“โตง เฮง” แรงงานที่ลับฝีมือตำส้มตำในไทย 4 ปี ก่อนกลับมาเปิดร้านส้มตำที่พนมเปญจนขายดี

“โตง เฮง” แรงงานที่ลับฝีมือตำส้มตำในไทย 4 ปี ก่อนกลับมาเปิดร้านส้มตำที่พนมเปญจนขายดี

“โตง เฮง” แรงงานที่ลับฝีมือตำส้มตำในไทย 4 ปี ก่อนกลับมาเปิดร้านส้มตำที่พนมเปญจนขายดี

ตอนแรกเส้นทางชีวิตของ “โตง เฮง” (Tong Heng) อาจไม่ต่างจากชาวกัมพูชาอีกหลายล้านคนที่เข้ามาแสวงโอกาสในการทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศไทย จนกระทั่งชายหนุ่มจากกัมพูชาคนนี้ได้รู้จักอาหารรสแซบเวอร์อย่าง “ส้มตำไทย” “ผมเห็นคนกัมพูชาชอบกินบักละหุ่ง หรือส้มตำแบบเขมรกันมาก แต่ยังไม่เจอร้านในพนมเปญเลยสักร้านเดียว ที่ตำส้มตำได้รสชาติแซบนัวแบบที่เคยกินตอนอยู่เมืองไทย” “โตง เฮง” แรงงานที่ลับฝีมือตำส้มตำในไทย 4 ปี ก่อนกลับมาเปิดร้านส้มตำที่พนมเปญจนขายดี แม้ส้มตำจะเป็นอาหารวัฒนธรรมร่วมอุษาคเนย์ ซึ่งในกัมพูชาส้มตำหรือ บักละหุ่ง (Bok Lahong) จะเติมกะปิต่างน้ำปลา มีเพิ่มปลาแห้งย่างไฟ ช่วยให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ และความกรุบกรอบอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ต้องยอมรับว่าในเรื่องความลงตัวนัวลิ้นของรสชาตินั้น ส้มตำแบบไทย ๆ ใส่ปลาร้าปูเค็ม ขายตามรถเข็นหน้าปากซอยนี่แหละชนะเลิศระดับโลกมาแล้ว หรืออย่างน้อยก็อร่อยที่สุดในสายตาของ โตง เฮง ย้อนไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว โตง เฮง ในวัย 20 ปี พบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิต เมื่อแม่ของเขาได้จากไป นอกจากผลกระทบทางด้านจิตใจแล้ว เขายังขาดที่พึ่งพิง ทำให้ต้องตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน แล้วโบกมือลาบ้านในจังหวัดพระสีหนุ เพื่อออกเดินทางเสี่ยงโชคที่ประเทศไทย ดินแดนแห่งความหวังของหนุ่มสาวชาวกัมพูชา “ผมไม่ค่อยได้เรียนหนังสือ แถมแม่ยังเพิ่งจากไปอีก เลยไม่ค่อยเหลือทางเลือกในชีวิตมากนัก นอกจากตัดสินใจไปตายดาบหน้าที่ประเทศไทย” “โตง เฮง” แรงงานที่ลับฝีมือตำส้มตำในไทย 4 ปี ก่อนกลับมาเปิดร้านส้มตำที่พนมเปญจนขายดี ที่กรุงเทพมหานครเมืองฟ้าอมร ชายหนุ่มจากเมืองที่มีชายทะเลสวยงามที่สุดของกัมพูชา โชคดีได้งานในร้านอาหารเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งเขาได้ทำงานอย่างขยันขันแข็ง ซึ่งนอกจากแรงงานอพยพอย่าง โตง เฮง แล้วในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจากกัมพูชามาเยือนประเทศไทยมากกว่า 882,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่ชาวกัมพูชาที่มาจะติดใจอยู่สองเรื่องคือ อาหารไทยสุดอร่อย และ สวรรค์แห่งการช้อปปิ้ง ทำให้จากประสบการณ์การทำงานในครัวมาตลอด 4 ปี เขาเริ่มสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง “คนกัมพูชาแทบทุกคนเวลามาเที่ยวต้องมาลองกินอาหารรสจัดจ้านของไทย แล้วรู้ไหมครับอาหารไทยอะไรที่พวกเขาชอบกินกันที่สุด ส้มตำไงล่ะครับ” โตง เก็บข้อมูลด้วยสายตา ทำให้เขาได้พบกับความลับที่ว่า คนกัมพูชาส่วนใหญ่ชื่นชอบรสชาติส้มตำแบบไทย ที่มีความจัดจ้านของรสชาติ ให้รสเปรี้ยวหวานเค็มเผ็ดลงตัวกันอย่างเหมาะเจาะ ต่างจากรสชาติบักละหุ่ง ที่คุ้นลิ้นเขามากว่าสองทศวรรษ นั่นทำให้เขาใช้วิธีครูพักลักจำ เก็บเกี่ยวเคล็ดลับวิชาการทำอาหารรสชาติแบบไทย จากการสังเกตพ่อครัวใหญ่ในร้านที่เขาทำงาน พร้อมกับเก็บหอมรอมริบเงินค่าจ้างในแต่ละวันเอาไว้ เพื่อเป็นทุนรอนสำหรับความฝัน ฝันที่จะได้กลับบ้านเกิดไปเปิดร้านอาหารไทยเล็ก ๆ สักร้านหนึ่ง ซึ่งความฝันของเขากลายเป็นจริงแล้ว เมื่อ 8 เดือนที่ผ่านมา “ตอนแรกที่กลับมาผมเหลือเงินเก็บไม่เยอะ เลยได้แค่จ่ายค่าเช่าแผงวางรถเข็นเล็ก ๆ ยังไม่ได้เปิดเป็นร้าน ต่อมาลูกค้าเริ่มเยอะจนโต๊ะเก้าอี้ไม่พอ เลยตัดสินใจเสี่ยงลงทุนเช่าบ้านมาทำเป็นร้านอาหารจริงจัง” “โตง เฮง” แรงงานที่ลับฝีมือตำส้มตำในไทย 4 ปี ก่อนกลับมาเปิดร้านส้มตำที่พนมเปญจนขายดี อาหารส่วนใหญ่ที่โตงนำเสนอ จะเป็นจานเด็ดที่สัมผัสได้ถึงรสชาติแบบไทยแท้ ๆ ที่เขาได้ชิมมาตลอดเวลาที่ทำงานในกรุงเทพฯ แน่นอนว่าอาหารยอดนิยมของร้าน “โตง โตง ตำกระหน่ำ” (Tong Tong Bok Etlahae) คือ ส้มตำ ร้าน โตง โตง ตำกระหน่ำ” ของ โตง เฮง ตั้งอยู่ที่ตลาดรัสเซีย ในกรุงพนมเปญ ซึ่งชายหนุ่มวัยเบญจเพสคนนี้รับหน้าที่ตำสากด้วยตัวเอง ดังนั้นไม่แปลกเลยที่เราจะเห็นเขายืนวุ่นหน้าตาเปื้อนยิ้มอยู่ท่ามกลางเข่งพริกสด กองมะนาว ถาดปูเค็ม และเสียงสากไม้กระทบครกดินเผา แทบทุกครั้งที่ได้แวะมาฝากท้องที่นี่ นอกจากส้มตำรสจัดจ้านแบบไทย ๆ ที่เป็นเมนูที่ลูกค้าทุกรายต้องสั่งกันแล้ว โตง ยังมีเมนูเรียกน้ำลายอย่าง ส้มตำหอยแครง (Bok Gneav) ที่ใช้หอยแครงตัวโต ๆ ลวกพอให้สะดุ้ง ก่อนจะตำคลุกเคล้าให้น้ำยำรสเด็ดแทรกเข้าเนื้อหอยจนชุ่มฉ่ำ ให้ความอร่อยกลมกล่อมแสบลิ้นจนกลายเป็นอีกเมนูที่ขึ้นชื่อของร้าน ควบคู่ไปกับ ตำหมี่ (Bok Mi) ที่เส้นหมี่ออกมันนิด ๆ เผ็ดอ่อน ๆ ใช้กินตัดรสกับอาหารรสจัดจานอื่นได้เป็นอย่างดี “ลูกค้าจำนวนมากที่ยืนรอต่อคิวหน้าร้าน ช่วยให้ผมมีกำลังใจว่าส้มตำของผมมาถูกทางแล้ว ตอนนี้เลยกำลังมองหาลู่ทางเปิดเพิ่มอีกสาขา” “โตง เฮง” แรงงานที่ลับฝีมือตำส้มตำในไทย 4 ปี ก่อนกลับมาเปิดร้านส้มตำที่พนมเปญจนขายดี เชฟหนุ่มคนนี้ตั้งราคาอาหารไว้ตั้้งแต่ 5,000-20,000 เรียล หรือประมาณ 40-155 บาท เขาบอกอีกด้วยว่าลูกค้าบางกลุ่มที่เป็นพนักงานออฟฟิศ นิยมสั่งเครื่องดื่มค็อกเทลมาดื่มพร้อมกับจกส้มตำไปด้วย ทำให้ร้านส้มตำเล็ก ๆ ของเขาไม่ต่างกับผับนิ่งชิลล์ของที่นั่นเลยทีเดียว “เมื่อมีโอกาสไปทำงานในร้านอาหารไทย ทำไมผมถึงจะไม่คว้ามันไว้ล่ะ แล้วกลับมาทำส้มตำแซบแบบไทย ๆ ให้คนกัมพูชาได้ลองชิมกัน”   ที่มา : https://www.phnompenhpost.com/post-life-food-drink/cambodian-who-came-home-bringing-tasty-thai-treats-him?fbclid=IwAR3a0nYzJnBEiBiPlTPSC0JYbO1yXPafAUYC2YCOC_LxHQSd3Xz7wLWYpek