‘บุญสุม’ คนขับตุ๊กตุ๊กที่ขับเคลื่อนด้วยประชาธิปไตย กับรัฐธรรมนูญของประชาชน

‘บุญสุม’ คนขับตุ๊กตุ๊กที่ขับเคลื่อนด้วยประชาธิปไตย กับรัฐธรรมนูญของประชาชน
26 ตุลาคม 2563 - ม็อบราษฎร 2563 นัดหมายกันใจกลางเมืองบริเวณแยกสามย่าน The People ไปถึงในช่วงที่ประชาชนกำลังสแตนด์บาย เตรียมตั้งขบวนเพื่อจะเคลื่อนไปยังจุดหมายปลายทาง ที่ห่างออกไปราว 2 กิโลเมตร ระหว่างที่กำลังตระเตรียมทัพหน้าทัพหลังกันอย่างแข็งขัน ท้ายขบวนก็มีกลุ่มคนขับรถรับจ้าง ทั้งมอเตอร์ไซค์และรถตุ๊กตุ๊ก รอรับส่งผู้โดยสารอยู่หลายสิบคัน The People อาศัยจังหวะที่ยังไม่มีผู้โดยสารพูดคุยกับ ‘บุญสุม’ คนขับรถตุ๊กตุ๊ก ที่ตอบรับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มทันทีว่า “ได้ครับ คุยได้เลย” บุญสุม ยึดอาชีพขับรถตุ๊กตุ๊กมา 25 ปี เขาเป็นคนจังหวัดร้อยเอ็ดโดยกำเนิด ในตอนแรก บุญสุมและภรรยาช่วยกันทำไร่ทำนาที่บ้านเกิด แต่พอเริ่มสร้างครอบครัวไปได้สักพักเขาพบว่า อาชีพเกษตรกรไม่สามารถเลี้ยงคนทั้งครอบครัวให้สุขสบายได้ เพราะต้องส่งลูกเรียนหนังสือไปด้วย เขาจึงตัดสินเข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ โดยมีญาติพี่น้องของภรรยาชักชวนกันเข้ามาขับรถตุ๊กตุ๊ก บุญสุมเข้ามาขับรถที่นี่ โดยแบ่งหน้าที่กันให้ภรรยาเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านจังหวัดร้อยเอ็ด ส่วนตัวเองเข้ามาขับรถ ส่งเงินกลับไปให้ที่บ้าน ทำอย่างนี้มา 25 ปีเต็ม จนตอนนี้ลูกทั้ง 3 คนของบุญสมเรียนจบมีงานทำไปแล้ว 2 คน ส่วนคนเล็กกำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย บุญสุมเล่าว่า ช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนักเขาได้รับผลกระทบหนักมาก เพราะปกติจะจอดรับส่งผู้โดยสารอยู่บริเวณถนนข้าวสาร ย่านคึกคักที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวตลอดทั้งคืน พอมีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม รายได้ที่เคยมีหายไปเกินครึ่ง จนต้องให้ลูกสาวคนโตเข้ามาดูแลค่าใช้จ่ายเรื่องการเรียนของลูกคนเล็กด้วย เขาเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า ถ้ารายได้ทั้งหมดคือ 10 ส่วนโควิดก็พรากรายได้ไปกว่า 7 ส่วนเลย “ใจผมก็คิดเหมือนน้อง ๆ นั่นแหละ อดทนอดกลั้นมานานแล้ว ไม่เคยชอบเลย” บุญสุมตอบเราเมื่อถามถึงประเด็นการชุมนุมของม็อบราษฎร 2563 แม้หลายครั้งที่มาในฐานะคนขับรถตุ๊กตุ๊กจะไม่ค่อยได้ยินได้ฟังการปราศรัยมากเท่าไร แต่บุญสุมก็ตอบว่า หากวันไหนไม่ได้ขับรถ เขาก็มาร่วมม็อบกับน้อง ๆ ครั้งนี้เหมือนกัน “เห็นน้อง ๆ วันนี้แล้วรู้สึกสงสาร สงสารที่ว่า เขาไม่น่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้เลย” เขาตอบตั้งแต่เรายังถามไม่จบว่า พอเห็นเด็ก ๆ ออกมาวันนี้แล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง บุญสุมบอกว่า สงสารน้อง ๆ เพราะตัวเขาเองก็เคยออกมาเรียกร้องแบบนี้เมื่อครั้งการชุมนุมของกลุ่มนปช. หรือ ‘มวลชนคนเสื้อแดง’ เขาเล่าพลางชี้ให้ดูว่า “เนี่ย ๆ คนขับรถตุ๊กตุ๊ก เคยไปม็อบเสื้อแดงกันมาทั้งนั้นแหละครับ” เขาเล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์ตอนนั้นด้วยว่า เมื่อครั้งการชุมนุมปี 2552-2553 บุญสุมไม่ได้ไปขับรถตุ๊กตุ๊กเลย มีม็อบทุกวันก็ไปทุกวัน ตอนที่มีการสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ตัวเองก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย ซึ่งบริเวณที่บุญสุมอยู่ในตอนนั้นก็คือ บริเวณแยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ที่มีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและทหารที่ได้รับคำสั่งให้สลายการชุมนุม “ไม่ได้มีใครคิดจะล้มสถาบันฯ อะไรอย่างที่คนพูดกันหรอก ตั้งแต่ตอนมวลชนเสื้อแดงแล้ว สิ่งที่ทั้งเสื้อแดงและน้อง ๆ ตอนนี้คิดเหมือนกันก็คือ ต้องให้ผู้มีอำนาจอยู่ใต้รัฐธรรมนูญให้ได้ ประชาชนก็ต้องมีสิทธิของประชาชน วันนี้เห็นน้อง ๆ ต้องออกมาเรารู้สึกสงสารเลยว่า ทำไมเขาต้องมาทำอะไรแบบนี้ เหมือนกับว่า ในวัยนี้เขายังต้องออกมาเรียกร้องเรื่องพวกนี้อีกเหรอ ไหนจะภาพตอนสลายการชุมนุมที่ผ่านมาอีก ผมเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของน้อง ๆ ร้อยเปอร์เซนต์ วันนี้เราก็มาทำหน้าที่คอยรับ-ส่งเขากลับที่พักกัน ตอนนั้นเป็นแนวหลัง ตอนนี้ก็มาทำหน้าที่นี้ ด้วยอาชีพที่เรายึดมาตลอด” ในมุมของบุญสุม สิ่งที่เขาอยากให้รัฐบาลแก้ไขเป็นอันดับแรกไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ แต่มองว่า เรื่องที่รัฐบาลต้องทำและทำเดี๋ยวนี้เลยก็คือ ต้องลาออก และเปิดช่องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เขามองว่า เราจะมีประชาธิปไตยเต็มใบอย่างที่ทุกคนฝันถึงกันได้ ต้องย้อนกลับไปที่การแก้ไขกฎหมายสูงสุดของประเทศ คิดถึงประชาชนให้มาก ๆ เพราะตอนนี้มันไม่ได้เป็นแบบนั้น เขายกตัวอย่าง ข้อกฎหมายเกี่ยวกับรถสามล้อที่ตัวเองได้รับผลกระทบเต็ม ๆ รวมถึงข้อกฏหมายอื่น ๆ ที่ปิดล็อคผลประโยชน์ผูกขาดไว้ซึ่งคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง มากกว่าการคิดถึงประเทศชาติเป็นหลัก “ประเทศมันแย่ลงเพราะผู้มีอำนาจพวกนี้นี่แหละ ผู้นำต้องคิดถึงประชาชนและผลประโยชน์ของประเทศให้มาก ๆ เราจะได้มีรัฐธรรมนูญที่ดี ให้ทั่วโลกเขายอมรับประเทศไทย เป็นรัฐธรรมนูญที่ทั้งเด็ก เยาวชน นักศึกษา คนแก่ ได้ประโยชน์ทั่วถึงกัน ไม่ใช่เอาเปรียบประชาชนแบบตอนนี้” ก่อนจากกันบุญสุมทิ้งท้ายว่า จริง ๆ เรื่องเศรษฐกิจก็ต้องอยากให้แก้ไขอยู่แล้ว คนทำงานหาเช้ากินค่ำได้รับผลกระทบเรื่องนี้แน่นอน แต่ถ้าถามว่า ระหว่างแก้เศรษฐกิจกับลาออกบุญสุมต้องการให้เรื่องไหนมาเป็นอันดับแรก ไม่รอให้คำถามจบเช่นเคยบุญสุมตอบว่า “ลาออกก่อน ลาออกแล้วเราจะได้มีกฎหมายที่ดีตามมา” เรื่อง: พิราภรณ์ วิทูรัตน์