13 ปี AKB48 26 ปี “โยโกยาม่า ยุย” ผู้แบก 48 Group ไว้บนบ่า

13 ปี AKB48 26 ปี “โยโกยาม่า ยุย” ผู้แบก 48 Group ไว้บนบ่า

13 ปี AKB48 26 ปี “โยโกยาม่า ยุย” ผู้แบก 48 Group ไว้บนบ่า

กระแส BNK48 ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยเป็นการต่อยอดความสำเร็จจาก โรงละครเล็กๆ ในห้างสรรพสินค้าดอง กิโฮเต้ ย่านอากิฮาบาระ กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น 8 ธันวาคม 2005 คือวันเปิดการแสดงรอบแรก ตลอด 13 ปีที่ผ่านมากลุ่มเหล่าเด็กสาวหลายร้อยคนได้เข้ามาตามหาฝัน บ้างก็ประสบความสำเร็จ บ้างก็ล้มเหลว แต่ AKB48ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นไอดอลกรุปที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ทั้งในเรื่องของรางวัลและยอดขาย แล้วใครล่ะคือผู้แบก 48Group ที่มีสมาชิกมากกว่า300 ร้อยคนไว้บนบ่า? เป็นเรื่องบังเอิญที่น่าสนใจเพราะ“โชคันโตคุ” หรือ ผู้จัดการทั่วไป ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเมมเบอร์กับทีมผู้บริหาร คอยรับฟังปัญหาและนำไปสู่การแก้ไขอย่าง “ยุยฮัง” โยโกยาม่า ยุยก็เกิดในวันที่ 8 ธันวาคม วันเดียวกับวันที่เปิดโรงละครเช่นเดียวกัน เด็กสาวจากเกียวโต ก้าวเข้ามาในชายคา48Groupในปี 2009 ซึ่งเส้นทางของเธอนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เธอไม่ผ่านการออดิชั่นในรุ่นที่ 8 ของ AKB48 ก่อนที่จะกลับมาอีกครั้งและทำได้สำเร็จในรุ่นที่ 9 ซึ่งถือว่าเป็น“Golden Generation” ของ AKB48 เพราะเป็นรุ่นที่รวมเมมเบอร์มีชื่อเสียงไว้หลายคน ทั้ง “พารูรุ” ชิมาซากิ ฮารุกะ อดีตดาวดังของวงที่ปัจจุบันผันตัวไปเป็นนักแสดง “มินะรุน”โอบะ มินะ ที่ย้ายไปประสบความสำเร็จกับ SKE48 และตัวของเธอที่ก้าวมาเป็นผู้ที่แบก48Group ไว้ เส้นทางของเธอหลังจากเข้ามาอยู่ในวงเหมือนเป็นที่เอ็นดูของรุ่นพี่และผู้บริหารที่มีส่วนในการผลักดัน ทั้งการติดเซมบัตสึคนแรกในรุ่น ภาพของเธอในบิกินี่สีแดง MV เพลง Everyday,Katyushaยังตราตรึงแฟนๆ ด้วยใบหน้าที่งดงามเหมือนสาวงามในอดีตของญี่ปุ่น รวมไปถึงเธอก้าวไปประสบความสำเร็จในการมีส่วนร่วมกับ 2 เพลงสำคัญของวงทั้งFlying Get และ Manatsu no sounds good! ที่ทำให้ AKB48 ประสบความสำเร็จชนิดที่ยังไม่มีวงไอดอลหญิงกลุ่มใดทำได้คือคว้ารางวัลJapan Record Awards ได้ถึง 2 ปีซ้อน จากนั้นเธอก้าวขึ้นมาเป็นสมาชิกคนสำคัญของวง โดยการก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันของทีม A หลังจากเมมเบอร์ระดับตำนานอย่าง “มาริโกะซามะ” ชิโนดะ มาริโกะ ประกาศจบการศึกษา ซึ่งเธอก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ในการผลักดันเมมเบอร์รุ่นน้องให้สามารถแจ้งเกิดได้ แต่ความท้าทายใหญ่หลวงของเธอนั้นเกิดขึ้นในปี 2014 เมื่อ “ทาคามินะ” ทาคาฮาชิ มินามิ เมมเบอร์รุ่นที่ 1 และโชคันโตคุคนแรกประกาศจบการศึกษา โดยกำหนดว่าจะส่งมอบตำแหน่งดังกล่าวให้เธอในวันที่ 8 ธันวาคม2015 ในวาระครบ 10 ปีของ 48Groupซึ่งทำให้ยุยฮังต้องเริ่มเรียนรู้งานเพื่อที่จะสานต่อความสำเร็จทันที เพื่อทที่จะทำหน้าที่ได้อย่างไร้รอยต่อ ยุยฮังเคยให้สัมภาษณ์ในสารคดีว่าตอนที่เธอได้รับตำแหน่งเธอเครียดมาก ถึงกับทำอะไรไม่ถูกเพราะต้องบริหารความสัมพันธ์ระหว่างเมมเบอร์และผู้บริหาร เธอเครียดถึงกับบอกว่าได้กินข้าวที่สำหรับไว้ทำซูชิหมักกับน้ำส้มสายชูจนน้ำหนักตัวของเธอเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เธอก็พยายามสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของกรุปให้ก้าวไปข้างหน้า ภารกิจที่เธอได้รับส่วนมากก็คือการผลักดันให้เกิดวงน้องสาวใหม่ๆ ขึ้น เช่น BNK48ในประเทศไทยMNL48 ฟิลิปปินส์ MUM48 ที่อินเดีย SGO48 ที่เวียดนาม รวมไปถึง AKB48 TeamTP ที่ไต้หวัน และ AKB48 TeamSH ที่ประเทศจีนด้วย หากใครจดจำงาน BNK48 We Need You ที่เป็นการออดิชั่น BNK48รุ่นที่ 1 ได้ จะมีวิดีโอกล่าวต้อนรับของเธอมาเปิดเพื่อให้เหล่าสาวๆ ในประเทสไทยก้าวเข้ามาสมัครเป็นไอดอล และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เธอก็ได้เดินทางมาร่วมแสดงในงาน Japan Expo2018 ที่ลานเซนทรัลเวิลด์อีกด้วย สำหรับกิจกรรมการเลือกตั้งยุยฮังก็เป็นหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จ โดยสองครั้งล่าสุดเธอสามารถติดกลุ่ม 7อันดับแรกที่ได้รับความนิยมสูงสุด หรือที่เรียกว่า “คามิ7” ได้เพราะการทำงานหนักมาตลอดทั้งปีของเธอ และในปีนี้เองวันที่ 9 ธันวาคมหลังจากงานการแสดงวันเกิดครบรอบ13 ปี AKB48 ที่อากิฮาบาระแล้ว เธอจะลัดฟ้ามาทำการแสดงคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบในเมืองไทยครั้งแรกของ AKB48 โดยมาพร้อมกับเมมเบอร์ระดับแถวหน้าถึง 16 คน ในงาน Maya Music Festival 2018 ที่ลานโชว์ดีซี นอกจากการแสดงแล้วยังเปิดให้สามารถร่วมจับมือกับยุยฮังและเมมเบอร์คนอื่นในงานนี้ด้วยเช่นกัน เรื่อง: Ricchansama ภาพ: AKS