กองทัพ พีค : การเดินทางของเด็กชายที่วิ่งชนทุกโอกาส ไม่หยุดฝัน หลานชายคนโตรั้ววังจุฑาเทพ

ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เราเห็นเด็กไทยไปโลดแล่นอยู่ในวงการเพลงเกาหลีต่อเนื่อง 

แต่ถ้าพูดถึงช่วงเวลา 4 - 5 ปีนี้ หนึ่งในเด็กไทยที่มีความสามารถโดดเด่นไม่แพ้รุ่นพี่ คือ ‘กองทัพ พีค’

ครั้งหนึ่ง เขาคือเด็กไทยเพียงคนเดียวบนเวที ‘Producex101’ รายการแข่งขันเฟ้นหาบอยกรุ๊ปของเกาหลีใต้

และยังเคยเป็นพระเอกหน้าใหม่ประกบคู่นักแสดงตัวท็อปอย่าง ‘เบลล่า ราณี’ รวมถึงการเข้ามารับบท ‘อศิร จุฑาเทพ’ ในซีรีส์ ‘ดวงใจเทวพรหม’ ภาคต่อจาก ‘สุภาพบุรุษจุฑาเทพ’

เขาเป็นคนที่มีความสามารถรอบด้าน แสดงได้ ร้องได้ เต้นได้ เดินแบบก็ได้ และสามารถพูดได้ 4 ภาษา คือ ไทย เกาหลีใต้ จีน และอังกฤษ 

นี่คือเส้นทางของ ‘กองทัพ พีค’ เด็กชายผู้ออกเดินทางตามความฝันของตัวเองตั้งแต่อายุ 12 ปี พุ่งชนทุกโอกาสจนเป็นศิลปินและนักแสดงที่ครองใจผู้คนในวันนี้

เด็กชายผู้มีจัสติน บีเบอร์เป็นไอดอล

กองทัพ พีค เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของ ‘ปราบ ยุทธพิชัย’ นักแสดงและพิธีกรที่หลายคนอาจเคยเห็นผลงานจากรายการ ‘ปลดหนี้’ หรือละคร ‘ปัญญาชนก้นครัว’ เวอร์ชันปี 2548

ความฝันการเป็นศิลปินของเขาเริ่มขึ้นระหว่างที่ฟังเพลง ‘จัสติน บีเบอร์’ บนรถ แล้วบอกพ่อว่า เขาอยากจะเป็นศิลปินที่มอบรอยยิ้มให้กับผู้คน

ตอนอายุ 12 ปี เขาตัดสินใจขอพ่อแม่สอบเข้าโรงเรียน ‘Sylvia Young Theatre School’ โรงเรียนศิลปะและการแสดงที่ลอนดอน รับเด็กปีละไม่เกิน 12 - 15 คน

วิธีเข้าเรียนที่โรงเรียนนี้ พีคต้องสอบข้อเขียน ออดิชันการร้อง การเต้น แล้วพีคก็ทำได้ สอบผ่านเป็นนักเรียนไทยคนเดียวของโรงเรียน

ในบทสัมภาษณ์ของ DEK-D MEET NEW FACE ว่า Sylvia Young Theatre School มีทั้งการเรียนวิชาการและวิชาที่ทำให้เขาเรียนรู้ ลงมือทำ และลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง

“ที่โรงเรียนไม่มีสอนด้านดนตรีเลย แต่พีคก็พอมีพื้นฐานอยู่แล้ว ก็ลองผิดลองถูก ถามผู้รู้ หาข้อมูล ฝึกฝนมาเรื่อย ๆ มีเพลงแรกที่ทำเองทุกขั้นตอนคือคัฟเวอร์ ‘Cold Water’ ของ Justin Bieber ลงใน YouTube”

จากเพื่อนที่เคยอยู่กัน 11 - 12 คนที่ผ่านเข้ารอบแรกมาด้วยกัน 6 ปีผ่านไป เขากลายเป็น 1 ใน 3 คนที่เรียนจบ

เขาบอกเหตุผลกับ The Cloud ว่า “พีคคิดว่าตัวเองไม่เก่งนะ แต่เรียนรู้ได้เร็ว พอได้ย้อนกลับมาดูคลิปเก่า ๆ ก็เห็นว่าตัวเองมีข้อบกพร่องเยอะ ช่วงนั้นเสียงแตกหนุ่ม ร้องเพลงก็เป๋ไป แต่ที่โรงเรียนซัพพอร์ตในสิ่งที่เรารู้ตัวว่าขาดได้ดีมาก ส่วนเรื่องภาษาที่ตอนแรกไปแค่พอพูดได้ ก็มีเพื่อน ๆ คอยช่วยเหลือ”

พอเรียนจบ ด้วยความคิดถึงของพ่อแม่และคิดถึงบ้าน แม้จะได้ทุนเรียนต่อ แต่เขาก็เลือกที่จะกลับมาประเทศไทย

วันที่เครื่องบินจอด เดินออกจากเกทประตู ปราบ ยุทธพิชัย สวมกอดลูก แล้วบอกลูกว่า “ตอนนี้ตัวใครตัวมันแล้วนะ”

คำว่าตัวใครตัวมันที่พ่อปราบหมายถึง ต่อจากนี้ พีคจะต้องเป็นคนเลือกเส้นทางและทำทุกอย่างด้วยตัวเอง

หลังจากนั้น เขาก็ตั้งใจ พาตัวเองไปเจอความท้าทายและประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อที่จะเป็นศิลปิน ผู้มอบรอยยิ้มให้กับผู้คนได้สำเร็จสักวันหนึ่ง

เด็กไทยคนเดียวบนเวทีเกาหลีใต้ 

พอกลับมาบ้านเกิด งานแรกของเขา คือ การลองทำเพลงกับค่าย Chandelier Music ค่ายเพลงภายใต้สังกัดช่อง 3 ร่วมกับ 'หนึ่ง ณรงค์วิทย์'

หลังจากนั้น เขาก็มีโอกาสไปเดินงานแฟชั่นโชว์ที่เกาหลีใต้กับ ปิ๊ก - ฌาณฉลาด ทวีทรัพย์ ที่พีคเรียกว่า ‘ลุงปิ๊ก’ และดูเหมือนผลงานของเขาจะไปเตะตาแมวมองสัญชาติเกาหลีใต้ จึงถูกชวนไปออกรายการ I Can See Your Voice

ครั้งนั้น เขาถูกเลือกให้เป็นผู้ชนะ ได้โชว์เสียงร้องและท่าเต้นจากเพลง ‘What do you mean’ ของจัสติน บีเบอร์

แล้วเขาก็กลับไปเกาหลีใต้อีกครั้งในฐานะผู้เข้าแข่งชาวไทยเพียงหนึ่งเดียวในรายการ ‘Producex101’ รายการ Reality Show ถ่ายทอดชีวิตเด็กฝึก 101 คน ที่ฝึกจริง ซ้อมจริง เรียนรู้ความผิดพลาด เอาชนะความอ่อนแอของตัวเอง เพื่อเป็น 1 ใน 10 ผู้ชนะที่จะได้เดบิวต์เป็นศิลปินวงใหม่ของวงการ

ถึงพูดเกาหลีได้นิดหน่อย อ่านภาษาเกาหลีไม่ออก และไม่มีล่าม แต่พีคก็ตั้งใจทำทุกบททดสอบออกมาได้ดี และแม้จะไม่ได้อยู่อันดับสูง แต่ในฐานะผู้ติดตามรายการ พีคคือคนที่พยายามและทุ่มเทให้สิ่งที่รักแบบสุด ๆ 

แล้วความพยายามและความตั้งใจก็ทำให้เขาผ่านเข้ารอบไปได้ถึง 60 คนสุดท้าย

เวทีแรกผ่านไป ระหว่างที่กลับมาเมืองไทย เขาก็ไปออดิชันผ่านเข้ารอบรายการ ‘Asia Super Young’ แต่ก็ดูเหมือนว่า โชคชะตาไม่เป็นใจ เพราะรายการถูกระงับการถ่ายทำ เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 

จนมาถึงวันนี้ พีคก็ยังคงเป็นผู้ชายที่รักการเต้น รักการทำเพลง และยังมุ่งมั่นในการเป็นศิลปินตลอดมา

 

นักแสดงหน้าใหม่ที่ถูกจับตามอง

ไม่เพียงแค่มีความสามารถด้านการร้องและเต้น ปี 2564 พีคก็เดบิวต์ตัวเองในฐานะนักแสดง 

ละครเรื่องแรกของเขา คือ บท ‘คิว’ น้องฝึกงานหน้ามึน ประกบคู่ ‘เบลล่า ราณี’ ที่มารับบททนายสาวรุ่นพี่จากละครเรื่อง  ‘ให้รักพิพากษา’ 

ความมึน ๆ ความน่ารัก ความสดใสสไตล์เด็กหนุ่มทำให้หลาย ๆ คนรู้จัก ‘กองทัพ พีค’ มากขึ้น เกิดเป็นไวรัลแฮชแทก #ไอเด็กหน้ามึน เลยทีเดียว 

วันนั้น พีคให้สัมภาษณ์ว่า “เรื่องนี้เป็นละครเรื่องแรกของผมที่ตั้งใจทำมันออกมามาก เต็มที่กับทุกฉากทุกตอน และได้ร่วมงานกับคู่พาร์ตเนอร์ที่ดีอย่างพี่เบลล่า คอยสอนและแนะนำพีคเยอะมาก ๆ จนทำให้พีคมีความสุขกับงานแสดงและทำมันออกมาด้วยความรักทุกฉาก ขอบคุณที่แฟน ๆ สนับสนุนกันมาทุกช่วงเวลาตั้งแต่เปิดกล้อง จนมาถึงวันที่ออกอากาศในตอนแรก ก็อยากให้ฝากติดตามกันต่อไปทั้งเรื่อง เป็นละครที่น่ารักมาก ๆ ครับ”

3 ปีผ่านไป พีคก็คัมแบคในบทบาทของคุณชาย ‘อศิร จุฑาเทพ’ หรือคุณเพชร จาก ‘ดุจอัปสร’ หนึ่งในโปรเจกต์ซีรีส์ยักษ์ใหญ่ ภาคต่อของซีรีส์ ‘สุภาพบุรุษจุฑาเทพ’

ที่เรียกว่าเป็นไวรัลตั้งแต่ละครยังไม่ออนแอร์ ทำแฟนคลับจดบทละครสั้น ๆ เตรียมสวมบทเป็นดุจอัปสรกันเป็นแถว 

เพราะในละครจะมีฉากที่พระนางเพิ่งรู้จักกัน เธอคือประชาชน และเขาเป็นทหารผู้รักษาความสงบ ดังบทต่อไปนี้

พระเอก : “คุณชื่ออะไร”

นางเอก : “ดุจอัปสรค่ะ 

พระเอก :  อศิรครับ อศิรครับ อศิร จุฑาเทพ 

บทของคุณเพชรไม่ได้สดใส แต่เป็นลุคของหลานชายคนโต เป็นผู้บริหารหนุ่มที่ดันไปตกหลุมรัก ‘ดุจอัปสร’ สาวพีอาร์ที่รับบทโดย มิ้นท์ รัญชน์รวี เคมีดีจนหลายคนลุ้นให้มีรักนอกจอ

“ตอนเด็ก ๆ ฝันแค่อยากเป็นนักร้อง ตอนนี้มันเลยคำนั้นไปแล้ว ที่เหลือคือมอบความสุขให้คนอื่นทุกคนแค่นั้นเลย” เป้าหมายเรื่องการแสดงของพีคที่ให้สัมภาษณ์ของ lofficielthailand

 

เบาะรองจากครอบครัวที่มั่นคง

ถึงจะต้องเก็บกระเป๋าไปฝึกฝนตัวเองเพื่อสานฝันการเป็นศิลปินของตัวเอง

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่า หนึ่งเหตุผลที่ทำให้พีคทำความฝันสำเร็จ คือ การมีครอบครัวคอยซัพพอร์ตอยู่ข้างหลัง

เริ่มตั้งแต่การสนับสนุนให้ลูกชายเพียงคนเดียวไปเรียนต่อศิลปะการแสดงที่ต่างแดน ในรายการ Today Show พีคเล่าถึงจุดเริ่มต้นการไปเรียนที่ลอนดอนว่า มาจากแม่ที่ได้ยินเสียงเด็กเล่นดนตรี พีคเลยได้ไปเรียนซัมเมอร์ ตั้งเป้าและสอบเข้าผ่าน

ยิ่งตอนที่ลูกชายไปแข่งขันที่เกาหลีใต้ ถึงจะไม่ได้ดูแลใกล้ชิด แต่สิ่งที่พ่อปราบทำให้ลูกชาย คือ การทำป้ายห้อยคอไปขอคะแนนโหวตจากพลเมืองชาวเกาหลีใต้

“ผมเคยถามพ่อว่า เขาอายไหมที่ทำแบบนั้น พ่อบอกว่า ถ้าแฟนคลับทำได้ ทำไมคนเป็นพ่อจะทำไม่ได้” พีคบอกในรายการตีสิบเดย์

รวมถึงละครเรื่องแรก ‘ให้รักพิพากษา’ ที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวเปิดดูลูกชายเป็นพระเอกครั้งแรก

รายการตีท้ายครัว พ่อปราบให้สัมภาษณ์ข้าง ๆ ลูกชายว่า “เราเห็นความตั้งใจของเขา เขาใช้เวลามา 8 - 9 ปี เราเป็นพ่อเป็นแม่เขา อยากเห็นวันแรกที่เขาเล่นละคร แล้วเฟรมแรกสำคัญมากนะ เพราะมันย้อนกลับมาไม่ได้”

ในช่องยูทูบของ ‘พีค’ เราก็จะเห็นพ่อปราบอยู่กับลูกชายคนนี้ทุกที่ ทำให้เห็นถึงแรงสนับสนุนของพ่อต่อลูกชายคนนี้

การเดินทางของพีควันนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้น แต่เราก็เชื่อว่า ในอนาคตพีคจะเป็นนักแสดง ศิลปิน ที่อยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังได้อย่างมั่นคง

เพราะเส้นทางที่ผ่านมาบอกเราแล้วว่า พีคไม่เคยหยุดฝันเลยสักวัน

 

ภาพ : อินสตาแกรม kongthappeak

 

อ้างอิง 

“กองทัพ พีค” เข้ารอบ 60 คนในรายการ “PRODUCE X 101” / Kongthap_Home

ตีสิบเดย์ [Full] กองทัพ พีค / 2020 ENTERTAINMENT

ROADทิพย์ | พีคต่อเนื่อง "กองทัพ พีค" ชีวิตจริงยิ่งกว่า Survival ! | EP.7.2 / Maker Family

TODAYSHOW Part1 : พบกับ นักแสดงจาก “ดุจอัปสร ในละครชุด ดวงใจเทวพรหม” / BornTvOfficial

I can see your voice 6 [1회] 춤ok 노래ok 연기ok 다 되는 태국 저스틴 비버 'What do you mean' 190118 EP.1 / Mnet TV

ตีท้ายครัว | กองทัพ พีค | 1 ส.ค. 64 | Full / เงาะ ทีวี ngoa tv

"กองทัพ พีค" ชีวิตพีคๆ ของทายาทดารา กับเส้นทางบันเทิงที่ไม่ง่ายอย่างที่คิด / dek-d

TO BE AT THE PEAK / The Cloud

ครั้งแรกของการจับคู่ดวลบท ระหว่าง ‘มิ้นท์ รัญชน์รวี’ และ ‘กองทัพ พีค’ / lofficielthailand