04 เม.ย. 2568 | 11:03 น.
เซเว่น อีเลฟเว่น นอกจากจะเป็นร้านสะดวกซื้อ ขณะเดียวกันก็เป็นสถานที่ ที่มอบประสบการณ์สุดล้ำค่า ฝึกคนให้เรียนรู้และเติบโตขึ้นได้จากความพยายาม ดังเช่นเรื่องราวของ ‘หนึ่ง - จิรกิตติ์’ หรือ ‘พี่หนึ่ง เซเว่น’ จากอดีตช่างซ่อมรองเท้า พนักงานขนส่งดิลิเวอรีสู่ผู้ช่วยผู้จัดการร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และอีกบทบาทในฐานะอินฟลูเอนเซอร์ TikTok ที่นอกจากจะทำคลิปรีวิวสินค้าของเซเว่น ยังเป็นแหล่งคลังความรู้และเทคนิคการทำงานในร้านเซเว่น สำหรับน้องๆ พนักงานมือใหม่ให้เข้าใจการทำงานได้ง่ายขึ้น
ผู้ชายที่มีรอยยิ้มตลอดเวลา ทำงานอย่างคล่องแคล่ว น่าจะเป็นภาพจำของผู้ชายที่ชื่อ ‘หนึ่ง - จิรกิตติ์ วงศ์สันติสุข’ เขาเล่าย้อนให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นการเริ่มทำงานในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น คุณพ่อของลูกชาย 2 คน ในวัย 40 ปี ที่ก่อนหน้านั้นยึดอาชีพช่างทำรองเท้า และพนักงานส่งพัสดุเอกชน ส่วนภรรยาทำงานในร้านเซเว่นอยู่แล้ว แต่ด้วยรายได้ที่ยังไม่เพียงพอในการดูแลครอบครัว เขาจึงตัดสินใจส่งใบสมัครเข้าร้านสะดวกซื้อตามรอยภรรยาบ้าง
“พอเรามีลูก ก็คุยกันว่าระหว่างเงินกับลูก มันมีความสำคัญเหมือนกัน ผมก็เลยดูแลลูก แล้วก็ทำงานที่บ้าน แฟนทำงานหลัก คือเซเว่น จนช่วงที่ลูกโตขึ้นถึงได้เริ่มเข้ามาทำงานเซเว่น ตอนนั้น อายุ 42 - 43 ปี เป็นช่วงโควิดด้วย เข้ามาตอนแรกทำในตำแหน่งดิลิเวอรีก่อน”
งานแรกในชุดยูนิฟอร์มเสื้อลายสีเขียว-ส้มของเขา คือการเป็นดิลิเวอรีในเซเว่น อีเลฟเว่น ที่มีความสนุก คือการได้ออกไปเจอลูกค้า พูดคุย ทำความรู้จัก ตลอดจนความท้าทายในการส่งออเดอร์ให้ถูกต้อง รวดเร็ว และขับขี่ปลอดภัย
ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน และเรียนรู้ไว พร้อมรับโอกาส ทำให้ ‘พี่หนึ่ง’ ขยับจากตำแหน่งพนักงานดิลิเวอรี มาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ ด้วยการเรียนรู้และฝึกฝนที่ไม่สิ้นสุด ขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการเปลี่ยนแปลงหน้าที่ กลายเป็นคนที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อทีมงานในร้าน ใส่ใจรายละเอียด เป็นอีกเรี่ยวแรงสำคัญในการพาร้านให้ประสบความสำเร็จ
ถ้ามีมของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น คือคำถามของพนักงานเมื่อลูกค้ามาเยือนที่ร้านว่า “รับขนมจีน ซาลาเปาเพิ่มไหมคะ/ครับ” แต่ในการทำงานจริง มีรายละเอียดมากกว่านั้น โดยเฉพาะในฐานะผู้ช่วยผู้จัดการที่ต้องบริหารจัดการและช่วยดูแลทีมงานในสาขา
“พอขยับมาทำตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ เราได้วัดฝีมือว่าเราจะพาร้าน พาทีมไปรอดไหม ความท้าทายในการทำงานแต่ละวัน คือได้เจอลูกค้า ได้แก้ปัญหาให้ผ่านไปได้ เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าวันนี้เรามาทำงานจะเจอปัญหาอะไรบ้าง เครื่องกาแฟจะพังไหม วันนี้จะลงของเยอะไหม น้องจะลาหรือเปล่า แต่ละเรื่องเราจะแก้ปัญหาอย่างไร บริหารคนอย่างไร ก็เป็นความท้าทายในแต่ละวัน”
ในมุมมองของพี่หนึ่ง ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เป็นสถานที่ ที่เขาได้เรียนรู้หลากหลายทักษะการบริหารจัดการ ทั้งการบริหารสต๊อก บริหารคน ได้ฝึกฝนทักษะของการเป็นผู้ประกอบการทุกขั้นตอน
“หน้าที่ของพี่หนึ่ง คือทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ทำเรื่องง่ายให้ง่ายยิ่งขึ้น โดยที่ไม่ละเมิดมาตรฐานร้าน”
“อย่างเวลาสอนงานน้องๆ ก็จะสอนแบบที่เข้าใจง่าย เราจะนึกถึงวันแรกที่ก้าวเข้ามา จะเอาความรู้สึกไปใส่ตรงนั้นตลอดเวลา เวลาจะถ่ายทอดอะไร จะทำอย่างไรให้น้องๆ เข้าใจได้ ง่าย” พี่หนึ่งกล่าว
TikToker หน้าใหม่หัวใจเขียว-ส้ม
ไม่เพียงแค่บทบาทพนักงานเซเว่นฯ อีกหมวกที่พี่หนึ่ง จิรกิตติ์ สวมอยู่ เป็นผลมาจากการทำงานในร้าน คือการผันตัวเองเป็นอินฟลูเอนเซอร์ใน TikTok (แบบไม่ได้ตั้งใจ) ภายใต้ช่อง @nungsave แต่กลับมีผู้ติดตามเกือบครึ่งแสน นักรีวิวสินค้าจากร้านในมุมมองของพนักงานและผู้บริโภคตัวจริง ไปพร้อมๆ กับการทำคลิปแบ่งปันเคล็ดลับการทำงานในร้าน จนกลายเป็นที่พึ่งของเหล่าพนักงานใหม่ทั่วประเทศ และคนทั่วไปที่ได้เห็นการทำงานในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น
“วันนั้นเลิกงานเสร็จไปรับลูก เตรียมชุดสุกี้ไปชุดหนึ่ง ก็ไปลองตั้งกล้องลองทำรีวิวกับลูก ตอนถ่ายคลิปลูกก็เข้ามากอด มาเล่นด้วย มันก็เลยกลายกระแสไวรัลขึ้นมา รู้สึกว่าสนุกดีเนอะ จากนั้นก็พยายามทำเพิ่ม เอาอาหารในเซเว่นของเรามาแนะนำ ซื้อมารีวิวเอง ก็เป็นเรื่องใหม่ๆ ที่เราไม่เคยทำมาก่อน”
จากคลิปรีวิวอาหาร สู่การทำคอนเทนต์สอนงานในร้าน ด้วยมุมมองการเล่าเรื่องที่เข้าใจง่าย สอดแทกสาระความรู้ เทคนิคการทำงาน เพื่อแบ่งปันให้สามารถดูซ้ำ ทบทวนความรู้ได้เสมอ และยังมีคำพูดเชิงบวก ส่งกำลังใจในการทำงาน โดนใจเพื่อนพนักงานร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทั่วประเทศ
“เวลาทำคลิปไปแต่ละคลิป แล้วมีคอมเมนต์มาว่าเห็นพี่หนึ่งเป็นแบบอย่าง พอเขาได้ดูคลิปของเรา มันเหมือนได้รับพลังบวกจากเราแล้วก้าวไปทำงานได้ เรารู้สึกว่าใจมันฟูขึ้นเนอะ ที่อย่างน้อยๆ เราได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาเดินต่อได้”
ชายผู้เริ่มต้นในวัย 40 ปี กับความสุขในการทำงานททดลองทำ ด้วยความขยัน ความมุ่งมั่น และใส่ใจ ทำให้พี่หนึ่ง มีมุมมองต่ออนาคตเปลี่ยนไป เขาสามารถดูแลครอบครัว ซื้อหาสิ่งที่ต้องการได้ มีชีวิตที่มั่นคง สมบูรณ์ และมีความสุข
“เมื่อก่อนที่ยังไม่ได้เข้ามาทำงานเซเว่น ตอนที่ไปรับ-ส่งลูกด้วยมอเตอร์ไซค์ พอหน้าฝนเรารู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราเห็นลูกคนอื่นได้ขึ้นรถ ก็มองว่าเมื่อไรเราจะมีรถให้ลูกไม่ต้องตากฝน ตากแดด แต่พอได้ทำงานในเซเว่น ทำให้เรามีรถ มีสิ่งที่ไม่เคยมีให้ลูก เลยรู้สึกว่ามันเป็นอาชีพที่มั่นคง ทำให้ลูกภูมิใจ รู้ว่าพ่อทำได้”
เมื่อถอดบทเรียนชีวิตพี่หนึ่งออกมา พบว่าหัวใจของความสำเร็จคือการมองโลกในแง่บวก มีความสุขกับสิ่งเล็กๆ ในชีวิตประจำวัน ขณะเดียวกันก็พร้อมเผชิญทุกปัญหา ความท้าทาย ตลอดจนการทำความเข้าใจผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน ไปจนถึงลูกค้า ที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้
ในทุกวันของการใช้ชีวิตและการทำงาน พี่หนึ่งยึดคติที่เรียบง่าย แต่ได้ผลว่า
“ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วพรุ่งนี้มันก็จะดีตามมา”
และอีกสิ่งสำคัญคือการไม่ปล่อยให้โอกาสผ่านไป เหมือนที่เขาเลือกเข้ามาทำงานในครอบครัวเซเว่น อีเลฟเว่น ที่ได้ทั้งความรู้ ประสบการณ์ ทักษะการเป็นผู้ประกอบการ ขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คน แบ่งปันความรู้และส่งต่อพลังงานบวกในฐานะของพนักงานควบคู่อินฟลูเอนเซอร์ได้อย่างดีอีกด้วย