‘ยิ่งยง สะเด็ดยาด’ ตำนานคอลัมนิสต์บันเทิง ผู้ใช้อักษรย่อเป็นอาวุธ

ในยุคที่สื่อหนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่ทรงอิทธิพลด้านข่าวสารมากเป็นอันดับแรก ตื่นเช้าขึ้นมาคนส่วนใหญ่เกือบทุกชั้นวรรณะ ต่างรอคอยอ่านหนังสือพิมพ์ ‘ไทยรัฐ’ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันที่คนต้องติดตามอ่าน 

จากการสำรวจของคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ช่วงปี 2520 - 2522 พบว่า คอลัมน์ยอดนิยมอันดับหนึ่งในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ คือ คอลัมน์ในหน้าบันเทิง ชื่อ  ‘ยิ่งยงแหย่ดารา’ โดย ‘ยิ่งยง สะเด็ดยาด’ หรือชื่อจริงว่า ‘นายทวิทย์ โปสินธุ์’ ศิษย์เก่าโรงเรียนวัดเชิงเลน จักรวรรดิ กรุงเทพมหานคร

ด้วยลีลาการเขียนเรื่องเกี่ยวกับดาราและบุคคลในวงการบันเทิงที่กระชับ ภาษาเข้าใจง่ายและมีชั้นเชิงในการเขียนวิจารณ์ให้อ่านแล้วเห็นภาพคล้อยตาม หลายเรื่องที่ถูกเผยแพร่ครั้งแรกหรือเรื่องลับ ๆ ที่คนอ่านไม่เคยรู้มาก่อน สามารถหาอ่านได้จากคอลัมน์นี้ และเพื่อเลี่ยงการถูกฟ้องร้อง หรือทำให้เกิดการติดตามลุ้นกันจนเป็นที่ชาวบ้านร้านช่องต้องพูดถึงถามไถ่กันในวันถัดไป คือการใช้ ‘อักษรย่อ’ ชื่อดาราเป็นปริศนาให้ทายกัน และทำให้ต้องติดตามอ่านอย่างต่อเนื่องเผื่อมีคำเฉลย นับว่าเป็นกลยุทธ์การเขียนระดับเซียน ที่นักข่าวบันเทิงรุ่นหลังต่างลอกเลียนตามจนมาถึงปัจจุบัน 

สิ่งที่ถือว่าเป็นไม้เด็ดมากและต้องติดตาม ‘ยิ่งยงแหย่ดารา’ กันทุกฉบับ คือ ย่อหน้าสุดท้ายก่อนจบที่มักจะมีหมัดเด็ดให้อ่านแล้วอึ้ง เพราะเป็นเรื่องลับเฉพาะหรือพิเศษจริง ๆ  ไม่ใช่การจบแบบธรรมดาทั่วไป การสรุปความเพียงไม่กี่บรรทัดเนื่องจากพื้นที่ที่จำกัด ยิ่งเขียนยากว่าการมีพื้นที่ให้บรรยายได้ยาว คำทุกคำต้องทำงาน ไม่เวิ่นเว้อ

ยิ่งยงมีศิลปะในการเขียนเชิงกระเซ้าเย้าแหย่อย่างมีลูกล่อลูกชนแบบมืออาชีพ ไม่ถึงกับทำให้ต้องฟ้องร้องกันใหญ่โต สามารถเคลียร์กันได้ภายหลัง และคอลัมน์นี้สามารถกำราบดาราบางคนที่อาจจะแตกแถวให้กลับมาเป็นคนที่นิยมชมชอบของประชาชน กล่าวกันว่า ดารานักร้องในยุคนั้นต่างให้ยำเกรงในคอลัมนิสต์ ยิ่งยง สะเด็ดยาด เป็นอย่างมาก เพราะสามารถจะชี้เป็นชี้ตายอนาคตในวงการบันเทิงได้

นอกจากการเขียนประจำในหน้าบันเทิงไทยรัฐแล้ว ชื่อของ ‘ทวิทย์ โปสินธุ์’ ได้ปรากฏในนิตยสารบันเทิง ‘จักรวาลดารา’ และ ‘จักรวาลดาว’ ที่แยกตัวมาภายหลัง ในฐานะกองบรรณาธิการ และในช่วงที่ไทยทีวีสีช่อง 3 ก่อตั้งใหม่ ๆ ในช่วงปี พ.ศ.2515 ก็มีรายการโทรทัศน์ชื่อ ‘คนดังพาเหรด’ ทุกวันอาทิตย์ ซึ่งยิ่งยง สะเด็ดยาด ร่วมทำรายการนี้ 

ความโด่งดังของยิ่งยงนั้น โพสต์ของเพจ ‘ดาราภาพยนตร์’ ได้เขียนไว้ว่า 

“สิ่งที่นักข่าวผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ภาคภูมิใจที่สุดคือฉายา ยิ่งยงไทยรัฐไทยแลนด์ ซึ่งเป็นชื่อที่แกใช้ตอนไปร่วมงานภาพยนตร์ระดับประเทศที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ และมีผู้กำกับภาพยนตร์คนดังจากฝรั่งเศส เขียนจดหมายมาหา โดยจ่าหน้าซองเพียงแค่ว่า Yingyong Thai Rath Thailand ยิ่งยง ไทยรัฐ ไทยแลนด์ แล้วจดหมายที่เขียนจ่าหน้าแค่นี้ สามารถส่งจากประเทศฝรั่งเศสมาถึงโต๊ะข่าวบันเทิงของแกที่ไทยรัฐ สำเร็จ ทำให้พี่ยิ่งยง ภาคภูมิใจกับชื่อนี้มาก” 

คอลัมน์ ‘ยิ่งยงแหย่ดารา’ นอกจากเขียนข่าวดารา ภาพยนตร์ และคนบันเทิงแล้ว ยังสอดแทรกด้วยการแนะนำสินค้าหรือบริการอย่างแยบยล ซึ่งมีอิทธิพลต่อคนอ่านเป็นอย่างมาก ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ ยิ่งยง สะเด็ดยาด เคยเขียนถึงหนังสือคู่สร้างคู่สม ของ ‘ดำรง พุฒตาล’ ทำให้ยอดขายหมดเกลี้ยงแผงหนังสือ โรงพิมพ์ต้องสั่งพิมพ์ซ้ำในฉบับนั้น ๆ อีกหลายครั้ง และจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว
 

ช่วงบั้นปลายของชีวิต คอลัมน์นี้ยังอยู่ในไทยรัฐทั้งฉบับตีพิมพ์และออนไลน์ แต่ความถี่น้อยลง ป๋ายิ่งยงที่น้อง ๆ ในวงการเรียกกัน กลับไปใช้ชีวิตเรียบง่ายที่บ้านเกิดในอำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เป็นเจ้าของ ‘รีสอร์ทสวนสะเด็ดยาด’ เนื้อที่ประมาณ 180 ไร่ มีสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าตัวตั้งใจจะทำเป็นโรงแรมที่พักครบวงจร แต่การสร้างยังบางส่วนยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากต้องใช้ทุนมหาศาล พื้นที่ส่วนใหญ่จึงเป็นสวนเงาะ  มังคุดและทุเรียน เปิดให้เข้าชมและชิมโดยค่าบัตรเข้า และซื้อกลับบ้านได้ในราคาถูก    

ในระยะแรก ๆ ที่เปิดทำการ มักจะมีดารานักร้องไปเที่ยวและรีวิวสถานที่ รวมถึงมีการจัดคอนเสิร์ตอยู่บ่อยครั้ง ปัจจุบัน รีสอร์ตสวนสะเด็ดยาดยังเปิดให้บริการและปรับตัวขายผลไม้ออนไลน์ตามกระแสการค้าโลกที่เปลี่ยนไป กลุ่มดารานักร้องที่ไปเยี่ยมรีสอร์ทที่ปรากฎล่าสุด  อาทิ ณเดชน์ คูกิมิยะ และกลุ่มนักร้อง AF 

นอกจากคอลัมยิ่งยงแหย่ดารา จะโดดเด่นเรื่องวงในดาราแล้ว เรื่องของวงการเพลงทั้งไทยสากล สตริง ลูกทุ่งก็สามารถมาผสมกันในคอลัมน์อย่างกลมกลืนเช่นกัน  

นักแต่งเพลงชื่อดังในอดีต ‘ทวีพงศ์ มณีนิล’ บัณฑิตคณะศิลปศาสตร์และเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้าของเพลงดังที่เราคุ้นหู เช่น หลักไม้เลื้อย, ถ้าหัวใจฉันมีปีก (จิตติมา เจือใจ) ถ้าวันนี้ยังมีเขาอยู่ (สวลี ผกาพันธ์) คนหน้าเดิม (รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส ) ขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก, น้ำตาร่วงหลังพวงมาลัย (ธานินทร์  อินทรเทพ) ฯลฯ เคยให้ข้อมูลไว้ว่า การแต่งเพลงของเขาอาศัยหลักการเขียนหนังสือของทวิทย์ โปสินธุ์  หรือยิ่งยง สะเด็ดยาด ซึ่งเป็นหนึ่งในครูที่เขายึดถือเป็นต้นแบบ 

หรือแม้แต่ศิลปินแห่งชาติ ‘ชลธี ธารทอง’ ที่ปั้น ‘สายัณห์ สัญญา’ ให้โด่งดังจากเพลง ลูกสาวผู้การ และแหม่มปลาร้า จนกลายเป็นนักร้องชายอันดับหนึ่ง และสร้างชื่อเสียงให้นักร้องหลายคน เช่น ‘เสกศักดิ์ ภู่กันทอง’ จากเพลง ทหารอากาศขาดรัก, ‘เสรี รุ่งสว่าง’ จากเพลง หนุ่มทุ่งกระโจมทอง คนกล่อมโลก เทพธิดาผ้าซิ่น, ‘อ้อยทิพย์ ปัญญาธรณ์’ จากเพลง อีสาวทรานซิสเตอร์ ฯลฯ และยังมีนักร้องคุณภาพและเพลงออกมาประดับวงการ ประสบความสำเร็จอย่างมาก 

ในสมัยนั้น นักเขียนจะมีการตั้งฉายาให้นักร้อง อาทิ ‘รงค์ วงษ์สวรรค์’ เคยให้ฉายา ‘สุเทพ วงศ์กำแหง’ ว่า ‘นักร้องเสียงขยี้แพรบนฟองเบียร์’ และส่วนของ ‘ชลธี ธารทอง’ นักแต่งเพลงลูกทุ่งก็ได้รับฉายาจากยิ่งยง สะเด็ดยาด คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ว่า ‘เทวดาเพลง’ ซึ่งเป็นฉายาที่ได้รับการยอมรับจากคนทั่วไปและเป็นที่ถูกใจของชลธีเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นฉายาประจำตัวจนสิ้นชีวิต  ต่างจากปัจจุบันที่การตั้งฉายา ดาราหรือนักร้องประจำปีของนักข่าวบันเทิงกลับไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับและนำมาเรียกขานกันต่อเนื่อง

ผลงานการเขียนคอลัมน์บันเทิงตลอดทั้งชีวิตของยิ่งยง สะเด็ดยาด จึงเสมือนเป็นครูของนักข่าวรุ่นต่อมา ขึ้นอยู่ที่ว่าเมื่อครูพัก เราจะลักจำเฉพาะสิ่งดี ๆ ที่ครูสร้างไว้เพื่อต่อยอดให้เกิดการเขียนข่าวบันเทิงเป็นเชิงสร้างสรรค์ได้มากน้อยอย่างไร 

 

เรื่อง: เคน สองแคว
ภาพ: เพจ สวนสะเด็ดยาด จ. จันทบุรี