10 ก.พ. 2566 | 13:10 น.
- ‘ญี่ปุ่น’ ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกชาชั้นเลิศ
- ไร่ชามัตสึดะ ที่ตั้งอยู่ ณ เมืองโอมาเอซากิ ถือเป็นหนึ่งในไร่ชาขึ้นชื่อ โดยเป็นไร่ชาไม่กี่รายที่ได้รับ The Emperor’s Cup รางวัลที่จะมอบให้กับไร่ชาที่ดีที่สุดเท่านั้น
- ไร่ชาแห่งนี้ ปัจจุบันมี ‘สึโยมิ มัตสึดะ’ ทายาทรุ่นที่ 5 เป็นผู้ดูแล
ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกชาชั้นเลิศ โดยเฉพาะไร่ชาที่ได้รับรางวัล The Emperor’s Cup ซึ่งในญี่ปุ่นมีเพียงไม่กี่รายที่ได้รับรางวัลนี้ หนึ่งในนั้นคือ ‘ไร่ชามัตสึดะ’ ของ ‘สึโยมิ มัตสึดะ’ (Tsuyomi Masuda) ผู้สั่งสมประสบการณ์และยึดมั่นการปลูกชา ‘ด้วยหัวใจ’ ที่ตกทอดกันมาถึง 150 ปี
สำหรับไร่ชามัตสึดะตั้งอยู่ ณ โอมาเอซากิ เมืองที่มีสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ประกอบกับมีน้ำจากเทือกเขาเจแปนแอลป์ที่เป็นน้ำบริสุทธิ์ และอุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมายในการหล่อเลี้ยงต้นชา ทำให้เมืองนี้จึงเหมาะแก่การปลูกชา
สึโยมิ มัตสึดะ เล่าว่า เขาเป็นรุ่นที่ 5 ของไร่ชามัตสึดะ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดการปลูกชามานาน 150 ปี และเคล็ดลับที่ทำให้สานต่อกันได้ยาวนานขนาดนี้ ก็คือ การมุ่งมั่นปลูกชา ‘ด้วยหัวใจ’ โดยใบชาของที่นี่จะถูกเก็บด้วยมืออย่างพิถีพิถัน และเลือกเก็บเฉพาะยอดอ่อนใบชา 3 ใบเท่านั้น
จากนั้นใบชาจะถูกนำไปนึ่งด้วยไอน้ำ เพื่อคงคุณภาพและไม่ให้สีของใบชาเปลี่ยนไป ก่อนจะนำมานวดทันที เพื่อให้ชาเกิดกระบวนการทางเคมี ใบชาของที่นี่จึงมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ และขั้นตอนทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้น จะต้องทำภายใน 4 ชั่วโมง เพื่อคงความสดของชาไว้ให้มากที่สุด
“การมุ่งมั่นและปลูกชาด้วยหัวใจ ทำให้ใบชาที่ได้ออกมาจะมีคุณภาพสูง โดยที่นี่จะเก็บได้สูงสุด 3 ครั้งต่อปี คือ ครั้งแรกในเดือนเมษายน ครั้งที่ 2 เดือนมิถุนายน และครั้งที่ 3 ในเดือนกันยายน ส่วนไทยจะสามารถเก็บใบชาได้ 5 ครั้งต่อปีเพราะมีอากาศอุ่นกว่าญี่ปุ่น”
แน่นอน ด้วยการผลิตชาด้วยหลักดังกล่าว ทำให้ไร่ชามัตสึดะมีชื่อเสียงโด่งดัง และได้รับรางวัลมากมาย โดยในปี 2015 ที่ได้รับรางวัล The Emperor’s Cup หรือชารางวัลจักรพรรดิญี่ปุ่นที่จะมอบให้กับไร่ชาที่ดีที่สุดเท่านั้น และมีไร่ชาเพียงไม่กี่รายในญี่ปุ่นที่ได้รางวัลนี้
นอกจากนี้ด้วยความตั้งใจและต้องการถ่ายทอดประสบการณ์และความสำเร็จในฐานะชาวไร่ชาที่สืบทอดกันมายาวนานให้กับคนในท้องถิ่น สึโยมิ มัตสึดะ ได้ทำการก่อตั้ง ‘บริษัท Yamama Masudaen จำกัด’ ขึ้นมาตั้งแต่ปี 1977
บริษัทดังกล่าว ไม่เพียงทำหน้าที่ถ่ายทอดองค์ความรู้การปลูกชาที่ถูกถ่ายทอดกันมายาวนาน 5 ชั่วอายุคนเท่านั้น ยังมีส่วนในการพัฒนาอุตสาหกรรมชาของญี่ปุ่น โดยเขาได้นำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ ตลอดจนขยายธุรกิจจากการปลูกชาไปสู่การผลิต และการจัดจำหน่าย
ปัจจุบันชาของไร่มัตสึดะได้ถูกจัดจำหน่ายไปในหลายประเทศ รวมแล้วกว่า 30 ประเทศ หนึ่งในนั้นคือ ประเทศไทย โดย ‘บริษัท โออิชิ จำกัด (มหาชน) ได้นำชาจากไร่แห่งนี้มาผลิตเป็น ‘โออิชิ โกลด์’ สินค้าชาระดับพรีเมียมของโออิชิ
สึโยมิ มัตสึดะ ย้ำว่า เขาจะยังสืบสานการปลูกชา ‘ด้วยหัวใจ’ ที่สืบทอดกันมานาน 150 ปีนี้ต่อไป รวมถึงพัฒนาคุณภาพควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านอื่นๆ ทั้งการนำเทคโนโลยีมาใช้ การพัฒนาใบชาใหม่ๆ เป็นต้น เพื่อให้ไร่ชามัตสึดะเดินหน้าต่อไปในอนาคต
ภาพ : The People,โออิชิ