เดวิด โช : ศิลปินขบถที่ชกตำรวจจนแว่นแตก กับชีวิตที่พลิกเพราะ Facebook จ้างไปทาผนัง

เดวิด โช : ศิลปินขบถที่ชกตำรวจจนแว่นแตก กับชีวิตที่พลิกเพราะ Facebook จ้างไปทาผนัง

‘เดวิด โช’ (David Choe) ศิลปินกราฟฟิตี้สุดขบถที่เคยมีวีรกรรมต่อยตำรวจ ก่อนชีวิตจะพลิกเพราะได้ไปทาสีให้ผนัง Facebook กับบทตัวตึงแห่งซีรีส์ Beef

คำว่า ‘น้ำผึ้งหยดเดียว’ ไม่ใช่วลีเกินจริง การกระทำอันเล็กน้อย อาจส่งผลกระทบที่ใหญ่หลวงเกินกว่าที่เราคาดหมายได้อย่างง่ายดาย เรื่องราวการจองล้างจองผลาญระหว่าง ‘เอมี’ (Amy) และ ‘แดนนี’ (Danny) จากซีรีส์เรื่อง ‘Beef’ (2023) จากค่าย A24 ที่ฉายผ่านแพลตฟอร์ม Netflix ก็ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนอย่างมากเลยทีเดียว

เพราะใครจะคิด…ว่าเพียงแค่บีบแตรและชูนิ้วกลางใส่กันเพียงครั้งเดียว จะลามไปถึง… ไว้ค่อยเล่าแล้วกันครับ ผู้เขียนยังไม่อยากสปอยล์ ใครยังไม่ได้ชมผมอยากแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่า Beef ถือเป็นซีรีส์ที่เขียนบทและร้อยเรื่องราวออกมาได้อย่างมหัศจรรย์ เพราะแทบทุกเรื่องราวและเหตุการณ์ภายในเรื่องที่ค่อย ๆ เรียงต่อกันไปถึงจุดพีค ล้วนมีความเชื่อมโยงกันดั่งแถวของโดมิโน่

และถ้าหากกล่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ ตัวละครหนึ่งที่ขอยกให้เป็น ‘ตัวตึง’ ของเรื่องก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก ‘ไอแซค’ (Isaac) ญาติสุดแก่นของแดนนี ที่สวมบทโดยศิลปินกราฟฟิตี้นามว่า ‘เดวิด โช’ (David Choe) ที่ฉายแววความสดตั้งแต่ฉากแรกที่ปรากฏตัว (และแทบจะทุก ๆ ฉากที่เฮียแกปรากฏออกมา) 

ใครหลายคนที่แม้จะคลุกคลีอยู่กับสายหนังก็น่าจะต้องแอบสงสัยกันบ้างว่านักเลงเครายาวคนนี้เป็นใครกันแน่ หากเป็น ‘สตีเวน ยอน’ (Steven Yuen) ก็คุ้นกันอยู่พอสมควร แต่พอถึงคิวตัวตึงของเรื่องคนนี้กลับไม่ยักคุ้น 

ไม่แปลกเลยแม้แต่น้อยถ้าจะไม่คุ้น เพราะเส้นทางของโชจริง ๆ หาใช่การเป็นนักแสดง แต่เขาคือศิลปินกราฟฟิตี้ที่สร้างสรรค์ผลงานสุดขบถตลอดมา แถมงานศิลปะของเขาคนนี้ก็ยังปรากฏในตอนต้นของทุกตอนอีกด้วย (ใช่ครับ ภาพสุดอาร์ตที่มาพร้อมกับชื่อตอนสุดลึกนั่นแหละ)

หากได้ชมซีรีส์กันไปแล้วก็คงทราบกันดีว่าไอแซคแสบขนาดไหน แต่หารู้ไม่ว่าในโลกแห่งความเป็นจริง เดวิด โช ก็แสบใช่ย่อย เขาถือว่าเป็นศิลปินกราฟฟิตี้หัวขบถที่มีฝีมือมากคนหนึ่ง ที่ครั้งหนึ่งบริษัทเล็ก ๆ นามว่า Facebook เคยจ้างเขาไปเพ้นต์ผนังให้ แถมครั้งหนึ่งเขาเคยต่อยตำรวจจนแว่นแตกเลยทีเดียว

 

ศิลปินผู้ต่อยตำรวจ

ครอบครัวของ ‘เดวิด โช’ (David Choe) คือครอบครัวที่อพยพมาลงหลักปักฐานอยู่ ณ ลอสแอนเจลิส และที่แห่งนั้นคือสถานที่ที่โชเติบโตขึ้นมา โชได้เริ่มรู้จักกับมิตรที่จะเดินคู่เคียงกับเขาไปอีกหลายสิบปีนามว่า ‘ศิลปะ’ ในช่วงที่เขาอายุ 13 ปี เขาได้เริ่มจับดินสอวาดรูปการ์ตูนที่สนใจ ก่อนความชอบดังกล่าววิวัฒน์กลายเป็น ‘ศิลปะกราฟฟิตี้’ (Graffiti) ที่จะสร้างชื่อและพลิกชีวิตให้กับตัวเขาในอนาคต

หลังจากที่ก้าวเข้าสู่โลกของศิลปะกราฟฟิตี้ โชก็ได้พัฒนาฝีมือและลงมือสร้างสรรค์เรื่อยมาจนผลงานเขาเริ่มเป็นที่รู้จัก และได้ไปโชว์ในหลากหลายที่ ในครั้งหนึ่งที่ผลงานของโชได้นำไปจัดแสดงอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และในที่แห่งนี้เอง ที่วีรกรรมต่อยตำรวจของเขาเกิดขึ้น…

เดวิด โช เล่าว่า ในตอนที่เขาอยู่ที่นั่น เขาได้ไปเดินชอปปิงซื้อของ และพอออกจากร้าน ตำรวจนอกเครื่องแบบก็เข้าใจผิดว่าเขาลักขโมยของจากในร้าน จึงพุ่งเข้ารัดตัวเขา และด้วยความที่มีกำแพงทางภาษามาขวางกั้น จึงได้เกิดเป็นความเข้าใจผิดกัน ตำรวจก็นึกว่าโชคือโจร โชก็นึกว่าตำรวจนอกเครื่องแบบคนนี้จะมาปล้น เขาเลยง้างหมัดแล้วซัดเข้าไปที่หน้าของตำรวจคนนั้นอย่างเต็มที่ 

ท้ายที่สุดเขาก็โดนจับกุมและถูกขังอยู่ในเรือนจำนานกว่า 3 เดือน แถมยังถูกขังเดี่ยวอีกด้วย…

ผนังเปลี่ยนชีวิต 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเป็นศิลปินอาจจะไม่ได้ทำให้เขากินได้หรูอยู่สบายเสียเท่าไร แม้จะมีผลงานไปโชว์นานาประเทศก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าผู้คนจะไม่รู้จักเขา ย้อนกลับไปในปี 2005 มีบริษัทเล็ก ๆ ที่มาพร้อมปณิธานอันใหญ่ยิ่งนามว่า Facebook กำลังก่อร่างสร้างตัว โชได้รับการติดต่อจากบริษัทนั้นให้ไปเพ้นต์ผนังออฟฟิศ

แท้จริงแล้วย้อนกลับไปในตอนนั้น โชเป็นคนที่ไม่เห็นด้วยกับคอนเซ็ปต์ของโซเชียลมีเดียเลยแม้แต่น้อย เพราะเขารู้สึกว่ามันไร้สาระเอามาก ๆ แต่เมื่อศิลปินที่ไม่ได้อิ่มหนำสำราญนักมาเจอกับข้อเสนอเงิน 6 หมื่นเหรียญให้ไปเพ้นต์ผนังออฟฟิศให้ ก็คงเป็นเรื่องน่าตลกที่จะปฏิเสธ โชจึงได้ตอบตกลงและลงมือละเลงฝีมือและความสร้างสรรค์ให้แก่ Facebook

แต่จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ตรงที่ว่า ทาง Facebook เสนอเขาสองทางเลือกในด้านของค่าตอบแทน - เงิน 6 หมื่นเหรียญหรือหุ้น Facebook - แม้ว่าโชจะไม่ค่อยอินไม่เชื่อกับโซเชียลมีเดีย แต่ทาง Facebook ก็แนะนำให้เขาเลือกหุ้น (แหงละ) โชจึงตัดสินใจดังนั้น 

หลังจากนั้นโชก็ไม่ได้สนใจกับหุ้นของบริษัทเล็ก ๆ นี่สักเท่าไรนัก จนกระทั่ง 7 ปีต่อมา เขาต้องคิดใหม่เสียทั้งหมด เมื่อ Facebook ได้ก้าวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ และมูลค่าหุ้นทั้งหมดของ เดวิด โช ก็มีมูลค่ารวมกว่า ‘สองร้อยล้านเหรียญ’ … เขาได้กลายเป็นมหาเศรษฐีในทันที จากการแค่เพ้นต์ผนังให้กับบริษัทเล็ก ๆ นามว่า Facebook


ดราม่าพอดแคสต์ Sexual Harrasement

นอกจากจะสร้างงานศิลปะแล้ว เดวิด โช ก็มีรายการพอดแคสต์ของตนเองในชื่อ ‘DVDASA (Double Vag, Double Anal, Sensitive Artist)’ ที่ตัวเขาเป็นพิธีกรคู่กับนักแสดงหนังโป๊นามว่า ‘เอซ่า อคิร่า’ (Asa Akira) ที่จะเป็นการพูดคุยถึงเรื่องราวต่าง ๆ ตั้งแต่บทเรียนชีวิตถึงประสบการณ์ห่าม ๆ ในด้านต่าง ๆ 

และประเด็นที่ทำให้ผู้คนหลายคนต่างก็ตั้งคำถามถึงเขาตั้งแต่ตอนนั้นยาวมาถึงปัจจุบัน ในวันที่เขาโด่งดังอีกครั้งจากซีรีส์เรื่อง Beef ก็เกิดขึ้นจากพอดแคสต์ตอนหนึ่งย้อนไปในปี 2014 เมื่อเขาได้เอ่ยถึงประเด็นสุดดาร์กที่เขาเคยก่อ แต่ในบทความนี้เราจะไม่บรรยายถึงรายละเอียด เพราะถือเป็นเนื้อหาที่มีความละเอียดอ่อนอย่างมาก

ในพอดแคสต์ตอนนั้น โชได้เล่าถึงวันที่เขาไปใช้บริการนวดแห่งหนึ่ง ในขณะที่ทุกอย่างดำเนินไปอย่างปกติ โชเล่าว่าเขาเกิดอารมณ์ทางเพศจากการนวดและได้ทำการช่วยตัวเองต่อหน้าพนักงานสาวคนนั้น ซ้ำยังพยายามที่จะบังคับให้พนักงานคนนั้นเข้าร่วมด้วยอีกต่างหาก โชแบ่งปันเรื่องราวดังกล่าวอย่างหน้าระรื่นเสมือนว่าเป็นเรื่องตลกที่ทำให้ผู้ฟังขำ… แต่มันไม่เลยแม้แต่น้อย

ภายหลังจากพอดแคสต์ตอนดังกล่าวออกอากาศก็เกิดกระแสต่อต้านตามมาอย่างล้นหลาม โดยโชได้ออกมาขอโทษและบอกกับสาธารณชนว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องแต่ง และทำไปเพื่อหยอกล้ออคิร่าเฉย ๆ แถมยังกล่าวเสริมอีกว่ามันคือศิลปะ และบางทีศิลปะก็ไม่อาจเอาใจคนทุกคนได้ ก่อนจะประกาศจุดยืนว่า

ผมไม่ใช่พวกข่มขืน ผมโคตรเกลียดพวกมันเลย ผมว่าคนพวกนี้มันควรถูกข่มขืนแล้วฆ่าทิ้งเสีย

เรื่องราวดังกล่าวถูกตั้งคำถามเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบันว่ามันคือเรื่องแต่งแน่หรือเปล่า โดยเฉพาะเมื่อซีรีส์เรื่อง Beef กำลังออกฉายและได้รับความนิยมอย่างมาก สาธารณชนต่างก็พากันตั้งคำถามต่อผู้สร้างรวมถึงดารานักแสดงที่ร่วมอยู่ในซีรีส์ว่าคิดเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร ได้ตรวจสอบที่มาที่ไปของเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนหรือยัง ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่? 

แม้ว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นเรื่องแต่ง ไม่ใช่เรื่องจริง การหยิบเรื่องการคุกคามทางเพศมาหยอกล้อให้กลายเป็นเรื่องตลกขบขันก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องอยู่ดี ในขณะที่มีคนอีกมากมายที่กำลังเผชิญกับปัญหานี้อย่างจริงจัง ในทุก ๆ วัน จึงไม่น่าแปลกว่าทำไมเรื่องนี้ถึงติดตัวของโชมาจนถึงปัจจุบัน 

แต่หากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง… ผู้เขียนคงไม่ต้องกล่าวอะไรเพิ่มเติมอีก

 

ภาพ
Getty Images
Netflix

อ้างอิง
https://www.vox.com/culture/23688007/david-choe-beef-netflix-rape-controversy-podcast
https://www.cnbc.com/2017/09/07/how-facebook-graffiti-artist-david-choe-earned-200-million.html
https://faroutmagazine.co.uk/david-choe-got-rich-from-facebook/
https://www.washingtonpost.com/blogs/arts-post/post/facebook-ipo-5-things-you-should-know-about-david-choe-insta-millionaire-artist/2012/02/02/gIQAtaRhkQ_blog.html
https://www.unlockmen.com/omega-aqua-terra-shades-every-shade-of-you