‘อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์’ จาก ‘ผู้ว่าฯ คนเหล็ก’ สู่บทบาท ‘ผู้บริหารหนังแอ็กชัน Netflix’

‘อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์’ จาก ‘ผู้ว่าฯ คนเหล็ก’ สู่บทบาท ‘ผู้บริหารหนังแอ็กชัน Netflix’

เรื่องราวของ ‘อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์’ จาก ‘ผู้ว่าฯ คนเหล็ก’ สู่บทบาท ‘ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายภาพยนตร์แอ็กชัน’ ใน Netflix

  • ก่อนที่จะเป็น ‘คนเหล็ก’ อาร์โนลด์เคยเป็น ‘นักกล้ามบันลือโลก’ หรือ ‘แชมป์โลกเพาะกาย’ หลายสมัย ซึ่งถือเป็นก้าวแรกที่ส่งให้เขาเข้าสู่ฮอลลีวูด
  • ขณะที่อาร์โนลด์กำลังรุ่งโรจน์กับอาชีพนักแสดงในฮอลลีวูด ในปี 1986 เขาได้พบรักและแต่งงานกับ ‘มาเรีย ชไรเวอร์’ หลานสาวของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ‘จอห์น เอฟ. เคนเนดี’ 
  • การก้าวเข้ามารับตำแหน่ง Chief Action Officer หรือ CAO ‘ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายภาพยนตร์แอ็กชัน’ ประจำ Netflix อาร์โนลด์ให้เหตุผลง่าย ๆ ว่า “ไม่มีใครในโลกนี้ รักหนังแอ็กชันและการบู๊สะบั้นหั่นแหลกเท่ากับผมอีกแล้ว”

ในช่วงเวลานี้ ดูเหมือนมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกันระหว่าง ‘อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์’ (Arnold Schwarzenegger) กับ Netflix อยู่สองสามประเด็น

หนึ่ง, คือมีการออกอากาศภาพยนตร์สารคดีชีวประวัติอาร์โนลด์ ทาง Netflix เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

สอง, คือ Netflix มีการแต่งตั้งให้ อาร์โนลด์ ดำรงตำแหน่ง CAO (Chief Action Officer) หรือ ‘ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายภาพยนตร์แอ็กชัน’

นับเป็นบทบาทใหม่ของอาร์โนลด์ เจ้าของฉายา ‘ผู้ว่าฯ คนเหล็ก’ ผู้ที่อย่างน้อยฉายาได้ชี้ชัดไว้ 2 บทบาท คือ ‘ผู้ว่าฯ’ และ ‘คนเหล็ก’

‘ผู้ว่าฯ’ หมายถึงบทบาทเมื่อครั้งที่เขาชนะเลือกตั้ง ‘ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย’ คนที่ 38 ส่วน ‘คนเหล็ก’ หมายถึงอาชีพในวงการบันเทิง โดยเฉพาะในบทบาท ‘คนเหล็ก’ จากภาพยนตร์ชุด ‘The Terminator’ ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ติดตัวเขาไปสู่หนังเรื่องอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน

โดยก่อนที่จะเป็น ‘คนเหล็ก’ อาร์โนลด์เคยเป็น ‘นักกล้ามบันลือโลก’ หรือ ‘แชมป์โลกเพาะกาย’ หลายสมัย ซึ่งถือเป็นก้าวแรกที่ส่งให้เขาเข้าสู่ฮอลลีวูด

แต่ก่อนจะเข้าสู่วงการบันเทิง อาร์โนลด์เคยเป็นนักธุรกิจ SME ขายอุปกรณ์เพาะกาย และเป็นนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์มาก่อนด้วย

ฉากและชีวิตของอาร์โนลด์ ไม่เพียงเป็นเรื่องราวแบบ 3 in 1 หรือ 4 in 1 คือ แชมป์โลกเพาะกาย นักธุรกิจ พระเอกหนัง และผู้ว่าการรัฐฯ เท่านั้น เพราะปัจจุบันอาร์โนลด์ยังรับบท ‘ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายภาพยนตร์แอ็กชัน’ พ่วงมาด้วยอีกตำแหน่งหนึ่ง

‘ผมไม่อยากเป็นนักบอล’ เส้นทางสู่ ‘แชมป์โลกเพาะกาย’

อาร์โนลด์เป็นคนออสเตรีย มีพี่ชายหนึ่งคน มีพ่อเป็นตำรวจผู้ฝักใฝ่ลัทธินาซี มีแม่เป็นแม่บ้าน อาร์โนลด์เกิดที่เมืองทาลเมื่อปี 1947 เติบโตในบรรยากาศครอบครัวที่พ่อชอบใช้ความรุนแรงกับแม่และตัวเขา มีเพียงพี่ชายที่พ่อรัก และพ่อชอบด้อยค่าเขาตั้งแต่เล็กจนโต โดยเปรียบเทียบเขากับพี่ชาย

เป็นธรรมดาของชนชั้นล่างยุโรปที่พ่อแม่มักมองหาอาชีพให้ลูก ๆ ถ้าเป็นวงการกีฬา ชาวยุโรปส่วนใหญ่ล้วนคลั่งไคล้ฟุตบอล แต่อาร์โนลด์ชื่นชอบ ‘ยกน้ำหนัก’ มากกว่า เขาแอบไปซ้อมยกน้ำหนัก และต่อมาก็เริ่มเพาะกายตั้งแต่อายุ 14 ปี จากการมีโอกาสได้ดูภาพยนตร์เรื่อง ‘Hercules and the Captive Women’ ที่ออกฉายในโรงหนังออสเตรียปี 1961 ซึ่งนำแสดงโดยแชมป์เพาะกาย ‘เร็ก ปาร์ค’ (Reg Park)

ทำให้เขายึดถือ เร็ก ปาร์ค เป็นต้นแบบทั้งในกีฬาเพาะกาย และอาชีพนักแสดง อาร์โนลด์จึงพยายามทุกวิถีทางที่จะออกจากออสเตรีย เดินทางไปอเมริกาเพื่อสานฝันในวัยเด็กของเขา คือเป็น ‘นักกล้ามแชมป์โลก’ และเป็นพระเอกหนังเหมือนเร็ก ปาร์ค เขามุ่งมั่นฝึกซ้อม และลงแข่งในบ้านเกิด จากนั้นเดินทางไปทั่วออสเตรียเพื่อประกวดเพาะกาย ได้พบเจอผู้คนมากมายที่ชักนำเขาให้ออกจากออสเตรีย

‘อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์’ จาก ‘ผู้ว่าฯ คนเหล็ก’ สู่บทบาท ‘ผู้บริหารหนังแอ็กชัน Netflix’

หลังไต่เต้าจากรายการแข่งขันระดับเยาวชนทั่วยุโรป จนขึ้นชั้นสู่รุ่นใหญ่ คว้าแชมป์มิสเตอร์ยุโรป อาร์โนลด์จึงมีโอกาสได้ไปอเมริกาจริง ๆ เพื่อเข้าประกวด ‘เพาะกายชิงแชมป์โลก’ หรือ ‘มิสเตอร์ยูนิเวิร์ส’ ที่อเมริกา จากนั้นเขานำเงินรางวัลที่ได้จากการแข่งขันเบ่งกล้ามไปลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเปิดกิจการขายอุปกรณ์เพาะกายทางไปรษณีย์ ซึ่งธุรกิจ SME ของอาร์โนลด์เดินหน้าไปด้วยดี

ระหว่างนั้น อาร์โนลด์ไขว่คว้าหาโอกาสในวงการบันเทิง ด้วยบทตัวประกอบเล็ก ๆ น้อย ๆ และไปลงเรียนปริญญาตรีด้านธุรกิจภาคค่ำ ที่มหาวิทยาลัยแห่งวิสคอนซิน พร้อมกับเข้าประกวดมิสเตอร์ยูนิเวิร์ส และชนะเลิศอีก 4 สมัย จากนั้นก็พุ่งสู่จุดสูงสุดในอาชีพนักกล้าม ด้วยการคว้าตำแหน่ง ‘มิสเตอร์โอลิมเปีย’ 6 ครั้งติดต่อกัน

และแล้วฝันของอาร์โนลด์ก็เป็นจริง เมื่อเขาเข้าทดสอบหน้ากล้องภาพยนตร์เรื่อง ‘Hercules in New York’ และผ่านการคัดเลือก ได้เป็นพระเอกในปี 1970 หลังจากนั้นเขามีงานแสดงอีก 2 - 3 เรื่อง จนได้มารับบท ‘โคแนน’ ในภาพยนตร์ ‘Conan the Barbarian’ ปี 1982 ทำให้เขาแจ้งเกิดอย่างจริงจัง และมาดังทะลุฟ้ากับบท ‘คนเหล็ก’ ในหนังเรื่อง ‘The Terminator’ ทำให้มีผลงานตามมาอีกหลายเรื่อง เช่น Commando, Predator, Total Recall, Kindergarten Cop, Twins

ก้าวสู่บทบาท ‘เขยตระกูลเคนเนดี’

ขณะที่อาร์โนลด์กำลังรุ่งโรจน์กับอาชีพนักแสดงในฮอลลีวูด ในปี 1986 เขาได้พบรักและแต่งงานกับ ‘มาเรีย ชไรเวอร์’ หลานสาวของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ‘จอห์น เอฟ. เคนเนดี’ ซึ่งเป็นการจุดประกายให้อาร์โนลด์ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมือง

ขณะเดียวกับ ภาพยนตร์จำนวนมากของเขาล้วนประสบความสำเร็จ ทั้งในแง่คำชื่นชมจากนักวิจารณ์ และตารางทำเงินในบ็อกซ์ออฟฟิศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘Terminator 2’ หรือ ‘คนเหล็ก 2029 ภาค 2’ ที่กวาดรายได้มากกว่า 350 ล้านดอลลาร์ ขึ้นแท่นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล

นอกจากนี้ยังได้รับคำชมจากแฟนหนังทั่วโลกทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักวิจารณ์ทั่วโลก ที่ยกย่องให้เป็นหนังคลาสสิกแห่งยุคสมัย และชื่นชมอาร์โนลด์ว่าเป็นนักแสดงซึ่งเล่นได้ทั้งบทบู๊แอ็กชัน ระเบิดภูเขาเผากระท่อม และตลกโปกฮา

ต่อจากนั้น เขายังได้แสดงภาพยนตร์เด่น ๆ อีกหลายเรื่อง อาทิ The Last Action Hero, True Lies, Junior, Eraser, Jingle All the Way, Batman and Robin, End of Days, The 6th Day, Collateral Damage และหนังชุด The Expendables ทั้ง 3 ภาค, The Last Stand, Escape Plan, Sabotage

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพยนตร์ชุด ‘คนเหล็ก’ ไล่ตั้งแต่ Terminator 3: Rise of the Machines, Terminator Salvation, Terminator Genisys และล่าสุด Terminator: Dark Fate

ในทางการเมือง อาร์โนลด์ใช้ความได้เปรียบจากการเป็น ‘เขยตระกูลเคนเนดี’ ในการเดินหน้าเข้าสู่การมีบทบาททางการเมือง สมัครเป็นนักการเมืองสังกัด ‘พรรคริพับลิกัน’ ผนวกกับความมุ่งมั่นทางการเมือง และการอุทิศตนให้กับสาธารณะ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเป็นตัวตั้งตัวตีในการรณรงค์เกี่ยวกับประเด็น ‘โลกร้อน’ ในยุคที่คนทั่วโลกยังไม่ค่อยมีใครรู้จักปัญหาสภาวะโลกร้อนดังเช่นปัจจุบัน มีเพียง ‘อัล กอร์’ (Al Gore) อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นนักการเมืองที่รณรงค์เรื่อง ‘ลดโลกร้อน’ โดยนอกจาก อัล กอร์ ก็มีเพียงอาร์โนลด์เท่านั้นที่เดินหน้ากับประเด็น ‘โลกร้อน’ 

ที่เป็นส่วนหนึ่งซึ่งทำให้เขาชนะเลือกตั้ง ได้เป็น ‘ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย’ คนที่ 38 ในที่สุด

‘อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์’ จาก ‘ผู้ว่าฯ คนเหล็ก’ สู่บทบาท ‘ผู้บริหารหนังแอ็กชัน Netflix’

บทบาทปัจจุบัน ‘อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์’

Netflix ได้ลงทุนสร้างสารคดีชีวประวัติ ‘อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์’ ซึ่งเพิ่งออกฉายไปเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เป็นสารคดีรูปแบบมินิซีรีส์จำนวน 3 ตอน ที่เปิดเผยเรื่องราวของเขาตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงประสบความสำเร็จในวงการภาพยนตร์ และก้าวสู่แวดวงการเมือง

ที่น่าสนใจคือการเปิดปูมปัญหาชีวิตและมรสุมต่าง ๆ ที่รุมล้อมเขาในช่วงเวลาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภูมิหลังครอบครัวที่ชวนสังเวช ความล้มเหลวในอาชีพนักแสดง ปัญหาสุขภาพ การหย่าร้าง ความขัดแย้งกับคนในวงการต่าง ๆ แถมด้วยการออกมายอมรับนับถือจากคู่แข่งตลอดกาลของเขา นั่นคือ ‘ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน’ (Sylvester Stallone) ที่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทก๊วนเดียวกัน และเป็นหุ้นส่วนผู้ร่วมก่อตั้งภัตตาคาร ‘Planet Hollywood’ ด้วยกันในอดีต

‘อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์’ จาก ‘ผู้ว่าฯ คนเหล็ก’ สู่บทบาท ‘ผู้บริหารหนังแอ็กชัน Netflix’

สารคดีฉายภาพความเป็นมนุษย์ของอาร์โนลด์ในวัย 75 ที่ผ่านชีวิตมาทุกรูปแบบ ทั้งต่ำสุด สูงสุด แล้วกลับมาต่ำสุด แล้วกลับไปสูงสุด!

สำหรับบทบาทชีวิตปัจจุบันของอาร์โนลด์ หลังหมดวาระ ‘ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย’ คนที่ 38 เขาได้กลายเป็นนักรณรงค์ปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชน เช่น การออกมาลงมือซ่อมถนนเอง หลังจากทางการไม่ลงมือแก้ไขปัญหา และวิพากษ์วิจารณ์ ‘วลาดิเมียร์ ปูติน’ ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่ยกทัพรุกราน ‘ยูเครน’

สำหรับการก้าวเข้ามารับตำแหน่ง Chief Action Officer หรือ CAO ‘ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายภาพยนตร์แอ็กชัน’ ประจำ Netflix อาร์โนลด์ให้เหตุผลง่าย ๆ ว่า “ไม่มีใครในโลกนี้ รักหนังแอ็กชันและการบู๊สะบั้นหั่นแหลกเท่ากับผมอีกแล้ว”

ผลงานของ CAO คนใหม่ ซึ่งอาจจะเป็นคนแรกและคนเดียวของ Netflix ที่จะมี อาทิ Extraction 2, The Witcher, Heart of Stone

นอกจากนี้ยังมี ‘ซีรีส์เรื่องแรกในชีวิต’ ของเขาเองที่ร่วมงานกับ Netflix ชื่อเรื่อง ‘Fubar’ (ชื่อเดิม Utap) กับบทบาทเป็น CIA ใกล้ปลดระวาง ที่ได้ค้นพบความลับของครอบครัวโดยบังเอิญ และถูกเรียกกลับเข้าสู่ภาคสนามเพื่อรับงานชิ้นสุดท้าย

ปัจจุบันอาร์โนลด์ในวัย 75 กะรัต อาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังโต กับสัตว์เลี้ยงแสนรัก คือสุนัขและลา นาน ๆ ทีจึงจะรวมตัวครอบครัว ลูก ๆ และอดีตภรรยา 

‘อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์’ จาก ‘ผู้ว่าฯ คนเหล็ก’ สู่บทบาท ‘ผู้บริหารหนังแอ็กชัน Netflix’

ภาพ : ภาพปกจาก Getty Images, ภาพประกอบเนื้อหาจาก อินสตาแกรม schwarzenegger