Stefan Schauwecker ผู้ก่อตั้ง Japan-guide.com ที่มีอิทธิพลต่อการท่องเที่ยวญี่ปุ่น

• ญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางในอันดับต้นๆ ที่คนไทยและคนทั่วโลกต้องการไปเยือน
• Stefan Schauwecker ได้ก่อตั้ง Japan-guide.com ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือด้านข้อมูลของการท่องเที่ยวญี่ปุ่น
• ตอนนี้ Japan-guide.com เป็นเว็บไซต์ท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่มีข้อมูลมากกว่า 1,000 หน้า มีผู้เข้าชมทั่วโลกกว่า 8 ล้านคนต่อเดือน

นับตั้งแต่กลางปี 2013 ที่ญี่ปุ่นเปิดฟรีวีซ่า คนไทยก็ได้แห่ทะลักไปชื่นชมความงดงามของผู้คนและสภาพแวดล้อมของประเทศนี้ ในปี 2019 (ปีก่อนโควิด) จำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นกว่า 6 เท่าไปแตะที่ 1,148,600 คน ยอดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 5 เท่า ด้วยมูลค่ากว่า 42,000 ล้านบาท

และเมื่อญี่ปุ่นได้เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งวันที่ 11 ต.ค.2022 ก็เป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ที่คนไทยเดินทางไปเที่ยว แต่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายจนนับไม่ถ้วน สิ่งที่นักท่องเที่ยวไทย(และทั่วโลก) ต้องทำก่อนไปจึงเป็นการ ‘หาข้อมูล’ เสียก่อน

และไม่มีที่ไหนที่จะเพอเฟกต์มากเท่าเว็บไซต์ ‘Japan-guide.com’ อีกแล้ว เพราะเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลสำคัญ ๆ ด้านการท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่มีความครบครันและเป็นระบบระเบียบน่าจะที่สุดแล้ว

โดยผู้ก่อตั้งเว็บไซต์นี้ที่มีอิทธิพลต่อ ‘อุตสาหกรรมท่องเที่ยวญี่ปุ่น’ ชนิดมโหฬาร…กลับไม่ใช่คนญี่ปุ่น แต่เป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์ต่างหาก เขาคนนี้คือ ‘Stefan Schauwecker ชาวสวิสที่เกิดและเติบโตในเมืองซูริค เมืองที่ตั้งอยู่เกือบคนละซีกโลกจากญี่ปุ่น

ชีวิตในวัยเด็กของเขาก็เฉกเช่นคนทั่วไป และไม่ได้มีความเกี่ยวโยงถึงญี่ปุ่นใดๆ ทั้งสิ้น อย่างไรก็ดี คงเพราะอานิสงส์ความงดงามตามธรรมชาติของสวิตเซอร์แลนด์นี่กระมังที่ได้ช่วยยกระดับความมีสุนทรียะของเขาให้มากขึ้นในแง่ของธรรมชาติ อาหาร และผู้คน ซึ่งมีอิทธิพลไม่ใช่กับสวิตเซอร์แลนด์บ้านเกิด แต่เป็นดินแดนอาทิตย์อุทัยในอีกซีกโลกนึงต่างหาก

เหตุเกิดเพราะโรงเรียนสอน

ปี 1996 Stefan ถูกส่งไปโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษระยะสั้นที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา (ชาวสวิสส่วนใหญ่พูดภาษาเยอรมันและฝรั่งเศส) ณ โรงเรียนแห่งนี้เองที่เขาได้เปิดโลกกว้างมากขึ้นจาก 'ภาษาอังกฤษ' ที่เป็นประตูสู่ 'ข้อมูล' ข่าวสารมหาศาลทั่วโลก 

นอกจากภาษาแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ‘มิตรภาพ’ ระหว่างเพื่อนร่วมชั้นเรียน ซึ่งกลุ่มที่เขาสนิทสนทที่สุดคือบรรดาเพื่อนร่วมชั้น 'ชาวญี่ปุ่น' ที่ Stefan รู้สึกว่าช่างเฟรนลี่และเป็นมิตรเหลือเกิน สำหรับฝรั่งชาวตะวันตกอย่างเขา หลายสิ่งหลายอย่างที่ได้สัมผัสกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นคนเหล่านี้เป็นการ ‘เปิดโลก’ และได้สร้างความประทับใจลงบนหัวใจของเขา

เพื่อนชาวญี่ปุ่นกลุ่มนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำที่โรงเรียนสอนภาษาแห่งนี้ และกระตุ้นให้เขาอยากที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับ 'ประเทศญี่ปุ่น'

ความกระหายใคร่รู้เรื่องญี่ปุ่น ทำให้เขาเริ่มออกสืบค้นจากแหล่งต่างๆ แต่แล้วเขาก็พบกับอุปสรรคในการ ‘ค้นหาข้อมูล’ เกี่ยวกับญี่ปุ่น ซึ่งมีอยู่จำกัดน้อยมากและหลายอย่างดูจะเป็นการพูดเหมารวมหรือเป็นชุดความเชื่อเดิมๆ ที่มีต่อคนญี่ปุ่นตั้งแต่หลายสิบปีที่แล้ว 

Stefan ออกจะเป็นคนเหนียมอายและพูดไม่เก่ง แต่มีหัวด้านไอทีและคอมพิวเตอร์ ในเมื่อข้อมูลหายาก เขาจึงตัดสินใจสร้างมันขึ้นมาเองเลย! 

กำเนิด Japan-guide.com

เว็บไซต์ Japan-guide.com ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1996 แต่ชะตาของเว็บไซต์นี้กลับไม่เหมือนที่อื่น เพราะ Stefan ทำมันในฐานะ ‘งานอดิเรก’ เฉย ๆ ระหว่างที่เรียนไปด้วย ยังไม่ได้ออกแบบหน้าตาให้สวยงาม ยังมีข้อมูลเพียงหยิบมือ การจัดเรียงเนื้อหาก็เข้าใจยาก กล่าวทำนองได้ว่า ก่อตั้งมาเฉย ๆ ก่อน แต่ยังไม่ได้ไปจริงจังกับมันมากนัก

เมื่อเรียนจบที่โรงเรียนสอนภาษา เขากลับมาเรียนต่ออย่างจริงจังในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer science) ปรากฎว่าไปได้ดีในสาขานี้ เมื่อเรียนจบก็เข้าทำงานในบริษัทออฟฟิศ โดยยังมี Japan-guide.com เป็นงานเสริมที่มีบริษัทมาลงโฆษณาบ้างเป็นครั้งคราว

อย่างไรก็ตาม เขาฉุกคิดได้ว่า ยุคนั้นเว็บไซต์แนวนี้ยังมีอยู่น้อยมาก ๆ และเขาเองก็ชื่นชอบญี่ปุ่น น่าจะเป็นสิ่งที่ทำได้อีกนานในระยะยาว จึงตัดสินใจลาออกมาทำเต็มเวลา ทำมันจริงจังแบบถวายหัวไปเลย เลื่อนให้เป็นงานหลัก-รายได้หลักเลี้ยงชีพไปเลย 

นี่คือจุดเปลี่ยนแรกที่เว็บไซต์นี้จะได้แสดงศักยภาพที่แท้จริงซะทีหลังจากที่ถูกปฏิบัติเป็นตัวสำรองมาช้านาน

สัมผัสแรกญี่ปุ่น

และแล้วจุดเปลี่ยนก็มาถึงอีกครั้ง เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปสมัยเรียนโรงเรียนสอนภาษา นอกจากเขาจะได้ไอเดียแรงบันดาลใจก่อตั้งเว็บไซต์แล้ว เขายังได้พบเจอกับ ‘ว่าที่ภรรยา’ ในอนาคตด้วย ซึ่งเป็นสาวญี่ปุ่นเพื่อนร่วมชั้นเรียน

ทั้งคู่คบหาดูใจกันอยู่นานหลายปี จนในที่สุดได้ตกลงแต่งงานกัน และฝ่ายหญิงเรียกให้ย้ายกลับไป ‘บ้านเกิด’ ของเธอที่เมืองฟุจิโอกะ จังหวัดกุมมะ ประเทศญี่ปุ่น

ปี 2003 Stefan และภรรยาได้มายืนอยู่บนผืนแผ่นดินญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อย สำหรับฝ่ายหญิงนี่คือการกลับมาเยือนบ้านเกิดที่คุ้นเคย สำหรับสเตฟานนี่คือการเปิดโลกกว้างใบใหม่ที่ทุกอย่างดูสดใหม่

การได้มา ‘ใช้ชีวิต’ ในญี่ปุ่นจริง ๆ เปิดโอกาสให้เขาได้เดินทางตระเวนไปทั่วญี่ปุ่น กลายเป็น ‘วัตถุดิบ’ ชั้นดีในการป้อนเนื้อหาคุณภาพแบบ ‘ผ่านประสบการณ์จริง’ ลงบนเว็บไซต์ Japan-guide.com

แน่นอนเขานำเสนอเนื้อหาหลักเป็น ‘ภาษาอังกฤษ’ เพราะรู้ถึงอิทธิพลและประโยชน์มหาศาลจากสมัยเรียนที่โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ ถึงขั้นกำหนดวิสัยทัศน์ขององค์กรขึ้นมาว่า ‘ต้องการเป็นเว็บไซต์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ดีที่สุด’

ไม่แปลก(แม้แต่ในยุคแรกๆ ) ที่ใครมาค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์นี้แล้วจะได้ข้อมูลคุณภาพกลับไปเติมเต็มทริปการเดินทาง

เว็บไซต์ที่คนมาเที่ยวญี่ปุ่นต้องค้นหา

สมัยก่อนเว็บไซต์ที่มีข้อมูลเนื้อหาคุณภาพยังมีน้อยมาก ๆ ในทางธุรกิจ Stefan ได้อานิสงส์ความได้เปรียบของการเป็นเจ้าแรก (First mover advantages)  โดยเฉพาะสำหรับเว็บไซต์การท่องเที่ยวที่อัพเดทเนื้อหาคุณภาพอยู่ตลอด ข้อได้เปรียบนี้มีแต่ยิ่งทวีคูณตามการเติบโตของนักท่องเที่ยว

ปัจจุบันยังมีการทำ SEO ให้ติดหน้า 1 ใน Google ด้วยคีย์เวิร์ดที่นักท่องเที่ยวนิยมค้นหากัน เช่น ‘Japan’, ‘Tokyo’, ‘Shinjuku’, ‘Hakone’, ‘Hokkaido’, ‘Japanese food’ ซึ่งยิ่งได้รับวงจรบวกเข้าไปอีก

ไม่กี่ปีหลังจากทุ่มหมดหน้าตักและได้นำเสนอญี่ปุ่นทั่วประเทศในมุมที่แปลกใหม่ ทำให้ Japan-guide.com ขึ้นแท่นเว็บไซต์ชั้นนำด้านการท่องเที่ยว 

ปี 2008 Stefan ได้รับการแต่งตั้งอย่างสมเกียรติจากกระทรวงโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น (MILT) ให้เป็นหนึ่งใน ‘Visit Japan Ambassadors’ ในคุณูปการที่ช่วยสร้างการรับรู้และความเข้าใจแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวญี่ปุ่น เป็นเครื่องยืนยันว่าสิ่งที่เขาทำมาไม่สูญเปล่า และการเดินตามความฝันอย่างจริงจังได้ออกดอกออกผลแล้ว

พวกเราคือแรงบันดาลใจให้เขา

อีกทัศนคติที่น่าสนใจคือ เขาไม่ได้คิดตั้งต้นว่าจะนำเสนอเนื้อหาชั้นเลิศ รูปภาพความละเอียดสูง หรือทำให้เว็บไซต์ติดหน้า 1 ใน Google แต่เขายึดหลักผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง 

เป้าหมายคือ ทำให้ทริปการเดินทางท่องเที่ยวของผู้คนเป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย และมีความสุข…ถือว่าเป็นแนวคิดเรียบง่ายแต่ทรงพลัง รายละเอียดการทำเว็บไซต์ที่เหลือเป็นสิ่งที่แค่ตามมา

Stefan เองยังเขียนหนังสือภาษาญี่ปุ่น 2 เล่ม เล่มแรกเกี่ยวกับญี่ปุ่นในสายตาของชาวต่างชาติ และ เล่มที่สองเกี่ยวกับความคิดเห็นส่วนตัวของเขาที่มีต่อการท่องเที่ยวญี่ปุ่น

ทุกวันนี้ Japan-guide.com เป็นเว็บไซต์ท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่มีข้อมูลมากกว่า 1,000 หน้าเข้าไปแล้ว มีผู้เข้าชมหน้าเพจทั่วโลกกว่า 8 ล้านคนต่อเดือน เนื้อหาก็แตกแขนงออกไปครอบคลุม ‘นักเดินทางทุกกลุ่ม’ เช่น ไม่ใช่แค่เมืองใหญ่หรือแลนมาร์คสำคัญอีกต่อไป แต่ครอบคลุมถึงเมืองเล็กเมืองรองและชนบท รวมถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นต่าง ๆ ที่ยากจะหาข้อมูลได้ 

และ Stefan เองยังคงหลงใหลในประเทศนี้ที่ได้กลายเป็นบ้านใหม่ เขายวางแผนเวลา 25% ของทั้งปีเพื่อออกเดินทางตระเวนทั่วญี่ปุ่น โดยได้เดินทางไปสถานที่สำคัญแล้วกว่า 1,500 แห่งทั่วญี่ปุ่น

เกิดที่สวิตเซอร์แลนด์ มาได้แรงบันดาลใจตอนเรียนที่แคนาดา และลงหลักปักฐานที่ญี่ปุ่นในท้ายที่สุด เส้นทางการเดินทางของคุณสเตฟานจึงเป็นอีกกรณีศึกษาที่น่าสนใจไม่น้อย

ถ้าวันหน้าคุณไปเที่ยวญี่ปุ่น และค้นหาข้อมูลใน Japan-guide.com ก็ขอให้อย่าลืมชายคนนี้…

.

ภาพ : japan.go.jp

.

อ้างอิง

.

japan-guide

gov-online

shun-gate

japan.go.jp