31 มี.ค. 2566 | 11:30 น.
เดอะมอลล์ กรุ๊ป ร่วมกับ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (TGO) , บริษัท เวคิน (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของ PLATFORM CERO CARBON WALLET APPLICATION, บริษัท คลาวด์เซค เอเซีย จำกัด ตลอดจนซัพพลายเออร์ และเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย(TCNN) ผนึกกำลังสร้าง SUSTAINABLE ECOSYSTEM ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน
โดยผู้บริโภคสามารถสแกนบาร์โค้ดท้ายใบเสร็จ และสามารถเข้าจาก M CARD APPLICATION เพื่อลิงค์เข้าสู่ CERO APPLICATION ระบบจะแสดงผลปริมาณการลดคาร์บอนของผลิตภัณฑ์ สามารถชี้วัดปริมาณการลดคาร์บอนจากการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากคาร์บอนได้อย่างง่ายดาย ถือเป็นการริเริ่มให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจกและลดภาวะโลกร้อน และส่งเสริมการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฉลากคาร์บอนเพื่อมุ่งสู่เศรษฐกิจสังคมคาร์บอนต่ำ
คุณวรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า เดอะมอลล์ กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจภายใต้แนวทาง ESG และเป็นหนึ่งในสมาชิกเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (TCNN) ที่ให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมในการลดการเกิดภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์ สิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อม จึงเป็นรีเทลแห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้ DEEP TECHNOLOGY วัดผลปริมาณการลดคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมผนึกกำลังเครือข่ายสร้าง SUSTAINABLE ECOSYSTEM
“เดอะมอลล์ กรุ๊ป เราเป็นสถานที่ที่ลูกค้าเข้ามาใช้ชีวิตหลายล้านคนต่อเดือน ในฐานะที่บริษัทมุ่งเน้นเรื่อง ESG เรื่อง SUSTAINABLE ECOSYSTEM เราต้องการที่จะผลักดันเรื่องเหล่านี้ให้เร็วขึ้น จึงมีนโยบายให้ลูกค้าซื้อสินค้าฉลากคาร์บอน (CARBON FOOTPRINT LABEL) เป็นอีกก้าวที่จะเริ่มสร้างการตระหนักรู้ หรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ประชาชน และเรายังมีความร่วมมือกับหลาย ๆ ผลิตภัณฑ์ ที่เชื่อว่าปริมาณสินค้าที่มีฉลากคาร์บอนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนประเทศไทยกลายเป็นคาร์บอนนิวทรัลได้ในอนาคต” คุณวรลักษณ์กล่าว
นอกจากนี้ โครงการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ฉลากคาร์บอน ยังถือเป็นโมเดลต้นแบบ เพื่อจุดประกายให้ภาคอุตสาหกรรมผู้ผลิตสินค้าต่าง ๆ ใส่ใจในเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หันมาผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ขั้นตอนการได้มาซึ่งวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การกระจายสินค้า การใช้งาน และการจัดการของเสียหลังหมดอายุการใช้งาน และนำสินค้าขึ้นทะเบียนฉลากคาร์บอน ที่ทำให้ในทุก ๆ การอุปโภคบริโภคทำลายสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด และยังสร้างค่านิยมด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมให้แก่ประชาชนทั่วไปด้วย
ผนึกกำลังเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัล
สำหรับโครงการรณรงค์ฉลากคาร์บอน โดยเดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นโครงการแรกของประเทศไทย ที่ผู้บริโภคสามารถวัดปริมาณการลดคาร์บอนจากการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากคาร์บอนได้อย่างเป็นรูปธรรม เป็นความร่วมมือจากเครือข่าย อาทิ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (TGO) , บริษัท เวคิน (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของ PLATFORM CERO APPLICATION และบริษัท คลาวด์เซค เอเซีย จำกัด ตลอดจนซัพพลายเออร์ และเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัล ประเทศไทย (TCNN) นับเป็นการยกระดับภาคอุตสาหกรรมการผลิต ให้ความสนใจในการร่วมเป็นเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย รวมถึงสร้างความตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อมแก่ผู้บริโภค
ภายในงานมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนในด้านความร่วมมือและการพัฒนาแอปพลิเคชั่น CERO APPLICATION ทั้งจาก คุณเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) , คุณวรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด , คุณศุภวุฒิ ไชยประสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ตและฟู้ด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด , คุณกฤษณยศ บูรณะสัมฤทธิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวคิน (ประเทศไทย) จํากัด และ คุณศกยง พัฒนเวคิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลาวด์เซค เอเซีย จำกัด
ถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่เป็นการยกระดับวงการรีเทลต่อด้านการแก้ไขปัญหาภาวะเรือนกระจกและดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ความเป็นกลางทางคาร์บอนคือเป้าหมายของทุกคน
จากสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก ทำให้มีความตื่นตัวในด้านการเข้าสู่สมดุลทางคาร์บอน มีการส่งเสริมสินค้าที่มีฉลากคาร์บอนที่มีมากขึ้น ทั้งในยุโรป สหรัฐอเมริกา ในอนาคตสินค้าที่มีฉลากคาร์บอนจะครอบคลุมมากขึ้น ขณะที่ประเทศไทยเองก็กำลังเริ่มขับเคลื่อนไปสู่การส่งเสริมสินค้าที่มีฉลากคาร์บอนเช่นกัน
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวถึง แนวทางขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาก๊าซเรือนกระจก ว่าประเทศไทยเองกำลังเดินหน้าเพื่อบรรลุสู่เป้าความเป็นกลางทางคาร์บอน (CARBON NEUTRALITY) ในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ.2593) และเป้าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (NET-ZERO GHG EMISSION) ในปี ค.ศ.2065 (พ.ศ.2608) พร้อมรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน มีส่วนร่วมในการจัดการปัญหาก๊าซเรือนกระจก เพื่อมุ่งสู่เศรษฐกิจสังคมคาร์บอนต่ำ ควบคู่กับการพัฒนากลไกการบริหารจัดการคาร์บอนเครดิตในประเทศให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ
โครงการรณรงค์ฉลากคาร์บอน ถือเป็นการผลักดันการบริโภคสินค้าและใช้บริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดก๊าซคาร์บอน ขับเคลื่อนสู่การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน รวมถึงผลักดันภาคอุตสาหกรรมการผลิตให้ความสนใจในทุกการกระบวนการการผลิต ตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกใช้วัสดุตลอดจนถึงการกำจัด มุ่งเน้นกับการสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์และเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
“จากปัญหาทางด้านการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและเป้าหมายของประเทศไทยกับการเข้าสู่สถานะความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน การขับเคลื่อนด้วยโครงการ รณรงค์ฉลากคาร์บอน นำสินค้ามาสแกนเพื่อดู CARBON FOOTPRINT ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทำให้ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมในการทำเป้าหมายลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมได้จริง คาดหวังว่าสิ่งนี้จะช่วยขยายการรับรู้ว่าการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน ประชาชนควรจะได้รับรู้ว่าสิ่งที่กำลังอุปโภค บริโภค มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากน้อยเพียงใด” นายวราวุธกล่าวถึงความสำคัญของโครงการรณรงค์ฉลากคาร์บอน
CERO APPLICATION โซลูชั่นลดโลกร้อน
หนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการสร้างการตระหนักเรื่องฉลากคาร์บอน เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้จัดโครงการ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ลดสู้คาร์บอน และได้เปิดตัว CERO WALLET APPLICATION แอปพลิเคชั่นที่สามารถชี้วัดปริมาณการลดคาร์บอนจากการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากคาร์บอนได้อย่างเป็นรูปธรรม เพียงสแกนบาร์โค้ดท้ายใบเสร็จผ่าน CERO APPLICATION ระบบสามารถแสดงผลปริมาณการลดคาร์บอนของผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งคำนวณค่า CERO เพื่อสะสม CERO POINT แลกรับรางวัลต่าง ๆ ได้
สแกนก่อนซื้อ ฉลากคาร์บอนเพื่อโลก
ฉลากคาร์บอนคืออะไร ?
ฉลากคาร์บอนคือการแสดงข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon footprint) ตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ โดยแสดงผลอยู่ในรูปของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
ผู้บริโภคที่จะเริ่มสังเกตฉลากคาร์บอน สามารถดูสัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนฉลากคาร์บอน ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ลดโลกร้อน : ฉลากรับรองสินค้า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ตามกำหนดและผ่านการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 2% ของก๊าซคาร์บอนได ออกไซด์เทียบเท่า (CO2 equivalent)
ฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ : ฉลากแสดงปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดวัฏจักรผลิตภัณฑ์ตั้งแต่วัสดุที่ใช้ถึงการจำกัด โดยแสดงผลอยู่ในรูปของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO2 equivalent)” ซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีในการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
รักษ์โลกได้ทุกวันกับการสนับสนุนสินค้าคาร์บอนต่ำ
จากความร่วมมือดังกล่าวของ ทั้งเดอะมอลล์ กรุ๊ป และบริษัท เวคิน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม DIGITAL SOCIAL RESPONSIBILITY ภายใต้ CERO APPLICATION และ บริษัท คลาวด์เซค เอเซีย จำกัด ผู้ทดสอบระบบและดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับแอปพลิเคชั่นดังกล่าว ที่ผู้บริโภคสามารถวัดปริมาณการลดคาร์บอนจากการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากคาร์บอนได้
โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนภาคประชาชนผ่านการสนับสนุนสินค้าคาร์บอนต่ำนี้ ถึง 1,000 ตันคาร์บอนเทียบเท่า ภายในระยะเวลาโครงการ 3 เดือน และโครงการ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ลดสู้คาร์บอน ยังถือเป็นการกระตุ้นความตื่นตัวของภาคอุตสาหกรรมให้หันมาให้ความสำคัญกับการผลิตสินค้าคาร์บอนต่ำออกมามากขึ้นในอนาคต
ร่วมเป็น CARBON HERO กับเดอะมอลล์ กรุ๊ป
สำหรับกิจกรรมโครงการฉลากคาร์บอน ในครั้งนี้ กับแคมเปญ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ลดสู้คาร์บอน ได้รวบรวมสินค้าฉลากคาร์บอน (CARBON FOOTPRINT LABEL) ประเภทสินค้าอุปโภคบริโภค รวมทั้งสิ้นกว่า 20 แบรนด์ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าและใช้บริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณต่ำเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์หรือบริการประเภทเดียวกัน
คุณก็ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาก๊าซเรือนกระจกได้ เพียงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนฉลากคาร์บอน หรือสามารถร่วมโครงการรณรงค์ฉลากคาร์บอน กับ เดอะมอลล์ กรุ๊ป เพื่อแลกรับของรางวัลมากมาย ได้ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม – 30 มิถุนายน 2566 ที่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต ทุกสาขา
#TheMallGroup
#TheMallGroupGoToZero
#CarbonNeutrality
#เดอะมอลล์กรุ๊ปลดสู้คาร์บอน