วิกเตอร์ โอซีเมน: แรงผลักจากความจนสู่การตอบแทนสังคม จากเด็กคุ้ยขยะสู่นักเตะแอฟริกาที่แพงสุดในโลก 

วิกเตอร์ โอซีเมน: แรงผลักจากความจนสู่การตอบแทนสังคม จากเด็กคุ้ยขยะสู่นักเตะแอฟริกาที่แพงสุดในโลก 
“เมื่อใดก็ตามที่อยู่ในสนาม เมื่อใดที่นึกถึงที่มาของตัวเองและปูมหลังของครอบครัว ผมไม่ต้องการลดละความพยายาม ผมต้องการทำให้พวกเขาภูมิใจและต้องการทุ่มเททุกอย่างที่มี” วิกเตอร์ โอซีเมน (Victor Osimhen) ศูนย์หน้าทีมชาติไนจีเรีย วัย 22 ปี ซึ่งย้ายมาค้าแข้งกับสโมสรนาโปลี ในศึกกัลโช่เซเรียอาของอิตาลี ด้วยสถิติค่าตัวสูงสุดของสโมสร และเป็นนักเตะเชื้อสายแอฟริกาที่มีค่าตัวแพงที่สุดตลอดกาลของโลก เขาเปิดใจถึงแรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลังเส้นทางชีวิตครั้งนี้ โอซีเมน นอกจากจะได้รับการยกย่องในฐานะนักเตะสู้ชีวิตผู้เติบโตมาในครอบครัวยากจน ถึงขั้นเคยคุ้ยขยะเพื่อหารองเท้ามาใส่เตะฟุตบอล จนกระทั่งกลายเป็นดาวซัลโวผู้พาทีมชาติไนจีเรียผงาดคว้าแชมป์เยาวชนโลก เขายังได้รับคำชื่นชมในฐานะซูเปอร์สตาร์ใจบุญ ผู้ถ่อมตัวและไม่เคยลืมถิ่นกำเนิดบ้านเกิดของตัวเอง   เดินขายน้ำขวดตามถนน วิกเตอร์ เจมส์ โอซีเมน คือชื่อเต็มของศูนย์หน้าหมายเลข 9 ของสโมสรนาโปลี เขาเกิดวันที่ 28 ธันวาคม ค.ศ. 1998 ที่กรุงเลกอส เมืองหลวงของไนจีเรีย เป็นบุตรคนสุดท้องของครอบครัวที่มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน “ผมเสียแม่ไปในเดือนตุลาคม จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าปีไหนเพราะผมยังเล็ก หลังจากนั้นอีก 3 เดือนพ่อก็ตกงาน มันเป็นช่วงเวลายากลำบากมากสำหรับครอบครัวของเรา พี่ชายต้องออกไปเร่ขายหนังสือพิมพ์กีฬา พี่สาวขายส้มอยู่ข้างถนน ส่วนผมไปเดินขายน้ำขวดอยู่กลางถนนในกรุงเลกอส  “พวกเราต้องเอาตัวรอดเลยต้องช่วยกันคนละไม้ละมือ พอตกเย็นเราจะมาเจอกันและรวมเงินที่ได้มากองไว้บนโต๊ะ เราให้ทุกบาททุกสตางค์กับพี่สาวคนโตเพื่อนำไปซื้อหาอาหารและจัดการทุกอย่างในบ้าน” โอซีเมนบอกเล่าถึงสภาพชีวิตที่ขัดสนหลังจากมารดาเสียชีวิตไปขณะที่เขามีอายุเพียง 6 ขวบ ทำให้ต้องออกไปช่วยครอบครัวหารายได้ตั้งแต่เด็ก ก่อนจะพบความสามารถพิเศษของตนเองบนเส้นทางลูกหนัง และกลายเป็นแข้งซูเปอร์สตาร์ในที่สุด   คุ้ยขยะหารองเท้าฟุตบอล นักเตะแอฟริกาค่าตัวแพงที่สุดในโลกผู้นี้บอกว่า เขาเริ่มเล่นฟุตบอลจากข้างถนน หรือบนสนามที่แทบไม่มีหญ้า นอกจากนี้ยังไม่มีปัญญาหาซื้อรองเท้ากีฬาดี ๆ มาใส่ฝึกซ้อม ทำให้ต้องไปคุ้ยรองเท้าเก่า ๆ จากกองขยะใกล้บ้านมาใส่ลงสนามลับฝีเท้ากับเพื่อนบ้านในละแวกเดียวกัน “ผมโตมาในย่านที่อยู่ใกล้กับกองขยะขนาดใหญ่ ผมกับเพื่อน ๆ จะไปที่นั่นกันทุกวันศุกร์หรือไม่ก็วันอาทิตย์เพื่อหารองเท้าสตั๊ดและรองเท้าทั่วไป เราใช้เวลาอยู่ที่นั่นกันนานมาก มันสนุกดี เรามองมันเป็นเกมแต่ถ้าคุณนึกย้อนกลับไป มันมักจะเป็นการต่อสู้มากกว่า “บางครั้งคุณเจอรองเท้าไนกี้ข้างขวา จากนั้นก็เริ่มหาอีกข้าง แต่สุดท้ายคุณไปได้ข้างซ้ายเป็นของรีบอค พี่สาวผมจะช่วยซ่อมรองเท้าให้ทุกอย่างจนมันกลับมาใช้งานได้ นี่แหละคือการเอาตัวรอดเขาเรา “เส้นทางชีวิตของผมมันไม่เคยง่าย เมื่อผมกลับบ้านหรือมีเวลาว่าง ผมยังคงกลับไปที่นั่น ผมแค่ต้องจัดการกับการเป็นคนมีชื่อเสียงตัวน้อยให้ได้ และผมต้องให้ความหวังกับพวกเขาด้วย”   จากแชมป์โลกสู่แข้งแอฟริกาค่าตัวสูงสุด วิกเตอร์ โอซีเมน เริ่มมีชื่อเสียงจากการลงเล่นให้ทีมชาติไนจีเรียรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (ยู-17) และพาทีม ‘อินทรีมรกต’ คว้าแชมป์โลกได้ที่ประเทศชิลี ในปี 2015 พร้อมตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดประจำทัวร์นาเมนต์ โดยทำได้ 10 ประตู หรือทุกนัดที่ไนจีเรียลงสนาม ขณะเดียวกันยังคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมอันดับ 2 ของทัวร์นาเมนต์ ก่อนที่ในปีเดียวกันจะได้รับรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปแอฟริกา ปี 2017 เขาย้ายมาเล่นในยุโรปครั้งแรกกับสโมสรโวล์ฟบวร์กในบุนเดสลีกาเยอรมัน แต่ยังปรับตัวไม่ค่อยได้ จึงถูกปล่อยให้สปอร์ติ้ง ชาร์เลอรัว ในลีกสูงสุดของเบลเยียมยืมตัวไปเล่น ก่อนทำผลงานได้ดี ยิงไป 20 ประตูในฤดูกาล 2018/19 จนชาร์เลอรัวตัดสินใจซื้อขาดมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 3.5 ล้านยูโร จากนั้นฤดูกาลถัดมา ชาร์เลอรัวยอมตัดใจขายดาวรุ่งทีมชาติไนจีเรียผู้นี้ต่อให้กับลีลล์ในลีกเอิงของฝรั่งเศส ด้วยมูลค่า 15 ล้านยูโร เนื่องจากลีลล์ต้องการตัวเขามาแทนที่ตำแหน่งของนิโกลาส์ เปเป้ ซึ่งย้ายไปเล่นกับอาร์เซน่อล ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ โอซีเมนลงเล่นในลีกกับลีลล์ฤดูกาล 2019/20 ทั้งหมด 27 นัด ทำไป 13 ประตู เท่ากับเนย์มาร์ ซูเปอร์สตาร์ของทีมปารีสแซงต์แชร์กแมง นอกจากนี้ เขายังจ่ายให้เพื่อนทำประตูได้อีก 4 แอสซิสต์ พร้อมจบฤดูกาลด้วยตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมของสโมสร ก่อนซีซั่นถัดมาจะย้ายไปเล่นให้นาโปลี เลอ กิ๊ป (L’Equipe) สื่อกีฬาชื่อดังของฝรั่งเศสรายงานว่า นาโปลีซื้อโอซีเมน ในวัย 21 ปี มาร่วมทัพเมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 ด้วยมูลค่า 81.3 ล้านยูโร ทำให้นอกจากจะกลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดเป็นสถิติใหม่ของสโมสรแล้ว เขายังเป็นผู้เล่นจากทวีปแอฟริกาที่มีค่าตัวแพงที่สุดเท่าที่เคยมีมาอีกด้วย   ซูเปอร์สตาร์ใจบุญและติดดิน แม้จะมีดีกรีเป็นถึงนักฟุตบอลค่าตัวแพงที่สุดของแอฟริกา และได้เล่นคู่กับนักเตะชื่อดังระดับโลกอย่างลอเรนโซ่ อินซิเญ่ กัปตันทีมนาโปลีและดาวยิงทีมชาติอิตาลี แต่โอซีเมนก็ไม่เคยลืมตัว โดยระหว่างที่กัลโช่เซเรียอาปิดฤดูกาล และเพื่อนร่วมอาชีพหลายคนต่างติดภารกิจรับใช้ชาติในศึกยูโร 2020 หรือโคปาอเมริกา ศูนย์หน้าหมายเลข 9 ของนาโปลีผู้นี้ไม่ได้ใช้เวลาว่างที่มีไปพักผ่อนริมทะเลหรือใช้ชีวิตหรูหราเหมือนดาราลูกหนังทั่วไป เขาเดินทางกลับไปบ้านเกิดที่ไนจีเรีย และไปลงเตะฟุตบอลข้างถนนเพื่อลับฝีเท้ากับบรรดาเพื่อนเก่าอย่างไม่ถือตัว ภาพโอซีเมน ผมสีทอง สวมเสื้อฟ้ากางเกงขาวซึ่งเป็นชุดแข่งของนาโปลี ลงเล่นฟุตบอลกับเพื่อน ๆ บนสนามดินลูกรังที่ไม่มีหญ้าในกรุงเลกอส กลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ โดยหลายคนชื่นชมในความถ่อมตัว ไม่ลืมรากเหง้าที่มาของเขาในอดีต และเชื่อว่าการกลับมาโชว์ฝีเท้าของเขาในครั้งนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนท้องถิ่นได้มีตัวอย่างที่ดีเพื่อพัฒนาตัวเองต่อไปในอนาคต ก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน 2021 โอซีเมนก็เพิ่งกลายเป็นข่าวดังในบ้านเกิดเมื่อเขาบริจาคเงินก้อนโตซึ่งไม่เปิดเผยจำนวนให้กับแมรี ดาเนียล หญิงพิการมีขาข้างเดียวที่กลายเป็นกระแสผู้คนเห็นใจบนโลกโซเชียล หลังมีคนโพสต์คลิปเธอเดินด้วยไม้เท้าเร่ขายน้ำเปล่าอยู่บนถนนในกรุงเลกอส ข่าวความช่วยเหลือของโอซีเมน ทำให้หญิงพิการผู้นี้ได้รับความสนใจจากสังคมจนยอดเงินบริจาคที่เธอได้รับรวมกันพุ่งสูงถึง 25 ล้านไนรา (ประมาณ 2 ล้านบาท) แม้ต่อมาจะมีผู้เปิดโปงว่า เรื่องราวชีวิตบางส่วนที่เธอเคยเล่าออกสื่อไม่ตรงกับความจริง (ไม่ได้กำพร้าพ่อ และสูญเสียขาขวามาแต่กำเนิด ไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุ) แต่โอซีเมนยังคงยืนยันให้ความช่วยเหลือต่อไป และพยายามหาขาเทียมมาให้เธอใส่เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้สะดวกยิ่งขึ้น   เปลี่ยนอุปสรรคเป็นแรงผลักดัน ปัจจุบันแม้โอซีเมนจะได้รับค่าเหนื่อยจากการลงเล่นให้นาโปลีตกปีละ 5 ล้านยูโร หรือสัปดาห์ละประมาณ 955,000 บาท แต่ความมั่งคั่งและชื่อเสียงที่ได้มาก็ไม่ได้ทำให้นักเตะดาวรุ่งผู้นี้หลงระเริง เขายังคงใช้ชีวิตติดดิน และทุกครั้งที่มีเวลาว่างก็พยายามหาแรงบันดาลใจเพื่อเติมพลังให้ชีวิตสามารถพัฒนาได้ต่อไป “ผมจะเข้าไปในเพจที่ให้แรงบันดาลใจในอินสตาแกรม และเซฟประโยคสำคัญ ๆ ที่เจอเก็บไว้ พอมีเวลาว่างผมจะเข้าไปอ่านประโยคต่าง ๆ เหล่านั้นที่เซฟเก็บไว้” นอกจากนี้ ดาวยิงชาวไนจีเรียยังยอมรับว่า ความยากจนและยากลำบากในวัยเด็ก ซึ่งบางครั้งทำให้มีอาหารกินแค่วันละมื้อ ยังเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีที่ทำให้เขาก้าวมาจนประสบความสำเร็จในวันนี้ “เมื่อใดก็ตามที่มีเวลาว่าง ผมมักย้อนนึกถึงความหลังในอดีต จุดเริ่มต้นอันต้อยต่ำของผมในวันนั้นทำให้เป็นผมในวันนี้ มันคือตัวผมที่ไม่เคยต้องการยอมแพ้” บางทีปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต แน่นอนไม่ใช่เรื่องที่ใครอยากเจอ แต่หากมันเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ เราสามารถมองมันในมุมใหม่ อย่าเพิ่งไปท้อแท้หรือสิ้นหวัง เพราะมันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังและแรงขับให้ก้าวต่อไป เหมือนที่วิกเตอร์ โอซีเมน เด็กน้อยผู้ยากไร้จากไนจีเรียเคยทำได้มาแล้ว และทำให้เขากลายเป็นนักฟุตบอลชาวแอฟริกันที่มีค่าตัวแพงที่สุดตลอดกาลของโลกคนปัจจุบัน   ข้อมูลอ้างอิง: https://www.legit.ng/1422128-africas-expensive-football-star-spotted-playing-street-football-friends-lagos.html https://www.bbc.com/sport/africa/52948303 https://cheeronnigeria.blogspot.com/2019/10/victor-osimhen-tells-his-story-road-to.html https://www.babagol.net/blog/2019/12/13/victor-osimhen https://bestchoicesports.com.ng/victor-osimhen-to-buy-artificial-leg-for-one-leg-pure-water-seller-mary-daniel/   ภาพ: Franco Romano/NurPhoto via Getty Images