อาราชิ การหยุดพักของ “พายุ” ที่สร้างความสุขแก่แฟนคลับมานานถึง 20 ปี

อาราชิ การหยุดพักของ “พายุ” ที่สร้างความสุขแก่แฟนคลับมานานถึง 20 ปี
ปลายเดือนมกราคมผ่านมา เกาะญี่ปุ่นเกิดประเด็นฮือฮาติดเทรนด์โลก เมื่อ อาราชิ (Arashi - ) วงไอดอลบอยแบนด์ชื่อดังประกาศข่าวช็อกว่า พวกเขาทั้ง 5 คนซึ่งประกอบด้วย โอโนะ ซาโตชิ (Ono Satoshi), ซากุไร โช (Sakurai Sho), นิโนะมิยะ คาสึนาริ (Ninomiya Kazunari), ไอบะ มาซากิ (Aiba Masaki) และ มัตสึโมโต้ จุน (Matsumoto Jun) จะขอพักงานในนามไอดอลวง อาราชิ เมื่อสิ้นสุดปี 2020 สาเหตุที่เป็นข่าวช็อกโลก เพราะปัจจุบัน อาราชิ คือวงไอดอลชายอันดับ 1 ของญี่ปุ่น พวกเขากำลังฉลองครบรอบ 20 ปีนับตั้งแต่เดบิวต์เมื่อปี 1999 และก่อนหน้าข่าวนั้นไม่กี่วัน พวกเขาเพิ่งประกาศเพิ่มรอบทัวร์คอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 2 ทศวรรษ 5x20 Anniversary Tour ว่าจะมีไปจนถึงสิ้นปี 2019 รวมทั้งสิ้น 50 รอบ ที่สำคัญ การประกาศครั้งนี้มาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าช่วงที่วงกำลังอยู่ในจุดพีค เหล่าไอดอลชายจะตัดสินใจพักเดินทางสายนี้ โอโนะ ซาโตชิ หัวหน้าวงกล่าวว่า มีการพูดคุยกับเมมเบอร์เรื่องหยุดพักมาหลายปีแล้ว โดยเขาเป็นคนเปิดประเด็นขึ้นมาเอง เพราะอยากพักจากงานบันเทิงที่ทำมาหลายปี ตอนแรกเขาคิดอยากออกจากวง ออกจากวงการไปถาวรด้วยซ้ำ แต่หลังจากถกเถียงกันอยู่นานก็ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า อาราชิ จะตัดสินใจหยุดพักงานแทน เพื่อที่อย่างน้อยจะยังรักษาความเป็น อาราชิ ที่มีสมาชิก 5 คน เพราะหากขาดใครคนหนึ่งคนใด อาราชิ ก็จะไม่ใช่ อาราชิ อีกต่อไป วิธีการนี้เป็นการดึงให้ โอโนะ อยู่ในวงการบันเทิงต่อ แลกกับการให้เขาไปพักชาร์จแบต ใช้ชีวิตแบบปุถุชนคนธรรมดาตามต้องการ และหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะพร้อมกลับมาเป็น อาราชิ อีกครั้ง แม้ยังไม่มีใครทราบคำตอบว่า วันนั้นจะมาถึงเมื่อใด อาราชิ ทั้ง 5 คนยืนยันว่านี่คือการพักงาน ไม่ใช่การยุบวง หลังปี 2020 สมาชิกอีก 4 คนจะยังรับงานเดี่ยวของตัวเอง ไม่หายไปไหน แต่จนกว่าจะถึงวันนั้น พวกเขาจะขอโฟกัสกับงานในปัจจุบันให้เต็มที่ พวกเขาจะสร้างความสุข มอบความทรงจำอันสุดวิเศษแก่แฟน ๆ หรือ อาราเชี่ยน (Arashian) ให้มากที่สุด ย้อนกลับไปช่วงปี 1994-1996 โอโนะ, โช, ไอบะ, นิโนะ และมัตสึจุน เข้าสู่วงการบันเทิงครั้งแรกใต้ชายคา Johnny and Associate หรือค่ายจอห์นนี ค่ายผลิตไอดอลชายอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น พวกเขาเริ่มต้นด้วยการเป็นเด็กฝึกในนาม Johnny’s Jr. เก็บประสบการณ์เป็นแบ็คแดนเซอร์ (Back Dancers) เต้นอยู่ข้างหลังให้กับวงรุ่นพี่อย่าง V6 และร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ ของค่าย มีส่วนสำคัญให้ยุคนั้นเป็นยุคทองของ Johnny’s Jr สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กหนุ่มจำนวนมากอยากเข้ามาเป็นเด็กฝึกใต้ชายคาแห่งนี้ แล้วเจริญเติบโตในแวดวงบันเทิงต่อไป หลังผ่านไปประมาณ 4-5 ปี จอห์นนี คิตากาว่า (Johnny Kitagawa) บอสใหญ่เห็นศักยภาพในตัว จึงตัดสินใจจับเด็กหนุ่ม 5 คนนี้ที่คาแรคเตอร์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงมาฟอร์มกันในนาม อาราชิ ถือเป็นการเรียกรวมพลได้ถูกเวลา เพราะช่วงนั้นมีสมาชิก 2 คนกำลังคิดเรื่องลาออกจากค่ายอยู่พอดี (หนึ่งในนั้นก็คือ โอโนะ นั่นเอง) ตอนนั้น โอโนะ กำลังมุ่งมั่นกับการแสดงละครเวทีอยู่ที่เมืองเกียวโต ส่วนอีก 4 คนที่เหลือปักหลักอยู่โตเกียว ไอบะ, นิโนะ กับ มัตสึจุน เคยร่วมงานกันมาก่อน ส่วน ซากุไร ก็ทำงานกับเด็ก Johnny’s Jr บ่อยจนคุ้นหน้าคุ้นตากันดี [caption id="attachment_9813" align="alignnone" width="900"] อาราชิ การหยุดพักของ “พายุ” ที่สร้างความสุขแก่แฟนคลับมานานถึง 20 ปี จอห์นนี คิตากาว่า ภาพจากสำนักข่าว NHK[/caption]   ความห่างไกลและอายุที่มากกว่าอาจทำให้ โอโนะ ห่างเหินจากคนอื่น แต่เมื่อต้องมารวมตัวกันจริง ๆ ทั้ง 5 คนก็เริ่มปรับตัวเข้าหากันเพื่อความเป็นหนึ่งเดียว และผลที่ออกมาคือสนิทสนมกลมเกลียว เป็นมิตรภาพที่ยืนยงมาจนถึงปัจจุบัน ใครจะไปรู้ว่าหากท่านประธานรวมตัวช้าไปเพียงนิดเดียว ประวัติศาสตร์ของวงการเพลงญี่ปุ่นน่าจะเปลี่ยนไปชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ  “ลุงจอห์นนี” ตั้งชื่อวงใหม่นี้ว่า อาราชิ ซึ่งมีความหมายตรงตัวว่า “พายุ” โดยหมายมั่นปั้นมือว่าจะให้วงเป็นพายุที่พัดโหมกระหน่ำไปทั่วโลก ไม่เพียงแค่ในญี่ปุ่นเท่านั้น นอกจากนี้ยังสื่อถึงความเป็นที่หนึ่งด้วยเนื่องจากอักษรภาษาอังกฤษตัวแรกของชื่อคือตัว A ส่วนในภาษาญี่ปุ่น ตัวอักษร อะ (あ) ก็เป็นพยัญชนะตัวแรกเช่นกัน  อาราชิ ฟอร์มวงอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 กันยายน 1999 พวกเขาไปแถลงข่าวกันไกลถึงฮาวาย สหรัฐอเมริกา และออกซิงเกิลเปิดตัว A RA SHI ในวันที่ 3 พฤศจิกายนปีเดียวกัน ซึ่งขายได้ถึง 973,310 ชุด ถือเป็นการเริ่มต้นที่น่าประทับใจ  แต่เส้นทางของพวกเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หลังจากซิงเกิลเปิดตัว กระแสความนิยมของ อาราชิ ไม่ได้พุ่งสูงนัก พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จด้านงานเพลงเท่าที่ควร ยอดขายไม่ทะลุเป้า พวกเขาอยู่ใต้ปีกของวงรุ่นพี่ระดับซูเปอร์สตาร์อย่าง สแมป (SMAP) และ คินคิคิดส์ (Kinki Kids)แถมค่ายเพลงที่ อาราชิ สังกัดอยู่ขณะนั้นอย่าง Pony Canyon ยังผลิตไอดอลบอยแบนด์วงใหม่อย่าง w-inds ซึ่งประสบความสำเร็จมากกว่า อาราชิ เสียอีก จริงอยู่ว่า 5-6 ปีแรกของวงอาจถือเป็นยุคมืด แต่หลังเก็บชั่วโมงบินอยู่พักใหญ่ ปี 2005-2009 คือช่วงที่ อาราชิ เจิดจรัสขึ้นมาอย่างสมภาคภูมิ มีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกันช่วยส่งให้พวกเขาก้าวขึ้นมาเป็นวงยอดฮิต หนึ่งในจุดสปาร์กคือซีรีส์ Hana Yori Dango (2005) หรือ “รักใส ๆ หัวใจ 4 ดวง” เวอร์ชั่นญี่ปุ่นที่นำแสดงโดย มัตสึโมโต้ จุน น้องเล็กของวง กลายเป็นซีรีส์ยอดฮิตที่คนติดกันงอมแงม และเมื่อซีรีส์ภาค 2 (2007) ออกอากาศตามมา ปิดท้ายด้วยหนังฉายโรง (2008) ความนิยมสูงก็ไม่ลดลงไปเลย ในช่วงใกล้เคียงกัน เมมเบอร์อีกคนหนึ่งอย่าง นิโนะมิยะ ยังนำแสดงใน Letters From Iwo Jima (2006) หนังสงครามโลกครั้งที่ 2 ของผู้กำกับ คลินท์ อีสต์วูด (Clint Eastwood) ซึ่งได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ส่วน โอโนะ ได้รับบทนำในซีรีส์ล้างแค้น Maou (2008) แล้วได้รับคำชมไปทั่ว เหล่านี้คือตัวอย่างปัง ๆ เพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่โหมกระพือชื่อของ อาราชิ จนติดลมบน และเมื่อพ้นจากจุดนี้ไป ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งพวกเขาจากความดังระเบิดได้อีกแล้ว [caption id="attachment_9814" align="alignnone" width="1170"] อาราชิ การหยุดพักของ “พายุ” ที่สร้างความสุขแก่แฟนคลับมานานถึง 20 ปี นิโนะมิยะ ใน Letters From Iwo Jima (2006)[/caption]   ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วง 10 ปีหลัง ไม่มีวันไหนที่ อาราชิ ไม่ปรากฏตัวออกสื่อ พวกเขารับงานหลากหลายทั้งเล่นหนังเล่นละครโทรทัศน์ ถ่ายแบบลงนิตยสาร เป็นพรีเซนเตอร์โฆษณา ออกรายการวิทยุ เป็นพิธีกรรายการข่าว เป็นพิธีกรรายการวาไรตี้ และอื่น ๆ อีกมากมาย การรับงานแต่ละอย่างช่วยเพิ่มความสามารถของแต่ละคน และเมื่อปรากฏตัวออกสื่อบ่อย ไม่น่าแปลกใจหากชาวญี่ปุ่นจะรู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตาพวกเขาได้อย่างดี ถึงจะรับงานอื่นเยอะแต่ อาราชิ ไม่เคยทอดทิ้งงานเพลง สมัยก่อนพวกเขาอาจไม่ประสบความสำเร็จ แต่ทุกวันนี้เมื่อออกซิงเกิลใหม่ทีไรยังคงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ปัจจุบันพวกเขามีผลงานออกมาแล้ว 56 ซิงเกิล มีเพลงเด่นหลายเพลงไม่ว่าจะเป็น A RA SHI ที่เปรียบได้กับเพลงชาติของวง, One Love เพลงรักหวานซึ้งที่คู่รักชอบร้องในงานแต่ง, Love So Sweet อีกหนึ่งเพลงรักความหมายดี ๆ แล้วยังมีเพลงฟังสนุกอย่าง Kansha Kangeki Ame Arashi, Monster, Guts และ Happiness ที่วงมักนำมาวนเวียนแสดงตามงานถ่ายทอดทางโทรทัศน์เสมอ อาราชิ อาจได้รับความนิยมอย่างสูงโดยเฉพาะในกลุ่มสุภาพสตรีตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ แต่คนญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัยจะให้ความสนใจพวกเขาเสมอเวลาออกผลงานใหม่ นอกจากนี้ผู้คนในวงการบันเทิงยังกระตือรือร้นอยากร่วมงานกับ อาราชิ เพราะพวกเขาขึ้นชื่อในความเป็นมืออาชีพ ความทุ่มเทตั้งใจ อุปนิสัยน่าคบหา เป็นกันเอง พวกเขายังวางตัวดี แทบไม่เคยมีข่าวฉาวออกมาทำลายความนิยมเลย ในแต่ละปี อาราชิ จะจัดทัวร์คอนเสิร์ตครั้งใหญ่ เป็นมหกรรมการพบปะแฟน ๆ ซึ่งสามารถขายบัตรได้เต็มทุกที่นั่ง คอนเสิร์ตของพวกเขาได้ชื่อว่ามีอัตราการแย่งชิงบัตรสูงมาก เพราะการจะได้มาครองช่างยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน ปกติแล้วการจำหน่ายตั๋วคอนเสิร์ตของค่ายจะใช้ระบบแฟนคลับได้รับสิทธิ์แสดงความจำนงค์ขอซื้อตั๋วก่อน แต่หากจำนวนผู้ต้องการตั๋วมากกว่าจำนวนที่นั่งก็จะใช้การสุ่มจับฉลากหาผู้ได้สิทธิ์ซื้อตั๋ว  และเนื่องจากแฟนคลับของ อาราชิ ที่ลงทะเบียนกับเว็บไซต์หลักของวงมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ๆ ทุกปี จนตอนนี้มีมากเกือบ 3 ล้านคน การตบตีแย่งชิงบัตรคอนเสิร์ตซึ่งจะมีผู้โชคดีเพียงแค่ไม่กี่แสนคนเท่านั้น ทำให้บรรดาแฟนคลับทั้งชาวญี่ปุ่น หรือชาวต่างชาติต่างพากันไปบนบานศาลกล่าว ไหว้พระขอพรให้ได้ตั๋วของ อาราชิ มากกว่าไปขอพรว่าขอให้ถูกหวยอีก และบ่อยครั้งหากมีคนเอาบัตรไปขายต่อในราคาแพงกว่าเดิมหลายเท่า แฟน ๆ จำนวนมากที่นกบัตรก็พร้อมจะเปย์อยู่ดี ขอแค่ได้เข้าไปดูผู้ชายที่ชอบก็เพียงพอ จนล่าสุดทางค่ายต้องออกนโยบายตรวจสอบเอกสารแสดงตัวตนอย่างเข้มงวด ป้องกันการซื้อขายเก็งกำไร เพื่อให้ให้คนที่อยากดูคอนเสิร์ตจริง ๆ เท่านั้นที่ได้บัตรในราคาชอบธรรม แม้จะทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ด้านลบ โดยเฉพาะจากแฟนคลับชาวต่างชาติที่ต้องเจอกฎระเบียบยุ่งยากกว่าคนญี่ปุ่นหลายเท่า แต่ก็เป็นสิ่งที่ต้องยอมแลกมา แม้ว่าจุดเริ่มต้นของวงคือการเป็นพายุที่โหมพัดไปทั่วโลก แต่หลัก ๆ แล้ว อาราชิ จะปักหลักทำงานและจัดคอนเสิร์ตอยู่ในประเทศตัวเองเสียมากกว่า แต่หากพวกเขาออกไปสู่โลกกว้างเมื่อไหร่ เป็นต้องได้รับผลตอบรับที่ดีมาก ๆ เสมอ เมื่อปี 2014 อาราชิ เคยเปิดคอนเสิร์ตที่ฮาวาย ในชื่อว่า Arashi Blast in Hawaii ซึ่งมีแฟน ๆ บินตามไปดูเกือบจนเต็มความจุสนาม และหากใครพลาดไม่ได้ตั๋ว ยังมีการถ่ายทอดสดให้ได้ดูอีกต่างหาก [caption id="attachment_9815" align="alignnone" width="1536"] อาราชิ การหยุดพักของ “พายุ” ที่สร้างความสุขแก่แฟนคลับมานานถึง 20 ปี ไอบะ มาซากิ, มัตสึโมโต้ จุน, นิโนะมิยะ คาสึนาริ, โอโนะ ซาโตชิ, ซากุไร โช[/caption]   พวกเขายังเคยเกือบมาเล่นคอนเสิร์ตที่ไทยด้วยนะ กับคอนเสิร์ตที่มีชื่อว่า Arashi Live in Bangkok with Thai Junior Golf Mike โดย 5 หนุ่มบินมาแล้วจัดงานแถลงข่าวเสร็จสรรพ วางกำหนดจัดแสดงที่อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี ในวันที่ 7 ตุลาคม 2549 ขายบัตรเรียบร้อย แต่สุดท้ายต้องยกเลิกไปเพราะเกิดการรัฐประหารเสียก่อนในวันที่ 19 กันยายน สร้างความช้ำอกช้ำใจกับแฟน ๆ จำนวนมาก เพราะทุกวันนี้พวกเขาไม่มีแผนกลับมาจัดคอนเสิร์ตที่ไทยอีกเลย  หนึ่งปัจจัยที่ทำให้ใคร ๆ อยากดูคอนเสิร์ตของ อาราชิ เพราะคอนเสิร์ตของวงได้ชื่อว่าสนุกและบันเทิงเต็มพิกัด ลำพังแค่เพลงก็เพราะอยู่แล้ว แต่โชว์ต่าง ๆ บนเวทียังเปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์ อาราชิ มักคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ มาเอนเตอร์เทนแฟนคลับเสมอ ทั้งการคิดค้นเวทีแบบ Moving Stage ที่สามารถยกตัวพาเมมเบอร์จากหน้าเวทีไปหาคนดูที่นั่งไกล ๆ ได้ (กลายเป็นนวัตกรรมที่วงอื่นเอาไปใช้ด้วย) มีการคิดค้นระบบเปลี่ยนสีแท่งไฟแบบอัตโนมัติ และยังมีการประดิษฐ์อุปกรณ์ให้กำเนิดเสียง ที่จะก่อสร้างเสียงที่แตกต่างกันไปตามแต่ท่วงท่าและการขยับตัวของเมมเบอร์ เป็นต้น  สำหรับคอนเสิร์ตล่าสุดอย่าง 5x20 Anniversary Tour ดังที่กล่าวไปว่าจะตระเวนทัวร์ตามเมืองใหญ่ ๆ รวมแล้ว 50 รอบ เมื่อสิ้นสุดทัวร์จะมียอดคนดูสูงเป็นประวัติการณ์กว่า 2.6 ล้านคน ด้วยความเป็นคอนเสิร์ตครบรอบจึงจะเน้นเล่นเพลงเก่า เพลงฮิตของวงตลอด 20 ปีที่ผ่านมาเป็นหลัก แต่ไฮไลท์สำคัญยังอยู่ที่โชว์เพลงพิเศษ 5x20 ซึ่งแฟนๆ ทุกคนอยากฟัง เพลงนี้ดัดแปลงจากเพลง 5x10 ที่ใช้ในวาระวงครบรอบ 10 ปี โดยสมาชิกทั้ง 5 คนต่างมีส่วนร่วมในการเขียนเนื้อร้อง แสดงความในใจถึงเพื่อนร่วมวงที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานาน บ่งบอกถึงมิตรภาพอันแสนดีและหาที่ไหนไม่ได้แล้ว และยังสื่อความรู้สึกถึงแฟน ๆ ทุกคนที่ให้การต้อนรับพวกเขาอย่างดี 5 and you x20 และเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2019 อัลบั้มรวมฮิต ARASHI 5×20 All the BEST!! 1999-2019 ก็ออกวางจำหน่าย และบรรจุเพลงนี้เอาไว้ด้วย สำนักข่าว Oricon รายงานว่ายอดจำหน่ายอัลบั้มในวันแรกสูงถึง 728,674 แผ่น และในวันที่ 3 ก็สามารถขายได้ทะลุหลักล้าน ก่อนปิดยอด 1 สัปดาห์ด้วยตัวเลขสูงถึง 1,304,000 แผ่น ทำลายสถิติยอดขายอัลบั้มเปิดตัวสูงสุดของวง และยังไม่มีทีท่าว่าตัวเลขจะหยุดนิ่งลงง่ายๆ  สาเหตุสำคัญที่ขายดีเพราะมันอาจจะเป็นอัลบั้มสุดท้ายของวงด้วย แฟนคลับไม่รู้ว่าปีหน้า แม้วงจะยังทำงานอยู่ แต่ไม่มีอะไรการันตีว่าพวกเขาจะออกอัลบั้มกับซิงเกิลใหม่หรือไม่ ฉะนั้นเมื่อมีโอกาสให้อุดหนุนในตอนนี้ ก็ต้องอุดหนุนให้ถึงที่สุด ผลจากการประกาศพักงานของวงอาจทำให้ใครต่อใคร โดยเฉพาะแฟน ๆ เศร้าใจ หลายคนอดห่วงไม่ได้ว่าหลังจาก อาราชิ พักงานไปแล้ว พวกเขาจะทำอะไรต่อ บางคนใคร่ครวญว่าจะยังตามวงต่อไหม และบางคนอดคิดไม่ได้ว่าเมื่อ 5 หนุ่มกลับมารวมตัวอีกครั้ง พวกเขาจะยังเป็น อาราชิ สุดที่รักเหมือนเดิมรึเปล่า? มันอาจเป็นปัญหาโลกแตกนำมาซึ่งความเครียดและความวิตกกังวล แต่อย่างน้อยจนกว่าพวกเขาจะพักงานอย่างเป็นทางการ ระยะเวลาที่เหลืออยู่อันน้อยนิดนี้ เหล่า อาราเชี่ยน จงมาร่วมติดตามพวกเขากันอย่างมีความสุข และสนุกสุดเหวี่ยงไปกับพายุลูกนี้กันเถิด เพื่อที่ในช่วงเวลาที่พวกเขาห่างหายไป จะได้ไม่รู้สึกเสียดายภายหลัง และจะนึกถึงแต่ความทรงจำดี ๆ ที่มีร่วมกัน     ทั้งนี้ หลังจากอัลบั้ม 5×20 All the BEST!! ออกวางจำหน่ายแล้วขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จนยอดรวมทะลุเกิน 2 ล้านแผ่นเรียบร้อย กลายเป็นว่า อาราชิ ยังส่งผลงานอีกมากมายให้แฟน ๆ ได้อุดหนุนแบบจัดเต็มและไม่มีทีท่าว่าจะหมดง่าย ๆ เริ่มจากการออกซิงเกิลใหม่ Brave ในวันที่ 11 กันยายน ซึ่งกลายมาเป็นเพลงประจำงานแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลก (2019 Rugby World Cup) ที่ปีนี้ไปจัดกันที่ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนั้น พวกเขายังสร้างเซอร์ไพรซ์ครั้งใหญ่ด้วยการปล่อยเอ็มวีเพลงเก่าอย่าง A RA SHI, Love So Sweet ,Happines, Truth และ Monster ที่ภาพให้คมชัดใสแจ๋วลงในช่อง YouTube ของวงเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม เรียกเสียงฮือฮาจากแฟน ๆ ทั่วโลก ซึ่งไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีวันที่ได้ดูเอ็มวีของ อาราชิ แบบชัดแจ๋วแถมถูกลิขสิทธิ์ผ่านช่องทางนี้ และหากเลื่อนดูคอมเมนต์ในแต่ละเพลงก็จะพบว่าเต็มไปด้วยภาษาที่หลากหลายจากแฟน ๆ ไม่รู้กี่ประเทศ แสดงให้เห็นว่าแม้จะปักหลักทำงานอยู่แต่ในเกาะญี่ปุ่นเป็นหลัก แต่อิทธิพลของพวกเขาแผ่ขยายไปไกลครอบคลุมทั่วโลก มีคนคอยการสนับสนุนพวกเขาอยู่มากมายมหาศาลกว่าที่ใคร ๆ คาดคิด หลังปล่อยเพลงเก่าออกมาชิมลางแล้วได้ผลตอบรับดี พวกเขาก็ปล่อยซิงเกิลต่อมาที่ชื่อว่า Turning Up ออกมาให้ฟังกันแบบฟรี ๆ ผ่านทุกช่องทางออนไลน์เท่าที่บนโลกนี้จะมีไม่ว่าจะเป็น Spotify, Apple Music, Joox และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยแฟน ๆ ไม่จำเป็นต้องซื้อแผ่นซีดีก็สามารถฟังเพลงสนุก ๆ เพลงนี้ได้เลย และยังปล่อยเอ็มวีออกมาทาง YouTube ด้วย ซึ่งเอ็มวีตัวดังกล่าวพวกเขาบินไปถ่ายทำไกลถึง ลอส แองเจลิส สหรัฐอเมริกา เลยทีเดียว ไม่เพียงแค่นั้น พวกเขายังปล่อยเพลงในซิงเกิลที่ผ่าน ๆ มาให้ฟังกันได้แบบฟรี ๆ ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่กล่าวถึงไว้ด้วย เพราะพวกเขาอยากให้แฟน ๆ ได้ฟังเพลงของ อาราชิ เมื่อไหร่และที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องอยู่แบบหงอยเหงาในช่วงที่พวกเขาพักงาน ส่งผลให้เพลงจำนวนมากของวงยกขบวนขึ้นชาร์ตยอดดาวน์โหลดและยอดฟังสูงสุด 10-20 อันดับแรกแบบแทบจะยกแผงในหลาย ๆ ชาร์ต อาราชิ ยังเดินหน้าเปิดโซเชี่ยลมีเดียทุกแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Instagram, Weibo, TikTok และอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อเป็นช่องทางพบปะกับแฟน ๆ ทั่วโลกอย่างจุใจ พร้อมประกาศว่าในปีหน้า พวกเขาจะไปเปิดคอนเสิร์ตที่จีนอย่างแน่นอนแล้ว 1 ที่ (แต่ยังไม่มีกำหนดการแน่นอน) และจะยังกลับไปจัดคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ที่สนามกีฬาแห่งชาติ (National Stadium หรือที่แฟน ๆ จะเรียกกันว่าสนามโคคุริทสึ - Kokuritsu kyōgijō) สถานที่ซึ่ง อาราชิ เคยแสดงคอนเสิร์ตอย่างยิ่งใหญ่มาหลายครั้งช่วงปี 2008-2013 ในวันที่ 15-16 พฤษภาคม ก่อนถึงมหกรรมกีฬาระดับโลกอย่างโอลิมปิคเพียงไม่กี่เดือน เรียกได้ว่านอกจากจะมุ่งมั่นกับการงานภายในประเทศ แต่พวกเขาก็พร้อมเดินหน้าเข้าหาโลกกว้างอย่างเต็มตัวด้วยเช่นกัน แต่สำหรับแฟน ๆ ชาวไทย นั่นอาจยังไม่ตื่นเต้นเท่ากับการเดินทางไปหาแฟน ๆ รอบโลกในโปรเจ็กต์ JET STORM เมื่อ 5 หนุ่มจะบินไปพบปะแฟน ๆ ใน 4 ประเทศ และ 1 ในนั้นก็มีประเทศไทยด้วย! โดยหากไม่เกิดเรื่องเหนือความคาดหมายใด ๆ (มั่นใจได้ว่าแฟน ๆ ต่างภาวนากันสุดฤทธิ์ว่าอย่าให้มีเลย) พวกเขาจะเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวในวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน เพื่อจัดงานแถลงข่าวห้องประชุมในอาคาร Impact Forum จากนั้นจึงจะออกมาพบปะกับแฟน ๆ ซึ่งเชื่อว่าจะมารอต้อนรับพวกเขาอย่างล้นหลามไม่แพ้หรือยิ่งกว่าเมื่อปี 2549 ณ ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าเพราะเหตุใดพวกเขาทั้ง 5 ถึงเลือกไทยเป็น 1 ใน 4 ประเทศที่จะเดินทางมา หลายคนอาจคาดการณ์ว่าคงเพราะพวกเขาอยากชดเชยที่ต้องยกเลิกคอนเสิร์ตเมื่อปี 2549 ด้วยปัญหาทางการเมือง แต่ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ก็ตาม อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่า อาราชิ ไม่เคยลืมอาราเชี่ยนชาวไทยผู้รอคอยไอดอลที่ตัวเองรักมานานกว่า 13 ปี ซี่งก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นี่จะไม่ใช่การกลับมาเยือนไทยครั้งที่ 2 และครั้งสุดท้ายของพวกเขา หวังว่า อาราชิ จะยังอยากกลับมาจัดคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบที่สยามเมืองยิ้มแห่งนี้อยู่ เพื่อให้แฟน ๆ ได้พบเจออย่างใกล้ชิด เป็นความทรงจำที่งดงามร่วมกันของทุกฝ่าย ในช่วงเวลาที่เหลืออีกไม่มากนักก่อนการพักวงจะมาถึง ก่อนที่พวกเขาจะแยกย้ายไปคนละทางชั่วคราว โดยไม่รู้ว่าจะกลับมารวมตัวกันอีกทีเมื่อใด     เรื่องโดย: ปารณพัฒน์ แอนุ้ย