NCT DREAM : พลังของการรวม 7 ความฝันให้เป็นหนึ่งเดียว

NCT DREAM คือ ยูนิตน้องเล็กจากจักรวาลแห่งความฝัน ‘NCT’

พวกเขาเดบิวต์วันที่ 25 สิงหาคม 2016 5 เดือนต่อจากยูนิตรุ่นพี่ NCT127 ที่ให้ภาพลักษณ์ของความเป็นชายหนุ่มที่เติบโตและแนวดนตรีที่ไม่เหมือนใคร 

แต่ดูเหมือนแนวเพลงของ NCT DREAM จะต่างออกไป พวกเขาเป็นเด็กหนุ่มที่มีเพลงสดใส หวังจะมอบความฝันและความฝันให้กับพี่ ๆ ทุกคนบนโลกใบนี้ 

NCT DREAM ประกอบด้วยสมาชิก 7 คน คือ มาร์ค เจโน่ แจมิน แฮชาน เหรินจวิ้น เฉินเล่อ และจีซอง ถึงตอนแรกจะดูเป็นเด็ก ๆ เหมือนกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาคือคน 7 คน ต่างเฉดสีที่มาอยู่รวมกันกลายเป็นความสดใส ทำให้แฟนคลับอมยิ้มและสนุกสนานไปกับพวกเขาได้เสมอ

ที่ผ่านมา เส้นทางของพวกเขาไม่ง่าย และไม่ต่างจากละครเรื่องหนึ่งที่ต้องมีจุดเปลี่ยนและพลิกผันตลอดเวลาจนมาถึงวันที่เขากลายเป็นศิลปินรุ่นพี่ที่เป็นต้นแบบให้กับศิลปินรุ่นน้อง

เพราะเมื่อพูดถึง NCT DREAM ข้อจำกัดของพวกเขาไม่ใช่ช่วงวัย แต่เป็นสมาชิก 7 คนนี้เท่านั้นที่จับมือกันเพื่อทำฝันให้เป็นจริง

เด็กหนุ่มผู้มอบความหวังและความฝัน

15.7 คือ อายุเฉลี่ยของเด็ก 7 คน สมาชิกวง NCT DREAM ในวันที่พวกเขาเดบิวต์

ถ้าเทียบกับวงรุ่นพี่ NCT นี่คือวงน้องเล็ก ไม่ใช่แค่ในสายตาของแฟนคลับ แต่ดูเหมือนเด็กหนุ่มทั้ง 7 คนก็เป็นน้องเล็กในสายตาของพี่ ๆ วงเดียวกัน

เหตุผลที่พวกเขาเลือกใช้คำว่า ‘DREAM’ เพราะพวกเขาหวังว่าจะเป็นความฝันที่เป็นจริงให้กับพี่สาวและพี่ชายทุกคน

วัยที่ยังเด็กมาก ๆ เพลงแรกในชีวิตของพวกเขาจึงมาในคอนเซ็ปต์น่ารักสดใส อย่าง ‘Chewing Gum’ เพลงที่พูดถึงใจของเด็กหนุ่มที่พองเหมือนกับหมากฝรั่ง

แล้วดูเหมือนคอนเซ็ปต์นี้จะถูกใจพี่สาว พี่ชาย เพราะ Chewing Gum ทะยานขึ้นอันดับ 2 ของชาร์ต World Digital Song Sales ของบิลล์บอร์ด

ขณะเดียวกัน ไม่เพียงมอบความฝันและความหวังให้กับแฟนเพลงและชาว NCTZens เท่านั้น แต่เราเชื่อว่า พวกเขาก็มอบความฝันและเติบโตไปพร้อมกัน

เพราะอย่างที่หลายคนรู้ ในวันที่พวกเขาต้องยืนอยู่หน้ากล้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่ แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาเป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่กำลังวิ่งตามความฝัน

และการเดบิวต์มันก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น…

7 DREAM ที่ใฝ่ฝัน

กว่าจะมาถึงวันนี้ วันที่ NCT DREAM ที่มั่นคงและยืนหยัดใน 7 ความฝัน เด็กหนุ่ม 7 คนก็ผ่านบททดสอบมามากมาย

ครั้งแรก เกิดขึ้นหลังเดบิวต์ได้ประมาณ 1 ปีกว่า ๆ แจมินบาดเจ็บที่หลังจนต้องพักกิจกรรมในช่วงปี 2017 - 2018

รวมถึงความท้าทายครั้งใหญ่ที่ทำแฟน ๆ ใจสลาย แล้วเราก็คิดว่าสมาชิกทั้ง 6 คนที่เหลือคงรู้สึกไม่ต่างกัน เมื่อมาร์ค พี่ใหญ่และหัวหน้าวงอายุครบ 20 ปีต้องจบการศึกษาตามเงื่อนไขเรื่องอายุ

มาร์คให้สัญญากับแฟนคลับในวันจบการศึกษากลางคอนเสิร์ต NCT DREAM Show 2 ว่า ถึงเขาจะจบการศึกษา แต่มาร์ค เจโน่ แฮชาน แจมิน เหรินจวิ้น เฉินเล่อ และจีซองจะยังคงเป็นเพื่อนกันตลอดไป

วันเวลาที่ผ่านไป ความผูกพันที่ก่อตัวขึ้น พวกเขาไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงานกันอีกแล้ว แต่เป็น ‘พี่น้อง’ และ ‘เพื่อนแท้’

“ผมให้สัญญาเลยว่า ถึงแม้ว่า NCT DREAM จะจบการศึกษากันไปแล้ว เราก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่ดี ไม่เป็นไรนะครับ ถ้าทุกคนไม่เศร้า พวกเราก็จะไม่เศร้า” (คำแปลจากยูทูบ Peach Perfect #2)

ดูเหมือนมาร์คจะทำตามที่พูดไว้ เขายังคงรักและเอ็นดูเจ้าเด็ก 6 คน แม้จะจบการศึกษาไปแล้ว ดูได้จากวันถ่ายมิวสิกวิดีโอเพลง ‘Ridin’ ที่มาร์คเลือกจะปลอมตัวเหมือนทีมงานไปให้กำลังใจที่กองถ่าย 

แล้วเหมือนกับฟ้าลิขิตด้วยพลังแห่งรัก ความผูกพัน และความสามัคคี ในเพลง ‘Hot Sauce’ มาร์คกลับมาเป็นหนึ่งในสมาชิก NCT DREAM มาร์คกลับมาเติมเต็มช่องว่างความฝันที่หายไปในรอบ 3 ปี

มากกว่านั้น SM Entertainment ต้นสังกัดก็เลือกที่จะตัดระบบการศึกษาออกไป และทำให้ NCT DREAM เป็นยูนิตหลักที่มีสมาชิก 7 คน แบบไม่ขาด ไม่เกิน 

มาร์คให้สัมภาษณ์กับ Rolling Stone ว่า การที่เขาได้กลับมาถือว่าเป็นชะตาที่พลิกผันของ NCT DREAM

“ระบบจบการศึกษาเป็นเรื่องเจ็บปวด แต่เราต้องอดทนและเดินหน้าต่อไป ตอนที่ผมกลับมา ผมไม่ได้โล่งใจขนาดนั้น ผมไม่รู้ว่าแฟน ๆ จะรู้สึกอย่างไร มันเป็นเรื่องค่อนข้างซับซ้อน แต่มันก็หมายความว่าเราสามารถทำอะไรบางอย่างในฐานะ 7Dream ที่เราใฝ่ฝันมาตลอดได้ มันรู้สึกเหมือนนี่คือชะตาที่พลิกผันของ NCT DREAM”

ส่วนเหรินจวิ้นให้สัมภาษณ์กับ teenvogue ว่า วันนี้ NCT DREAM เป็นวงถาวร และคงเป็นแค่พวกเขาที่ตื่นเต้นและนำเสนอตัวตนของพวกเขาให้แฟน ๆ ได้เห็น

“ตอนนั้นเราต้องยอมรับความจริง เพราะมันเป็นระบบของวง แต่ตอนนี้ NCT DREAM เป็นวงถาวรแล้ว พวกเรากระตือรือร้นมาก ๆ ในการคิดคอนเซ็ปต์และไอเดียใหม่ ๆ และตื่นเต้นที่จะโชว์ให้ทุกคนเห็น”

สมาชิกทั้ง 7 คนจับมือสู้เพื่อความฝัน เดินหน้าผลิตผลงานเพลงและการแสดงอันน่าประทับใจ จากศิลปินรุ่นน้องกลายเป็นศิลปินรุ่นพี่ ขณะเดียวกันก็ยังคงความสดใสตลอดมา

พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นจากการเดินขึ้นรับรางวัลตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นรางวัล Hot Performance of the Year จากเวที Circle Chart Music Awards ในปี 2020 รางวัลอัลบั้มแห่งปี (Bonsang) จากอัลบั้ม ‘Hot Sauce’ บนเวที Golden Disc Awards ปี 2022 รางวัล Best Artisy (Daesang) รางวัลที่ใหญ่สุดของงาน Hanteo Music Awards ในปี 2023 รวมถึงรางวัล Best Album of the Year จากงาน Music Asian Music Awards จากปีเดียวกัน และอีกมากมาย 

ทั้งหมดนี้คือเครื่องพิสูจน์ว่า เด็กทั้ง 7 คนเมื่อ 7 ปีก่อน เริ่มเติบโตเป็นหนุ่มเต็มวัยที่ทำให้เหล่าพี่สาวอดกรี๊ดและต้องยอมรับว่า น้องดรีมโตแล้วจริง ๆ

 

NCT DREAM เวอร์ชัน ‘โตแล้ว’

แม้ช่วงแรก NCT DREAM จะเปิดตัวด้วยความน่ารักสดใส และให้เด็กหนุ่ม 7 คนแต่งชุดนักเรียนเต้นเพลง Chewing Gum ก็ตาม แต่อายุที่มากขึ้น ก็มาพร้อมภาพลักษณ์ที่โตขึ้น

เริ่มตั้งแต่เพลง Ridin ที่ดูหนุ่มดูเท่ขึ้นจากคอสตูม สีผมสีแสบ และท่าเต้นที่แข็งแกร่ง ต่อด้วย Hot Sauce เพลงไตเติ้ลจากอัลบั้มแรกของพวกเขาก็มีท่าเต้นที่สนุก และภาพลักษณ์สุดเท่ รวมถึง Glitch Mode ISTJ และ Smoothie ที่เท่ สลัดคราบเด็กหนุ่มแสนสดใสไปเลย

ถึงอย่างนั้นก็มีเพลงไตเติ้ลที่ฟังสบายสมกับเด็กหนุ่มผู้มอบความฝันและความหวัง เช่น Hello Future กับการมองไปยังอนาคตร่วมกัน หรือการนำเพลง Candy มา remix ใหม่ในเวอร์ชันปี 2022 

นอกจากนี้ เขายังเลือกที่จะเล่าชีวิตของพวกเขาที่ผ่านมาผ่านบทเพลง เริ่มต้นเป็น NCT DREAM เด็กหนุ่ม 7 คนที่วิ่งตามความฝัน และเป็นแค่ 7 คนนี้เท่านั้นที่ทำด้วยกันได้

“แฟน ๆ เห็นพวกเรามาตั้งแต่แรก เติบโตมาด้วยกัน ตอนนี้ถึงเวลาที่เราจะแสดงให้เห็นว่า การเป็นผู้ใหญ่ของ NCT DREAM นั้นเป็นอย่างไร เราคงจะเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบว่าการเติบโตและการพัฒนาเป็นอย่างไร” มาร์คให้สัมภาษณ์กับ teenvogue ในปี 2021 

ไม่เพียงแค่บทเพลงและภาพลักษณ์ที่โตขึ้นเท่านั้น แต่เราเห็นความคิดของพวกเขาที่โตขึ้นเช่นเดียวกัน

บางคนอาจเคยเป็นคนขี้อายกลายเป็นหนุ่มสดใส มอบรอยยิ้ม อาจเป็นเพราะพวกเขาเชื่อมั่นในกันและกันจนถึงที่สุด

เมื่อปี 2023 เหรินจวิ้น เมนโวคอลของวงเคยให้สัมภาษณ์กับ USA Today ว่า การได้มาเจอ NCT DREAM เหมือนการถูกลอตเตอรี่ 

“เราทุกคนต่างที่มา สมาชิกทุกคนล้วนมีความพิเศษและเปล่งประกายในแบบของตัวเอง การได้ใช้เวลาในวัยเด็กร่วมกันเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีใครสามารถมีได้”

สำหรับน้องเล็กอย่างจีซองบอกว่า NCT DREAM คือ ครอบครัวและบ้านหลังที่ 2 เพราะพวกเขาอยู่ด้วยกันตั้งแต่เด็ก ใช้เวลาช่วงวัยรุ่นด้วยกัน และยังคงอยู่ด้วยกันในวันที่พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่

“สำหรับผม ผมใช้ครึ่งชีวิตไปกับเมมเบอร์ NCT DREAM เหมือนครอบครัวที่ 2 มันเป็นเรื่องดีที่ผมได้สัมผัสประสบการณ์ดี ๆ เหล่านี้ร่วมกับพวกเขาเป็นครอบครัว”

THE DREAM SHOW คอนเสิร์ตของ 7 ความฝัน

เมื่อปี 2020 NCT DREAM ออกเดินทางเปิดคอนเสิร์ต ‘THE DREAM SHOW’ ด้วยสมาชิก 6 คน เพราะตอนนั้นมาร์คอยู่ในช่วงจบการศึกษา

ผ่านไปอีก 2 ปี พวกเขาเปิดทัวร์ภาคต่อ ‘THE DREAM SHOW 2 : In A Dream’ ครั้งนี้พวกเขาออกเดินทางด้วยสมาชิกครบทั้ง 7 คน 

ในช่วงท้ายคอนเสิร์ต ‘THE DREAM SHOW 2 : In A Dream’ ที่สนามกีฬาจัมชิล กรุงโซล แฮชานบอกว่า คอนเสิร์ตนี้เป็นหมุดหมายและเป็นจุดเริ่มต้นยุคของ NCT DREAM

“ถึงแม้จะเคยคิดตอนที่เราทำดรีมโชว์ครั้งที่ 1 ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายก็ตาม แต่สำหรับดรีมโชว์ครั้งที่ 2 วันนี้ จากนี้ไปจะเป็นการเริ่มต้นยุคของ NCT DREAM” (คำแปลจากยูทูบ Peach Perfect #2)

ส่วนมาร์ค ในฐานะที่ขึ้นคอนเสิร์ตกับน้อง ๆ ในวงเป็นครั้งแรกก็บอกว่า ช่วงเวลาที่เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตนั้นแสนพิเศษ ขอบคุณเมมเบอร์ที่ทำงานอย่างหนัก และขอบคุณแฟนคลับที่ทำให้พวกเขามายืนบนเวทีพร้อมกัน 7 คนได้อีกครั้ง 

“มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับเรามาก ๆ เลย ขอบคุณทุกคนที่มาอยู่ในช่วงเวลาแสนพิเศษนี้ ถึงแม้จะเป็นคำธรรมดาที่ใช้กันทั่วไป แล้วก็ลืมง่าย แต่เป็นช่วงเวลาที่ผมได้กลับมาทบทวนการขอบคุณอีกครั้ง ช่วงเวลาเหล่านี้เกิดขึ้นได้ เพราะทุกคน (NCTZens : ชื่อแฟนคลับของ NCT) เลย” (คำแปลจากยูทูบ Peach Perfect #2)

หลังจาก DREAM SHOW 2 จบทัวร์ไปเกือบ 1 ปี ในปี 2024 พวกเขาก็กลับมาอีกครั้งกับคอนเสิร์ต ‘THE DREAM SHOW 3 : DREAM ( ) SCAPE’ 

เจโน่ให้สัมภาษณ์กับ billboard ก่อนเริ่มทัวร์ครั้งใหม่ว่า โชว์ต่าง ๆ จะเป็นสีสันใหม่ ๆ และ NCT DREAM ในแง่มุมใหม่

“ปีนี้ แฟน ๆ รอได้เลย เพราะแต่ละส่วนจะมีสีสันที่โดดเด่น เต็มไปด้วยเสน่ห์ เอง และสะท้อนความเป็นตัวพวกเราทั้ง 7 คน”

ส่วนเหรินจวิ้นหรืออินจุนทิ้งท้ายว่า “คอนเสิร์ตนี้เหมือนกับการนั่งรถไฟเหาะ เพราะอารมณ์มีทั้งขึ้นทั้งลง แล้วแฟน ๆ ก็จะมีอารมณ์เหล่านั้นไปพร้อมกับพวกเรา”

ถึงคอนเสิร์ต ‘THE DREAM SHOW 3 : DREAM ( ) SCAPE’  ณ สนามราชมังคลากีฬาสถานทั้ง 2 รอบที่ประเทศไทย จะไม่มีอินจุน เนื่องจากปัญหาสุขภาพ แต่อย่างที่แฮชานบอกในคอนเสิร์ตที่โซลว่า พวกเขาจะเต็มที่ในทุกการแสดง รอวันที่อินจุนจะกลับมาขึ้นคอนเสิร์ตด้วยกัน

และทั้งหมดนี้คือเส้นทางของเด็กหนุ่ม 7 คนที่โอบอุ้มความฝันของตัวเอง เติบโต พราวเสน่ห์เมื่อยืนอยู่บนเวที 

ใช่, วันนี้ เราคงต้องยอมรับว่า NCT DREAM โตแล้วจริง ๆ แต่ไม่ใช่แค่ศิลปินที่เติบโต แต่แฟนคลับเองก็เติบโตไปพร้อมกับพวกเขาด้วยเหมือนกัน

อย่างน้อย ๆ NCTZens ก็มีฝันที่จะตั้งใจทำงาน เก็บเงิน เพื่อที่จะมาคอนเสิร์ต และเพื่อมีช่วงเวลาแสนพิเศษที่จะยังคงอยู่ในใจของแฟนคลับตลอดไป

เพราะถึงน้องดรีมจะโตกว่านี้ ในใจของแฟนคลับหลายคน น้องดรีมก็จะยังเป็นน้องดรีมของชาว NCTZens ต่อไป 

โย่ ดรีม! จอลจูรา ไฟท์ติ้ง!!

 

ภาพ : อินสตาแกรม NCT DREAM
 

อ้างอิง :

NCT DREAM Open Up on Maturing & Taking More Creative Control in Group’s ‘New Chapter’ / billboard

Get to know NCT Dream: A guide to the K-pop group's members, milestones and US tour / USA TODAY

NCT Dream Talks About their debut track, Chewing Gum! / thefifthparlour

Living the dream: NCT Dream on touring the world and their story so far / Rolling Stone

NCT Dream Talk New Album “Hot Sauce” and Mark’s Triumphant Return / TeenVogue

181204 NCT DREAM SHOW | พี่มาร์คสำหรับน้องดรีมคืออะไร ? / PEACH PERFECT#2

[ THAISUB ] 220908 THE DREAM SHOW 2 - DAY 1 | น้องดรีมกล่าวความรู้สึกปิดท้ายคอนเสิร์ต / PEACH PERFECT#2

[Eng Sub] Haechan Ending Ment - 240503 NCT DREAM The Dream Show 3 Seoul Day 1! / nakyyana