แต่ชวนซึลกิมาเต้นด้วย ร่ายรำและเต้นแนว Contemporary ได้อย่างสวยงามในรอบ 2 ปี

รวมถึงการเป็นนักเอนเตอร์เทน เดินพบปะประชาชนรอบสนามด้วยเวลาเกือบ 10 นาที คอยเช็คแฟน ๆ ที่นั่งอยู่แต่ละโซนอยู่เป็นระยะ เดินบ้าง วิ่งเล่นบ้าง 

ยังไม่นับรวมสกิลภาษาที่เขาเลือกทักทายแฟน ๆ ด้วยภาษาไทย ภาษาเกาหลี ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ เพราะเขารู้ว่ามีอากาเซ่จากประเทศอื่นมาร่วมชมคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วย

ตบท้ายด้วยการเป็นศิลปินพร้อมล่าม อย่างที่รู้ ซึลกิ Red Velvet เป็นเกสต์พิเศษของงาน เธอพูดภาษาเกาหลี โดยมีแบมแบมเป็นล่าม ส่งต่อข้อความของซึลกิถึงแฟนคลับ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่บนเวทีก็ตาม

เรียกได้ว่า คอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นคอนเสิร์ตเดี่ยวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันแพรวพราวและซ่อนด้วยสกิลอันหลากหลายของศิลปินชายคนนี้

แบมแบมและ GOT7

ถึงจะเป็นคอนเสิร์ตเดี่ยวของแบมแบม แต่ในคอนเสิร์ต เราเห็นแบมแบมก็ใส่สัญลักษณ์ของ GOT7 อยู่เป็นครั้งคราว

ไม่ว่าจะเป็นการใช้โดรนแปรอักษรเป็นเลข 7 วงกลม 7 วง ขนนก และแท่งไฟอากาบง (ชื่อแท่งไฟของ GOT7) บนท้องฟ้า 

การเลือกเพลงของ GOT7 อย่าง Believe (믿어줄래) เพลงที่แบมแต่งในอัลบั้ม SPINNING TOP : BETWEEN SECURITY & INSECURITY มาประกอบตอนโชว์โดรน และยังมีเพลง Angel เพลงจากอัลบั้มญี่ปุ่นมาเล่นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมกับการแปรแถวบล็อกกิ้ลการเต้นเป็นรูปหัวใจ และรูปตัว G ที่สื่อถึง GOT7 อีกทั้งการเลือกหลาย ๆ เพลงของ GOT7 มาใช้ตอนท้ายคอนเสิร์ต เช่น FLY, Lullaby, Hard Carry และ NANANA 

อาจเป็นเพราะเขาเองก็อยากให้  GOT7 เป็นส่วนหนึ่งของคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

และอาจเป็นเพราะเขารู้ว่าการมาเปิดการแสดงคอนเสิร์ตที่สนามกีฬาที่บรรจุผู้คนที่รักพวกเขาไว้มากถึง 500,000 คน ไม่ใช่ความฝันของเขาคนเดียว

แต่วันนี้แบมแบมทำได้ เขาพาเพลงของ GOT7 และแฟนคลับที่รักเขามาที่สนามกีฬาแห่งนี้ได้สำเร็จ

“วันนี้เราทำได้แล้วนะครับ อันนี้มันเป็นความฝันของผม ฝันของพวกเรา แต่ว่ายังมีฝันของอีก 6 คนที่ยังไม่เป็นจริง ถึงพี่มาร์ค พี่แจ็คสัน พี่เจบี พี่ยองแจ ยูคยอม แล้วก็พี่จินยอง อยากจะบอกว่า น้องเล็กคนนี้ มักเน่คนนี้ได้แล้วนะครับผม”

“สัญญาครับ รอบหน้าผมจะทำให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นกับ GOT7”

ความฝันที่เป็นจริง 

ทำไมสนามราชมังคลากีฬาสถานถึงเป็นความฝัน เป็นเรื่องที่แบมแบมต้องทำให้สำเร็จ? 

เมื่อ 5 ปีก่อน GOT7 กำลังจะเป็นศิลปินวง K-POP วงที่ 2 ต่อจาก BTS ที่จะได้เปิดคอนเสิร์ตแบบเต็มรูปแบบที่สนามราชมังคลากีฬาสถานด้วยคอนเสิร์ต ‘GOT7 2020 WORLD TOUR ‘KEEP SPINNING’ IN BANGKOK’

กระแสตอบรับ ณ ตอนนั้นดีสุด ๆ เหล่าอากาเซ่  เตรียมเงิน เตรียมเน็ต เตรียมใจมาสู้กับสังเวียนกดบัตรคอนเสิร์ต หาเดรสโค้ด หาวิธีการเดินทาง เตรียมทุกอย่าง พร้อมเป็นนกน้อยที่หล่อและสวยที่สุดในวันคอนเสิร์ต

แต่… ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 ปัจจัยที่คาดไม่ถึง ทำให้ผู้จัดงานและต้นสังกัดของ GOT7 อย่างเจวายพี เอนเตอร์เทนเมนต์ (JYP Entertainment) ตอนนั้นก็ตัดสินใจเลื่อนการแสดงออกไปจากเดือนกุมภาพันธ์ 2019 เป็นเดือนพฤษภาคมของปีเดียวกัน 

ก่อนที่สถานการณ์ของโรคระบาดจะรุนแรงจนถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด

หลังจากนั้นปี 2021 สัญญาของ GOT7 กับต้นสังกัดเดิมก็จบลงในปี 2021 สมาชิกทั้ง 7 คนตัดสินใจเดินทางตามเส้นทางของตัวเอง แยกค่าย แต่ไม่แยกวง

แล้วในใจลึก ๆ ของทุกคนก็หวังว่า ต้องมีสักวันที่ GOT7 จะกลับมารวมตัวกันและแสดงสดในสนามราชมังคลากีฬาสถานอีกครั้ง

และสมาชิกที่พูดถึงสนามราชมังคลากีฬาสถานบ่อยไม่แพ้แฟนคลับ คือ ‘แบมแบม’ 

ในฐานะแฟนคลับ เราไม่อาจรู้ได้เลยว่า กว่าจะมาถึงวันคอนเสิร์ต แบมแบมจะต้องสู้กับเรื่องอะไรมาบ้าง แต่ผลลัพธ์ทั้งหมดมันบอกแทนแล้วว่า  วันนี้ฝันของแบมแบมและเหล่าอากาเซ่เป็นจริงแล้ว

แบมบอกกลางคอนเสิร์ตทั้งน้ำตาว่า “จริง ๆ ไม่ได้คิดว่ามันจะ Sold Out ที่ราชมังฯ ส่วนหนึ่งก็มั่นใจ แต่อีกส่วนหนึ่งก็กังวลมาตลอด… กว่าจะมีวันนี้มันไม่ง่าย การที่ทำอะไรก็โดนด่ามันเหนื่อย มันจะมีวันที่ทำอะไรก็มีคนชม มีคนรัก ขอบคุณที่รับรู้ความจริงใจของผมที่มีให้มาตลอด” 

ความยาวคอนเสิร์ตอาจจะสั้นกว่าคอนเสิร์ตทั่วไปที่ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง แต่เชื่อว่า นี่คือปรากฎการณ์ที่สร้างความประทับใจและมอบความทรงจำที่จะอยู่ในใจของทุกคนตลอดไป

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในบรรยากาศคอนเสิร์ตหรือส่งแรงใจผ่านหน้าจอก็ตาม

นับเป็นการปิดการเดินทางทัวร์ครั้งแรกของแบมแบมได้ดีเลยทีเดียวจนหลายคนบอกว่า นี่คือมาตรฐานการทำคอนเสิร์ตแบบใหม่ของวงการ

ถึงคอนเสิร์ตจะจบลงไปแล้ว แต่เราเชื่อว่า นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น 

จนกว่าแบมแบม GOT7 และอากาเซ่จะพบกันใหม่ที่สนามราชมังฯ แห่งนี้อีกครั้ง 

 

เรื่อง : ณัฐธนีย์ ลิ้มวัฒนาพันธ์

ภาพ : อินสตาแกรม bambamxabyss, เฟซบุ๊ก 4nologue