14 ธ.ค. 2566 | 12:07 น.
- เม็ก ไรอัน เริ่มเข้าสู่วงการจากการหารายได้พิเศษระหว่างเรียน จากนั้นอาชีพการแสดงของเธอก็รุ่งโรจน์ขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็น ‘อเมริกา สวีทฮาร์ท’ และ ‘ราชินีรอมคอม’
- เธอตัดสินใจหยุดพักการแสดงเพื่อเรียนรู้ประสบการณ์ด้านอื่นที่ไม่ใช่การแสดง และกลับมาอีกครั้งในฐานะนักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์รอมคอม
‘อเมริกา สวีทฮาร์ท’ (America’s Sweetheart) หรือ ‘หวานใจอเมริกา’ เป็นคำที่มีไว้เรียก ‘คนดัง’ ที่มีเสน่ห์ดึงดูด รอยยิ้มสดใส ดูเข้าถึงง่าย ประมาณสาวที่หนุ่ม ๆ อเมริกันอยากจะพาไปแนะนำกับครอบครัว
ด้วยคุณสมบัติที่น่าเอ็นดู ใครเห็นใครก็รัก เหล่านี้ ทำให้ผู้หญิงที่ได้รับการยกย่องให้เป็นอเมริกา สวีทฮาร์ท กลายเป็นคนดังทรงอิทธิพล และเป็นที่คาดหวังของสังคมอเมริกัน
หนึ่งในอเมริกา สวีทฮาร์ท ที่ชาวอเมริกันรักมากที่สุดในยุค 80s - 90s คือ ‘เม็ก ไรอัน’ ราชินีรอมคอม เจ้าของรอยยิ้มสว่างใส ใบหน้าเก๋ ที่วันหนึ่งตัดสินใจเฟดตัวออกจากฮอลลีวูด
เด็กสาวผู้มีรอยร้าวกับแม่
แม้ทั่วโลกจะรู้จักเธอในชื่อสั้น ๆ ว่า ‘เม็ก ไรอัน’ แต่ความจริงแล้วเธอเกิดมาในชื่อยาว ๆ ว่า ‘มาร์กาเร็ต แมรี เอมิลี แอนน์ ไฮรา’ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ปี 1961 ที่เมืองแฟร์ฟิลด์ รัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกา ในครอบครัวที่มีลูกทั้งหมด 4 คน พ่อเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ แม่เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ
ครอบครัวของเธอเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ เมื่อผู้เป็นแม่ ‘ซูซาน จอร์แดน’ หย่ากับพ่อในปี 1976 แล้วทิ้งครอบครัวไว้เบื้องหลัง มุ่งหน้าสู่นิวยอร์กเพื่อไปไล่ล่าความฝันที่อยากจะเป็น ‘นักแสดง’
ต่อมาแม่ของเธอให้สัมภาษณ์กับ ‘เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์’ ว่า เธอไม่ได้ทิ้งครอบครัว เพียงแต่มาทำงานเป็นผู้ช่วยผู้กำกับในการคัดเลือกนักแสดง เพื่อกรุยทางให้กับเม็กต่างหาก
ปี 1979 จอร์แดนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม สมาชิกทุกคนในครอบครัวมาเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาล ยกเว้นเม็ก ซึ่งไม่แม้แต่จะโทรฯ ถามไถ่อาการ โดยให้เหตุผลว่า เธอรู้สึกไม่สบายใจ และแม้ว่าในปี 1992 จอร์แดนจะเข้ารับการผ่าตัดเต้านม ความบาดหมางระหว่างแม่กับลูกสาวคู่นี้ก็ยังคงปรากฏอยู่
แม้จะเติบโตมาพร้อมปมเรื่องแม่ แต่เม็กก็ยังคงเปล่งประกายด้วยรอยยิ้ม ที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเธอ และทำให้เธอได้รับการโหวตจากเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายว่าเป็น ‘นักเรียนที่น่ารักที่สุด’ ด้วย
หลังเรียนจบมัธยม เม็กย้ายไปที่นิวยอร์ก และเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เอกวารสารศาสตร์ ระหว่างเรียนเธอก็รับงานโฆษณาเพื่อหารายได้พิเศษ
กำเนิด ‘เม็ก ไรอัน’
เม็กประเดิมงานแสดงแรกในฮอลลีวูด ด้วยบทลูกสาวของ ‘แคนดิซ เบอร์เกน’ ในภาพยนตร์เรื่อง ‘Rich and Famous’ (1981)
ใครจะไปคิดว่า ชื่อภาพยนตร์ที่เธอปรากฏตัวสั้น ๆ นี้ จะเป็นดั่งคำทำนายอนาคตเส้นทางการแสดงของเธอ
เมื่อประตูแห่งโอกาสเปิดต้อนรับ เม็กตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย หลังจากเรียนได้เพียงภาคการศึกษาเดียว เธอย้ายไปอยู่แคลิฟอร์เนียเพื่อยึดอาชีพนักแสดงเต็มตัว จัดการตั้งชื่อให้ตัวเองใหม่ว่า ‘เม็ก ไรอัน’ ซึ่งเป็นการย่อชื่อเต็มของตัวเองให้สั้นลง แล้วพ่วงด้วยนามสกุลเดิมของบรรพบุรุษ
เม็กเริ่มได้รับบทสำคัญครั้งแรกในบท ‘เบ็ตซี สจ๊วต มอต์โกเมอรี แอนโดรปูลอส’ ในละครโทรทัศน์เรื่อง ‘As the World Turns’ ตั้งแต่ปี 1982 - 1984 ต่อมาในช่วงกลางทศวรรษ 1980 อาชีพนักแสดงของเธอก็เริ่มก้าวหน้ามากขึ้น จากการรับบทในภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามอย่าง ‘Top Gun’ (1986) ซึ่งเธอได้ประกบกับนักแสดงดังอย่าง ‘ทอม ครูซ’ และ ‘แอนโทนี เอ็ดเวิร์ดส์’
จากนั้นเธอก็ได้ร่วมแสดงกับ ‘เดนนิส เควด’ ในภาพยนตร์เรื่อง ‘Innerspace’ (1987) ต่อด้วยเรื่อง ‘D.O.A.’ (1988)
หลังร่วมงานกันในภาพยนตร์เรื่อง Innerspace ทั้งคู่ก็เริ่มออกเดตกันระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง D.O.A. และแต่งงานกันในวันวาเลนไทน์ปี 1991 คล้อยหลังเพียงปีเดียวก็มีลูกชายด้วยกัน 1 คนชื่อว่า ‘แจ็ค’
ราชินีรอมคอม
ช่วงที่ความรักสุกงอม นางเอกสาวก็กำลังไปได้ดีในหน้าที่การงาน เธอเดินทางมาสู่จุดพีค เมื่อรับบทนางเอกภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้เรื่อง ‘When Harry Met Sally’ (1989) ซึ่งนับเป็นจุดเปลี่ยนของอาชีพนักแสดง เพราะหลังจากนั้นเธอได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘ราชินีรอมคอม’ ในฐานะผู้สร้างมาตรฐานนางเอกภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ ทั้งที่เธอแจ้งเกิดจากภาพยนตร์แนวระทึกขวัญและแนวแอ็กชันแท้ ๆ
ความนิยมจาก When Harry Met Sally (และอีกหลาย ๆ เรื่อง) ผลักดันให้เม็กกลายเป็นนักแสดงที่ทรงอิทธิพล ขึ้นแท่นหวานใจอเมริกา เช่นเดียวกับ ‘จูเลีย โรเบิร์ตส’ และ ‘แซนดรา บุลล็อก’
ทศวรรษ 1990 เรียกได้ว่าเป็นยุคของเม็กอย่างแท้จริง เธอมีงานภาพยนตร์รอมคอมวิ่งเข้ามาหาไม่ขาดสาย ที่โด่งดังมากก็เช่น ‘Sleepless in Seattle’ (1993), ‘French Kiss’ (1995), ‘You’ve Got Mail’ (1998) รวมถึงภาพยนตร์แนวแฟนตาซีโรแมนติกอย่าง ‘City of Angels’ (1998)
ข่าวฉาวเปลี่ยนชีวิต
ในปี 2000 เม็กถ่ายทำ ‘Proof of Life’ ภาพยนตร์ที่นับว่าสร้างจุดเปลี่ยนในชีวิตการแสดงของเธออีกครั้ง
ภาพยนตร์เรื่องนี้เม็กประกบคู่กับ ‘รัสเซลล์ โครว์’ แต่แทนที่คนดูจะจับตาผลงานการแสดงของทั้งคู่ กลายเป็นว่าทั้งโลกพากันสนใจแต่ข่าวความสัมพันธ์ของทั้งคู่แทน
ข่าวฉาวระหว่างทั้งคู่ กระทบต่อหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัวของเม็กเต็ม ๆ จากที่เคยโชคดีทั้งความรักและอาชีพ กลายเป็นว่าเธอเผชิญ ‘หายนะ’ ทั้งสองด้านพร้อมกัน
เธอถูกสังคมประณามว่าทำลายชีวิตแต่งงานของตัวเองกับเดนนิส โดยทั้งคู่ประกาศแยกทางกันขณะถ่ายทำ Proof of Life นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ‘เทย์เลอร์ แฮคฟอร์ด’ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ กล่าวโทษว่าความสัมพันธ์ระหว่างเม็กกับรัสเซลล์ทำให้รายได้ในบ็อกซ์ออฟฟิศล้มเหลวไม่เป็นท่า
แต่สุดท้ายเม็กกับรัสเซลล์ก็ไม่ได้ไปต่อกัน ทั้งคู่ยุติความสัมพันธ์กันในเวลาไม่กี่เดือน เม็กออกมาให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่า รัสเซลล์ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เธอเลิกกับเดนนิส เนื่องจากเขาเข้ามาในช่วงเวลาที่ชีวิตแต่งงานของเธอกับเดนนิสกำลังจะพังทลาย
ส่วนสาเหตุที่แท้จริงที่เธอเลิกกับเดนนิส เป็นเพราะว่าเขานอกใจเธอต่างหาก ซึ่งมันสร้างความเจ็บปวดให้เธอเป็นอย่างมาก แต่ฝ่ายเดนนิสเอง ยืนกรานปฏิเสธคำกล่าวหานี้
แม้จะเจอเรื่องวุ่นวายทั้งชีวิตส่วนตัวและหน้าที่การงานในขณะนั้น แต่เธอยืนยันว่าไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เธอกล่าวว่า “ฉันไม่ใช่เหยื่อ ช่วงเวลาที่ถูกมองเป็นผู้หญิงไม่ดีนั้นน่าสนใจมาก ถึงจะเจ็บปวด แต่ก็ยังรู้สึกโล่งใจอย่างไม่น่าเชื่อ ฉันไม่จำเป็นต้องสนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร”
หายไปจากวงการ
หลังเผชิญมรสุมครั้งใหญ่ ความนิยมของเม็กเริ่มลดลงเรื่อย ๆ แม้จะฉีกไปเล่นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญอีโรติกเรื่อง ‘In the Cut’ (2003) ก็ไม่ได้รับผลตอบรับดีเท่าที่ควร
เม็กยังเล่นภาพยนตร์ต่อมาอีกหลายเรื่อง เช่น ‘In the Land of Women’ (2007), ‘The Women’ (2008), ‘How I Met Your Dad’ (2014) แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่ายุค 1990 ไม่ว่าจะเป็นเพราะข่าวฉาว อายุที่มากขึ้น หรือความเหนื่อยหน่ายต่อวงการมายา
ในปี 2015 เม็กออกมาให้เหตุผลที่เธอเริ่มเฟดตัวออกจากหน้าจอในระหว่างโปรโมตภาพยนตร์ ‘Ithaca’ ที่เธอนั่งเก้าอี้ผู้กำกับว่า ประสบการณ์การอยู่หน้ากล้องนั้นขัดขวางความสามารถในการใช้ชีวิตของเธอ
“ฉันไม่ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นนักแสดง ฉันเป็นแค่คนที่อยากรู้อยากเห็น และฉันอยากกลับไปสู่โลกกว้างและคิดทบทวนว่าฉันเป็นใคร ในความสัมพันธ์กับสิ่งอื่น คนอื่น และสภาพแวดล้อมอื่นที่ไม่ใช่การแสดง”
หนึ่งในความสัมพันธ์ที่เธอกล่าวถึงนั้น คือความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแจ็ค (ลูกชายที่เกิดกับเดนนิส) และ ‘เดซี ทรู’ ลูกสาวบุญธรรมที่เธอรับมาเลี้ยงในปี 2006
หวนคืนหนังรอมคอม
หลังจากหายหน้าหายตาจากการแสดงไป 8 - 9 ปี เม็กกลับมาอีกครั้งในฐานะนักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์รอมคอมเรื่อง ‘What Happens Later’ (2023) ซึ่งเป็นเรื่องราวของคนสองคนที่ได้กลับมาเจอกัน และหวนคิดถึงความรักที่จบลงไปแล้ว พร้อมกับเยียวยาหัวใจกันและกัน
ไม่รู้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับรักครั้งเก่าของเธอหรือไม่ เพราะเธอเล่าว่า “มีมุมมองความรักเรื่องหนึ่งที่เมื่อคุณอายุมากขึ้น คุณจะค่อย ๆ เรียนรู้ว่า ความรักเป็นเรื่องง่ายในขณะที่ความสัมพันธ์นั้นเป็นเรื่องยาก”
นอกจากมุมมองความรักที่เติบโตขึ้นตามวัย 62 ปี เม็กยังให้มุมมองเรื่องรูปร่างหน้าตาเอาไว้ด้วย เพราะหลายปีมานี้เธอถูกสังคมจับจ้องอย่างหนักในเรื่องรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปจนแฟนหนังจำแทบไม่ได้
เม็กซึ่งเพิกเฉยต่อความเห็นเชิงลบเสมอมา ใช้โอกาสนี้เรียกร้องเพื่อผู้หญิงว่า
“โลกนี้จดจ่ออยู่กับความอ่อนเยาว์มากเกินไป ในฐานะของคนมีอายุตอนนี้ ฉันรักอายุของฉัน รักที่ที่ฉันอยู่ ความแก่ชราไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่คิด และหวังว่าจะมีคนบอกฉันก่อนหน้านี้ว่า แค่ผ่อนคลายกับมัน ปล่อยให้มันเป็นอย่างที่ควรจะเป็น”
เม็กเล่าด้วยว่า ทุกวันนี้เธอไม่ได้พยายามใช้ชีวิตเพื่อความพอใจของใครอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นคนในแวดวงฮอลลีวูดหรือคนอื่นที่จ้องแต่จะวิพากษ์วิจารณ์
แต่เธอเลือกที่จะปลดปล่อยตัวเองจากความคาดหวัง และเป็นตัวของตัวเองต่อไป
เรื่อง : นิภาภรณ์ แพงจำปา (The People Junior)
ภาพ : Getty Images
อ้างอิง :
Meg Ryan: I never wanted to be an actress | Hollywood News - The Indian Express
Meg Ryan - Movies, Age & Facts (biography.com)
Meg Ryan - Biography | HELLO! (hellomagazine.com)
Meg Ryan: Biography of America's Film Sweetheart | Articles on WatchMojo.com
Meg Ryan Reveals Why She Took a 'Giant Break' from Hollywood (people.com)
Meg Ryan - IMDb
Meg Ryan addresses ‘stupid’ criticism about her appearance | The Independent
Meg Ryan: The movie role that ended her acting career - NZ Herald
Meg Ryan Explains Why She Took a “Giant Break” From Hollywood | Vanity Fair
Meg Ryan's Comeback: What Happens Later, Rom Coms and More (variety.com)
9 People Who Have Been Called America's Sweetheart | Mental Floss
Meg Ryan and John Mellencamp's Relationship Timeline | UsWeekly (usmagazine.com)
Meg Ryan Said Russell Crowe Affair Didn't End Marriage (bestlifeonline.com)
Meg Ryan's sex scandal as affair with Russell Crowe exploded marriage to Dennis Quaid - Mirror Online
In The Cut: The single moment that ended Meg Ryan’s career | news.com.au — Australia’s leading news site