ส่องเมนูอาหาร นักกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 งานจัดเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ส่องเมนูอาหาร นักกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 งานจัดเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ส่องเมนูอาหาร นักกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 งานจัดเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ความอร่อยระดับมิชลินสตาร์ วัตถุดิบ Plant - Based และกล้วยหอมกว่า 3,000,000 ผล

KEY

POINTS

  • โอลิมปิก ปารีส 2024 มีเป้าหมายลดอัตราการเกิดก๊าซเรือนกระจกให้เหลือเพียงครึ่งหนึ่งจากโอลิมปิคครั้งก่อน ๆ
  • แม้จะมุ่งเน้นการใช้วัตถุดิบจากพืชมากขึ้นจากเดิมถึง 2 เท่า แต่ปารีสก็ไม่ทิ้งลายในฐานะเมืองแห่งอาหาร ด้วยการดึงเซเลบริตี้เชฟและเชฟมิชลินสตาร์ถึง 4 คน มารังสรรค์เมนู พร้อมเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
  • การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ นับวิสัยทัศน์ในการนำฝรั่งเศสเข้าสู่ “รสชาติสมัยใหม่” (Modern Taste of France) ที่เน้นการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นตามฤดูกาล เพิ่มสัดส่วนของผักในมื้ออาหาร พร้อมกับสนับสนุนการทำเกษตรแบบรักษ์โลกสู่การบริโภคอย่างยั่งยืน

ใครจะไปเชื่อว่า ‘ยูเซน โบลต์’ (Usain Bolt) สุดยอดนักกรีฑาเจ้าของ 8 เหรียญทองโอลิมปิก ชาวจาเมกา จะเอ่ยปากถึงเบื้องหลังความสำเร็จของเขาในโอลิมปิกที่ปักกิ่งในปี 2008 ว่าเกิดจาก ‘นัตเก็ตไก่’ กว่า 1,000 ชิ้น ที่เขากินตลอด 10 วันของการแข่งขัน

ทว่าโอลิมปิก ปารีส 2024 นี้ กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อเมนูดังกล่าวจะถูกถอดออก แล้วเปลี่ยนมาเป็น ‘นัตเก็ตแพลนต์เบส’ (Plant Based) ที่ทำมาจาก ‘ถั่วเหลือง’ แทน จากแนวคิดหลักที่ว่า “อาหารจะต้องดีต่อสุขภาพและดีต่อโลกไปพร้อม ๆ กัน” ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โอลิมปิก ปารีส 2024 ขึ้นชื่อว่าเป็น Vegetarian -  Friendly และ Eco - Friendly มากกว่าโอลิมปิกครั้งไหน ๆ 

และนี่คือเรื่องราวของงานเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เริ่มด้วยกล้วยหอม 3,000,000 ลูก 

การเป็นเจ้าภาพในการดูแลและรองรับนักกีฬาจากทั่วโลกมากกว่า 15,000 คน หรืออาหารราว ๆ กว่า 40,000 มื้อต่อวัน ไม่ใช่เรื่องง่าย และสิ่งแรกที่ปารีสต้องเตรียมให้พร้อมเลยก็คือ ‘กล้วยหอม’ ราว ๆ 3 ล้านผล เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับนักกีฬาที่เดินทางมาแข่งขันทั้งโอลิมปิก (26 กรกฎาคม – 11 สิงหาคม 2024) และพาราลิมปิก (7 กันยายน - 18 กันยายน 2024) ซึ่งรวมกันก็นานร่วมเดือนเลยทีเดียว

กล้วยหอมนับเป็นผลไม้ที่นักกีฬาชื่นชอบมากที่สุด เพราะไม่ได้มีดีแค่รสชาติ หากแต่ในกล้วยหอมสุก ประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคส ซูโคส และฟรุคโตส ซึ่งร่างกายสามารถดึงไปใช้ได้ในทันที อีกทั้งยังมีโปรแตสเซียมที่ช่วยให้ร่างกายมีความตื่นตัว ช่วยควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ จึงสามารถลดการเกิดตะคริว ด้วยเหตุนี้ กล้วยจึงเป็นตัวเลือกแรกของนักกีฬาเสมอ ๆ

น่าเสียดายที่กล้วยนับเป็นผลไม้ที่ปารีสจะต้องนำเข้ามา จึงไม่ค่อยสมมงของการเป็น Eco - Friendly สักเท่าไร นอกจากนี้ ยังมี ‘กาแฟ’ ที่ปารีสจะต้องนำเข้ามาอีก 20 ตัน เพื่อรองรับความต้องการของนักกีฬา แต่ถึงอย่างนั้น ทางผู้จัดก็ยืนยันว่าผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ และผักล้วนเมดอินฟรานซ์แท้ๆ แน่นอน

เน้นวัตถุดิบ Plant – Based

กว่าจะออกมาเป็นแต่ละเมนูนั้น ทีมงานโอลิมปิก ปารีส ได้ทำการสำรวจนักกีฬาทั่วโลกร่วม 200 คน ควบคู่กับข้อมูลจากคณะกรรมการระหว่างประเทศ (International Committee) จากโอลิมปิกครั้งก่อน ๆ ก่อนจะสรุปว่า ‘อาหารที่ดี’ ไม่ใช่จะต้องดีต่อสุขภาพตามหลักโภชนาการเท่านั้น หากต้องเป็นมิตรกับโลก และเคารพวัฒนธรรมอันหลากหลายอีกด้วย

เพื่อให้ความอร่อยดังกล่าวบรรลุผล โอลิมปิก ปารีส 2024 ก็ได้พาร์ทเนอร์คนสำคัญ ‘การ์เดน กูรเมต์’ (Garden Gourmet) เจ้าของเดียวกับ ‘เนสต์เล่’ (Nestle) ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชมาช่วยสานฝัน ทำให้โอลิมปิกครั้งนี้สามารถสรรหาวัตถุดิบจากพืชผักได้มากขึ้นจากเดิมถึง 2 เท่า โดยมีเป้าประสงค์หลัก ในการลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือเพียงครึ่งหนึ่งจากโอลิมปิกครั้งผ่าน ๆ มา 

องค์การสหประชาชาติระบุว่า อาหารที่ทำจากสัตว์เนื้อแดง ผลิตภัณฑ์นม และกุ้งจากฟาร์มเลี้ยง เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงที่สุด เพราะการเลี้ยงสัตว์จำเป็นต้องใช้พื้นที่ จนเป็นสาเหตุของการรุกล้ำพื้นที่ป่า อีกทั้งของเสียจากสัตว์เองก็เป็นตัวเร่งในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ในทางกลับกัน อาหารที่ทำจากพืช เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว และธัญพืช จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า เนื่องจากใช้พื้นที่และน้ำน้อยกว่า เมื่อเทียบที่มากันแบบหมัดต่อหมัด

จากข้อมูลใน Celebrating the Modern Taste of France เอกสารคู่มือนำเสนอวิสัยทัศน์อาหาร โอลิมปิก ปารีส 2024 ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับอาหารอย่างลึกซึ้ง โดยเน้นหนักที่การเลือกใช้วัตถุดิบ Plant - Based หรืออาหารที่ทำจากพืช (แม้แต่เนื้อสัตว์!) ตามด้วยการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นในประเทศ (Local &  Sustainable Food) ถึง 80% โดยเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค 30% และมีเมนูมังสวิรัติ Vegetarian - Friendly มากถึง 60% จากเมนูทั้งหมด 550 รายการ ซึ่งนับว่ามากกว่าโอลิมปิกครั้งไหน ๆ 

เมนูแบบ Vegetarian - Friendly 

‘แคร์รีย์ โซโลมอน’ (Carrie Solomon) เชฟชาวอเมริกันผู้หลงใหลในอาหารฝรั่งเศส และทำงานอยู่ที่นี่กว่า 20 ปี จนมีตำราอาหารชื่อ Bohème Cooking: French Vegan Recipes เป็นหนึ่งในเชฟที่ได้รับเลือกให้มาทำอาหารให้กับโอลิมปิก ปารีส 2024 เล่าว่า แม้เมนูที่ทำจะเป็นมังสวิรัติ และวีแกน (Vegan) แต่เธอก็ต้องการใส่เอกลักษณ์ของ ‘อาหารฝรั่งเศส’ ลงไปให้มากที่สุด 

เมนูเด่นของเธอเริ่มด้วยการใช้ ‘บริออช’ ขนมปังสไตล์ฝรั่งเศสที่คนทั้่วโลกต่างหลงรักในรสชาติ และความฉ่ำของเนยในทุกอณู จนเป็นที่มาของ ‘เฟรนซ์โทสต์’ เมนูอาหารเช้าที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก แต่บริออชฉบับของเธอนั้น จะเป็นสูตรที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ เฟรนซ์โทสต์สไตล์เชฟโซโลมอนนั้น จะเป็นบริออชเสิร์ฟพร้อมสตรอเบอร์รี่ น้ำเชื่อมเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ และวิปปิงครีมจากชีสมาสคาโปน 

นอกจากนี้ ยังมีเมนูอื่น ๆ อีกเช่น ไข่ลวกเสิร์ฟพร้อมถั่วปากอ้า ถั่วลันเตา และซอสซาบายอง หรือจะเป็นซุปมะเขือแทศเย็นและพริกหวาน ตามด้วยเมนูฮิตสไตล์คนรักสุขภาพอย่างบีเชอร์มูสลี (Bircher Muesli) อาหารเช้าที่ทำจากข้าวโอ๊ต จุดเด่นอยู่ที่การแช่ข้าวโอ๊ตค้างคืน ก่อนจะเสิร์ฟพร้อมนมโอ๊ต ช็อคโกแลต ครีม และบลูเบอร์รี่ 

แต่ใครที่ไม่ชอบผัก หรืออาหารที่ดีต่อสุขภาพจนเกินงาม ทางผู้จัดก็บอกว่าอย่าเพิ่งน้อยใจไป เพราะยังคงมีขนมนมเนย และอาหารจังก์ฟู้ดรองรับเช่นกัน เนื่องจากทุกคนรู้ดีว่าหลังการแข่งขัน คงไม่มีอะไรที่ชุบชูใจไปมากกว่าการรับประทานอาหารตามใจอยากอีกแล้ว

อาหารระดับมิชลินสตาร์

อย่างที่รู้กันว่าประเทศฝรั่งเศสคือ ต้นกำเนิดของอาหารไฟน์ไดนิ่ง และเป็นแม่แบบของการทำอาหารในยุคปัจจุบัน ในดินแดนที่เป็นต้นกำเนิดของดาวมิชลินสตร์แห่งนี้ ผู้คนสนใจและดื่มด่ำในการรับประทานอาหารอย่างมีสุนทรีย์ เวลาที่ใช้ไปส่วนใหญ่ของชาวฝรั่งเศส จึงไม่พ้นการอยู่บนโต๊ะอาหาร

แน่นอนว่าการเป็นเจ้าภาพของฝรั่งเศสจึงเต็มไปด้วยความคาดหวัง ซึ่งทางผู้จัดงานก็ได้เชิญเซเลบริตี้เชฟและเชฟมิชลินสตาร์ถึง 4 คน เข้ามามีส่วนร่วมในการเตรียมอาหาร และหนึ่งในนั้นก็คือ เชฟหญิง ‘อมันดีน ไชญอต’ (Amandine Chaignot) เจ้าของร้านอาหารชื่อดังอย่าง Pouliche และ Café de Luce ก็ออกมาสปอยล์เมนูสุดแสนเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยรสชาติ อย่าง ครัวซองต์และไข่ลวก เสิร์ฟพร้อมครีมอาร์ติโชค และชีสนมแกะขูด ก่อนจะโรยหน้าด้วยทรัฟเฟิล ซึ่งเชฟมิชลินคนนี้ก็แนะนำว่า เมนูนี้ ถ้ารับประทานด้วยมือจะอร่อยที่สุด

ทั้งนี้ หัวหน้าฝ่ายอาหารประจำโอลิมปิก ปารีส 2024 กล่าวว่า การเสิร์ฟอาหารจากเชฟมิชลินจะมีประมาณ 1,200 มื้อต่อวัน จากทั้งหมด 40,000 มื้อ อย่างที่กล่าวไปแล้วในข้างต้น ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนที่น่าจะต้องแก่งแย่งกันพอสมควร และดีไม่ดีนักกีฬาอาจจะต้องชิงมื้ออาหารแสนอร่อย แทนการชิงเหรียญก็เป็นได้ 

เปิดให้อร่อยตลอด 24 ชั่วโมง

ตลอดระยะเวลาการแข่งขันทางผู้จัดได้จัดเตรียมพื้นที่ร้านอาหารขนาด 3,500 ที่นั่ง เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ภายในหมู่บ้านนักกีฬา เพื่อเสิร์ฟอาหารแสนอร่อยจากทั่วทุกมุมโลก ร่วมด้วยโซนอาหารแบบ Grab & Go อีก 6 แห่ง ซึ่งนักกีฬาสามารถมองหาของว่าง ขนม เบเกอรี่ สลัดบาร์ ผลไม้ เมนูจากเชฟมิชลิน เรื่อยไปจนถึงจังก์ฟู้ดได้จากตรงนี้ แต่สำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์จะถูกงดในพื้นที่ของหมู่บ้านนักกีฬา

หัวหน้าฝ่ายอาหารประจำโอลิมปิก ปารีส 2024 ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่านักกีฬาแต่ละประเภทมีความชอบในอาหารที่แตกต่างกันอย่างมาก อย่างเช่น ทีมวอลเลย์บอลชายหาด และเทควันโด มักชอบอาหารจากครัวเย็น อย่างแซนด์วิช และสลัด ในขณะที่นักกีฬาพายเรือต้องการอาหารที่เสิร์ฟแบบร้อน ๆ แบบบุฟเฟ่ต์ที่เลือกกินได้หลาย ๆ อย่าง ส่วนนักกีฬาแบดมินตันที่ส่วนใหญ่มาจากเอเชียก็จะไม่ชอบอาหารที่ทำจากขนมปัง จึงได้มีการเพิ่มเมนูอย่างโจ๊กและกิมจิลงไปด้วย

อาหารประเภทโปรตีนที่ได้รับความนิยมสูงสุด ต้องยกให้ไก่เสียบไม้ และสเต๊กปลาแซลมอน ส่วนเบเกอรี่ก็คงไม่พ้นขนมปังบาแกตต์สไตล์ฝรั่งเศสที่ต้องเตรียมมากกว่า 800 ชิ้นต่อวัน หรือคิดเป็นความยาวกว่า 6 กิโลเมตร แต่เมนูยอดนิยมกลับตกเป็นของ ‘พิซซ่ามาร์การิต้า’

จุดกำเนิดของ Modern Taste of France

การได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกในครั้งนี้ นับเป็นก้าวใหม่ก้าวสำคัญในวงการอาหารฝรั่งเศส ตามวิสัยทัศน์ ‘รสชาติสมัยใหม่ของฝรั่งเศส’ (Modern Taste of France) 

รสชาติสมัยใหม่ของฝรั่งเศสนั้นจะถูกนำเสนอผ่านโอลิมปิกครั้งนี้ ด้วยการบอกว่าอาหารฝรั่งเศส ไม่ได้มีดีและการันตีด้วยดาวมิชลินเพียงเท่านั้น หากแต่ฝรั่งเศสมีวัตถุดิบในท้องถิ่นที่หลากหลาย และอาหารฝรั่งเศสสามารถอร่อยได้ด้วยผักนานาชนิดที่ดีต่อโลกมากกว่าเนื้อสัตว์ พร้อมกันนี้ ฝรั่งเศสยังให้การสนับสนุนการทำเกษตรแบบรักษ์โลก ซึ่งจะนำไปสู่วิถีการบริโภคอย่างยั่งยืนในอนาคต

‘โทนี เอสต็องเกต์’ (Tony Estanguet) อดีตนักกีฬาเรือแคนูชาวฝรั่งเศส เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 3 สมัย ประธานคณะกรรมการ โอลิมปิก ปารีส 2024 กล่าวว่า “เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ด้านอาหาร ฝรั่งเศสจึงอยากนำเสนออาหารฝรั่งเศสให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกผ่านโอลิมปิกในครั้งนี้”

 

เรื่อง : รตินันท์ สินธวะรัตน์
อ้างอิง :

Celebrating the Modern Taste of France

Courtney Davison. Paris 2024 Will Be the Most Vegetarian-Friendly Olympics Ever.

Gourmet, More Local, More Plant-Based Food for The Games

Jaya Saxena. How to Feed the Olympics. 

Maki Yazawa. An Olympics Chef Gives Us an Inside Look at the Plant-Based Menu She’s Serving at the Paris 2024 Games.

Sean Ingle. Faster, higher, stronger … and healthier: chicken nuggets off menu at Paris 2024

Garden Gourmet Partners With the 2024 Olympic Games to Help Double Plant-Based Food Consumption