เงินตรา เซ็กซ์ อำนาจ และเสรีภาพ ของ ‘ริดลีย์ สก็อตต์’

เงินตรา เซ็กซ์ อำนาจ และเสรีภาพ ของ ‘ริดลีย์ สก็อตต์’

ริดลีย์ สก็อตต์ ไม่เป็นสองรองใคร ไม่ว่าจะเป็น Alien, Blade Runner, Thelma & Louise, G.I. Jane, Gladiator, Hannibal, Black Hawk Down, Robin Hood, Prometheus, Exodus: Gods and Kings, The Martian, Napoleon และล่าสุดก็คือ Gladiator II

เช่นเดียวกับชื่อค่ายหนังของเขา Scott Free Productions ที่เขาตั้งขึ้นกับน้องชายร่วมสายเลือด ‘โทนี สก็อตต์’ (Tony Scott) สื่อถึงเสรีภาพทางความคิดของสองพี่น้องได้เป็นอย่างดี

แม้ชื่อชั้นของ ‘ริดลีย์ สก็อตต์’ (Ridley Scott) จะไม่ค่อยได้รับการกล่าวขวัญถึง หากมีการเอ่ยอ้างผลงานของผู้กำกับแบบแมส เพราะมี สตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg), เจมส์ คาเมรอน (James Cameron), จอร์จ ลูคัส (George Lucas), ไมเคิล เบย์ (Michael Bay), ปีเตอร์ แจ็คสัน (Peter Jackson), และ โรเบิร์ต เซเม็กคิส (Robert Zemeckis) ค้ำอยู่ด้านหน้า

แต่อันที่จริงแล้ว ผลงานของ ริดลีย์ สก็อตต์ ไม่เป็นสองรองใคร ไม่ว่าจะเป็น Alien, Blade Runner, Thelma & Louise, G.I. Jane, Gladiator, Hannibal, Black Hawk Down, Robin Hood, Prometheus, Exodus: Gods and Kings, The Martian, Napoleon และล่าสุดก็คือ Gladiator II

ได้ทั้งเงิน ทั้งกล่อง และหลายเรื่องการเป็นตำนานของวงการภาพยนตร์โลก แน่นอนว่า หากเอ่ยชื่อ Alien, Gladiator, Blade Runner, Thelma & Louise, Black Hawk Down นี่คือหนังระดับ iconic ที่ไม่มีใครสามารถปฏิเสธ และมองข้ามได้

ในวัย 86 ริดลีย์ สก็อตต์ ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการ ในฐานะผู้กำกับแถวหน้าของฮอลลีวู้ด และของโลก ดูเหมือนความคิดสร้างสรรค์ของเขายังคงพุ่งพล่าน ที่มาพร้อมกับ Passion การทำหนังที่เต็มเปี่ยม

เงินตรา

ใครที่ได้ดู House of Gucci คงจะเห็นประเด็นหนึ่งซึ่งขับเคลื่อนหนัง นั่นคือการเจาะลึกตระกูลเศรษฐีวงการแฟชั่นโลก คือครอบครัว Gucci ที่ความมั่งคั่งแม้บางครั้งจะนำมาซึ่งปัญหา แต่คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธ ว่าเงินบันดาลความสุขในชีวิต อย่างน้อยก็ช่วงเวลาหนึ่ง

เราจะเห็นร่องรอยกระบวนคิดของ ริดลีย์ สก็อตต์ ที่เล่นกับอำนาจเงิน ความโลภ การสร้างความร่ำรวยด้วยวิธีการที่ผิดอยู่เสมอ อย่างใน The Counselor การหักเหลี่ยมเฉือนคมในธุรกิจเพชร และ All the Money in the World เรื่องราวของอภิมหาเศรษฐีธุรกิจน้ำมัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Robin Hood นี่ชัดเจนมาก ที่ ริดลีย์ สก็อตต์ หยิบตำนานเก่าแก่ของอังกฤษ ว่าด้วยจอมโจรคุณธรรม ปล้นคนรวยเอามาแจกคนจน ที่เป็นการรื้อถอนอำนาจการครอบครองทรัพย์สิน และอำนาจปกครองไปด้วยในตัว เช่นเดียวกับ American Gangster

ใน The Last Duel กระทั่ง Napoleon ที่เหมือนจะนำเสนอประเด็นอำนาจปกครองเป็นหลัก ทว่า อำนาจการครอบครองทรัพย์สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อสังหาริมทรัพย์อันมีค่ายิ่ง คือ ที่ดิน ก็เป็นปมที่ ริดลีย์ สก็อตต์ ใช้ขับเคลื่อนเรื่องราวการแย่งชิงทรัพยากร อาณาเขต และมรดกที่ดิน

โดยภาพรวม ริดลีย์ สก็อตต์ มักขมวดปมเกี่ยวกับ ‘เงินตรา’ แม้ว่าอัตราส่วนที่เขาหยิบเรื่องนี้มาเล่นจะดูน้อยที่สุดหากเทียบกับธีมอื่น แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ริดลีย์ สก็อตต์ มักให้น้ำหนักกับเรื่องราวของเศรษฐี ไปจนถึงชนชั้นปกครอง ผู้มีทั้งอำนาจทางการเมือง และอำนาจการครอบงำทางเศรษฐกิจอยู่เสมอ

เซ็กซ์

แฟนพันธุ์แท้ ริดลีย์ สก็อตต์ ทราบดีว่า ‘ฉากเซ็กซ์’ ในหนังของเขาดุเด็ดเผ็ดมัน แต่ก็แฝงไว้ด้วยศิลปะชั้นสูง ทำให้ส่วนใหญ่เป็นฉากเร้าจินตนาการ ไม่โจ๋งครึ่ม ติดเรต พูดง่าย ๆ ว่า เป็นฉากเซ็กซ์ที่มีรสนิยม

แต่สารที่เขาต้องการสื่อ มีตั้งแต่ “เซ็กซ์คือการแสดงอำนาจ” การแสดง “ความรัก ความใคร่” แบบมนุษย์ปุถุชน ไปจนถึงการใช้เซ็กซ์เป็นสัญลักษณ์เสรีภาพของตัวละคร

เราจึงได้เห็นฉากเซ็กซ์หลากหลายรูปแบบ ทั้งฉากเซ็กซ์ของคู่หนุ่มสาว คู่รักต่างวัย คนเพศเดียวกัน ไปจนถึง เซ็กซ์ระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ และสัญลักษณ์ทางเพศผ่านลักษณะทางกายภาพของ Alien

ฃใน The Counselor, House of Gucci อัดแน่นด้วยฉากเซ็กซ์สุดร้อนแรง ขณะที่ Napoleon, Gladiator เป็นเซ็กซ์ที่แฝงไว้ด้วยการแสดงอำนาจ ใน The Last Duel เป็นเซ็กซ์ที่ถูกบังคับ และอยู่ภายใต้การแสวงหาอำนาจ

ขณะที่ งานชุด Alien ไม่ว่าจะเป็น Alien ต้นตำรับ หรือ Prometheus และ Alien: Covenant เป็นเซ็กซ์ที่แสดงออกผ่านสัญลักษณ์อวัยวะมนุษย์ต่างดาว ที่น่าสะพรึงที่สุดก็คือ เซ็กซ์ระหว่างคนกับ AI ใน Blade Runner

เช่นเดียวกับ Someone to Watch Over Me, Thelma & Louise และ แม้ไม่มีฉากเซ็กซ์แบบจะแจ้ง แต่บรรยากาศได้ส่งผ่าน และสื่อให้เห็นประเด็นเซ็กซ์ที่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดบางอย่าง ที่มนุษย์อยากปลดปล่อย

แม้ว่า ริดลีย์ สก็อตต์ จะไม่ได้ทำหนัง R แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าฉากเซ็กซ์ เร้าอารมณ์ในหนังหลายเรื่องของเขา มีทั้งความรุนแรง ฉาก Nude ล้ำจินตนาการ และหลายเรื่องเป็นการแสดงออกถึงความเท่าเทียม ในความหมายเสรีภาพของมนุษย์

 

อำนาจ

การแสวงหาอำนาจ การดำรงอยู่ของอำนาจ คงไว้ซึ่งอำนาจ และการโค่นล้มอำนาจ มีให้เห็นเสมอในหนังของ ริดลีย์ สก็อตต์

ใน Gladiator ภาคหนึ่ง และภาคสอง ที่กำลังลงโรงฉายอยู่ในขณะนี้ เป็นตัวอย่างอันดีที่สะท้อนถึง ความไร้อำนาจของทาส การปลดห่วงโซ่แห่งพันธนาการ และการทวงคืนอำนาจเหนือร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การโค่นล้มอำนาจที่ไม่เป็นธรรม

นอกจาก Gladiator ใน Robinhood, Body of Lies, Black Rain และ Black Hawk Down แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยมนุษย์จากแอกที่ไร้คุณธรรม การหยิบยื่นเสรีภาพในมุมอับสู่ความหลุดพ้นจากกรงขัง และการเขย่าฐานอำนาจเก่าเพื่อก่อรูปอำนาจใหม่ ผ่านเครื่องมือการใช้อำนาจในรูปแบบต่าง ๆ

ริดลีย์ สก็อตต์ ไปไกลถึงการแย่งชิงอำนาจระหว่างมนุษย์ต่างดาวกับมนุษย์ในภาพยนตร์ชุด Alien ระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักรกลในหนังชุด Blade Runner ไปจนถึงการสร้างสมดุลอำนาจระหว่างเพศสภาพใน Thelma & Louise และ G.I. Gane

ใน The Last Duel, American Gangster, House of Gucci แม้กระทั่ง Hannibal เป็นการฉายภาพการเข้าสู่วงจรอำนาจ การรักษาฐานอำนาจ และการขับเคลื่อนหรือใช้อำนาจนั้นกระทำสิ่งต่างๆ ไปจนถึงอำนาจปลอมๆ ใน Matchstick Men

Exodus: Gods and Kings, Napoleon และ Kingdom of Heaven คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด หากจะเอ่ยถึงการนำเสนอประเด็น ‘อำนาจ’ ผ่านภาพยนตร์ของเขา เพราะมีตั้งแต่ การแสวงหาอำนาจ การดำรงอยู่ของอำนาจ คงไว้ซึ่งอำนาจ และการโค่นล้มอำนาจ ครบถ้วนกระบวนความ

 

เสรีภาพ

‘เสรีภาพ’ ดูจะเป็นประเด็นที่ ริดลีย์ สก็อตต์ ให้ความสำคัญที่สุด เห็นได้จากหนังเกือบทั้งหมดของเขา ที่มีจะใช้ เงินตรา เซ็กซ์ อำนาจ เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเรื่องราว ทว่า ถึงที่สุดแล้ว เสรีภาพเสมือนเป้าหมายปลายทางที่แท้จริงของเขา

เสรีภาพที่จะมีชีวิตอยู่ และต่อสู้เพื่อมัน ปรากฏใน The Duellists, Legend, White Squall, 1492: Conquest of Paradise ขณะที่ Thelma & Louise และ G.I. Gane ฉายให้เห็นการแสวงหาเสรีภาพ และความเท่าเทียมระหว่างเพศ

ใน Robin Hood, Exodus: Gods and Kings และ Gladiator I และ II ให้บรรยากาศของเสรีภาพที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่มนุษย์พึงใช้สมรรถภาพในการเข้าถึง และรักษามันเอาไว้

ขณะที่ งานชุด Alien ไม่ว่าจะเป็น Alien ต้นตำรับ หรือ Prometheus และ Alien: Covenant เป็นแสดงฉากให้เห็นหนทางแห่งการหลุดพ้นจากกับดักชีวิต เพื่อแสวงหาหนทางแห่งอิสรภาพ แม้จะต้องแลกมาด้วยความตาย

เช่นเดียวกับ A Good Year, All the Money in the World และ House of Gucci ที่เป็นการค้นหาเสรีภาพ ผ่านการชั่งน้ำหนัก ทางเลือก และทัศนคติ ระหว่างพันธนาการทางกาย กับเสรีภาพที่จะมองไม่เห็น ชั่งน้ำหนักระหว่างสัญชาติญาณดิบ กับอิสรภาพที่แท้จริงที่มนุษย์พึงมี

หาก The Martian เป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพในอวกาศ Blade Runner, Black Hawk Down และ Napoleon ก็เสมือนภาพแสดงแทนการปล่อยเสรีภาพของมวลมนุษยชาติ ภายใต้โซ่ตรวนล่องหนที่ล่ามสภาวะจิตใจ ท่ามกลางการต่อสู้กันระหว่างความดีกับความชั่ว

 

Scott Free

ริดลีย์ สก็อตต์ เกิดเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1937 ในเซาท์ชิลด์ส สหราชอาณาจักร เป็นบุตรของ ‘พันเอกฟรานซิส ‘แฟรงค์’ เพอร์ซี สก็อตต์’ เจ้าของธุรกิจเดินเรือพาณิชย์ที่นิวคาสเซิล และ ‘เอลิซาเบธ วิลเลียมส์

ริดลีย์ สก็อตต์ เริ่มสนใจวรรณกรรม และภาพยนตร์ จากการคลุกคลีกับลุง ผู้เป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์หลายแห่งในไทน์ไซด์ เขาชื่นชอบนวนิยายของ H.G. Wells โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ริดลีย์ สก็อตต์ ได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์ Sci-fi ไม่ว่าจะเป็น It! The Terror from Beyond Space, The Day the Earth Stood Still และ Them!

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2001: A Space Odyssey ของ ‘สแตนลีย์ คูบริก’ (Stanley Kubrick) ทำให้เกิดแรงบันดาลใจเข้าเรียนด้านการออกแบบจาก West Hartlepool College of Art และ Royal College of Art เขาเขียนบทความเกี่ยวกับภาพยนตร์ลงในนิตยสาร ARK ของทางวิทยาลัย

ต่อมา ริดลีย์ สก็อตต์ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งแผนกภาพยนตร์ของวิทยาลัย โดยได้สร้างภาพยนตร์สั้นขาวดำเรื่อง Boy and Bicycle (สามารถรับชมได้ใน DVD เรื่อง The Duellists) หลังจากสำเร็จการศึกษาในปี ค.ศ. 1963 เขาได้งานเป็นนักออกแบบฉากฝึกหัดกับ BBC ซึ่งนำไปสู่การทำงานในซีรีส์ตำรวจทางโทรทัศน์ยอดนิยมเรื่อง Z-Cars ซีรีส์นิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง Out of the Unknown และซีรีส์ดรามา Doctor Who

ปี ค.ศ. 1968 ริดลีย์ สก็อตต์ ร่วมกับ โทนี สก็อตต์ น้องชายแท้ ๆ ของเขา ก่อตั้ง Ridley Scott Associates (RSA) เพื่อผลิตภาพยนตร์ และหนังโฆษณา ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น Scott Free Production ในเวลาต่อมา และใช้ชื่อนี้อยู่ในปัจจุบัน