ประเสริฐศรี พันทอง: ลูกหลานขุนหาญที่ขอ (เป็น) สมาชิก อส. มาดูแลพื้นที่บ้านเกิด

ประเสริฐศรี พันทอง: ลูกหลานขุนหาญที่ขอ (เป็น) สมาชิก อส. มาดูแลพื้นที่บ้านเกิด
ลายพรางที่ปรากฏบนชุดสีกากีของกลุ่มคนที่ออกลาดตระเวน และประจำการตามจุดตรวจในหมู่บ้านอาจสร้างความสงสัยให้ชาวบ้านว่าพวกเขาเป็นใคร แต่ก็ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่เพราะภาพเหล่านี้ปรากฏให้เห็นจนชินตาแล้ว และความคุ้นเคยนี้ก็กลับกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กชายคนหนึ่งอยากดำเนินตามรอยเท้าพ่อผู้ล่วงลับที่สวมใส่เครื่องแบบ อส. หรือสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ออกไปปฏิบัติหน้าที่อยู่เป็นประจำ “ผมเห็นท่านออกไปปฏิบัติหน้าที่ ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย อัคคีภัยต่าง ๆ ในความคิดของผม ผมรู้สึกว่าท่านเท่มาก เลยอยากจะเดินตามรอยพ่อ” ประเสริฐศรี พันทอง: ลูกหลานขุนหาญที่ขอ (เป็น) สมาชิก อส. มาดูแลพื้นที่บ้านเกิด เด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่เฝ้ามองพ่อออกไปช่วยเหลือชาวบ้าน จนเติบโตแล้วมีโอกาสเห็นประกาศรับสมัครสมาชิก อส. เขาจึงไม่รีรอที่จะอ่านหนังสือ และเตรียมร่างกายเพื่อเข้ารับการสอบคัดเลือก มาถึงวันนี้สมาชิกโท ประเสริฐศรี พันทอง ในวัย 28 ปี ได้ปฏิบัติหน้าที่ในสังกัด กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอขุนหาญที่ 6 กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อช่วยดูแลบ้านเกิดของตัวเองมาร่วม 4 ปีแล้ว นับตั้งแต่ทำตามความฝัน บรรจุเป็นสมาชิก อส. เมื่อเดือนตุลาคม 2559 ในทุกวันภารกิจหลักของประเสริฐศรี คือการทำงานบูรณาการร่วมกับหน่วยราชการอื่น ๆ โดยเฉพาะตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ในฐานะชุดปฏิบัติการประจำตำบล ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอขุนหาญ (ศป.ปส.อ.ขุนหาญ) ร่วมกันวางแผนและปราบปรามการกระทำผิดในหมู่บ้าน โดยนำกำลังเข้าตรวจสอบจับกุมผู้ลักลอบเล่นการพนัน และตั้งด่านตรวจ เข้าปิดล้อมตรวจค้นสารเสพติด ตามที่ได้รับการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอขุนหาญ ซึ่งปี 2563 ที่ผ่านมา ทีมปฏิบัติการลงพื้นที่ปราบปรามยึดยาบ้าได้ถึง 19,900 กว่าเม็ด รวมทั้งไอซ์ กัญชา พืชกระท่อม สารประกอบอื่น พร้อมกับนำผู้ที่ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพก่อนกลับคืนสู่ครอบครัว ประเสริฐศรี พันทอง: ลูกหลานขุนหาญที่ขอ (เป็น) สมาชิก อส. มาดูแลพื้นที่บ้านเกิด ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ขุนหาญก็เป็นหนึ่งในอำเภอที่อยู่ติดแนวชายแดน และเทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งอุดมด้วยพรรณไม้นานาชนิด และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งในประเทศ ทำให้เทือกเขาแห่งนี้นอกจากทำหน้าที่กั้นพรมแดนระหว่างไทยและกัมพูชาแล้ว ยังประกอบไปด้วยเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่อุทยานแห่งชาติ นั่นหมายความว่าพื้นที่ตามแนวเทือกเขานี้ทั้งหมดเป็นเขตควบคุมของทางการ พร้อมกับเป็นแหล่งดึงดูดกลุ่มผู้แสวงหาประโยชน์จากความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ โดยเฉพาะ ‘พะยูง’ พันธุ์ไม้เนื้อดีที่ขึ้นชื่อในการทำเป็นเครื่องเรือน ทั้งยังได้รับความนิยมในหมู่คนจีนเพราะเชื่อกันว่าเป็นไม้มงคล พะยูงเลยเป็นพันธุ์ไม้ล้ำค่าที่หลายคนต้องการครอบครอง อีกภารกิจสำคัญของประเสริฐศรี และสมาชิก อส. จึงเป็นการออกลาดตระเวนในพื้นที่ป่าสงวนที่เป็นเขตรับผิดชอบของอำเภอขุนหาญ ร่วมกับตำรวจ ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เพื่อเฝ้าระวังและสกัดจับขบวนการลักลอบตัดไม้ ทั้งจากคนไทยและประเทศเพื่อนบ้าน “ขณะลาดตระเวนบางครั้งก็ได้ยินเสียงชาวต่างชาติมาลักลอบตัดไม้ทำลายป่า เราก็ได้ทำการจับกุม แล้วมาดำเนินคดีต่อ” โชคดีที่ตลอดการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนที่ผ่านมา เขายังไม่เคยเจอการปะทะกันอย่างรุนแรง ประเสริฐศรี พันทอง: ลูกหลานขุนหาญที่ขอ (เป็น) สมาชิก อส. มาดูแลพื้นที่บ้านเกิด นอกเหนือจากหน้าที่ปราบปรามการกระทำผิดในพื้นที่ เหล่าสมาชิก อส. ยังเป็นจิตอาสา ช่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับพี่น้องตามชุมชน ทั้งโครงการ ‘อำเภอยิ้มเคลื่อนที่’ ออกพื้นที่บริการตัดผมฟรีให้กับชาวบ้านเดือนละครั้ง ซ่อมแซมและทำความสะอาดถนน อาคาร และพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ ทั่วขุนหาญ เช่นเดียวกับช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา เขาและเหล่า อส. ได้แบ่งกองกำลังจัดเวร ตั้งด่านตรวจสกัดคนเข้า-ออกพื้นที่ ที่จุดโพธิ์กระสังข์และน้ำตกสําโรงเกียรติ เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาด และอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว “เคยมีประชาชนถามพวกผมตอนตั้งด่านว่าพี่เป็นอะไร เป็นทหารไหม ผมบอกไปว่าผมไม่ใช่ทหาร พวกผมเป็นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน” ประเสริฐศรี พันทอง: ลูกหลานขุนหาญที่ขอ (เป็น) สมาชิก อส. มาดูแลพื้นที่บ้านเกิด ชายหนุ่มเล่าว่า ทุกวันนี้ก็ยังมีชาวบ้านบางส่วนไม่เข้าใจว่า กลุ่มคนใส่เครื่องแบบลายพรางสีกากีแบบเขาเป็นใครกันแน่ บ้างก็ว่าเป็นทหาร บ้างก็ว่าเป็นตำรวจ แต่คำถามเหล่านี้ไม่ได้สร้างความน้อยใจให้กับประเสริฐศรี เขายังคงมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ ดั่งคำสัญญาที่ว่า ‘ปวงข้า อส. ขอตั้งสัจจา จะปกป้องพาราจนสิ้นใจ’ “ผมเป็นลูกหลานชาวอำเภอขุนหาญคนหนึ่งที่มีความภาคภูมิใจที่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ อส. ได้มาช่วยเหลือดูแลประชาชนในบ้านเกิดของผม ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ยืนในจุดนี้” ประเสริฐศรี พันทอง: ลูกหลานขุนหาญที่ขอ (เป็น) สมาชิก อส. มาดูแลพื้นที่บ้านเกิด ด้วยความทุ่มเทในการปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่ย่อท้อ ทำให้ชายหนุ่มวัย 28 ปีคนนี้ ได้รับเลือกให้เป็น ‘สมาชิก อส. ผู้ปฏิบัติงานดีเด่น ในรอบปี พ.ศ. 2563’ ประเภท ก. ด้านการป้องกันและปราบปราม แต่การยกย่องครั้งนี้ก็ไม่ได้เป็นจุดสิ้นสุดของความพยายามที่จะปฏิบัติหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องชาวขุนหาญต่อไป “ผมรู้สึกดีใจแล้วที่ได้มาปฏิบัติหน้าที่อยู่บ้านเกิด ก็ไม่คิดจะไปไหนอีก อยากจะอยู่ตรงบ้านเกิดของผม และจะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด” ประเสริฐศรี พันทอง: ลูกหลานขุนหาญที่ขอ (เป็น) สมาชิก อส. มาดูแลพื้นที่บ้านเกิด รู้จักกองอาสารักษาดินแดนเพิ่มเติมได้ที่ ประเสริฐศรี พันทอง: ลูกหลานขุนหาญที่ขอ (เป็น) สมาชิก อส. มาดูแลพื้นที่บ้านเกิด