07 ก.ค. 2566 | 08:52 น.
'ศุภนิดา จันทราภรณ์' ผู้อำนวยการโปรแกรม AP OPEN HOUSE บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่า หนึ่งในตารางการเรียนรู้ที่ทางเอพีได้เตรียมไว้ให้กับน้องๆ ทั้ง 40 คนคือ On-Site Experience การลงสนามเรียนรู้จริงนอกห้องเรียน ตามคอนเซ็ปต์ “ชีวิตจริงยิ่งกว่าทฤษฎี”
เปิดโอกาสให้น้อง ๆ ทุกคนได้เห็นกระบวนการก่อสร้างของจริงหลังจากที่เรียนภาคทฤษฎีในรั้วมหาวิทยาลัยมาแล้ว ซึ่งครั้งนี้น้อง ๆ ทุกคนจะได้เห็นทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังการทำงานของทางเอพี ทั้งงานด้านวิศวกรรม การตลาด การขาย และนวัตกรรมดีไซน์ต่าง ๆ
“AP Open House เป็นโปรแกรมที่ผู้บริหารระดับสูงของเอพี คือ คุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน และคุณพิเชษฐ วิภวศุภกร ชวนตั้งคำถามว่า จะดีกว่าไหมถ้าเราเอาความรู้จากประสบการณ์จริงไปให้กับน้องๆ ที่จะโตขึ้นมาทำงานกับเราได้เรียนรู้ตั้งแต่ที่พวกเค้าอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย ให้น้องๆ ได้มีโอกาสมาเรียนรู้ชีวิตจริงๆ ที่พวกเค้าจะต้องเจอก่อนจบการศึกษา ซึ่งจากวันนั้นจนถึงวันนี้ AP Open House เข้าสู่ปีที่ 8 ซึ่งเราทุกคนภูมิใจอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเมล็ดพันธุ์ให้กับอุตสาหกรรมนี้” ศุภนิดา กล่าว
นอกจากการลงพื้นที่เรียนรู้จากประสบการณ์จริงแล้ว ตลอดโปรแกรมฝึกงาน 2 เดือนน้อง ๆ จะได้ความรู้ที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถนำไปต่อยอดการทำงานในอนาคตได้
ตัวอย่างเช่น ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย Project Life Cycle ของการพัฒนาอสังหาฯ ตั้งแต่ได้ที่ดินมาจนกระทั่งการส่งมอบบ้านให้ลูกค้า เรียนรู้กระบวนการคิด Design Thinking เพื่อหาความต้องการใหม่ๆ ของลูกค้า เทคโนโลยีการออกแบบก่อสร้างยุคใหม่อย่าง BIM
ที่สำคัญคือ เทรนด์การออกแบบที่อยู่อาศัยในโลกใหม่ กับแนวคิด Inclusive Living ที่เป็นการออกแบบบ้านเพื่อรองรับทุกคน โดยหนึ่งในการค้นหาความต้องการแฝงของผู้อาศัยทุกคน คือการให้ความสำคัญกับการออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อผู้พิการ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลาย
โดย ศุภนิดา ได้กล่าวเพิ่มว่า “น้อง ๆ ได้มีการแบ่งกลุ่มร่วมทำมินิโปรเจกต์การออกแบบที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิด Inclusive Living หรือการออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยเพื่อทุกคน ไม่ว่าจะเป็น เด็ก วัยรุ่น คนทำงาน ผู้สูงอายุ รวมถึงผู้พิการ ซึ่งเรื่อง Inclusive Living นี้ เป็น Global Trend ที่ทั่วโลกให้ความสนใจมาก สิ่งที่ผู้บริโภคมองหานอกจากคุณภาพหรือนวัตกรรมใหม่ๆ ก็คือความพร้อมรองรับทุกความหลากหลาย ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญของการดำเนินธุรกิจ เพื่อที่ทุกคนสามารถเลือกที่จะมีชีวิตดีๆ ที่ต้องการได้ด้วยตนเอง เป็นแนวทางที่เอพียึดถือมาตลอด”
ทั้งนี้ ตัวแทนน้อง ๆ จาก AP OPEN HOUSE 'ชนิภรณ์ กองเกตุใหญ่' ได้เปิดเผยว่า “ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับทราบเรื่องการฝึกงาน AP OPEN HOUSE นี้จากรุ่นพี่ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นการฝึกงานที่ดีมาก ไม่เหมือนกับที่อื่น ๆ ซึ่งก็สมคำบอกเล่า การฝึกงานที่เอพีทำให้เราได้เรียนรู้ on-the-job training ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ได้รู้จักกับเพื่อนๆ จากหลากหลายคณะ เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าและโชคดีมากที่ได้เป็น 1 ใน 40 คน”
'ภูริชญ์ รักแก้ว' ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เล่าว่า “ผมได้รับประสบการณ์และความรู้ที่นอกเหนือจากตำราเรียน และไม่ใช่แค่ความรู้ด้านวิศวะอย่างเดียว สมกับคอนเซ็ปต์ที่ว่า 'ชีวิตจริงยิ่งกว่าทฤษฎี' เป็นการสะท้อนภาพได้ชัดเจนมาก พี่ ๆ ที่เอพีพาเราไปดูถึงไซต์งานจริง ผมมั่นใจมากว่าหาไม่ได้จากในห้องเรียนแน่นอน”
'พันเพชร จิ่งตามน' จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เล่าว่า “ตอนแรกกังวล ว่าจะเรียนหรือตามทันเพื่อนคนอื่นที่เป็นสายตรงด้านอสังหาริมทรัพย์หรือไม่ ซึ่งพี่ ๆ ที่เอพีก็ได้ให้กำลังใจ และคอยแนะนำตลอด ผมได้เรียนรู้การดีไซน์และนวัตกรรมที่เอพีพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ รวมถึงการทำ
เวิร์กชอปเพื่อค้นหา Unmet Need ของพี่ ๆ ผู้พิการ โดยจะนำข้อมูลที่ได้นี้ไปทำไฟนอลโปรเจกต์เรื่องการออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อทุกคน มีชีวิตดี ๆ ที่เลือกเองได้ ต่อไป”
สำหรับ AP OPEN HOUSE ถือว่าเป็นโปรแกรมฝึกงานเข้มข้นของเอพีที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยปีนี้มีการจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 แล้ว ซึ่งนิสิตนักศึกษาจะได้รับใบประกาศนียบัตรจาก เอพี อะคาเดมี่ ส่วนคนที่มีผลงานโดดเด่นจำนวน 4 คนจะได้รับโอกาสไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นกับ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนซ์ (บริษัทในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป) อีกด้วย