23 พ.ย. 2566 | 10:34 น.
ย้อนไปช่วงปี 2019 ในโอกาสครบรอบ 35 ปี การดำเนินงานบางจากฯ นำเสนอภาพยนตร์โฆษณา ‘ข้าวแกง - ความสุขที่ยั่งยืน คือกำไรที่มั่นคง’ เพื่อสะท้อนแนวคิด และปรัชญาในการทำธุรกิจ ที่ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับผลตอบแทนเพียงเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงสังคมและคุณค่าของชีวิตผ่านเนื้อหาของงานภาพยนตร์โฆษณานี้ด้วย
วันนี้ บริษัท บางจากฯเติบโตสู่ขวบปีที่ 40 จึงได้ส่งหนังสั้นโฆษณา ‘จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง’ (Regenerative Soul) ซึ่งแฝงความหมายที่ลึกซึ่งผ่านข้อคิดว่าไม่มีอะไรที่จะเป็นไปไม่ได้หากเรามีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ โดยความน่าสนใจของหนังโฆษณานี้ได้ถูกอธิบายเพิ่มเติมผ่าน ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่เชื่อมโยงไปสู่ทิศทางการเติบโตของแบรนด์ในอนาคต
“จากผลงานภาพยนตร์โฆษณา ‘ข้าวแกง - ความสุขที่ยั่งยืน คือกำไรที่มั่นคง’ ได้รับผลตอบรับที่เกินคาด โดยเราสามารถสื่อสารแนวคิดของบางจากฯ ออกไปได้โดยไม่จำเป็นต้องมีโลโก้ของบริษัทอยู่ในงานชิ้นนั้น แต่คนดูสามารถเข้าใจแนวคิดของเราที่มุ่งมั่นมาตลอด 35 ปี ในวันนั้น เมื่อมาถึงการครบรอบ 40 ปี เราก็อยากส่งผ่านแนวคิดที่เติบโตขึ้น และยังสื่อสารความเป็นตัวตนของบางจากฯ ต่อไปได้”
ในหนังสั้นโฆษณา ‘จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง’(Regenerative Soul) เล่าเรื่องของเด็กชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่ลงมือทำความฝันของตัวเองด้วยความมุ่งมั่น และการกระทำของเด็กคนนี้ก็ส่งต่อไปยังคนรอบข้างให้ลุกขึ้นมาร่วมกันเอาชนะความท้าทายต่อสิ่งแวดล้อมที่ต้องเผชิญ โดยเชื่อมโยงแนวคิดของแบรนด์บางจากฯ ‘Greenovate to Regenerate – สมดุลธรรมชาติ สร้างสรรค์พลังไม่สิ้นสุด’ เข้ากับไอเดียของหนัง ที่ว่าด้วยเรื่อง “จิตวิญญาณที่ไม่สิ้นสุด” ถ่ายทอดออกมาเป็นเนื้อหาที่พูดถึงหัวใจสำคัญนั่นคือ หากเราเชื่อมั่นในจิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง ก็สามารถสร้างทุกสิ่งให้เป็นไปได้
“เมื่อก่อนเวลาที่เราพูดถึงพลังงานสีเขียว พลังงานที่รักษ์โลก พลังงานที่ดีต่อโลก ส่วนมากก็จะเป็นแค่วลีสวยๆ แต่ไม่เห็นภาพ แต่งานหนังสั้นโฆษณา ‘จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง’ (Regenerative Soul) แสดงให้เห็นว่าทุกอย่างเชื่อมโยงกับธรรมชาติเข้าด้วยกัน เด็กน้อยในเรื่องต้องการเพียงแสงแดดที่สะท้อนผ่านกระจกเพื่อช่วยให้น้องสาวของเขาหายจากอาการเจ็บป่วย และต่อมาสิ่งที่น้องสาวของเด็กผู้ชายคนนั้นได้พบก็คือ ดอกไม้จริงๆ ที่ไม่ได้อยู่แค่ในหนังสือ ซึ่งสามารถสื่อได้ถึงการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืนได้”
สิ่งที่เรียกว่า ‘ความยั่งยืน’ สำหรับคุณในวันนี้คืออะไร – เราถามต่อทันที
“มันไม่ใช่วิธีการคิดแค่ว่าเราจะนำก้อนหินมาตั้งไว้หนึ่งก้อนหรือสร้างตึกขึ้นมาใช้ผนังซีเมนต์เพื่อให้อยู่ได้ 200-300 ปี แต่เป็นการที่เราทำอะไรเพื่อให้มีการเปลี่ยนผ่านหมุนเวียนแล้วก็ดีขึ้น คนรุ่นเก่าก็ต้องผ่านไป คนรุ่นใหม่ก็เข้ามาแทนที่ ดังนั้นการใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติจึงต้องถูกคิดและสร้างสรรค์เพื่อให้มนุษย์สามารถใช้ชีวิตได้อย่างยั่งยืน”
ด้วยแนวคิดนี้จึงกลายเป็นโจทย์สำคัญในหัวข้อ ‘Greenovate to Regenerate – สมดุลธรรมชาติ สร้างสรรค์พลังไม่สิ้นสุด’ สำหรับตัวเขาและบางจากฯ ต้องทำการบ้านอย่างหนักเพื่อหาคำตอบและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้สมดุลทางธรรมชาติดีขึ้น
“เราพยายามสร้างโปรดักส์ใหม่ๆ ที่ทำให้มีการเกิด ก่อ ในรูปแบบของธรรมชาติให้ได้มากที่สุด” เขากล่าวเสริม
สิ่งที่คุณชัยวัฒน์เล่ามา ทำให้เราเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงโลโก้บางจากฯ เมื่อปีที่ผ่านมา ที่นำเสนอในความหมายของการเปลี่ยนผ่านที่เข้าสู่ฤดูกาลใหม่ เกิดการผลัดใบของใบไม้ใบใหม่ที่มีสีสันสดใส เหมือนการเกิดขึ้นใหม่ตามกระบวนการทางธรรมชาติ และมีพลังที่พร้อมจะเติบโตไม่เหี่ยวเฉา
“ผมมีโอกาสได้คุยกับคุณไอ๋ (ดลชัย บุณยะรัตเวช) นักโฆษณาที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมานาน เขาพูดถึงคำว่า Regenerate กับผม ซึ่งคำนี้เปิดมุมมองใหม่ๆ ให้ผมเกี่ยวกับเรื่องของความยั่งยืน ดังนั้นจึงเอาแนวคิดนี้มาร่วมกันสร้างอะไรสักอย่างขึ้นมาเพื่อสื่อสารคอนเซ็ปต์นี้ออกไปให้ได้ เพราะบางจากฯ อยากจะได้กระบวนการธรรมชาติให้ได้มากที่สุด ในการตอบโจทย์ความมั่นคงด้านพลังงาน ดังนั้นจะมีวิธีไหนที่จะตอบได้บ้าง ซึ่งหนังสั้นโฆษณาเรื่องนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนการนี้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจกับคนดู โดยให้พวกเขาตีความจากเนื้อหาด้วยตัวเอง เพราะผมเชื่อว่าคนแต่ละคนก็มีมุมมองที่ไม่เหมือนกัน และสะท้อนตัวตนของบางจากฯ ในวันนี้ที่แตกต่างจากอดีตที่ผ่านมาด้วยครับ”
ที่ผ่านมาบางจากฯจะเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ขับเคลื่อนเรื่องของพลังงานสีเขียวมามากมาย จนสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นได้หลอมรวมเข้าไปเป็นหนึ่งเดียวกับชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างกลมกลืน ถ้าให้ยกตัวอย่างก็คงเป็นการได้รับรางวัล รางวัล Global Performance Excellence Award ซึ่งบางจากฯองค์กรเดียวในโลกจากกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ที่ได้รับรางวัลนี้
“เราพัฒนาโรงกลั่นที่คนเคยบอกว่าเป็นโรงกลั่นน้ำมันที่เล็ก ไม่ค่อยได้เรื่อง จนไปสู่สิ่งที่ผมพูดได้เต็มปากว่าเราเป็นโรงกลั่นน้ำมันที่ดีและมีประสิทธิภาพที่สุดในโลกได้แล้ว ซึ่งการเติบโตนี้ก็น่าจะมาจากจิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง หลายครั้งสิ่งที่เราทำขึ้นมาด้วยกัน บางทีก็ไม่รู้ตัวจนถึงวันที่ต้องมานั่งค่อยไล่ดูว่าในแต่ละปีเราได้สร้างสรรค์อะไรขึ้นมากันบ้าง แต่สิ่งที่พาเรามาให้ถึงตรงนี้ไม่สามารถอาศัยได้แค่ความกล้าเท่านั้น แต่มันมีกระบวนการมากมายเกิดขึ้นระหว่างทางเต็มไปหมด และเราต้องหาวิธีทำมันให้เกิดขึ้นมาให้สำเร็จได้ด้วย ซึ่งบางจากฯ โชคดีมากที่มีทีมงานที่เก่งและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นคอยช่วยเหลือและร่วมมือกัน”
พูดถึงเรื่องกระบวนการ เรารู้มาว่าหนังสั้นโฆษณาเรื่องนี้ก็ไม่ได้เคาะจบกันง่ายๆ เพราะด้วยความเอาใจใส่และการไม่ยอมให้งานไม่มีคุณภาพ เขาจึงคลุกคลีอยู่กับโปรเจ็กต์นี้ด้วยความใส่ใจ
“ผมอยากให้ผลงานสื่อสารออกมาได้อย่างมีคุณภาพ ดังนั้นการเลือกเนื้อหาจึงมีการพูดคุยและตัวเลือกที่หลากหลาย มีกระบวนการคิดที่เข้มข้น เพื่อให้เห็นว่าเราให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพอย่างมาก เพราะอยากให้คนดูรู้สึกว่าบางจากฯ จะส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับพวกคุณ เหมือนที่เราทำ Bangchak Hi Premium 97 ออกมา ซึ่งไม่มีคนอื่นทำ และโปรดักส์ตัวนี้ก็ได้มีการทดสอบจนมั่นใจเป็นน้ำมันคุณภาพสูง ก่อนจะนำออกจำหน่ายให้กับผู้บริโภค”
ไม่เพียงแต่ความใส่ใจในเรื่องของกระบวนการเพื่อให้นำไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดเพียงเท่านั้น เพราะสิ่งที่เขากำลังจะเล่าต่อไปนี้ ทำให้เราเข้าใจแล้วว่า ทำไมทางบางจากฯ ถึงอยากทำหนังโฆษณาทั้ง ‘ข้าวแกง - ความสุขที่ยั่งยืน คือกำไรที่มั่นคง’ และ ‘จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง’ (Regenerative Soul)
“แม้ว่าเราจะมีของที่ได้คุณภาพแล้วก็ตาม แต่ถ้าไม่มีการสื่อสารที่ดีสุดท้ายสิ่งที่ทุ่มเททำลงไปก็ไม่ตอบโจทย์อะไร” คุณชัยวัฒน์ยิ้มให้ก่อนจะเล่าต่อ
“ผมบอกกับทีมงานว่า ผมขอหนังโฆษณาสักเรื่องที่ที่ไม่ได้เล่าเรื่องตลกขบขันได้ไหม เพราะในวันนี้ส่วนใหญ่หนังโฆษณาจะใช้ความตลกมาเรียกความสนใจคนดู แต่มุกตลกพอฟังสักสองสามรอบเราก็ไม่รู้สึกตลกเหมือนตอนได้ฟังครั้งแรกอีกแล้ว ดังนั้นโจทย์ของผมก็อยากได้ผลงานที่ทำให้คนอยากกลับมาดูอีกซ้ำๆ ดูได้เรื่อยๆ สิ่งนี้คือการสื่อสารถึงความเป็นตัวตนของบางจากฯ ด้วย ที่วันนี้เราไม่ใช่แบรนด์เพื่อธรรมชาติหรือสีเขียวเท่านั้น แต่เราจะส่งมอบคุณภาพให้กับผู้บริโภคด้วย”
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ งานหนังโฆษณาของบางจากฯ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องล่าสุดคือ ‘จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง’ (Regenerative Soul) หรือเรื่องก่อนหน้าที่ยอดคนดูพุ่งไปแตะ 50 ล้านวิวอย่าง ‘ข้าวแกง - ความสุขที่ยั่งยืน คือกำไรที่มั่นคง’ ไม่มีการพูดถึงเรื่องของพลังงานหรือน้ำมันซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบางจากฯ เลย แต่ถ้ามองอย่างลึกซึ้งเราก็จะเห็นความหมายแฝงเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้อยู่ในตัวหนังโฆษณาอย่างแยบยล
“บางทีเราก็แซวตัวเองนะว่าเหมือนบางจากฯ จะไม่ขายน้ำมันกันแล้ว (หัวเราะ) แต่ถ้ามองกันตั้งแต่ชื่อบริษัทเราก็ไม่มีคำว่า ‘ปิโตรเลียม’ อยู่ในนั้นมาหลายปีแล้วเช่นกัน แต่เราก็พยายามสื่อสารว่าบางจากฯ คือ ผู้ให้บริการเรื่องพลังงาน ดังนั้นคำว่า ‘Regenerative Power’ ก็หมายถึงพลังงานด้วยเช่นกัน Power ไม่ได้เป็นแค่พลังงาน แต่ทุกองค์ประกอบรอบตัวเราก็เป็น Power ได้ทั้งนั้น กาแฟที่อยู่ตรงหน้าคุณหนึ่งแก้วก็เป็น Power ได้ ตอนเราเหนื่อยๆ หมดแรงก็เติมพลังด้วยกาแฟได้ ดังนั้นบางจากฯ จึงเป็นเหมือน Regenerative Power ให้กับผู้บริโภค”
ด้วยเหตุนี้บางจากฯ จึงพัฒนานวัตกรรมในหลายๆ ด้านเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีทางธรรมชาติ ซึ่งเรียกว่า Greenovate to Regenerate
“เรามีอีกหลายๆ อย่างที่ต้องเรียนรู้จากธรรมชาติ และนำมาประยุกต์ใช้เพื่อตอบโจทย์ปัญหาที่มีอยู่ในทุกวันนี้ ซึ่งการเรียนรู้นี้ต้องผ่านการวิเคราะห์อะไรต่ออะไรค่อนข้างเยอะมาก ดังนั้นจึงต้องศึกษาว่าเราจะสามารถประยุกต์เอาอะไรมาใช้จากวิถีทางธรรมชาติได้อีกบ้าง เพราะเรามองว่าการใช้แค่โซลาร์เซลล์อย่างเดียวยังไม่พอ โซล่าร์เซลล์เป็นแค่ส่วนหนึ่งของคำตอบเท่านั้น ซึ่งเรื่องของ renewable ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถ EV หรืออะไรก็ตามก็เป็นส่วนหนึ่งของคำตอบ แต่ไม่ใช่คำตอบเดียวสำหรับทั้งหมดเช่นกัน จึงต้องมีการวิวัฒนาการและการวิจัยเพื่อพัฒนาตัวเองและหาคำตอบสำหรับโจทย์ใหญ่ของเราให้ได้”
ดังนั้นโจทย์ใหญ่ที่ต้องศึกษาและพัฒนาต่อไปของบางจากฯ จึงสามารถแบ่งเป็นหัวข้อใหญ่ๆ ได้ 3 เรื่องนั่นคือ REGENERATIVE POWER, REGENERATIVE LIFE และ REGENERATIVE INNOVATION นั่นเอง
สุดท้ายแม้ว่าบางจากฯ จะดำเนินมาถึงช่วงครบรอบปีที่ 40 แล้วก็ตาม แต่การเดินทางก็ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และด้วยวันนี้ก็เป็นช่วงเวลาปลายปี 2023 กันแล้ว สิ่งที่เราอยากรู้อีกเรื่องก็คือ เป้าหมายและปณิธานปีใหม่ของทั้งคุณชัยวัฒน์และบางจากฯ ที่มีร่วมกันคือเรื่องอะไร
“น่าจะเป็นเรื่องที่สื่อถึงความเป็นตัวตนของผมและบางจากฯ ที่เรามีเหมือนกัน” เขาหยุดคิดสักครู่และในดวงตาเริ่มส่องประกายออกมา
“ผมเชื่อว่าการขับเคลื่อนนั้นต้องอาศัยความกล้าคิด กล้าทำ และทำต่อไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะทำได้สำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ การที่เราไปจะให้ความสำคัญที่ปลายทาง เราลองดูเรื่องของกระบวนการด้วย ซึ่งกว่าที่เราจะไปถึงเป้าหมายได้ เราต้องมีความมุ่งมั่นและความพร้อมที่จะทำมันตลอดเวลาเสียก่อน ดังนั้นแม้จะทำไม่สำเร็จเราก็ได้เรียนรู้ แต่ถ้าทำได้สำเร็จเราก็ภูมิใจ และตามหาเป้าหมายใหม่กันต่อไป ดังนั้นบางจากฯ จึงอยากสื่อสารเรื่องของกระบวนการเป็นหลักมากกว่าจะมาเล่าเรื่องความสำเร็จ ดังนั้นปณิธานต่อไปของเราก็คือสิ่งที่เรียกว่าจิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง เหมือนกับชื่อหนังโฆษณาของเราเลยครับ”
สามารถชมหนังสั้นโฆษณา ‘จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง’ ได้ทาง YouTube: Bangchak Official , Facebook: Bangchak และ www.bangchak.co.th