SMAP: ตำนานไอดอล 28 ปีที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย

SMAP: ตำนานไอดอล 28 ปีที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย
ถ้าใครตามแวดวงบันเทิงญี่ปุ่นเป็นประจำ มั่นใจได้ว่าต้องเคยได้ยินชื่อของวงไอดอล SMAP กันแทบทั้งสิ้น เพราะพวกเขาปรากฏอยู่ในแทบทุกจุด ทำทั้งงานเพลง เล่นหนัง เล่นละคร เป็นพิธีกรรายการวาไรตี้ ถ่ายโฆษณา ทำอาหาร และอื่น ๆ อีกมากมาย ถึงปัจจุบัน SMAP จะแยกทางกันไปแล้ว แต่อิทธิพลและความยิ่งใหญ่ของวงก็ยังเป็นตำนานไม่มีเสื่อมคลาย และไม่น่ามีใครลืมเลือนง่าย ๆ ในอนาคตอันใกล้ 9 กันยายน 2019 ที่ผ่านมา ถือเป็นวันครบรอบ 28 ปีที่พวกเขาทั้ง 5 (+1) คน ได้แก่ นากาอิ มาซาฮิโระ (Nakai Masahiro), คิมูระ ทาคูยะ (Kimura Takuya), อินางากิ โกโระ (Inagaki Goro), สึโยชิ คุซานากิ (Tsuyoshi Kusanagi) และ คาโทริ ชิงโงะ (Katori Shingo) - รวมถึง โมริ คัตสึยูกิ (Mori Katsuyuki) ที่ออกจากวงไปก่อน - เดบิวต์อย่างเต็มตัวเมื่อปี 1991 แม้จะผ่านไปกว่า 3 ปีที่พวกเขาแยกทางกัน แต่คนจำนวนมากยังคิดถึง SMAP อยู่ แฟน ๆ ต่างทำโปรเจกต์เฉลิมฉลองวาระนี้ตามพื้นที่ต่าง ๆ ร้านขายซีดีเพลงทั่วญี่ปุ่นเอาแผ่นซิงเกิลและอัลบั้มของวงมาตั้งบูธขาย ตกแต่งประดับประดาอย่างยิ่งใหญ่ และไม่มากไม่น้อย ทุกคนยังรอคอยวันที่ไอดอลชายสุดเลิฟจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง แม้โอกาสเกิดขึ้นจริงจะเป็นไปได้ยากก็ตาม SMAP เป็นวงไอดอลค่ายจอห์นนี่ (Johnny & Associates) ของ จอห์นนี คิตากาวะ (Johnny Kitagawa) ผู้ล่วงลับ ลุงจอห์นฟอร์มวงนี้ขึ้นมาโดยคัดเลือกเด็ก Johnny’s Jr. 6 คน ที่ประกอบไปด้วย นากาอิ, คิมูระ, โมริ, โกโระ, สึโยชิ และ ชิงโงะ ซึ่งตอนนั้นอายุประมาณ 15-18 ปี และมีประสบการณ์เป็นเด็ก Skate Boys หรือแบ็คแดนเซอร์ให้กับวงรุ่นพี่ Hikaru Genji มาประมาณ 3 ปี  ลุงจอห์นตั้งชื่อวงว่า SMAP ซึ่งย่อมาจาก Sports Music Assemble People ก่อนเดบิวต์อย่างเป็นทางการมีการโปรโมทพวกเขาผ่านสื่อสารพัด มีการจัดคอนเสิร์ตในนามวง ส่งเมมเบอร์ไปเล่นละครทีวี ถ่ายแบบลงนิตยสาร และอื่น ๆ สารพัด แต่เมื่อซิงเกิลแรก ‘Can't Stop!! Loving’ วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 กันยายน ปี 1991 กลับผิดคาด ถึงขนาดที่ตัวค่ายผิดหวัง เมื่อเปิดตัวด้วยยอดขายเป็นอันดับ 2 เท่านั้น ต่างจากไอดอลค่ายจอห์นนี่วงอื่น ๆ ที่มักครองอันดับ 1 เสมอ  หลังจากนั้นถึง SMAP จะพยายามมากแค่ไหน จะปล่อยซิงเกิลใหม่ออกมากี่เพลง ยอดขายและอันดับก็ไม่กระเตื้องขึ้นเท่าไหร่เลย หนำซ้ำดูจะแย่กว่าเดิมเสียอีก ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วง 2-3 ปีแรกถือเป็นช่วงเวลาอันมืดมนจนเกือบได้วงแตกตั้งแต่ตอนนั้น ความตกต่ำของ SMAP จริง ๆ ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ เพราะช่วงนั้นวงการไอดอลทั้งญี่ปุ่นกำลังซบเซาอย่างหนัก ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ผู้คนหันไปฟังเพลงแนวอื่นมากขึ้น แต่ขณะที่กราฟชีวิตตกต่ำขั้นสุด พวกเขาก็ค่อย ๆ ผงาดขึ้นมาพาแวดวงไอดอลกลับมายิ่งใหญ่จนถึงทุกวันนี้ และสุดท้ายก็กลายเป็นดาวค้างฟ้า  [caption id="attachment_12331" align="alignnone" width="636"] SMAP: ตำนานไอดอล 28 ปีที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย อินางากิ โกโระ, คิมูระ ทาคูยะ, นากาอิ มาซาฮิโระ, สึโยชิ คุซานากิ, คาโทริ ชิงโงะ[/caption] เคล็ดลับความสำเร็จของ SMAP อยู่ที่วิธีการอันเหนือความคาดหมาย นั่นคือการมุ่งหน้าเข้าสายวาไรตี้ ถือเป็นเรื่องฮือฮามากในสมัยนั้นเมื่อไอดอลหนุ่มหล่อหน้าตาดีหันมาเล่นตลก และไม่ใช่ตลกธรรมดา แต่เป็นตลกเจ็บตัว ตลกบ้า ๆ บอ ๆ แต่งหญิงสร้างเสียงฮาไปทั่วบ้านทั่วเมือง เนื่องจากแต่ไหนแต่ไร วงการไอดอลจะมีแนวทางปฏิบัติว่าต้องมีภาพลักษณ์ที่ดูดี ดูหล่อสวยตลอดเวลา แต่ SMAP กลับแหกกรอบความเชื่อของใครต่อใครแล้วดันขายได้ พวกเขาปฏิวัติวงการจากหน้ามือเป็นหลังมือ สร้างมาตรฐานใหม่ไปโดยปริยายให้รุ่นน้องในวงการได้เอาเยี่ยงเอาอย่าง และเวทีที่ทำให้ SMAP ฉายแสงแห่งความรั่วมากที่สุด คือรายการทีวีของวงเองอย่าง SMAPxSMAP (อ่านว่า สมา-สมา) ที่ออกอากาศเทปแรกทางช่อง FujiTV เมื่อปี 1996 เปิดพื้นที่ให้เมมเบอร์ได้ทำอะไรฮา ๆ นอกเหนือจากการร้องเพลง ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร เล่นมุกตลกล้อเลียนวัฒนธรรมป็อปดัง ๆ ในสมัยนั้น และอีกมากมายจนเรตติ้งถล่มทลายเป็นประจำ นอกจากการรับงานสายวาไรตี้ เมมเบอร์ SMAP ยังแยกย้ายกันไปรับงานที่หลากหลายเพิ่มศักยภาพตัวเอง แต่ละคนหมั่นเล่นหนัง เล่นซีรีส์ ถ่ายแบบ เป็นพิธีการรายการโทรทัศน์ จนได้ดิบได้ดีกันถ้วนหน้า แต่คนที่ประสบความสำเร็จที่สุด สร้างกระแสในวงกว้างได้มากสุด เห็นจะเป็นกัปตันวงหนุ่มหล่อมาดเข้มอย่าง คิมูระ ทาคูยะ ที่ดังเป็นพลุแตกจากบทพระเอกซีรีส์ทีวีหลายเรื่อง จนได้ฉายาว่าเป็น King of Ratings จะไม่ให้คิมูระได้ฉายานี้ได้อย่างไร ในเมื่อซีรีส์ที่เขาเล่นกวาดเรตติ้งถล่มทลายจริง ๆ สำหรับงานเด่นในยุค 1990s นำลิ่วมาโดยซีรีส์รักโรแมนติกติดน้ำเน่า Long Vacation (1996) และ Love Generation (1997) ทั้ง 2 เรื่องยังเป็นอีกปัจจัยสำคัญให้คนไทยจำนวนมากชื่นชอบวง SMAP และหันมาตามวงการ J-Pop ด้วยจากการรับชมผ่านช่อง ITV ในสมัยก่อน และเขายังมีซีรีส์สุดฮิตอีกเพียบ ออกอากาศเป็นประจำทุกปี ไล่ตั้งแต่ Hero (2001), Good Luck!! (2003), Pride (2004), Engine (2005), Change (2008), Priceless (2012) และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งล้วนโกยเรตติ้งเป็นกอบเป็นกำ แถมคำวิจารณ์ยังออกมาดีไม่มีตก [caption id="attachment_12330" align="alignnone" width="1200"] SMAP: ตำนานไอดอล 28 ปีที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย Hero (2015) เวอร์ชันภาพยนตร์[/caption]   นอกจากนี้ด้วยความที่เขามาดหล่อเท่ เข้ม แถมเป็นหัวขบถตัวพ่อ เลยกลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมที่สาว ๆ ทุกคนต่างหลงใหล ไม่ว่าจะออกผลงานใด ๆ ออกมา จะงานเดี่ยวหรืองานของวงล้วนขายดีและเป็นที่ต้องการในวงกว้าง อานิสงส์จากความดังสนั่นฟ้าของเขาทำให้เมมเบอร์ SMAP คนอื่น ๆ เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย แต่ทุกคนไม่ได้นั่งเฉย ๆ รอคอยใบบุญจากคิมูระอย่างเดียว พวกเขาตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตัวเองอย่างเต็มที่ ทำให้แบรนด์ของ SMAP น่าจดจำและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ไม่ว่าวงจะทำอะไรก็ติดลมบน ประสบความสำเร็จไปหมด แม้กระทั่งงานเพลงจากที่เคยขายไม่ออกก็ขายดีมีเพลงฮิตติดชาร์ตมากมาย หนึ่งในข้อครหาที่อยู่คู่ SMAP มานานคือ พวกเขาไม่ใช่วงที่ร้องเพลงเก่งหรือร้องเพลงเพราะแต่อย่างใด แถมยังเต้นไม่เคยพร้อมเพรียงกัน แต่แฟนคลับกลับไม่มีปัญหาในส่วนนี้เลย เพราะทุกครั้งที่พวกเขาปรากฏตัวบนเวที เสียงร้องของพวกเขากลับสอดประสานเข้ากันชวนต้องมนต์ ทุกการเคลื่อนไหวของ 5 หนุ่มชวนให้มองโดยไม่อาจคลาดสายตา แถมเมมเบอร์ทุกคนยังเอนเตอร์เทนคนดูให้สนุกจนลืมจุดอ่อนเหล่านี้ไปโดยปริยาย นอกจากนั้นแต่ละเพลงที่ปล่อยออกมาล้วนฟังสนุก ฟังเพลิน สามารถเข้าถึงคนวงกว้างได้โดยง่าย และด้วยความเป็นมืออาชีพสูง มีความเป็นกันเอง ทำให้บรรดาโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง และนักดนตรีทั่วญี่ปุ่นต่างอยากร่วมงาน อยากทำเพลงกับ SMAP กันทั้งนั้น  หนึ่งในเพลงเด่น ๆ ของวงประกอบด้วย ‘Gambarimashou’ เพลงเปรี้ยงเพลงแรก ๆ ที่ได้ยอดขายสูงกว่า 720,000 ชุด, ‘Best Friends’ เพลงช้าว่าด้วยมิตรภาพอันดีงามระหว่างเมมเบอร์ทุกคน เป็นเพลงที่เมมเบอร์รวมถึงแฟน ๆ ฟังทีไรก็น้ำตาร่วง, ‘Original Smile’ กับ ‘Shake’ เพลงเร็วฟังสนุกจังหวะโดน ๆ, ‘Yozora no Moku’ ซิงเกิลแรกของวงที่ทำยอดขายได้เกิน 1 ล้านชุด และ ‘Lion Heart’ เพลงรักซึ้ง ๆ หนึ่งในเพลงฮิตประจำงานแต่งงาน แต่เพลงที่ดังสุดของวงจะเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก ‘Sekai ni Hitotsu Dake no Hana’ เพลงเพราะ ๆ ความหมายดีงาม ซึ่งเปรียบเปรยทุกคนว่าเหมือนกับดอกไม้ที่มีความงดงามแตกต่างกันไปในแต่ละดอก และมีความเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียว กลายเป็นเพลงฮิตสนั่นญี่ปุ่น เดินไปที่ไหนก็ต้องได้ยินเสียงเพลงนี้ และหลังวางจำหน่ายในปี 2003 สามารถขายได้ถึง 2.57 ล้านแผ่น ก่อนจะพุ่งทะลุหลัก 3 ล้านแผ่นจนได้เมื่อสิ้นสุดปี 2016 ส่วนยอดขาย Sekai ni Hitotsu Dake no Hana นับถึงตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 3,132,000 แผ่น [caption id="attachment_12362" align="alignnone" width="640"] SMAP: ตำนานไอดอล 28 ปีที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย ปกซิงเกิล Sekai ni Hitotsu Dake no Hana[/caption]   ตลอดระยะเวลา 20 กว่าปีที่ SMAP มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการ นอกจากเรื่องดี ๆ ที่เข้ามาเสมอ พวกเขายังพบเจอเรื่องดรามาน่าปวดหัวอยู่เป็นประจำ แต่น่าสังเกตว่าไม่ว่าจะเจอเรื่องโหดร้ายแค่ไหน พวกเขาก็สามารถผ่านมาได้เสมอ ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นอาจจบเห่ตั้งแต่ครั้งแรก ดรามาที่โด่งดังมากของวงเริ่มจากการที่ โมริ คัตสึยูกิ ตัดสินใจลาออกจากวงและค่ายอย่างกะทันหัน เพื่อไปเป็นนักแข่งมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นความฝันของเขามาตั้งแต่เด็ก สร้างความเดือดดาลให้กับลุงจอห์นนี และ แมรี คิตากาวะ (Mary Kitagawa) อีกหนึ่งผู้บริหารระดับสูงของค่ายอย่างมาก จนชื่อและภาพของโมริกลายเป็นสิ่งต้องห้าม  อย่างไรก็ตาม บรรดาหนุ่ม ๆ SMAP ยังติดต่อสื่อสารกับโมริอยู่เสมอ และพยายามพูดถึงเขาออกอากาศอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะในรายการ SMAPxSMAP ความกล้าออกตัว กล้าแหกคอกไม่กลัวโดนตำหนิ ทำให้นี่เป็นหนึ่งในความบาดหมางครั้งสำคัญระหว่าง SMAP กับค่าย ซึ่งจะดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต อีกเรื่องที่หนักไม่แพ้กันคือการประกาศแต่งงานของ คิมูระ กับ คุโดะ ชิซูกะ (Kudo Shizuka) ไอดอลสาวที่โด่งดังมากในยุค 1980s หลังจากเขาทำเธอตั้งครรภ์ ข่าวหนุ่มหล่อมาแรงแซงทางโค้งประกาศแต่งงานกับหญิงสาวในช่วงที่ตัวเองกำลังก้าวไปสู่จุดพีค เกิดขึ้นขณะวงกำลังทัวร์คอนเสิร์ตอยู่ สร้างความตกตะลึงไปทั้งวงการ แถมแฟนคลับหลายคนทำใจไม่ได้ประกาศเลิกสนับสนุน  ช่วงนั้นสถานการณ์สาหัส จนหลายคนคิดว่าคิมูระถึงวันดับแน่ แต่เชื่อหรือไม่ว่าผลงานของเขาหลังจากนั้นกลับประสบความสำเร็จกว่าเดิมด้วยซ้ำ ซีรีส์ Hero ที่เขาเล่นเป็นอัยการหนุ่มผู้มีความมุ่งมั่น ทำเรตติ้งถล่มทลายไม่เคยต่ำกว่า 30% นอกจากจะฟื้นฟูชื่อของเขาให้กลับมาอย่างงดงามแล้ว อาชีพอัยการยังกลายเป็นอาชีพในฝันที่คนจำนวนมากต่างอยากเป็นด้วย หรือการมีข่าวฝ่าฝืนกฎหมายของ โกโระ และ สึโยชิ รายแรกจอดรถในที่ห้ามจอดแล้วยังขับหนีจนเฉี่ยวชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลายเป็นข่าวใหญ่จนเขาโดนพักงานนานหลายเดือนช่วงปี 2002 ส่วนรายหลังเมาแล้วแก้ผ้าในที่สาธารณะในปี 2009 กลายเป็นข่าวอื้อฉาวทำให้เจ้าตัวต้องโดนพักงานไปอีกคน แต่ทุกครั้งที่มีเรื่องน่าปวดหัว พวกเขาจะรับรู้ถึงความผิดพลาด และปรับปรุงแก้ไขตัวเองให้ดีขึ้นเสมอ พวกเขาแสดงออกมาผ่านผลงานที่คงคุณภาพยิ่งขึ้นจริง ๆ แถมฐานแฟนคลับที่รักจริงก็ให้การสนับสนุนอย่างเหนียวแน่น ไม่ทิ้งพวกเขาไปไหน ในช่วงเวลาที่ใครต่อใครคิดว่า SMAP จะอยู่ค้ำฟ้า ไม่น่ามีเรื่องอะไรมาพรากพวกเขาทั้ง 5 คนออกจากกันได้ ต่อให้จะมีข่าวลือว่า SMAP วงแตก หรือลือว่าเมมเบอร์คนนั้นคนนี้จะออกจากวงเป็นประจำ แต่มันก็ไม่เคยเฉียดใกล้ความเป็นจริง จนกระทั่งในปี 2016 ฝันร้ายกลับกลายเป็นความจริงจนได้ SMAP ประกาศยุบวง และจะทำหน้าที่จนถึงสิ้นปีเท่านั้น กลายเป็นข่าวช็อกที่ไม่เพียงสะเทือนไปทั้งญี่ปุ่น แต่สะเทือนถึงระดับโลก ปีดังกล่าวเป็นปีที่สาหัสสำหรับ SMAP และแฟนคลับ มันควรจะเป็นปีอันยิ่งใหญ่สำหรับฉลองครบรอบ 25 ปีของวง แต่พวกเขากลับต้องรับมือกับข่าวเศร้าและสารพันดรามาตั้งแต่หัวปียันท้ายปี โดยสาเหตุสำคัญปฏิเสธไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องกับการงัดข้อกันระหว่างค่ายกับวง ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานานกว่า 20 ปี เมมเบอร์ SMAP ทั้ง 5 คนประกาศว่าพวกเขาจะปฏิบัติหน้าที่ต่อในฐานะเมมเบอร์ SMAP จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2016 พวกเขาปรากฏตัวพร้อมกันทั้ง 5 คนเป็นครั้งสุดท้ายในรายการ SMAPxSMAP ตอนสั่งลาความยาว 3 ชั่วโมงในวันที่ 26 ธันวาคม พร้อมกับร้องเพลงเด่นของวงเป็นการส่งท้าย หนึ่งในนั้นคือ ‘Sekai ni Hitotsu Dake no Hana’ ภาพสุดท้ายของพวกเขาทั้ง 5 คนที่พยายามทำตัวเข้มแข็งยังติดตรึงอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน เป็นภาพที่คิดถึงทีไรก็มีแต่ความโศกเศร้า [caption id="attachment_12332" align="alignnone" width="1200"] SMAP: ตำนานไอดอล 28 ปีที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย SMAP (สึโยชิ, คิมูระ, ชินโงะ, นากาอิ, โกโระ)[/caption]   ก่อนจากลา พวกเขายังออกอัลบั้มสุดท้ายเป็นอัลบั้มรวมฮิต SMAP 25 Years โดยเปิดโอกาสให้แฟน ๆ ได้ร่วมกันโหวต 50 เพลงที่ชอบที่สุดของวง โดยเพลงที่ติดอันดับจะได้รับการบรรจุอยู่ในอัลบั้ม สำหรับเพลงที่ได้ยอดโหวตอันดับที่ 1 ไม่ใช่ ‘Sekai No Hito Sudakeno Hana’ แต่เป็น ‘Stay’ เพลงจากอัลบั้ม Pop Up SMAP มีเนื้อหาตามชื่อเลย นั่นคือพูดถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นที่จะอยู่ด้วยกัน ไม่ทิ้งกันไปไหนแม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปี การเลือกเพลงนี้ให้เป็นอันดับ 1 คือสิ่งที่บ่งบอกความในใจของแฟน ๆ จริง ๆ ว่ายังอยากเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันต่อไปนาน ๆ นอกจากการโหวตเพลงในอัลบั้มทิ้งทวน แฟน ๆ ยังแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ด้วยการทำโปรเจกต์ดันซิงเกิล ‘Sekai No Hito Sudakeno Hana’ ให้ยอดขายผ่านหลัก 3 ล้านแผ่น เป็นเกียรติประดับติดไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นซิงเกิลที่ขายดีที่สุดประจำยุคเฮเซ และเป็นเพียง 1 ใน 3 ซิงเกิลเท่านั้นที่ขายได้เกินหลัก 3 ล้านแผ่น และการมุมานะของแฟน ๆ ก็บรรลุผลอย่างงดงาม การแสดงพลังนี้ติดเทรนด์ในวงกว้าง และไม่ได้ส่งผลแค่ยอดขายของเพลงนี้ แต่ยอดขายของซิงเกิลและอัลบั้มเก่า ๆ ยังเพิ่มสูงขึ้นด้วย ถือเป็นของขวัญขอบคุณที่พวกเขาทั้ง 5 คนเหน็ดเหนื่อยมานาน หลังแยกวง เมมเบอร์แต่ละคนต่างแยกย้ายไปตามทางของตัวเอง นากาอิ และ คิมูระ อยู่กับค่ายจอห์นนีต่อ นากาอิ เน้นรับงานพิธีกรรายการโทรทัศน์เป็นหลัก ถือเป็นพิธีกรคิวทองประจำญี่ปุ่น ส่วน คิมูระ ยังคงรับงานละคร ยังคงความเป็นพระเอกซีรีส์ชั้นแนวหน้าเช่นเคย ด้าน โกโระ, สึโยชิ และ ชิงโงะ พวกเขาออกจากค่ายในช่วงปีต่อมา แล้วฟอร์มวงใหม่ Atarashii Chizu (หากแปลความหมายตรงตัวจะแปลว่าแผนที่ใหม่ หรือ New MAP ซึ่งใครต่อใครตีความว่าหมายถึง NEW SMAP) เน้นปรากฏตัวผ่านสื่อออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งเป็นช่องทางที่ค่ายจอห์นนีไม่ถนัดและไม่ทรงอิทธิพลนัก แต่ละคนเปิด Twitter และ Instagram มียอดคนกดติดตามสูงมาก แต่อาจไม่ได้ปรากฏตัวผ่านหน้าจอโทรทัศน์แบบเมื่อก่อน เนื่องด้วยปัญหาน่าปวดหัวที่เกี่ยวพันกับการเมืองในวงการบันเทิง  [caption id="attachment_12329" align="alignnone" width="704"] SMAP: ตำนานไอดอล 28 ปีที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย Atarashii Chizu (สึโยชิ ,โกโระ, ชิงโงะ)[/caption]   ถึงแม้ว่าทุกวันนี้พวกเขาอาจไม่ใช่ SMAP แล้ว แต่แฟน ๆ และคนทั้งวงการยังมองว่าพวกเขาคือคนเดิมกับที่พบเห็นมาตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ยังมีความเป็นมืออาชีพ ตั้งใจทำงานทำการอย่างมุ่งมั่น และไม่ว่าจะเลือกเดินทางสายใด ทั้ง 5 คนยังไปได้ดีกับสายงานที่ทำ ยังมีฐานแฟนคลับกลุ่มใหญ่ตามสนับสนุนพวกเขาต่อไป ชื่อของ SMAP อาจกลายเป็นอดีต แต่ตำนานต่าง ๆ ไม่เคยเสื่อมคลาย เพลงของ SMAP ยังคงเปิดให้ได้ยินผ่านหลายช่องทาง เมมเบอร์แต่ละคนยังมีงานผ่านสื่อทุกวันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าเรื่องการแยกวงจะเจ็บปวดรวดร้าวเพียงใด แต่พลังของ 5 (+1 คน) หนุ่มจะยังสร้างความสุขให้แก่ผู้คนเสมอ ไม่มีใครรู้ว่า SMAP จะกลับมารวมตัวกันอีกหรือไม่ แต่แฟน ๆ ก็พร้อมจะเฝ้ารอต่อไป ไม่ว่าจะนานเพียงใดก็จะรอ   เรื่องโดย: ปารณพัฒน์ แอนุ้ย   ข้อมูลจาก https://www.oricon.co.jp/news/2144798/full/?fbclid=IwAR0CZV-p3GtmejNaMow_QjSpNglVkzELoyHJmHkgdmJzKpnSYZQ0mnIkOpo https://www.japantimes.co.jp/culture/2019/04/07/entertainment-news/smap-pop-idol-media-monopoly-dominated-heisei-era/?fbclid=IwAR1ULJGvz0K7pV4lPzOs0ZXLNzoJmPWxRusa85vRTINqWWZklBtgKR1exM8#.XYsvIEYzZPY https://www.japantimes.co.jp/life/2017/06/26/language/three-former-smap-singers-leave-talent-agency-september/?fbclid=IwAR1dIG5VuhHB6AWjeEyVvKw37BR3y6UUmrBPGt33h9LCi7YlbxHPpopncp0#.XYsvh0YzZPY https://www.japantimes.co.jp/culture/2017/11/09/music/former-smap-stars-find-freedom-online/?fbclid=IwAR39Cy40KpoikUpGwiWnIKzya3IIyFI_Q8uml_5KQuioIV6Zf3YXFvddLMk#.XYsvfEYzZPY http://www.billboard-japan.com/d_news/detail/43882/2?fbclid=IwAR2_gadOtdFdivwILRkzQh3dNhjS8sOabLVu_N0aLMV50H0JqMMGBb48X-w