16 ก.ค. 2565 | 17:00 น.
กระแสตอบรับดี หลัง The Nation ประกาศการกลับมาของเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯ ครั้งที่ 15 ( World Film Festival of Bangkok )ผ่านสื่อชั้นนำในวงการภาพยนตร์ระดับโลก เปิดตัว ดรสะรณ โกวิทวณิชชา ผู้อำนวยการเทศกาลคนใหม่ กำหนดจัดวันที่ 2-11 ธ.ค. 2565 ที่ SF Cinema Central World
The Nation สื่อภาษาอังกฤษที่มีอายุ 51 ปีของ Nation Group จะเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯ ครั้งที่ 15 ( World Film Festival of Bangkok)
โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่าน หลังจาก 'วิคเตอร์' เกรียงศักดิ์ ศิลากอง ผู้อำนวยการเทศกาลครั้งที่ 1- ครั้งที่ 14 ได้เสียชีวิตอย่างกระทันหันเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ได้มีเสียงเรียกร้องจากวงการภาพยนตร์อิสระของไทยและต่างประเทศ ขอให้เนชั่นกรุ๊ปยังเดินหน้าจัดงานเทศกาลนี้ต่อไป โดยให้เหตุผลว่างานเทศกาลภาพยนตร์โลกเป็นพื้นที่สำคัญของวงการภาพยนตร์อิสระของไทยมายาวนานร่วม 20 ปี หลังจากทราบว่าช่วงก่อนวิคเตอร์ เสียชีวิตอย่างกะทันหัน
ผู้บริหารของเนชั่นกรุ๊ปในนาม The Nation ได้พูดคุยกับวิคเตอร์ มาตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 2564 ชักชวนให้กลับมาเป็นผู้อำนวยการเทศกาลนี้อีกครั้ง เพื่อจัดงานครั้งที่ 15 โดยกำลังอยู่ระหว่างการออกแบบรูปแบบงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปจากการแพร่ระบาดของ Covid-19ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ผู้บริหาร The Nation ได้ใช้เวลาสรรหาผู้อำนวยการเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯ เพื่อทำหน้าที่สานต่องานเทศกาลนี้ให้กลับมาอีกครั้งในมาตรฐานเดียวกับงานของวิคเตอร์ ผู้อำนวยการเทศกาล 14 ครั้งต่อเนื่องกัน
จนเห็นพ้องกันเลือก ดรสะรณ โกวิทวณิชชา ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะโปรแกรมเมอร์เทศกาลภาพยนตร์หลายแห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์อิสระของไทยหลายเรื่องที่ได้รับรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลกหลายแห่ง ให้มาทำหน้าที่ ผู้อำนวยการเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯ ครั้งที่ 15 ต่อจากวิคเตอร์
ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา สื่อออนไลน์ภาษาอังกฤษชั้นนำในวงการบันเทิงและภาพยนตร์ของโลก เช่น IMDb, Variety, Screen ฯลฯ รวมทั้งสื่อภาษาจีน เช่น Weibo, WeChat, Thailand Headlines ฯลฯ ได้เผยแพร่ข่าวอย่างแพร่หลายเกี่ยวกับการกลับมาใหม่ของงานเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯ ครั้งที่ 15 ช่วงวันที่ 2-11 ธ.ค. 2565 ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาเดียวกับงานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ CINEAsia ที่เลือกมาจัดในกรุงเทพมหานคร ช่วงวันที่ 5-8 ธ.ค. 2565 ที่จะทำให้ช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้มีกิจกรรมเกี่ยวกับภาพยนตร์ระดับนานาชาติในกรุงเทพมหานครสร้างบรรยากาศคึกคักขึ้นมาก
นาย ดรสะรณ โกวิทวณิชชา ผู้อำนวยการเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพคนใหม่ ที่ยังอยู่ระหว่างเข้าร่วมงาน New York Asian Film ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า
“หลังจากข่าวการกลับมาของเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯเผยแพร่ออกไป มีบุคลากรในวงการภาพยนตร์และเทศกาลภาพยนตร์จากนานาชาติ ให้ความสนใจในเทศกาลเป็นจำนวนมาก เข้ามาแสดงความยินดีที่เทศกาลนี้จะกลับมาจัดใหม่ในช่วงต้นเดือนธันวาคมปีนี้”
“ตอนนี้มีอีเมล์และแมสเซจจากผู้ผลิตหนัง เสนอหนังให้พิจารณาจำนวนมาก และมี Film professionals เช่น โปรแกรมเมอร์เทศกาลภาพยนตร์ในทวีปเอเชียและที่อื่นๆ โปรดิวเซอร์สนใจอยากจะเดินทางมาร่วมงาน รวมทั้งสื่อมวลชนต่างประเทศในสายภาพยนตร์ สนใจจะเดินทางมาทำข่าว”
นายดรสะรณกล่าวอีกว่า “เทศกาลจะเปิดรับภาพยนตร์จากนานาชาติ รวมถึงภาพยนตร์ไทย โดยจะมีการเปิดรับสมัครผ่านช่องทางต่างๆของเทศกาลฯในเร็วๆนี้ โดยภาพยนตร์ไทยจะยังเป็นภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ เปิดเทศกาลเช่นเดิมที่จัดมาตลอด 14 ครั้ง”
เราพยายามสานต่อจากสิ่งที่เนชั่นและคุณวิคเตอร์ทำมาตลอด ทั้งในเรื่องเจตนารมณ์หลายๆอย่าง สิ่งที่วางมาแต่เดิมดีอยู่แล้ว ในเมื่อเราก้าวเข้ามาทำ เราต้องทำในจุดที่พัฒนายิ่งๆขึ้นไปตามยุคสมัย”
“ผมคิดว่าหนังนานาชาติที่นำมาฉายในประเทศไทย ยังควรชมในโรงภาพยนตร์ที่ให้ประสบการณ์มากกว่า ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ คนจะชมช่องทางอื่นๆเพิ่ม แต่หนังหลายๆเรื่อง ถูกสร้างมาเพื่อชมในโรงภาพยนตร์ โดยเฉพาะหนังระดับนานาชาติและเป็นที่พูดถึงกันในระดับสากล แล้วอยากให้เทศกาลนี้มีส่วนผลักดัน ส่งเสริมและสนับสนุนภาพยนตร์ไทยหรือภาพยนตร์อิสระของไทย”
ผู้อำนวยการเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา World Film Festival of Bangkok จัดมา 14 ครั้ง ได้นำภาพยนตร์ที่น่าสนใจจากทั่วโลกมาให้คนไทยได้ชม แต่ได้ห่างหายไปหลายปี การกลับมาในครั้งนี้ต้องกลับมาอย่างยิ่งใหญ่กว่าเดิม
“ผมตั้งใจว่าในการทำงานครั้งนี้และรวมถึงในอนาคต อยากให้ World Film Festival of Bangkok เป็นสะพานเชื่อมระหว่างวงการภาพยนตร์ไทยกับนนานาชาติ ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติในประเทศต่างๆ”
ภายหลังจาก ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา นโยบายการกิจกรรมเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเป็น 1 ใน 12 นโยบายสำคัญของผู้ว่ากทม.ชัชชาติ เพื่อปลุกความมีชีวิตชีวาของกรุงเทพมหานคร ทำให้การกลับมาของงานเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพครั้งที่ 15 มีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น
นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารเนชั่นกรุ๊ปได้ร่วมประชุมกับนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานครที่กำกับดูแลงานของสำนักวัฒนธรรม ท่องเที่ยวและกีฬาและนายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานคณะที่ปรึกษาผู้ว่าฯชัชชาติ เพื่อเสนอให้กรุงเทพมหานคร ในฐานะเมือง มาเป็น “เจ้าภาพร่วม” งานเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพ
นายศานนท์ รองผู้ว่ากทม. และนายต่อศักดิ์ ประธานที่ปรึกษาผู้ว่ากทม.ได้ยืนยันในระหว่างการประชุมช่วงกลางเดือนมิ.ย. พร้อมสนับสนุนการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์ในหลายๆรูปแบบ
โดยในเดือนก.ค. กรุงเทพมหานครได้ร่วมกับสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยและสมาคมหนังกลางแปลง จัดกิจกรรม กรุงเทพกลางแปลง จัดฉายภาพยนตร์ไทย 25 เรื่อง ตลอดช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ของเดือนก.ค. โดยยินดีจะสนับสนุนการจัดงาน World Film Festival of Bangkok ครั้งที่ 15 ในเดือนธ.ค.นี้
นายอดิศักดิ์กล่าวว่า The Nation ในฐานะผู้ริเริ่มงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติในประเทศไทยมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2541 (ค.ศ.1998) เพื่อสร้างพื้นที่ทางวัฒนธรรมในรูปแบบ “เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ” ที่หลายเมืองสำคัญๆในประเทศต่างๆถือเป็นงานสำคัญของ “เมือง” เพื่อให้เกิดการพบปะแลกเปลี่ยนกันของผู้คนในวงการภาพยนตร์อิสระจากทั่วโลกใน”กรุงเทพมหานคร”เมืองหลวงของประเทศไทย
“The Nation ยังต้องการสานต่องาน World Film Festival of Bangkok หลังจากได้หยุดชั่วคราวไปตั้งแต่ปี 2560 จากสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยของประเทศไทยและการแพร่ระบาด Covid-19ในช่วงปี 2563-2564 โดยครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายในวงการภาพยนตร์ของไทย โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครที่ยืนยันให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่”
นอกจากนี้ กลุ่มเอสเอฟ ซีเนม่า พันธมิตรสำคัญของ World Film Festival of Bangkok อีกราย โรงภาพยนตร์เป็นสถานที่ในการจัดฉายภาพยนตร์ตลอดเทศกาล 10 วัน กลุ่มเอสเอฟ ซีเนม่าได้ยืนยันร่วมสนับสนุนเช่นเดิม เป็น”เจ้าภาพ”งานเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพครั้งที่ 15 อีก
โดยกำหนดจัดตารางการฉายภาพยนตร์ของเทศกาลนี้ไว้แล้ว ในระหว่างวันศุกร์ที่ 2 ธ.ค. - วันอาทิตย์ที่ 11 ธ.ค. 2565 ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิด์ล สถานที่เดิมของจัดงานเทศกาลครั้งที่ 14 เมื่อปี 2560