30 ส.ค. 2566 | 11:58 น.
บริษัท สวัสดีช้อป จำกัด หรือ DeeMoney ฟินเทคสัญชาติไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านการโอนเงินไปต่างประเทศภายใต้ชื่อแบรนด์ “DeeMoney” ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำของไทยในด้านแพลตฟอร์มการชำระเงินระหว่างต่างประเทศ ที่รองรับมากกว่า 26 สกุลเงิน ครอบคลุมมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก
โดยหนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ “DeeMoney” ที่ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด ก็คือหัวเรือใหญ่ “คุณรัศเมฆ ศรีเศรษฐี” หรือ “คุณเมก้า” ผู้ร่วมก่อตั้งและ MD บริษัท DeeMoney ที่นอกจากจะรับบทบาทนักธุรกิจคนเก่งแล้ว เธอยังมีอีกหนึ่งหน้าที่สำคัญในชีวิต คือการเป็น Super Mom ลูกสาม ซึ่งในเดือนสิงหาคมนี้ ที่มีวันสำคัญ “วันแม่แห่งชาติ” จึงขอถอดแนวคิดรหัส(ไม่)ลับของ “คุณเมก้า” กับบทบาทหน้าที่ระหว่างนักธุรกิจและคุณแม่คนเก่งแห่งทศวรรษ
“คุณเมก้า” เผยวิสัยทัศน์และหลักการในการเลี้ยงดูลูกๆ ว่า “ในตอนแรกที่เมก้ารู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์นั้น สิ่งแรกเลยที่เมก้ามองหาคือโรงเรียนที่จะให้ความรู้และข้อมูลของเราในการเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่อย่างมืออาชีพ เพราะตามโรงเรียนปกติไม่มีหลักสูตรในการสอนเรื่องนี้ไว้ และเมก้าอยากจะเป็นคุณแม่มืออาชีพที่มีความเข้าใจและเลี้ยงดูลูกๆ ได้เป็นอย่างดี”
นอกจากนี้คุณเมก้ายังเล่าต่อว่า “การเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่เมก้าในยุคเมื่อปี 2523 นั้น ไม่สามารถนำมาใช้ได้เหมือนๆ กันกับการเลี้ยงดูลูกๆ ที่เกิดในศตวรรษที่ 21 เมก้าจึงตัดสินใจเรียนในหลักสูตรการเลี้ยงดูลูก Parent Coaching Certification สองปีกับ Seattle Pacific University ในปี 2548 โดยหลักสูตรนี้เปลี่ยนชีวิตเมก้าหลายอย่าง แต่ที่สำคัญที่สุดคือทำให้เมก้า ได้ทบทวนและเรียนรู้วิธีจัดการอารมณ์ของตัวเอง ซึ่งเป็นการแนะนำลูกๆ ให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยความรัก การให้เกียรติซึ่งกันและกัน บนพื้นฐานของความเข้าใจ เพราะการเลี้ยงดูลูกในแต่ละครอบครัว ย่อมมีความแตกต่างกันไป ซึ่ง “เมก้า” เลื่อกใช้วิธีการที่จะไม่กดดันลูก และทำตัวเป็นแบบอย่างโดยการเลือกเป็นตัวของตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด ซึ่งไม่ได้หมายความว่าคนเป็นแม่จะไม่ล้มเหลวหรือไม่มีช่วงเวลาที่เลวร้าย แต่ถือว่าเป็นวิธีการทบทวนว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีความยากลำบากและเราผ่านความท้าทายเหล่านั้นมาได้อย่างไร”
โดยเมื่อตอนที่ลูกๆของ “คุณเมก้า” ยังเด็ก เธอได้ตัดสินใจเลือกแนวปฏิบัติ 5 ประการที่สำคัญในฐานะแม่ที่ดี ได้แก่ 1)ความรัก 2)ความเมตตา 3)การเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน 4)ความเรียนรู้ และ 5)ถ้าอยากให้ใครปฏิบัติกับเราอย่างไรต้องปฏิบัติกับอีกฝ่ายให้ดีก่อน ผ่านแนวคิด “Bouncing Back” ซึ่ง “คุณเมก้า” ได้สร้างกระดานแสดงวิสัยทัศน์ของแนวปฏิบัติเหล่านี้ เมื่อใดก็ตามที่คนในครอบครัวปฏิบัติตามแนวคิดดังกล่าว ก็จะมีการจดไว้ในกระดาษโน้ตและติดไว้บนกระดาน สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ลูกๆได้เข้าใจถึงแนวคิดแต่ละอย่างในชีวิตประจำวันว่าเป็นอย่างไร ตัวอย่างเช่น หากลูกๆ "ไหว้" รปภ. ด้วยการให้ความเคารพและให้เกียรติกันและกัน พวกเขาก็จะได้รับสิ่งดีๆกลับคืนมา, หากลูกๆ รู้สึกเศร้าหรือเสียใจกับบางสิ่ง เราก็จะช่วยกันแก้ไขปัญหา และเมื่อสภาพจิตใจดีขึ้นแล้ว เราก็จะเฉลิมฉลองและยินดีที่พวกเขาสามารถผ่านพ้นเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านั้นมาได้
ในฐานะแม่ “คุณเมก้า” มีความตั้งใจอย่างมากเกี่ยวกับองค์ประกอบพื้นฐานเหล่านี้ เพราะสำหรับเธอแล้ว ความเคารพและการให้เกียรติซึ่งกันและกัน การแสดงความรักและความมีจิตใจที่ดีเป็นสิ่งที่ไม่สามารถซื้อขายได้ แต่มาจากองค์ประกอบพื้นฐานในการสร้างกรอบความคิดเพื่อการเติบโต นอกจากนี้เธอยังให้ความสำคัญกับเรื่องของงานและเรื่องของครอบครัวแบบเต็มที่ 100% แม้บางครั้งอาจเหนื่อยและท้อ แต่เธอก็มีวิธีเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้า โดยการทำสมาธิอย่างน้อย 15 นาทีถึง 1 ชั่วโมงก่อนเริ่มวันใหม่หรืออาจเป็นการออกกำลังกายเบาๆ เช่น การไปเดินเล่น เพราะ “คุณเมก้า” เชื่อว่าการดูแลตนเองอย่างดีย่อมส่งผลต่อการดูแลผู้อื่นได้ดีด้วยเช่นกัน
ที่ผ่านมา GenDee ซึ่งเป็นครอบครัวในที่ทำงาน ได้เติมพลังบวกและความคิดสร้างสรรค์ให้กับ “คุณเมก้า” ทำให้ได้ค้นพบไอเดียแปลกๆ ใหม่ๆ และ เกิดประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันกับทีม เปรียบเสมือนเป็นการพัฒนาศักยภาพ EQ ของตนเองให้เติบโตขึ้น เพราะ “คุณเมก้า” เชื่อว่า การฝึกฝนและการเลี้ยงดูโดยใช้สมอง จะช่วยให้เธอและลูกมี EQ สูงขึ้นได้จริงๆ ส่งผลให้เด็กมีความสุข มีการเรียนรู้ เติบโตขึ้น และ สามารถเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ส่งผลให้โลกน่าอยู่มากขึ้น
บทบาท “นักธุรกิจ” และ “Super Mom” ของ “คุณเมก้า” ในบางครั้งอาจมองว่า เป็นสิ่งที่ยากและท้าทายกับการแบกรับ แต่สุดท้ายเธอก็สามารถทำทุกบทบาท ทุกหน้าที่ออกมาได้อย่างดีเยี่ยมและประสบความสำเร็จอย่างที่เห็นกัน และนี่คือหญิงแกร่งตัวจริงอีกคนที่เรียกว่า ... “แม่”