‘วิลเลียม โรเซนเบิร์ก’ เด็กส่งโทรเลขที่ช่างสังเกต จนเป็นที่มาของ Dunkin’ Donuts

‘วิลเลียม โรเซนเบิร์ก’ เด็กส่งโทรเลขที่ช่างสังเกต จนเป็นที่มาของ Dunkin’ Donuts
การช่างสังเกต เป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จสำหรับใครหลาย ๆ คน หนึ่งในนั้นคือ ‘วิลเลียม โรเซนเบิร์ก’ (William Rosenberg) ผู้ก่อตั้ง ‘ดังกิ้น โดนัท’ (Dunkin’ Donuts) หรือตอนนี้รู้จักกันในชื่อ ดังกิ้น ร้านอาหารแฟรนไชส์ชื่อดังที่มีจำนวนสาขามากติดอันดับโลก วิลเลียมเกิดที่แมสซาชูเซตส์ในปี 1916 และเติบโตในเมืองบอสตัน ช่วงวัยเด็กเขามีชีวิตยากลำบาก ต้องออกจากโรงเรียนขณะอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 8 เพื่อช่วยเหลือครอบครัวซึ่งสูญเสียธุรกิจของครอบครัวไปในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ วิลเลียมนั้นเป็นคนที่มีจิตวิญญาณของผู้ประกอบการมาตั้งแต่เป็นเด็ก และทำงานหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเด็กขายของในร้านขายของชำ และเมื่ออายุ 14 ปี ได้ทำงานเป็นเด็กส่งโทรเลขให้กับ Western Union กระทั่งอายุ 17 ปี ได้งานขับรถบรรทุกไอศกรีม และพัฒนามาเรื่อย ๆ จนเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย ดูแลการผลิตจัดเก็บถังแช่เย็นและรถบรรทุกกว่า 40 - 100 คันเมื่ออายุ 20  ปี  กำเนิดดังกิ้น โดนัท ช่วงเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่ 2 วิลเลียมได้เข้าทำงานกับบริษัท Bethlehem Steel ในรัฐแมสซาชูเซตส์ และกลายเป็นตัวแทนสหภาพแรงงานชาวยิวคนแรก ซึ่งเขาสังเกตว่า คนงานมีทางเลือกเพียงเล็กน้อยสำหรับอาหารกลางวัน ดังนั้นหลังสงครามจบ เขาได้ยืมเงิน 1,000 ดอลลาร์ และเพิ่มเป็น 1,500 ดอลลาร์ในพันธบัตรสงคราม เพื่อก่อตั้งบริษัท Industrial Luncheon Services ขายแซนด์วิช กาแฟ โดนัท และขนมขบเคี้ยวบนรถบรรทุกที่เขาดัดแปลง  ในระยะเวลาอันสั้น เขามีรถบรรทุกจัดเลี้ยงกว่า 200 คัน มีร้านค้าในโรงงานกว่า 25 แห่ง จนปี 1948 เมื่อวิลเลียมสังเกตเห็น(อีกแล้ว)ว่า ยอดขายเกือบ 50% มาจากกาแฟและโดนัท เขาจึงได้เปิดร้านอาหารในควินซี รัฐแมสซาชูเซตส์ ชื่อว่า Open Kettle ขายกาแฟและโดนัทในราคาไม่แพง ซึ่งลูกค้าต่างชื่นชอบและชมรสชาติอาหารของเขา   แม้ร้านนี้จะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ทว่าวิลเลียมยังไม่พอใจกับชื่อร้านนี้ และในปี 1950 เขาได้เปลี่ยนชื่อร้านเป็น ‘ดังกิ้น โดนัท’ (Dunkin’ Donuts) หลังสังเกตเห็นว่าลูกค้าของเขามักจะจุ่มโดนัทลงในกาแฟ  ผ่านไปไม่นานนัก ดังกิ้น โดนัทก็ได้ขยายสาขาไปยังเมืองต่าง ๆ ทั่วแมสซาชูเซตส์ และเขาเริ่มพยายามมองหาช่องทางที่จะเติบโต จึงมีแนวคิดจะสร้างแฟรนไชส์ดังกิ้น โดนัทขึ้นมา และในปี 1953 ร้านอาหารแฟรนไชส์แห่งแรกของดังกิ้น โดนัทได้ถือกำเนิดขึ้น ณ เมืองเดดแฮม รัฐแมสซาชูเซตส์ โดยขายโดนัทมากกว่า 50 แบบ  เปลี่ยนผ่านสู่รุ่นลูก ในปี 1963 โรเบิร์ต ลูกชายของวิลเลียมในวัย 25 ปี ได้เข้ามาสานต่อกิจการของผู้เป็นพ่อ โดยเขาจบจาก Harvard Business School และภายใต้การนำของโรเบิร์ตได้มีการปรับปรุงให้เมนูมีความหลากหลายมากกว่าเดิม ด้วยการเพิ่มมัฟฟิน เบเกิล ครัวซองต์ และเครื่องดื่มอื่น ๆ เข้าไป นอกจากนี้ยังมีการทำโฆษณาร้านและเปลี่ยนรูปแบบของร้านค้าด้วยการเพิ่มโต๊ะที่นั่ง ตลอดจนเปลี่ยนแปลงรูปแบบของแฟรนไชส์ด้วยระบบคอมมิชชั่น เป็นต้น และเดินหน้าขยายสาขาไม่หยุด โดยในปี 1963 ดังกิ้น โดนัทได้เปิดสาขาครบ 100 แห่ง ก่อนจะเพิ่มเป็นมากกว่า 1,000 แห่งในปี 1989  เส้นทางเดินที่ไม่หยุด ขณะที่ชีวิตบั้นปลายของวิลเลียมใช้ไปกับการทำงานการกุศล และเสียชีวิตตอนอายุ 86 ปีด้วยโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2002 แม้ผู้ก่อตั้งจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ดังกิ้น โดนัท ยังคงมีวิวัฒนาการต่อไป โดยในเดือนกันยายน 2018 ที่งาน Global Franchise Convention จัดขึ้น ณ เมืองแคนตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ บริษัทได้ประกาศรีแบรนด์ตัดคำว่า ‘โดนัท’ ออกไป เหลือไว้แค่ ‘ดังกิ้น’ (Dunkin’) การรีแบรนด์เริ่มทำในสาขาต่าง ๆ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2019 ใช้โลโก้ DD ที่ยังคงใช้โทนสีชมพูและสีส้ม โดยการรีแบรนด์ครั้งนี้ เหตุเพราะว่าจะให้สามารถดำเนินธุรกิจด้านร้านอาหารได้หลากหลายและครอบคลุมมากขึ้น ไม่จำกัดอยู่เฉพาะโดนัทเท่านั้น ตอนนี้ดังกิ้นอยู่ภายใต้การบริหารของ Dunkin’ Brand, Inc. (มีแบรนด์ในเครือ Baskin-Robbins) และเป็นหนึ่งในร้านแฟรนไชส์ด้านอาหารรายใหญ่ติดอันดับโลก โดยมีร้านอาหารในเครือ 12,000 แห่ง ใน 46 ประเทศ รวมถึงในไทยที่ บริษัท มัดแมน จำกัด เป็นผู้ได้รับสิทธิ์