‘แดเนียลส์’ จากศพตดสู่ซือเจ๊ สองผู้กำกับคู่ซี้จาก Everything Everywhere All At Once

‘แดเนียลส์’ จากศพตดสู่ซือเจ๊ สองผู้กำกับคู่ซี้จาก Everything Everywhere All At Once

‘แดเนียลส์’ (The Daniels) สองผู้กำกับคู่ซี้ชื่อเดียวกัน ‘แดเนียล กวัน’ (Daniel Kwan) และ ‘แดเนียล ไชเนิร์ท’ (Daniel Scheinert) มันสมองผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์ Everything Everywhere All At Once (2022) ที่กวาดรางวัลออสการ์ครั้งที่ 95 ไปกว่า 7 สาขา กับอดีตฉายา ‘ผู้กำกับศพตด’

แดเนียลส์’ (The Daniels) สองผู้กำกับคู่ซี้ชื่อเดียวกัน ‘แดเนียล กวัน’ (Daniel Kwan) และ ‘แดเนียล ไชเนิร์ท’ (Daniel Scheinert) มันสมองผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์ Everything Everywhere All At Once (2022) ที่กวาดรางวัลออสการ์ครั้งที่ 95 ไปกว่า 7 สาขา 

แดเนียลส์’ (The Daniels) สองคู่ซี้ผู้กำกับชื่อเหมือนกัน มันสมองผู้อยู่เบื้องหลัง Everything Everywhere All at Once (2022) คว้าทั้งรางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม บทดั้งเดิมยอดเยี่ยม จนถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง นับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่สำหรับผู้กำกับทั้งสองเพราะท่ามกลางผู้เข้าชิงคนอื่น ๆ รวมถึง ‘สตีเวน สปีลเบิร์ก’ (Steven Spielberg) พ่อมดแห่งฮอลลีวูดที่ตีแผ่เรื่องราวในวัยเด็กของตนเอง แดเนียลส์คือผู้ที่คว้ารางวัลดังกล่าวมาครองกับผลงานการกำกับ Everything Everywhere All at Once ไปได้สำเร็จ

‘แดเนียลส์’ จากศพตดสู่ซือเจ๊ สองผู้กำกับคู่ซี้จาก Everything Everywhere All At Once

ในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักกับสองคู่ซี้ ผู้กำกับคู่ฮา แดเนียลกับแดเนียล กับเส้นทางชีวิตที่ก่อนจะผสานรวมกันเป็นหนึ่ง ที่อดีตเคยไม่ค่อยชอบหน้ากันมาก่อน และพาไปดูว่าเพราะเหตุใดเขาทั้งคู่เคยได้ฉายาว่าเป็น ‘ผู้กำกับศพตด
 

แดเนียล + แดเนียล = แดเนียลส์

ก่อนจะกลายมาเป็น ‘แดเนียลส์’ (Daniels) ดูโอ้ผู้กำกับเจ้าของวิสัยทัศน์ที่พาซือเจ๊ไปทะลุมิติกับภาพยนตร์เรื่อง Everything Everywhere All at Once (2022) ที่พาทั้งตัวเอง ทีมงาน และรวมถึงนักแสดงกวาดรางวัลออสการ์กันติดไม้ติดมือไปกว่า 7 รางวัลในค่ำคืนการประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 95 พวกเขาทั้งสองเคยเป็น ‘แดเนียล’ (Daniel) กับ ‘แดเนียล’ (Daniel) แบบไม่ต้องมี ‘เอส’ (s) ต่อท้ายกันมาก่อน

แดเนียลทั้งสองที่เรากำลังกล่าวถึงอยู่นี้ประกอบไปด้วย ‘แดเนียล กวัน’ (Daniel Kwan) และ ‘แดเนียล ไชเนิร์ท’ (Daniel Scheinert) แหงล่ะ ว่าทั้งคู่ไม่ได้ติดกันเป็นปาท่องโก๋เหมือนภาพจำที่เราเห็นทุกวันนี้ ย้อนกลับไปในสมัยเรียน กวันและไชเนิร์ทเจอกันในวิชาอนิเมชั่น 3 มิติขณะที่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยอิเมอร์สัน (Emerson College)

แม้จะเรียนที่เดียวกันก็ใช่ว่าทั้งคู่จะกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เริ่ม กลับกันเลยเสียด้วยซ้ำ ในช่วงแรก ๆ ที่ยังไม่ได้รู้จักกันจริง ๆ จัง ๆ ทั้งคู่กลับรู้สึกว่าไม่ค่อยถูกชะตากันเสียเท่าไหร่ ทั้งคู่แชร์ความรู้สึกและความทรงจำที่มีต่อกันในสมัยเรียนว่า ไชเนิร์ทจะเป็นเด็กหน้าห้อง ยกมือตอบแทบจะทุกคำถาม จนบางทีก็ค่อนข้างน่ารำคาญสำหรับบางคนเลยทีเดียว ส่วนกวันก็ตรงกันข้าม เขาเงียบขรึม ไม่ได้ยกมือตอบเหมือนแดเนียลอีกคน
 

เรื่องของพวกเรานี่คล้ายกับหนัง รอม-คอม เลยนะ

กวันกล่าวอธิบาย ก่อนที่ไชเนิร์ทจะเสริมต่อว่า

ผมอะเคยดูหนังเกี่ยวคู่กับสามี-ภรรยาที่ต้องแก้ไขปัญหาดด้วยกันทั้งคู่ แล้วผมก็รู้สึกแบบ ‘เฮ้อออ ทำไมกูเก็ทฟีลวะ

ตรงตามทีททั้งคู่กล่าว ความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นละม้ายคล้ายคลึงกับภาพยนตร์รักปนตลก ไม่ใช่เพราะพวกเขาลงเอยด้วยกันในเชิงโรแมนติคในตอนจบ แต่มิตรภาพของทั้งคู่เริ่มต้นขึ้นด้วยการไม่ชอบขี้หน้ากัน ก่อนที่ทั้งคู่จะบังเอิญได้ไปพูดคุยกันตอนที่กวันไปสอนไชเนิร์ทใช้โปรแกรม After Effects นและก็ได้เข้าใจทีหลังว่า ‘ไอนี่มันก็ไม่ได้แย่อย่างที่เราคิดนี่หว่า

แต่พวกเขาก็ไม่ได้เริ่มทำหนังในตอนที่เริ่มสนิทกันในทันที แต่นี่คือจุดเริ่มต้นของการผนวกรวมที่แปรเปลี่ยนจาก แดเนียล และ แดเนียล เป็น ‘แดเนียลส์

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย: หากมีคนชื่อซ้ำกัน ในประเทศไทยเราก็คงเรียกเป็นฉายาแทนชื่อ หรือไม่ก็เติมคำวิเศษณ์ (หรือพิเศษ) เพิ่มไปข้างหลัง แต่ในกรณีนี้ ทั้งสองแดเนียลไม่ได้ถูกเรียกเป็นฉายา เติมคำข้างหลัง หรือว่าเรียกเป็นแดเนียลทั้งคู่ แต่ไชเนิร์ทจะถูกเรียกว่า ‘แดเนียล’ ส่วนกวันจะถูกเรียกว่า ‘แดน’ ฃ

 

คู่หูผู้กำกับ ‘ศพตด’

หลังจากที่ผสานรวมเป็นหนึ่งจนได้ฉายา ‘แดเนียลส์’ ก็ถึงเวลาที่ต้องเล่าเรื่องราวบทต่อไปว่าพวกเขาเริ่มสร้างภาพยนตร์กันได้อย่างไร 

หนังสั้นเรื่องแรกของทั้งคู่เกิดขึ้นในปี 2009 ชื่อว่า Swingers ซึ่งพวกเขาตัดสินใจเริ่มทำหนังเรื่องนี้เพราะ หลังจากที่พวกเขาเรียนจบกันไปแล้ว แดเนียลส์ก็ได้ไปเป็นทีมงานให้ค่ายที่เปิดรับนักเรียน-นักศึกษาเข้ามาทำกิจกรรม และพอทั้งคู่ได้เห็นเหล่ารุ่นน้องได้ทำหนังกัน พวกเขาเลยเกิดความรู้สึกดังที่กวันได้อธิบายเอาไว้ว่า

พวกเราอิจฉายพวกเด็ก ๆ กันมากเลย ได้ทำหนังกันทั้งวัน… แต่เราไม่ได้!

ภายหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้ขยับมาทำงานด้านการกำกับ Music Video และมีผลงานชิ้นหนึ่งเป็นเพลงที่ใครหลายคนน่าจะคุ้นหูกันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นสายเต้นหรือปาร์ตี้ เพราะแดเนียลส์ได้ไปกำกับ MV เพลง Turn Down for What ด้วยวิสัยทัศน์และสไตล์สุดแปลก

แต่ถ้าหากว่านั่นแปลกแล้วก็คงไม่เท่าภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรกของพวกเขานามว่า Swiss Army Man (2016)

ตอนผมกำลังเรียนภาพยนตร์ มีคนบอกผมว่าถ้า ‘นายอยากประสบความสำเร็จ มันมีอยู่สองทาง คุณต้องเป็นที่หนึ่งหรือคุณต้องเป็นคนแรกที่ทำสิ่งนั้น’ แม้ผมจะอายุแค่ 19 ปีในตอนนั้น แต่ผมแม่งก็รู้ว่าผมเป็นที่หนึ่งไม่ได้แน่ ๆ … งั้นผมต้องเป็นคนแรกให้ได้

ดูเหมือนว่ากวันจะยึดถือคำนี้จริง ๆ เพราะไม่ว่าไอเดียจะแปลกหลุดโลกเพียงไหน ทั้งคู่ก็ไม่ได้ลังเลที่จะตัดสินใจทำ และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็สร้างภาพจำของวิสัยทัศน์ที่น่าสนใจของทั้งคู่ แต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้พวกเขาต้องกุมขมับเหมือนกัน แถมยังทำให้พวกเขาทั้งคู่ได้ฉายาว่า ‘ผู้กำกับศพตด’ (Farting Corpse Directors) อีกด้วย

เราอาจจะพอรู้จัก Swiss Army Knife หรือ มีดสารพัดประโยชน์ ที่น่าจะพาให้คุณอยู่รอดได้โดยง่ายถ้าต้องเอาชีวิตรอดในป่าหรือสถานที่ใด ๆ แต่แน่นอนว่าถ้าคุณจะทำหนังเกี่ยวกับมัน คุณคงไม่ใช่คนแรกเป็นแน่ ดังนั้น เขาทั้งคู่จึงยกระดับจาก ‘มีด’ ให้กลายเป็น ‘คน’ เสียเลย จึงกลายเป็น ‘Swiss Army Man’ หรือ ‘คนสารพัดประโยชน์

แต่แน่นอนว่าถ้าไปทำคนที่มีคสามสามารถหลากหลายมันจะไปต่างอะไรกับเหล่าภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ พวกเขาจึงเปลี่ยนจาก ‘คน’ ให้เป็น ‘ศพ’ เสียเลย จึงได้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ‘แฮงค์’ (Hank) (รับบทโดย พอล ดาโน) ชายที่ติดอยู่ในเกาะร้าง หมดสิ้นศรัทธาที่จะมีชีวิตต่อ และตัดสินใจที่จะแขวนคอตัวเอง แต่ในวินาทีนั้นเองเขาก็ได้เห็นร่าง ของคน ๆ หนึ่งลอยมาที่ฝั่ง ปรากฎว่ามันคือศพ แต่มันเป็น ‘ศพที่ตดได้’ แถมตดแรงจนพาเขาล่องทะเลไปดั่งเจ็ทสกีเลยทีเดียว เขาเลยพาศพนั้นตะลุยหาทางกลับบ้านไปพร้อม ๆ กับเขา และตั้งชื่อมันว่า ‘แมนนี’ (Manny) (รับบทโดย แดเนียล แรดคลิฟฟ์)

ผู้อ่านคงขมวดคิ้วและงงกับสิ่งที่ผมเขียนแน่ ๆ แต่ผมเองก็รู้สึกไม่ต่างกันเมื่อได้ชมกับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นครั้งแรก แต่ในขณะเดียวกันมันก็บ้า แปลก แหวก จนเรียกเสียงหัวเราะได้ไม่หยุด (แถมยังเรียกน้ำตาได้อีกด้วย) แต่ไว้เราจะมากล่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้แบบเจาะลึกกันวันหลัง

แต่แม้ว่าผมเองจะชอบ แต่ตอนฉายที่เทศกาล Sundance ผู้คนหลายคนไม่ได้คิดเช่นนั้น เพราะได้มีผู้ชมทะยอยเดินออกกันอยู่เรื่อย ๆ ขณะที่หนังฉายจนแดเนียลส์ก็ถึงพากันกุมขมับ เพราะตอนแรกทั้งคู่คิดว่าน่าจะมีค่ายหนังมาประมูลเรื่องนี้แข่งกันอย่างดุเดือด แต่มันกลับตรงกันข้าม แต่ถถึงกระนั้นมันก็สร้างภาพจำให้กับทั้งคู่ในฐานะผู้กำกับชื่อเหมือนที่มาพร้อมกับวิสัยทัศน์สุดบ้า แต่บ้างก็เรียกเขาว่าผู้กำกับหนังศพตด…

 

แดเนียลส์คว้ารางวัล(ส์)

แต่แม้จะได้เสียงตอบรับไม่ได้ดีขนาดนั้นกับภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้า แต่กับภาพยนตร์เรื่องต่อมาของพวกเขา Everything Everywhere All at Once ภาพยนตร์ที่ชื่อยาวแต่ผู้คนทั่วทั้งโลกก็ต่างพากันจำได้ แถมยังเหมารางวัลจากเวทีต่าง ๆ ไปจนไม่แบ่งให้หนังเรื่องอื่น ๆ ก็เปลี่ยนภาพจำของพวกเขาให้หลายเป็นคู่ดูโอ้ผู้กำกับที่มีผลงานที่ประสบความสำเร็จที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์เลยก็ว่าได้

ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส’ คือชื่อภาษาไทยของภาพยนตร์เรื่องนี้ เราจะเห็นได้ว่าตัวละครหลักที่สวมบทบาทโดย มิเชล โหย่ว (Michelle Yeoh) คือเอเวอลีน แต่แท้จริงแล้ว หากย้อนไปที่จุดเริ่มต้นจริง ๆ แดเนียลส์วางแผนไว้ว่าจะให้ตัวละคร เวย์มอน ที่รับบทโดย คี ฮุย ควน (Ke Huy Quan) เป็นพระเอกนำเรื่อง โดยจะให้ ‘เฉินหลง’ (Jackie Chan) มาเป็นนักแสดงหลักที่รับบทนั้น… แต่ท้ายที่สุดก็ถูกปฏิเสธไป โหย่วจึงกลายเป็นเป้าหมายถัดไป และทำให้ตัวละครหลักของเรื่องเปลี่ยนไปด้วย

เอาจริง ๆ นะ ถ้า มิเชล โหย่ว เซย์โนกับบทของเรา ผมจะตัดงบหนังเรื่องนี้ให้เหลือแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด แล้วจ้างแม่ผมมาเล่นไปเลย!

กวันกล่าว แต่นับเป็นเรื่องดีที่ มิเชล โหย่ว เห็นความพิเศษของภาพยนตร์เรื่องนี้ แถมเธอยังชอบมันเอาเสียมาก ๆ อีกด้วย เหตุเพราะนภาพยนตร์หรือเรื่องราวส่วนใหญ่ เธอจะเห็นแต่พ่อตะลุยอุปสรรคไปช่วยลูก แล้วเธอก็ได้แต่สงสัยอยู่ลึก ๆ ว่าฉันทำไม่ได้บ้างเหรอ พอได้มีอกาสมารับบทนี้ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้เธอได้ลองอะไรใหม่ ๆ และตอบคำถามภายในใจของเธออีกด้วย

ภาพยนตร์เรื่องนี้ช่วยแสดงให้โลกเห็นว่าแม้จะเป็นผู้หญิงเอเชียที่ลี้ภัยมาทำงานในสหรัฐอเมริกาก็สามารถตะลุยมิติไปช่วยโลกได้ แม้จะเป็นนักแสดงชาวเอเชียที่อายุย่างเข้า 61 ปี ก็สามารถคว้ารางวัลออสการ์มาครองได้ และแม้จะเป็นผู้กำกับที่วิสัยทัศน์ประหลาดและมีเรื่องเล่าแปลก ๆ อย่าง แดเนียลส์ ก็สามารถเหมาออสการ์ 7 สาขากลับบ้านได้ 

 

ภาพ:
Getty Images
IMDb

 

อ้างอิง:
Insider
The Hollywood Reporter