‘อี ซูจิน’ อดีตภารโรงในโรงแรมคู่รัก ปั้นแอปให้บริการจองที่พัก Yanolja จนเป็นมหาเศรษฐี

‘อี ซูจิน’ อดีตภารโรงในโรงแรมคู่รัก ปั้นแอปให้บริการจองที่พัก Yanolja จนเป็นมหาเศรษฐี

เรื่องราวของ ‘อี ซูจิน’ เด็กกำพร้าที่โตมาเป็นภารโรงทำงานสารพัดอย่างในโรงแรมสำหรับคู่รัก ใช้จุดพลิกผันเมื่อมีการออกกฎหมายต่อต้านการค้าประเวณีในเกาหลีใต้ ปั้นเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Yanolja จนกลายเป็นมหาเศรษฐี

  • อี ซูจิน เคยเป็นภารโรงในโรงแรมสำหรับคู่รัก เขาต้องทำงานจิปาถะ ตั้งแต่ดูแลบริการที่จอดรถ เปลี่ยนผ้าปูเตียง เก็บกวาดทำความสะอาดห้องพักหลังจากลูกค้าเสร็จกิจแล้ว 
  • เมื่อเกิดข้อจำกัดทางกฎหมาย ชายหนุ่มชักชวนให้เจ้าของโรงแรมสำหรับคู่รักหันมาจับลูกค้านักท่องเที่ยว กลุ่มครอบครัว และนักเดินทางเพื่อทำธุรกิจ ทดแทนกลุ่มลูกค้าที่หวังใช้ห้องพักเพื่อกิจกรรมทางเพศอย่างเดียว 

'อี ซูจิน' (Lee Su-jin) กำพร้ามาตั้งแต่เด็ก เขาต้องไปขออาศัยตามบ้านญาติ ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ปัจจุบันชีวิตของซูจินวัย 45 ปี ไม่ได้ลำบากลำบนอีกต่อไป แถมยังห่างไกลคำว่าจนไปหลายขุม เขากลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 26 ในเกาหลีใต้ ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

ความร่ำรวยของซูจินมาจากสัดส่วนการถือหุ้นใน 'Yanolja' ซึ่งเป็นซุปเปอร์แอปท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ ที่เขาก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2005 โดยหุ้นของเขา ภรรยา และลูกสาว รวมกันแล้วอยู่ที่ 32% 

จุดเริ่มต้นความสำเร็จเกิดขึ้นเมื่ออายุ 23 ปี เขาได้ทำงานเป็นภารโรงในโรงแรมสำหรับคู่รักที่เรียกว่า 'เลิฟ โฮเทล' (love hotel) ซึ่งถ้าจะพูดให้เห็นภาพก็คือ 'โรงแรมม่านรูด' ในบ้านเรานั่นเอง 

ระหว่างทำงานที่นั่น ชายหนุ่มต้องทำงานจิปาถะ ตั้งแต่ดูแลบริการที่จอดรถ เปลี่ยนผ้าปูเตียง เก็บกวาดทำความสะอาดห้องพักหลังจากลูกค้าเสร็จกิจแล้ว 

สำหรับที่พักแนวอีโรติกนี้มีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่น ก่อนจะขยายเข้าสู่เกาหลีในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ซึ่งเป็นยุคที่มีการเปิดเสรีทางเพศมากขึ้น 

แม้ใครจะมองเป็นสถานที่หมิ่นเหม่ แต่สำหรับซูจิน เลิฟโฮเทลเป็นเหมือนหลุมหลบภัยสำหรับคนที่ไม่มีทางเลือกในชีวิตมากนักอย่างเขา เขาทำงานที่นี่เพื่อแลกกับที่พักและค่าจ้างเพื่อประทังชีวิต

 

แต่ธุรกิจเลิฟโฮเทลกลับไม่ยั่งยืน อุตสาหกรรมนี้เริ่มพังทลายด้วยถูกมองเป็นแหล่งบ่มเพาะอาชญากรรมและนำมาสู่การผิดผัวผิดเมีย

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อปี 2004 เมื่อเกาหลีใต้ออกกฎหมายต่อต้านการค้าประเวณี ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับเลิฟโฮเทลอย่างมหาศาล 

ชายหนุ่มนำเงินสะสมไปลงทุนในหุ้นและทำสลัดขาย แต่ก็ล้มหลวไม่เป็นท่า จนเขาต้องหวนคืนสู่ธุรกิจที่เขาใช้เวลาคลุกคลีกับมันมากที่สุด 

"ผมคิดว่าประสบการณ์การทำงานที่เลิฟโฮเทลเป็นประโยชน์มาก มันทำให้ผมเข้าใจธรรมชาติของอุตสาหกรรมนี้" ซูจินกล่าวเมื่อครั้งให้สัมภาษณ์กับ CNBC Make It 

เมื่อต้องสู้อีกสักตั้ง ซูจินพยายามสร้างเครือข่ายชุมชนบนโลกออนไลน์ เพื่อเป็นตัวเชื่อมระหว่างซัพพลายเออร์กระดาษชำระ ผ้าเช็ดตัว และเจ้าของโรงแรม ต่อมาในปี 2005 เขาก็ปรับเปลี่ยนมาสู่ระบบจองห้องพักผ่านเว็บไซต์ Yanolja ซึ่งแปลว่า "Hey, let's play" หรือ "มาเล่นกันเถอะ" เพื่อให้บรรดาเจ้าของโรงแรมมีช่องทางในการดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่ ๆ 

ชายหนุ่มชักชวนให้เจ้าของเลิฟโฮเทลหันมาจับลูกค้านักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มที่มีงบจำกัดและต้องการหาที่พักระยะสั้น รวมถึงกลุ่มครอบครัว และนักเดินทางเพื่อทำธุรกิจ ทดแทนกลุ่มลูกค้าที่หวังใช้ห้องพักเพื่อกิจกรรมทางเพศอย่างเดียว ซึ่งนับวันจะน้อยลงไปเรื่อย ๆ 

เขายังโน้มน้าวให้เจ้าของเลิฟโฮเทลโพสต์รูปห้องพักในระบบจอง ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมมากในเวลานั้น อารมณ์เหมือนเราไม่ค่อยเห็นโรงแรมม่านรูดโพสต์รูปโปรโมตนั่นแหละ 

ปรากฏว่าไอเดียของเขาออกมาเปรี้ยงมาก เรียกแขกได้ทั้งในเว็บไซต์และในโรงแรม 

นอกจากนี้เขายังขยายไปสู่การให้บริการจองห้องพักออนไลน์เต็มตัว แล้วต่อยอดไปสู่การให้บริการคำปรึกษาเลิฟโฮเทล ทั้งในเรื่องการตกแต่งห้องให้ดึงดูดลูกค้า อบรมวิธีป้องกันไม่ให้มีการแอบติดกล้องในห้องพัก ซอฟต์แวร์เพื่อช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวที่ลูกค้าสามารถเช็กอิน-เช็กเอาท์ ได้ด้วยตัวเอง หรือใช้หุ่นยนต์ส่งของในห้อง 

จากการคิดต่อยอดและประสบการณ์ที่เกิดจากการลงมือทำจริง ๆ  เว็บไซต์ Yanolja จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเว็บไซต์จองที่พักในโรงแรมชั้นนำของเกาหลีใต้

ต่อมาในปี 2011 Yanolja พัฒนาจากเว็บไซต์เป็นแอปพลิเคชั่นบนมือถือให้บริการครบวงจรทั้งจองโรงแรมและการเดินทาง มีพาร์ตเนอร์หลากหลายทั้งโรงแรมและเกสต์เฮาส์ มากกว่า 20,000 แห่งทั่วเกาหลีใต้ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่ง จากทั้งหมดประมาณ 46,000 แห่ง

การเติบโตของ Yanolja เตะตานักลงทุนรายใหญ่ ๆ เช่น อภิมหากองทุน 'SoftBank Vision Fund 2' ของ 'มาซาโยชิ ซัน' (Masayoshi Son) มหาเศรษฐีชาวเกาหลีที่อพยพไปญี่ปุ่น ซึ่งได้เข้าซื้อหุ้นของ Yanolja เป็นมูลค่า 1,700 ล้านดอลลาร์ เมื่อปี 2021 และตอนนี้มูลค่าได้พุ่งขึ้นเป็น 6,700 ล้านดอลลาร์ 

นอกจากนี้ ยังมี 'Booking Holdings' ยักษ์ใหญ่ด้านการท่องเที่ยวออนไลน์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq เป็นนักลงทุนรายใหญ่อีกราย 

เมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่มดีขึ้น Yanolja ยิ่งโกยเงินจากการเดินทางได้มากขึ้น ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2022 แอป Yanolja ทำรายได้ไปมากถึง 345 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 87% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 22% เป็น 23,500 ล้านวอน 

ขณะที่ในเดือนมิถุนายน 2019 บริษัทของซูจินมีมูลค่าทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์ ขึ้นแท่น “ยูนิคอร์น” ลำดับที่ 8 ของเกาหลีใต้ 

นอกจากจะสามารถผ่าตัดธุรกิจเลิฟโฮเทลที่กำลังใกล้ตายได้สำเร็จ Yanolja ยังตั้งเป้าหมายเป็นผู้ให้บริการจองชั้นนำของโลก นับเป็นธุรกิจที่มาไกลเกินกว่าที่ภารโรงเลิฟโฮเทลในเวลานั้นจะกล้าฝัน

 

ภาพ: komchadluek

อ้างอิง:

cnbc

forbes

posttoday