ยูคิ ไก แห่ง Jetman – ยอดมนุษย์ผู้อาภัพ(รัก)ที่สุดในประวัติศาสตร์ขบวนการเซ็นไต

ยูคิ ไก แห่ง Jetman – ยอดมนุษย์ผู้อาภัพ(รัก)ที่สุดในประวัติศาสตร์ขบวนการเซ็นไต

ยูคิ ไก แห่ง Jetman ว่ากันว่าเขาคือ ยอดมนุษย์ผู้อาภัพ(รัก)ที่สุดในประวัติศาสตร์ขบวนการเซ็นไต ตัวแทนของความเป็น Jetman ที่สะท้อนแง่มุม “แหกขนบ”

ตอนจบของเรื่อง...ชายหนุ่มตัดสินใจไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนรักและหญิงสาวที่เขารัก (แต่ดันไปลงเอยกับเพื่อนรักเสียได้) แต่ในขณะที่กำลังเลือกดอกไม้ไปอวยพรคู่บ่าวสาว ชายหนุ่มพบเหตุการณ์มิจฉาชีพวิ่งราว ชายหนุ่มหัวใจคุณธรรมไล่ตามและสั่งสอนมิจฉาชีพ แต่จังหวะที่เผลอเขาเจอคนแทงด้วยมีดจนบาดเจ็บ เขาฝืนพาตัวเองไปนั่งที่ม้านั่งที่งานแต่งงานเพื่อยิ้มและโบกมือให้กับคู่บ่าวสาว ชายหนุ่มได้คุยและถ่ายภาพกับเจ้าบ่าวผู้เป็นเพื่อนรัก บอกว่าเดี๋ยวตามเข้าไปร่วมงานทีหลัง แต่พอลับสายตาของคนในงาน เขาก็ทิ้งตัวลงนอนและเสียชีวิตไป... ... หากฟังเรื่องเล่าเพียงเท่านี้ หลายคนอาจจะนึกจินตนาการถึงภาพยนตร์หรือซีรีส์แนวพระเอกอกหักรักคุด ที่จบเรื่องกันไปแบบ Unhappy Ending แต่นี่คือฉากจบของซีรีส์แนวขบวนการห้า หรือขบวนการเซ็นไต ที่มีชื่อว่า ขบวนการวิหคสายฟ้า Jetman ถือว่าเป็นการแหกขนบการจบของซีรีส์แนวยอดมนุษย์ปราบสัตว์ประหลาด เป็นอย่างมาก และชายหนุ่มที่นอนเสียชีวิตอยู่ตรงนั้น คือ ยูคิ ไก ตัวละครที่มีพัฒนาการที่น่าสนใจตัวหนึ่งแห่ง Jetman แต่เพราะจบแบบนี้ จึงทำให้ Jetman กลายเป็นขบวนการเซ็นไตที่คลาสสิคและเป็นที่จดจำของเด็กยุค '90 มาถึงทุกวันนี้ ยูคิ ไก แห่ง Jetman – ยอดมนุษย์ผู้อาภัพ(รัก)ที่สุดในประวัติศาสตร์ขบวนการเซ็นไต  “เจ็ทโทะ เจ็ทโทะ เจ็ทโทะมัง เล็ทสโก โทะบิดะเซะ โอ เจ็ทโทะ เจ็ทโทะ เจ็ทโทะมัง โชจินเซ็นไต เจ็ทโทะมางงงง” เสียงร้องของ คะเงะยะมะ ฮิโระโนะบุ (影山ヒロノブ) “เจ้าชายแห่งเพลงอนิเมะ” คนเดียวกับที่ร้อง CHA-LA-HEAD-CHA-LA ใน Drabon Ball นั่นล่ะ ใครก็ตามที่ฟังเพลงนี้แล้วสามารถนึกทำนองเพลง Jetman ออก หรือว่าร้องตามได้ ก็คงจะทราบดีว่า “ยูคิ ไก” เป็นใคร? ขบวนการวิหคสายฟ้า Jetman (鳥人戦隊ジェットマン) เป็นหนังขบวนการลำดับ 15 ที่ออกอากาศใน ค. ศ. 1991-1992 (ลำดับที่ 1 ที่เก่าที่สุดคือ ขบวนการ 5 จอมพิฆาตโกเรนเจอร์ ออกอากาศที่ญี่ปุ่นใน ค. ศ. 1975-1977) ความพิเศษของ Jetman คือเป็นขบวนการที่อยู่ในใจของผู้ชมทุกเพศทุกวัยตลอดกาล ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี ผู้ชมที่เคยชม Jetman จะจำเรื่อง Jetman ได้ชัดเจนมาก โดยเฉพาะทุกคนจำตัวละคร “ยูคิ ไก” ซึ่งเป็นตัวสีดำได้ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ต้องย้อนกลับไปมองขบวนการลำดับที่ 14 คือ “ขบวนการแห่งโลก Fiveman (地球戦隊ファイブマン)” นั้นไม่ได้รับความนิยมเลย เรตติงตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์หนังขบวนการในตอนนั้น เพราะเนื้อเรื่องดำเนินตามสูตรสำเร็จทุกอย่างจนผู้ชมรู้สึกว่า หนังขบวนการก็ต้องเป็นงี้ แล้วเป็นงั้นต่อ แล้วไงต่อวะ? เดาทางได้หมด แม้แต่ทีมงานถ่ายทำเองก็ยังยอมรับว่ารู้สึกเบื่อกับเนื้อเรื่องของ Fiveman ที่ไม่มีอะไรใหม่ พอถึงเวลาต้องทำขบวนการที่ 15 คือ Jetman ทีมงานต้องทำใจไว้ล่วงหน้าว่าอาจเป็นหนังขบวนการเรื่องสุดท้ายแล้วของประวัติศาสตร์หนังขบวนการในญี่ปุ่น เพราะเสียฐานผู้ชมไปหมดตอน Fiveman ทีมงานผู้ผลิต Jetman จึงตัดสินใจ “แหก” ทุกขนบของหนังขบวนการ เพราะไหน ๆ ก็อาจจะเจ๊ง ไม่ได้ทำต่อแล้ว ก็จัดทุกอย่างเข้าไป จัดหนัก จัดเต็ม สุดแหวกแหกคอกมันทุกแนว เข้าไปในเรื่อง Jetman เรื่องนี้จึงมีพล็อตแหวกแนวในยุคนั้นเต็มไปหมด มีรัก 4 เส้าของกลุ่มพระเอก กลุ่มพระเอกทะเลาะกันเองตลอดเรื่อง มีรัก 3 เส้าในกลุ่มเหล่าร้าย แล้วมีรักข้ามกลุ่มอีกคือแฟนเก่าของตัวสีแดงถูกล้างสมองกลายเป็น 1 ใน 4 ขุนพลของผู้ร้าย แถมยังมีผู้ร้ายฝ่ายอื่นโผล่มา ทำให้ Jetman และเหล่าร้ายต้องร่วมมือกันสู้กับผู้ร้ายฝ่ายอื่นอีกด้วย มีฉากหุ่นพระเอกพัง และพวกพระเอกต้องช่วยกันซ่อมหุ่นเอง มีขบวนการอื่นโผล่มาอีก 2 ขบวนการ (ตัวประกอบนั่นแหละ) มีการรวมร่างระหว่างหุ่น 2-3 ตัวกลายเป็นหุ่นตัวใหม่ไปอีก ฯลฯ เรียกว่า Fiveman ทำสูตรสำเร็จอะไรไว้ Jetman จะแหกหมด แหกมันให้หมดดดด ผู้ชมไม่มีทางรู้เลยว่าตอนต่อไปอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง หักมุมมันทุกตอน เดาอะไรไม่ได้เลย เริ่มเรื่องโดยยานอวกาศ Earth Ship ได้ทดลองรังสีเบิร์ดนิค (Birdnic Waves) ที่ช่วยให้มนุษย์เพิ่มขีดจำกัดของสมรรถภาพทางร่างกาย และสามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์แปลงร่างที่ทำให้มนุษย์แข็งแกร่งขึ้นกว่าร่างคนอีกด้วย แต่เมื่อ เทนโด ริว สมาชิกคนแรกของ Jetman อาบรังสีเสร็จ ยานก็ถูกโจมตีจากเหล่าร้าย “ไวรั่ม (Vyram)” คนรักของเทนโด ริว หายสาบสูญไป (ตอนหลังเฉลยว่ากลายเป็นขุนพลของเหล่าร้ายไปแล้ว) แล้วรังสีเบิร์ดนิคส่วนที่เหลืออีกสำหรับ 4 คน ได้ตกลงมายังโลกมนุษย์ ริวจึงต้องตามหาพลเรือนอีก 4 คนเพื่อขอร้องให้เป็น Jetman มาสู้กับพวกไวรั่ม ทั้ง 5 คนนั้นมีเพียงริวเท่านั้นที่ฝึกฝนเป็น Jetman มา อีก 4 คนเป็นพลเรือน จึงเกิดเรื่องวายป่วงขึ้นมากมายตลอดทั้งเรื่อง Jetman กว่าที่ทุกคนจะร่วมงานกันได้ราบรื่น โดยทั้ง 5 คนมีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นมาก อีกทั้งเวลาที่แปลงร่างกันแล้ว ก็จะยังเรียกชื่อจริงกันอยู่ จึงเป็นหนังขบวนการเรื่องเดียวที่ผู้ชมจำชื่อตัวละครได้แม่นมาก ต่างจากขบวนการอื่นที่ผู้ชมจำชื่อตัวละครไม่ค่อยได้ ซึ่งทั้ง 5 คนคือ ... เทนโด ริว (天堂竜) เป็นเหยี่ยวแดง (Red Hawk) – หัวหน้าทีมผู้ยึดมั่นในอุดมการณ์ ภารกิจ เสียสละ ยูคิ ไก (結城凱) เป็นแร้งดำ (Black Condor) – ชายหนุ่มผู้รักอิสระ อาชีพเล่นดนตรีตามผับ โออิชิ ไรตะ (大石雷太) เป็น ฮูกเหลือง (Yellow Owl) - เกษตรกรหนุ่มร่างยักษ์ใจดี โระคุเมคัง คะโอะริ (鹿鳴館香) เป็น หงส์ขาว (White Swan) – สาวไฮโซคุณหนูอภิมหาเศรษฐีผู้เอาแต่ใจ ฮะยะซะกะ อะโกะ (早坂アコ) เป็น นางแอ่นน้ำเงิน (Blue Swallow) – สาว ม.ปลาย ผู้รักเงินเป็นชีวิตจิตใจ ในบรรดา Jetman ทั้ง 5 ที่ว่าคาแรคเตอร์เด่นแล้ว แต่ “ยูคิ ไก” ยิ่งเด่นกว่าอีก 4 คนอย่างมาก ไกคือตัวแทนของความเป็น Jetman คือ “แหกขนบ” ในขณะที่ริวจะเป็นหัวหน้าทีมและมีลักษณะเป็นอุดมคติของหนังขบวนการทุกเรื่อง คือเสียสละเพื่อส่วนรวม มีอุดมการณ์ ยึดภารกิจเป็นหลัก ฝังความรู้สึกส่วนตัวทิ้งไป เน้นส่วนรวมก่อน ดื่มเหล้าไม่เป็น ไปผับก็สั่งแต่นมร้อน แต่ไกจะตรงข้ามหมด คือไกไม่แคร์กลุ่ม ไกชอบความเป็นปัจเจก ไกเห็นแก่ตัว ไม่สนใจส่วนรวม เจ้าชู้ และเล่นอบายมุขทุกรูปแบบทั้งเหล้า บุหรี่ ผู้หญิง ไนท์คลับ เน้นความรู้สึกส่วนตัวแบบช่างหัวส่วนรวม ไกจึงมีคาแรคเตอร์เด่นมากทั้งในเรื่อง Jetman และเด่นกว่าหนังขบวนการใด ๆ อีก 14 ขบวนการที่เคยออกอากาศมา  นอกจากนี้ ไกยังหลงรักคะโอะริ และคะโอะริดันไปรักริว ทำให้ไกกับริวกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจกัน ทั้งวิถีชีวิต นิสัย ความเชื่อ จนกระทั่งหัวใจ อยู่คนละขั้วกับริว ไกกับริวจึงทะเลาะกันตลอด ต่อยกันแทบจะจบเรื่อง บางตอนไกกับริวต่อยกันสนุกกว่าตอนเป็น Jetman สู้กับไวรั่มอีก บางครั้งก็กลายเป็นดู Jetman เพื่อลุ้นว่าเมื่อไหร่ไกกับริวจะต่อยกันอีก (ฮา)  ไก ยังเป็นตัวสร้างฐานแฟนคลับให้ผู้ชมที่เป็นแม่บ้านญี่ปุ่นด้วย หนังขบวนการเมื่อก่อนจะมีแต่เด็กดู แต่ตั้งแต่เรื่อง Jetman กลายเป็นว่า แม่ ๆ ก็ติด Jetman ตามลูกไปด้วย เพราะบรรดาแม่ ๆ หลงเสน่ห์ของพ่อหนุ่มไกจอมเจ้าชู้คนนี้กันไปหมด ไกมีลักษณะที่ “ผู้ชายอยากเท่แบบนั้นบ้าง ผู้หญิงก็อยากได้เป็นแฟน” คือเท่อย่างอธิบายไม่ถูก ทั้งนิสัย คำพูด วิถีชีวิต การเคลื่อนไหว การแสดงออก ทำให้ขยายฐานแฟนคลับผู้ชมหนังขบวนการไปสู่ผู้ใหญ่ได้สำเร็จ ระหว่างที่ดูนั้นเหล่าแม่บ้านก็ลุ้นทุกตอนว่า “ไกของฉัน อย่าตายน้า” “ริวมันแย่มาก โลเล” “ต่อยไอ้ริวมันเลย ไกของฉัน” ฯลฯ และในตอนจบ ทีมงานก็โหดร้ายพอที่จะขยี้จิตใจของเหล่าแม่บ้านทิ้งแบบไม่เหลือชิ้นดี….. ไกเป็นตัวละครที่มีพัฒนาการเด่นที่สุดในเรื่อง เพราะเริ่มแรกไกเห็นแก่ตัวมาก ถึงขั้นเห็นเด็กตัวเล็ก ๆ ถูกพวกไวรั่มโจมตี ไกก็ยังไม่ยอมช่วย จนริวเข้าไปช่วยเด็กและริวโดนโจมตี ไกลังเลอยู่นานจึงตัดสินใจกลับมาช่วยริว ไกเป็นคนมีอดีตที่เชื่ออยู่ลึก ๆ ว่าโลกนี้มันโหดร้าย คนเราต้องเห็นแก่ตัว ต้องเอาตัวเองรอดก็พอ ใช้ชีวิตเพื่อความสุขส่วนตัวของตัวเองก็พอ แม้แต่ตอนไวรั่มเริ่มบุกโลก ไกยังบอกริวว่า “โลกเส็งเคร็งนี่ พินาศไปซะก็ดีเว้ย”  จนพอได้ผ่านการใช้ชีวิตเป็น Jetman ผ่านการต่อยกับริวครั้งแล้วครั้งเล่า ไกก็เริ่มอ่อนโยนลง เริ่มทำเพื่อกลุ่มมากขึ้น ในขณะที่ริวก็ยอมเชื่อ “จิตใจ” ของตัวเองมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนที่บ้าแต่ภารกิจ มีกระทั่งฉากที่ริวยอม “ดื่มเหล้า” กับไก แสดงให้เห็นการพยายามปรับตัวเข้าหากันและกัน จนกระทั่งตอนจบ ไกกลายเป็นคนที่ “เสียสละชีวิตตัวเอง” เพื่อคนอื่นไปได้ แฟนคลับชาวญี่ปุ่นลงความเห็นว่าเหตุการณ์ตอนจบคือ 3 ปีให้หลัง หลังจากเอาชนะพวกไวรั่มได้แล้ว รังสีเบิร์ดนิคน่าจะเสื่อมสภาพไปตามวันเวลา ทำให้ร่างกายของไกกลับเป็นคนธรรมดาเต็มรูปแบบ จึงเกิดโศกนาฏกรรมนั้นขึ้นมา เรื่อง Jetman มีความน่าสนใจมากทั้งพล็อต, การดำเนินเรื่อง, ตัวละคร, หุ่น, ฯลฯ แต่ไม่ว่ายังไง “ยูคิ ไก” ก็ยังเป็นตัวละครในใจแฟน ๆ ตลอดกาล เรียกว่าเป็นเดอะแบกของเรื่อง Jetman ก็ยังได้ และเป็นตัวละครที่เริ่มแรกสีเทาออกไปทางดำ ค่อย ๆ กลายเป็นเทา และกลายเป็นสีขาวในตอนจบ คือจากคนเห็นแก่ตัวสุดชีวิต กลายเป็นคนที่ยอมเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อคนอื่นไปได้ เป็นตัวแทนของการแหวกขนบของ Jetman และผ่านการหล่อหลอมจิตใจจนพัฒนาตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้นได้ในตอนจบ เหมือนเพลงจบของ Jetman ที่ชื่อเพลง “จิตใจนั้นคือไข่นก (こころはタマゴ)” ท่อนฮุคที่ว่า こころはタマゴ、小さなタマゴ จิตใจคนนั้นก็เหมือนไข่นกใบเล็ก ๆ あしたまであたためりゃ ถ้าได้รับการฟูมฟักอย่างอบอุ่น 鳥になれる、雲にもなれる ก็เป็นได้ทั้งนกบนฟ้า เป็นได้ทั้งก้อนเมฆบนนภา ยูคิ ไก จึงเป็นเหมือนไข่นก ที่ได้รับความอบอุ่นจากมิตรภาพของ Jetman จนได้รับการฟูมฟักทางจิตใจ และกลายเป็นนก (Jetman) และกลายเป็นก้อนเมฆ (ตาย และขึ้นสวรรค์) จึงเป็นตำนานแห่งหนังขบวนการอีกเรื่อง ที่อยากแนะนำให้หามาดูกัน