‘ไบรอัน สตีเวนสัน’ ผู้นำความยุติธรรมมาสู่ผู้บริสุทธิ์ในแดนประหาร

‘ไบรอัน สตีเวนสัน’ ผู้นำความยุติธรรมมาสู่ผู้บริสุทธิ์ในแดนประหาร

จากประสบการณ์อันเจ็บปวดในวัยเด็กที่คุณปู่ถูกฆาตกรรม สู่การเป็นทนายผู้อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้ถูกตัดสินประหารชีวิตอย่างไม่เป็นธรรม ไบรอัน สตีเวนสัน ได้พลิกโฉมระบบยุติธรรมอเมริกันด้วยการต่อสู้ที่กล้าหาญ ช่วยปลดปล่อยผู้บริสุทธิ์จากแดนประหารกว่า 125 ชีวิต

KEY

POINTS

  • จากความเจ็บปวดสู่พลัง: เด็กชายผิวดำจากครอบครัวยากจนที่ก้าวขึ้นเป็นทนายฮาร์วาร์ดผู้ท้าทายระบบยุติธรรมทั้งประเทศ 
  • 125 ชีวิตที่รอดจากความตาย: เบื้องหลังการต่อสู้อันยาวนานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ถูกตัดสินประหารชีวิต 
  • มรดกแห่งการเปลี่ยนแปลง: จากการปฏิรูปกฎหมาย สู่พิพิธภัณฑ์แห่งความทรงจำที่บอกเล่าความจริงอันเจ็บปวดของสังคมอเมริกัน
     

“เมื่อใดก็ตามที่สังคมเริ่มสร้างนโยบายและกฎหมายที่หยั่งรากลึกมาจากความกลัวและความโกรธ ที่นั่นย่อมมีการละเมิดและความอยุติธรรม” 

นี่คือคำกล่าวของ ‘ไบรอัน สตีเวนสัน’ นักกฎหมายและนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนผู้อุทิศชีวิตเพื่อต่อสู้กับความอยุติธรรมในระบบกฎหมายอเมริกัน

ไบรอัน สตีเวนสัน เป็นหนึ่งในบุตรสามคนของ ‘อลิซ สตีเวนสัน’ พนักงานออฟฟิศที่ Dover Air Force Base และ ‘โฮเวิร์ด สตีเวนสัน ซีเนียร์’ คนงานโรงงาน เขาเติบโตท่ามกลางการเหยียดผิว แต่แม่ของเขาคอยสนับสนุนให้เขาและพี่น้องต่อสู้กับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะการที่แม่ปฏิเสธที่จะยอมรับการแบ่งแยกในโรงเรียนท้องถิ่น  และเรียกร้องให้ลูก ๆ ได้รับการศึกษาที่ดีที่สุด

จุดเปลี่ยนสำคัญในวัยรุ่นของสตีเวนสันคือเหตุการณ์ที่คุณปู่ของเขาถูกฆาตกรรมในฟิลาเดลเฟีย เขารู้สึกว่าเพราะคุณปู่เป็นคนจนและเป็นคนผิวดำ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจึงไม่สนใจที่จะสืบสวนคดีนี้มากนัก แม้ว่าในที่สุดฆาตกรจะถูกจับได้และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่เหตุการณ์นี้ได้ปลูกฝังความตระหนักถึงความไม่เท่าเทียมในระบบยุติธรรมให้กับเขา

สตีเวนสันเป็นนักเรียนที่โดดเด่น เป็นนักเปียโนที่มีความสามารถ และเป็นนักฟุตบอล เขาจบการศึกษาจาก Eastern University ในเพนซิลเวเนียด้วยปริญญาตรีสาขาปรัชญาในปี 1981 จากนั้นได้เข้าศึกษาต่อที่ Harvard University ด้วยทุนเต็มจำนวน ระหว่างเรียนที่นั่น ประสบการณ์ฝึกงานที่ Southern Prisoners Defense Committee (ต่อมารู้จักในชื่อ Southern Center for Human Rights หรือ SCHR เป็นองค์กรในแอตแลนตาที่ต่อสู้เพื่อสิทธิของคนจนและผู้ด้อยโอกาสในเรือนจำทางตอนใต้) ได้เปลี่ยนชีวิตของเขา  

หลังจบการศึกษาจาก Harvard ในปี 1985 ด้วยปริญญาโทด้านนโยบายสาธารณะและปริญญานิติศาสตร์ สตีเวนสันเข้าร่วมงานกับ SCHR และรับคดีของนักโทษประหารที่เชื่อว่าถูกตัดสินหรือลงโทษอย่างไม่เป็นธรรม ในปี 1989 เขาได้เป็นผู้อำนวยการ Alabama SCHR และหกปีต่อมาได้พัฒนาองค์กรนี้เป็น Equal Justice Initiative (EJI) ซึ่งในช่วง 25 ปีแรกของการดำเนินงาน สามารถช่วยปลดปล่อยผู้ต้องขังที่ถูกตัดสินผิดพลาดจากแดนประหารได้มากกว่า 125 คน

หนึ่งในคดีสำคัญที่สุดและเป็นที่จดจำมากที่สุดของสตีเวนสันคือคดีของ ‘วอลเตอร์ แมคมิลเลียน’ ชายผิวดำที่ถูกตัดสินประหารชีวิตในปี 1988 ด้วยข้อหาฆาตกรรมหญิงสาวผิวขาวอายุ 18 ปี ทั้งที่มีพยานหลักฐานไม่น่าเชื่อถือ แม้จะมีพยานผิวดำหลายคนยืนยันว่าแมคมิลเลียนอยู่ที่งานเลี้ยงย่างปลาในเวลาที่เกิดเหตุ คณะลูกขุนก็เพิกเฉย การพิจารณาคดีใช้เวลาเพียงวันครึ่งเท่านั้น และที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ แมคมิลเลียนถูกส่งไปคุมขังในแดนประหารก่อนที่การพิจารณาคดีจะเริ่มด้วยซ้ำ

ระหว่างการต่อสู้คดีนี้ สตีเวนสันต้องเผชิญกับการข่มขู่และการคุกคามมากมาย เขาถูกขู่ฆ่า ถูกเจ้าหน้าที่เรือนจำบังคับให้ถอดเสื้อผ้าตรวจค้น และถูกตำรวจจี้ปืนที่ศีรษะโดยไม่มีสาเหตุ 

จุดเปลี่ยนของคดีเกิดขึ้นเมื่อรายการ ‘60 Minutes’ นำเสนอสารคดีในปี 1992 เปิดเผยให้เห็นว่าคดีที่ฟ้องร้องแมคมิลเลียนนั้นอ่อนแอเพียงใด แมคมิลเลียนได้รับการปล่อยตัวหลังจากต้องอยู่ในแดนประหาร 6 ปี และยังคงสนิทสนมกับสตีเวนสันจนกระทั่งเสียชีวิตในปี 2013

เรื่องราวนี้ยิ่งมีความน่าสนใจเมื่อพิจารณาว่าแมคมิลเลียนถูกจับในเมืองมอนโรวิลล์ บ้านเกิดของ ‘ฮาร์เปอร์ ลี’ ผู้เขียนนวนิยายเรื่อง ‘To Kill A Mockingbird’ ที่เล่าเรื่องทนายความผู้ต่อสู้เพื่อปกป้องจำเลยผิวดำผู้บริสุทธิ์เช่นกัน สตีเวนสันมองเห็นความขัดแย้งในชุมชนที่ภาคภูมิใจในนวนิยายเล่มนี้ แต่กลับเพิกเฉยต่อความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นจริง เขาเล่าว่า “มันช่างเป็นเรื่องย้อนแย้งที่ผู้คนในชุมชนบอกผมว่า คุณเป็นทนาย คุณควรไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ To Kill A Mockingbird ผมตอบเหมือนกันทุกครั้งว่า ผมอยากไปมาก แต่ตอนนี้ผมกำลังยุ่งกับการช่วยชายผิวดำผู้บริสุทธิ์ที่ถูกตัดสินผิดพลาดและกำลังเผชิญกับโทษประหารชีวิต”

สตีเวนสันประสบความสำเร็จในการต่อสู้คดีสำคัญในศาลสูงสุดสหรัฐฯ หลายคดี รวมถึงคดี ‘Miller v. Alabama’ ในปี 2012 ที่ห้ามการตัดสินจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีโอกาสพักโทษสำหรับผู้กระทำผิดที่อายุต่ำกว่า 18 ปี และคดี ‘Madison v. Alabama’ ที่ศาลตัดสินว่าผู้ต้องขังที่เป็นโรคสมองเสื่อมไม่ควรถูกประหารชีวิต ในปี 1998 เขาได้เป็นศาสตราจารย์ด้านกฎหมายที่ New York University ควบคู่ไปกับการทำงานที่ EJI

การพูดใน TED Talk ของเขาในปี 2012 เรื่อง ‘We Need to Talk About an Injustice’ ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง โดยเขากล่าวว่า “ในท้ายที่สุด คุณตัดสินอุปนิสัยของสังคมได้จากวิธีที่พวกเขาปฏิบัติต่อคนจน ผู้ถูกประณาม และผู้ถูกจองจำ” ขณะที่เรื่องราวของเขาได้รับการบันทึกในหนังสือ ‘Just Mercy: A Story of Justice and Redemption’ (2014) และถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 2019 โดยมี ‘ไมเคิล บี. จอร์แดน’ รับบทเป็นสตีเวนสัน และ ‘เจมี ฟอกซ์’ รับบทเป็นแมคมิลเลียน

ในปี 2018 สตีเวนสันได้ช่วยก่อตั้ง ‘Legacy Museum’ และ ‘National Memorial for Peace and Justice’ ในเมืองมอนต์โกเมอรี เพื่อบันทึกประวัติศาสตร์การเป็นทาส และการแบ่งแยกเชื้อชาติที่ชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ต้องเผชิญ พร้อมทั้งเชื่อมโยงกับปัญหาร่วมสมัย เช่น การจองจำหมู่และความรุนแรงของตำรวจ เขากล่าวว่า “ความจริงและการปรองดองต้องเกิดขึ้นตามลำดับ เราไม่สามารถไปถึงการปรองดองและการฟื้นฟูได้จนกว่าจะเผชิญกับความจริง และเราไม่ได้ทำหน้าที่นี้อย่างดีพอ ที่จริงแล้ว เรากลับบิดเบือนประวัติศาสตร์เสียมากกว่า”

ผลงานอันโดดเด่นของสตีเวนสันได้รับการยกย่องผ่านรางวัลสำคัญมากมาย รวมถึงทุน ‘MacArthur fellowship’ ในปี 1995 และรางวัล ‘Olof Palme Award’ ในปี 2000 ด้วยความตระหนักว่าความอยุติธรรมมีหลายรูปแบบ สตีเวนสันยังคงต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและความจริง โดยเขาเชื่อว่า “ความยากจนไม่ได้ตรงข้ามกับความมั่งคั่ง แต่ตรงข้ามกับความยุติธรรม” 

 

เรื่อง: พาฝัน ศรีเริงหล้า
ภาพ: Getty Images

 

อ้างอิง: 

American's Who Tell the Truth. (n.d.). Bryan Stevenson. Retrieved January 29, 2025, from https://americanswhotellthetruth.org/portraits/bryan-stevenson/

USA Today. (2020, January 8). ‘Just Mercy’: Michael B. Jordan plays Bryan Stevenson in real-life case. Retrieved January 29, 2025, from https://www.usatoday.com/story/entertainment/movies/2020/01/08/just-mercy-michael-b-jordan-real-case-bryan-stevenson-movie/2836560001/

Britannica. (n.d.). Bryan Stevenson. Retrieved January 29, 2025, from https://www.britannica.com/biography/Bryan-Stevenson