แมคเคนยู อาระตะ : ตัวจริง ‘โซโร’ One Piece เจ้าพ่อ Live Action ครบสูตร เก่ง - หล่อ - เท่

‘วันพีซ’ (One Piece) คือมังงะยอดนิยมที่มีการตีพิมพ์มากกว่า 320 ล้านฉบับทั่วโลกที่ถูกดัดแปลงเป็นแอนิเมชัน รวมถึงซีรีส์ฉบับคนแสดง (Live Action) ความยาว 8 ตอนในเน็ตฟลิกซ์ (Netflix)

หลังจากฉบับคนแสดงออกอากาศได้ไม่กี่วัน ตัวละครที่ถูกพูดถึงอย่างมากคือความเท่ของ ‘โซโร’ ลูกเรือที่โดดเด่นเรื่องการใช้ดาบ รับบทโดย แมคเคนยู อาระตะ (Mackenyu Arata)

เขาเกิดวันที่ 16 พฤศจิกายน 1996 แต่เริ่มเข้าวงการตั้งแต่ปี 2007 แมคเคนยูจึงไม่ใช่นักแสดงหน้าใหม่ แต่เป็นนักแสดงที่เริ่มเข้าวงการตั้งแต่วัยเด็ก มีพ่อ พี่สาว และน้องชายทำงานในฐานะนักแสดงชาวญี่ปุ่นเช่นกัน

ขณะเดียวกัน วันพีซก็ไม่ใช่การรับบท Live Action ครั้งแรกของเขา เพราะก่อนหน้านี้ แมคเคนยู มักจะรับบทพระเอกหรือพระรองจากซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากมังงะอยู่เสมอ

ถึงจะดูเกรี้ยวกราดในบทโซโร แต่นอกจอ เขาคือนักแสดงมากความสามารถหลายด้าน ทั้งร้อง เล่นคาราเต้  เล่นเปียโน เป่าฟลุตและแซกโซโฟน รวมถึงด้านการแสดงที่เขาหลงรักตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงปัจจุบัน

ลูกชายคนกลางในครอบครัวนักแสดง

แมคเคนยู อาระตะ เป็นลูกชายคนแรกของซันนี่ ชิบะ (Sonny Chiba) นักแสดงชาวญี่ปุ่นระดับตำนาน หลังจากแต่งงานครั้งที่ 2 ของชิบะ 

ถ้าย้อนดูประวัติของสมาชิกครอบครัวนี้แล้ว จะเห็นเลยว่า ทุกคนเป็นนักแสดงที่แฟน ๆ ญี่ปุ่นอาจคุ้นตา ไม่ว่าจะเป็น ‘กอร์ดอน มาเอดะ’ น้องชายที่อายุห่างกัน 3 ปีที่โด่งดังจากบทนำใน Tokyo Revengers และ จูริ มานาเสะ (Juri Manase) พี่สาวต่างแม่และนักแสดงชาวญี่ปุ่นในภาพยนตร์เรื่องดังอย่าง Kill Bill และ Signal ซีรีส์รีเมคจากเกาหลีใต้ 

รวมถึงแมคเคนยูเองที่เริ่มเส้นทางงานแสดงมาตั้งแต่ยังเด็ก จนมาถึงการเข้าร่วมโปรเจกต์ ‘One Piece Live Action’

แม้จะไม่ค่อยมีบทสัมภาษณ์ที่แมคเคนยูพูดถึงพ่อมากนัก แต่ในวาระสุดท้ายของพ่อที่ป่วยหนักจากโรคโควิด-19 แมคเคนยูก็เลือกที่จะโพสต์รูปผ่านอินสตาแกรมเพื่อบอกพ่อว่า เขายังอยู่ข้าง ๆ และรักพ่อเสมอ

“ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน พ่อจะคงอยู่ในใจของผม รักนะครับ พ่อ” คือ คำบรรยายที่แมคเคนยูเขียนถึงพ่อไว้ใต้ภาพ

เด็กหนุ่มที่สนใจงานแสดงตั้งแต่วัยรุ่น

ชีวิตในวัยเด็กของเขาไม่ต่างจากเด็กทั่วไปที่มีความสนใจหลากหลาย ยิ่งเติบโตในสหรัฐอเมริกาแล้ว การได้เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมเบเวอร์ลีฮิลส์ ทำให้เขาได้ทดลองทำกิจกรรมหลายอย่าง ทั้งด้านกีฬาและดนตรี และสนใจเรื่องศิลปะป้องกันตัวเหมือนพ่อ

ในวัย 13 ปี แมคเคนยูเคยแสดงความสามารถทางหน้าจอโทรทัศน์ผ่านมินิซีรีส์เรื่อง Team Astro (Astro Kyūdan) ปี 2005 และภาพยนตร์เรื่อง Oyaji ปี 2007 แต่เขาก็ยังให้ความสำคัญกับเรื่องเรียนมากกว่า

จนมาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้งตอนอายุ 15 ปี แมคเคนยูได้ดูภาพยนตร์ที่นำแสดงโดย ฮารุมะ มิอุระ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาหันมาสนใจงานแสดงมากขึ้น 

แล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่แมคเคนยูได้รับบทนำครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง ‘Buzz’ และภาพยนตร์โทรทัศน์ ‘Yo nimo Kimyō na Monogatari’ แล้วข้ามไปแสดงในมินิซีรีส์ทางโทรทัศน์เรื่อง ‘The Kindergarten Detective’, ‘Yume o Ataeru’ และ ‘The Hatsumori Bemars’

อย่างไรก็ตาม บทบาทในมาสค์ไรเดอร์ไดรฟ์ เดอะ มูฟวี่: เซอร์ไพรส์ ฟิวเจอร์ (Kamen Rider Drive: Surprise Future) เป็นผลงานที่ทำให้เขาได้รับความนิยมและช่วยผลักให้แมคเคนยูเป็นที่รู้จักในญี่ปุ่นมากขึ้น อาจเป็นเพราะตัวภาพยนตร์ที่รีเมคจากการ์ตูนวัยเด็ก

การรับบทนำครั้งแรกของแมคเคนยู เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่อง Take a Chance ที่เล่าเรื่องชีวิตวัยรุ่นญี่ปุ่นในสหรัฐอเมริกา และยังได้แสดงในภาพยนตร์สั้นเรื่อง Tadaima ที่ว่าด้วยเรื่องการกลับบ้านอีกครั้งของครอบครัวญี่ปุ่นในสหรัฐอเมริกา 

ผลงานเรื่อง Tadaima ทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากงาน ‘Asians on Film Festival’ แล้วตัดสินใจเข้าเรียนการแสดงในประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะเริ่มต้นเส้นทางการแสดงอย่างจริงจังในญี่ปุ่นผ่านผลงานการแสดงละครเวทีเรื่อง ‘Boys Over Flower’

 

นักแสดงมากความสามารถ ทั้งร้องเพลง ทั้งเล่นละคร

ในสายตาแฟนคลับ แมคเคนยูอาจแจ้งเกิดด้วยความสามารถด้านการแสดง แต่ช่วงวัยมัธยมเขาสนใจเรื่องดนตรี เริ่มเล่นเปียโนตั้งแต่อายุ 10 ขวบ และยังเคยเล่นฟลุตและแซกโซโฟนให้กับวงโยธวาทิตตอนเรียนมัธยมปลายด้วย

พอเริ่มงานแสดง เขาเคยมีโอกาสแสดงความสามารถทางดนตรีให้ผู้ชมได้เห็นผ่านผลงานเรื่อง Our 30 Minute Sessions ภาพยนตร์ซึ้งกินใจที่เล่าเรื่องปริศนาของเทปที่พาร่างของคนที่ตายไปแล้วกลับมาอีกครั้งโดยมีระยะเวลาเพียง 30 นาที อีกทั้งภาพยนตร์เรื่องนี้ แมคเคนยูยังร้องเพลงประกอบภาพยนตร์คู่กับทาคูมิ คิตะมุระ นักแสดงนำของเรื่องอีกคนหนึ่งในเพลง ‘Never Again’  

นอกจากนี้ ในปี 2020 ดีเจ The Chainsmoker ที่กำลังจะปล่อยอัลบั้มเวอร์ชันญี่ปุ่น พร้อมเพิ่มโบนัสแทร็กเข้าไปหลายเพลง หนึ่งในนั้นคือเพลง ‘Closer’ ที่แมคเคนยูเข้าไปมีส่วนร่วมร้องแทนเสียงต้นฉบับของ Halsey และยังเปลี่ยนเนื้อร้องบางส่วนเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วย

กระแสความนิยมของแมคเคนยู ทำให้เขาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ให้กับ GATSBY แบรนด์สำหรับผู้ชายของญี่ปุ่นในปี 2018  และยังเป็นพาร์ตเนอร์กับแบรนด์ระดับโลก เช่น เฟนดิ (Fendi), หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton), เบอร์เบอรี่ (Burberry) และทิฟฟานีแอนด์โค (Tiffany & Co)

ส่วนงานแสดงก็ไม่ต้องห่วง เพราะนักแสดงคนนี้มักจะได้รับบทที่หลากหลายตลอด ทั้งพระเอกแสนหวาน ถึงนักแข่งรถสุดเท่ ส่วนใหญ่จะเป็นผลงานที่รีเมคมาจากการ์ตูนยอดนิยม ทั้งยังมีภาพยนตร์ที่พาแมคเคนยูโกอินเตอร์ ก็คือภาพยนตร์ Pacific Rims: Up Rising ในปี 2018  

 

หายไปจากหน้าจอเพื่อทดสอบตัวเอง

เป็นเรื่องปกติที่ทำงานไปช่วงหนึ่งแล้ว เราอาจตั้งคำถามกับสิ่งที่เราทำอยู่

แมคเคนยูก็เคยตกอยู่ในสภาวะนั้น ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ปี 2020 แมคเคนยูตัดสินใจบอกลาทุกงาน เก็บกระเป๋าออกจากญี่ปุ่น แล้วหันไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้

ในบทสัมภาษณ์ของนิตยสาร GQ ฮ่องกง เขาบอกว่าตอนนั้นคือห้วงเวลาที่ทำให้เขากลับมามองเส้นทางชีวิตที่ผ่านมา ถามหาความต้องการและความรู้สึกของตัวเองจริง ๆ

“ผมทำงานตั้งแต่เด็ก โดยไม่ได้กลับมามองตัวเองเลย ถ่ายหนังตอนเช้า ตกบ่ายไปถ่ายละคร แล้วออกไปสัมภาษณ์ ผมใช้ชีวิตแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น แต่ตอนเจอโรคระบาดใหญ่ ผมได้ใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนและตัวเอง ทำให้ผมรู้ว่า ผมชอบเวลาแบบนี้ และผมคิดว่าจะทำสิ่งนี้ต่อไป ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน แค่สนุกกับมัน”

เพราะสำหรับแมคเคนยูแล้ว ในฐานะนักแสดง เขาอาจต้องการแค่ความสุขในทุก ๆ ขั้นตอนการทำงาน มากกว่าผลลัพธ์ที่หลายคนคาดหวัง

 

ปี 2023 ปีที่แมคเคนยูตั้งตารอ

“ปี 2023 จะมีผลงานหลายอย่างออกมา ผมอยากรู้ว่าเพื่อนของผมจะว่าอย่างไร คนญี่ปุ่นจะคิดอย่างไร ผมตั้งตารอจริง ๆ”

คือคำพูดของแมคเคนยูกับสำนักข่าว GMA ของฟิลิปปินส์ ระหว่างการสัมภาษณ์ถึงซีรีส์ Dragons of the Hatch ออริจินัลคอนเทนต์ของดิสนีย์ พลัส ฮอตสตาร์ เมื่อปลายปี 2022

แล้วสิ่งแรกเมื่อปี 2023 ที่แมคเคนยูตั้งตารอก็มาถึง นั่นคือข่าวการแต่งงานของเขา หลังจากผ่านปีใหม่มาได้ไม่นาน

แมคเคนยูเขียนถึงความสัมพันธ์ของเขาไว้ว่า “เวลานี้ ผมแมคเคนยู อาระตะ ขอประกาศว่า ผมกำลังจะแต่งงาน ตั้งแต่นี้ไปเราจะดูแลและสร้างเวลาที่มีค่าร่วมกัน แล้วผมก็จะมอบความฝันและแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วผมก็คงมีความสุข ถ้าทุกคนมองดูเราด้วยความอบอุ่น”

จนมาถึงผลงานล่าสุดกับการเป็น ‘โรโรโนอา โซโร’ ใน One Piece ฉบับ Live Action ออริจินัลคอนเทนต์ของเน็ตฟลิกซ์ 

เพราะรู้ดีว่าอาจมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เปรียบเทียบระหว่างเวอร์ชันอนิเมะกับเวอร์ชันคนแสดง แมคเคนยูเลยให้สัมภาษณ์กับ Vogue Hong Kong ไว้ว่า อยากให้ผู้ชมเปิดใจในการรับชมไปพร้อมกัน

“ผมพยายามทำให้ดีที่สุดสำหรับแฟน ๆ ของอนิเมะและคนที่ไม่เคยดูเรื่องนี้มาก่อน แต่อนิเมะคืออนิเมะ การแสดงก็คือการแสดง ถ้าคุณรักอนิเมะ และนั่นคือสิ่งที่คุณชอบก็ไม่เป็นไร แต่ผมอยากให้ลองเปิดใจและท้าทายตัวเองเพื่อเปิดรับสิ่งใหม่ที่การแสดงเติมเต็มไว้ เราคิดอยู่เสมอว่า เราสามารถยกระดับบางอย่างให้ดีขึ้น และทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้”

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแต่งงานหรือผลงานเรื่องล่าสุดที่ทำให้เขากลายเป็นที่พูดถึงทั่วโลก ก็พอจะพิสูจน์ได้แล้วว่า ปี 2023 ที่แมคเคนยูตั้งตารอคงไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่กลับเต็มไปด้วยคำชื่นชมและคำยินดี 

เชื่อว่า ถึงจะเป็น Live Action แต่สำหรับผู้ชมและคอ One Piece ตัวละคร ‘โซโร’ นักดาบหัวเขียวที่แมคเคนยูแสดงก็จะยังเป็นตำนานและเป็นตัวละครที่พวกเราหลงรักไปอีกนาน

 

เรื่อง : ณัฐธนีย์ ลิ้มวัฒนาพันธ์

ภาพ : แฟ้มภาพ Getty Images, ซีรีส์วันพีซ Netflix

 

อ้างอิง : 

thecinemaholic

GMA News

GQ Japan

metalbridges

vogue Hong Kong

popbuzz

tokyohive

cartoon Mthai

tofupopradio