บ้านใหญ่นครปฐม ‘สะสมทรัพย์’ รุ่น 3 การต่อสู้และบทเรียนการเมือง เมื่อเคยแพ้ ‘อนาคตใหม่’

• หลังการจากไปของ ไชยา สะสมทรัพย์ บ้านใหญ่แห่งนครปฐมอย่างตระกูลสะสมทรัพย์พบความเปลี่ยนแปลง และต้องปรับตัวหลายอย่าง โดยเฉพาะเมื่อพ่ายแพ้แก่พรรคอนาคตใหม่ในอดีต
• หลังการจัดทัพปรับตัวใหม่ คนตระกูลสะสมทรัพย์กลับมาโลดแล่นในทางการเมือง และเตรียมเผชิญบทพิสูจน์อีกครั้งในศึกเลือกตั้ง 2566

การเกิดขึ้นของพรรคอนาคตใหม่ ในการเลือกตั้งปี 2562 ส่งผลสะเทือนต่ออาณาจักร ‘บ้านใหญ่นครปฐม’ อย่างใหญ่หลวง

คนเมืองเจดีย์ใหญ่ ไม่มีใครคิดหรอกว่า คนในตระกูล ‘สะสมทรัพย์’ จะพ่ายแพ้ และนักการเมืองรุ่นใหม่สังกัดพรรคอนาคตใหม่จะได้รับชัยชนะ

การเลือกตั้ง ส.ส.นครปฐม ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พ.ค.2566 จะเป็นการพิสูจน์ศักดิ์ศรีบารมี และการปรับตัวรับการเมืองเชิงกระแสของบ้านใหญ่สะสมทรัพย์

ย้อนไปเมื่อปลายปี 2563 ไชยา สะสมทรัพย์ ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบที่บ้านพักริมถนนมาลัยแมน ต.หนองปากโลง อ.เมือง จ.นครปฐม หลังจากที่ป่วยด้วยโรคหลายโรค ทั้งโรคไต ปอด มาเป็นเวลานานกว่า 5 ปี

การจากไปของ อ้อน - ไชยา สะสมทรัพย์ อดีต ส.ส.นครปฐม และอดีตรัฐมนตรี ทำให้ผู้สันทัดกรณีการเมืองบ้านใหญ่ตั้งคำถามว่า สะสมทรัพย์รุ่นที่ 3 จะนำทัพขับเคลื่อนธุรกิจและการเมืองไปได้หรือไม่

ปัจจุบัน เสี่ยอ้อน มีลูกชายที่รับมรดกทางการเมือง 2 คนคือ หนึ่ง - จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายก อบจ.นครปฐม และ โหน่ง - พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ อดีต ส.ส.นครปฐม

 

บทเรียนความปราชัย

ผลการเลือกตั้ง ส.ส.นครปฐม เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นความปราชัยของตระกูลสะสมทรัพย์ ในสีเสื้อพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ว่าจะเป็น เผดิมชัย สะสมทรัพย์, อนุชา สะสมทรัพย์ และก่อเกียรติ สิริยะเสถียร ซึ่งทั้ง 3 คน ล้วนเป็น ส.ส.นครปฐม มาหลายสมัย

ที่สำคัญ ผู้สมัคร ส.ส.ที่เอาชนะอดีต ส.ส.บ้านใหญ่ มาจากพรรคอนาคตใหม่ ไม่มีรถแห่หาเสียง มีป้ายไวนิลแนะนำติดสองข้างถนนไม่เยอะ แต่พวกเขาได้คะแนนเสียงท่วมท้น

มีเพียง พาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์ ลูกชายไชยา ลงสมัคร ส.ส.นครปฐม ครั้งแรกที่ได้รับเลือกเป็น ส.ส.นครปฐม เขต 2 รักษาหน้าบ้านใหญ่ไว้ได้ 1 เขต

 

กระทั่ง มีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 นครปฐม เมื่อ 23 ตุลาคม 2562 เผดิมชัย สะสมทรัพย์ พรรคชาติไทยพัฒนา กลับมาเอาชนะ ไพรัฎฐโชติก์ จันทรขจร พรรคอนาคตใหม่ นัยว่าเป็นการกู้ศักดิ์ศรีบ้านใหญ่สะสมทรัพย์

เผดิมชัย สะสมทรัพย์ พี่ใหญ่ของตระกูลสะสมทรัพย์ และมีศักดิ์เป็นลุงของพาณุวัฒน์ ยอมรับว่า การเลือกตั้ง ส.ส.สมัยที่แล้ว บ้านใหญ่ปรับตัวไม่ทัน ยังหาเสียงแบบเดิม เมื่อเจอคู่แข่งที่มากับกระแส และใช้สื่อใหม่เจาะถึงกลุ่มเป้าหมายจึงพ่ายแพ้แบบงง ๆ

ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งใหม่ ส.ส.นครปฐม จะเพิ่มจาก 5 คน เป็น 6 คน อนุชา สะสมทรัพย์ น้องเล็กของบ้านใหญ่ ก็คาดหวังว่า “หากทะลุ 4 เขตได้ ผมถือว่าแลนด์สไลด์แล้ว แม้เราประกาศว่าไม่น้อยกว่า 4 คน แต่การทำงานการเมืองจากนี้จะไม่ประมาทใคร”

อนุชา รู้ดีว่า บ้านใหญ่สะสมทรัพย์ในสีเสื้อพรรคชาติไทยพัฒนา ยังเป็นรองพรรคคู่แข่งอย่างพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ในแง่ของกระแส จึงตั้งเป้าไว้แค่ 4 ที่นั่ง

 

จากรุ่น 2 สู่รุ่น 3

ประเสริฐ สะสมทรัพย์ สร้างอาณาจักรธุรกิจ ในนามบริษัทกลุ่ม 79 เริ่มก่อตั้งด้วยการวิ่งรถบรรทุกสิบล้อ และเปลี่ยนมาทำธุรกิจรถทัวร์สาย 79 รวมถึงธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ค้าวัสดุก่อสร้าง โกดังข้าว กำจัดขยะ และบริหารสนามกอล์ฟหรูระดับโลก

ประมุขบ้านใหญ่ ประเสริฐ มีลูกชาย 4 คนคือ เผดิมชัย, ไชยยศ ,ไชยา และอนุชา โดยเป็นสะสมทรัพย์ รุ่น 2 ที่สืบต่อธุรกิจของตระกูล และเล่นการเมือง

ไชยยศ สะสมทรัพย์ เรียนจบนอก และเป็นลูกเขยของ อุเทน เตชะไพบูลย์ ได้ลงสมัคร ส.ส.นครปฐม เป็นคนแรกของตระกูล สังกัดพรรคก้าวหน้า จากนั้นก็ถึงคิวพี่ใหญ่ เผดิมชัย สะสมทรัพย์ ลงสนาม ส.ส.

จากพรรคก้าวหน้า สู่พรรคเอกภาพ ตระกูลสะสมทรัพย์ กลายเป็นบ้านใหญ่นครปฐม ในทางการเมือง ด้วยการบริหารจัดการของ อ้อน - ไชยา สะสมทรัพย์

ไชยา ลงเล่นการเมืองท้องถิ่น มาตั้งแต่ปี 2522 เป็น สจ.ผูกขาดของ อ.เมืองนครปฐม จนมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมากมาย และได้ก่อตั้ง ‘กลุ่มชาวบ้าน’ ยึดการเมืองท้องถิ่นทุกระดับ ตั้งแต่ สจ., อบต., เทศบาล และกำนัน-ผู้ใหญ่

ปี 2538 ไชยา ลงสนามใหญ่ ได้เป็น ส.ส.นครปฐม สมัยแรก และได้เป็น รมช.คมนาคม สมัยรัฐบาลชวน 2

ปี 2544 ตระกูลสะสมทรัพย์ สละเรือลำเก่า-พรรคเอกภาพ หันมาซบพรรคไทยรักไทย ตามคำเชิญชวนของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และอยู่กับพรรคการเมืองในเครือข่ายทักษิณ ชินวัตร มาจนถึงปี 2562 บ้านใหญ่เมืองเจดีย์ใหญ่ จึงย้ายไปสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา

 

กลุ่มชาวบ้านยุคใหม่

ช่วงสุดท้ายของชีวิต ไชยา สะสมทรัพย์ ขอให้ลูกชาย จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ ที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ มาลุยงานการเมืองท้องถิ่น โดยรับบทหัวหน้า กลุ่มชาวบ้านคนใหม่ และลงสมัครนายก อบจ.นครปฐม

ในอดีต การเลือกตั้งนายก อบจ.นครปฐม เป็นการต่อสู้ระหว่างกลุ่มชาวบ้าน กับกลุ่มไม่เอาบ้านใหญ่ นำทีมโดยพรศักดิ์ เปี่ยมคล้า อดีต ส.ส.นครปฐม และเจ้าของคอกม้าชื่อดังแห่ง อ.ดอนตูม

เวลานั้น บ้านใหญ่สะสมทรัพย์ ส่งมือขวาเสี่ยอ้อน พเยาว์ เนียะแก้ว นั่งเก้าอี้นายก อบจ.นครปฐม มา 4 สมัย แต่ปี 2563 บ้านใหญ่เปลี่ยนตัวผู้เล่น จากพเยาว์ เป็นจิรวัฒน์ ลูกชายคนโตของไชยา

ส่วน พเยาว์ เนียะแก้ว อดีตนายก อบจ.ก็โบกมือบ้านใหญ่ นำทีมลงสมัครในนามกลุ่มพลังแผ่นดิน โดยมีทีมงาน ส.อบจ.กลุ่มชาวบ้านบางส่วนให้การสนับสนุน

หนึ่ง จิรวัฒน์ ได้พลิกรูปแบบการหาเสียงจากเดินเคาะประตูบ้าน มาใช้โซเชียลมีเดีย และใช้รถหาเสียงติดจอ LED ขับไปทั่วทุกพื้นที่ จนได้รับชัยชนะ ด้วยคะแนนเสียงทิ้งห่างคู่แข่งเกือบแสนคะแนน

ช่วงที่พ่อไชยา ยังเล่นการเมืองอยู่ จิรวัฒน์ หันไปลุยธุรกิจจัดการขยะจนประสบความสำเร็จ ก่อนจะผันตัวมาลงสนามการเมืองท้องถิ่น เพราะต้องการหลอมรวมกลุ่มการเมืองต่าง ๆ ในนครปฐมให้เป็นหนึ่งเดียว

“ชาวบ้านคิด กลุ่มชาวบ้านทำ เพราะเรา กลุ่มการเมืองที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มชาวบ้าน เราอยากจะใกล้ชิดชาวบ้าน” จิรวัฒน์ กล่าวถึงที่มาของคำว่ากลุ่มชาวบ้าน

 

อนาคตบ้านใหญ่

เมื่อบริบทการเมืองนครปฐมเปลี่ยน ตระกูลสะสมทรัพย์ก็ปรับตัวเพื่อความอยู่รอดของบ้านใหญ่ ไชยาจึงส่งลูกชาย พาณุวัฒน์ ลงสนาม ส.ส.นครปฐม เป็นครั้งแรก เมื่อปี 2562

โหน่ง พาณุวัฒน์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ส.ส.นครปฐม เขต 2 แต่คู่แข่งที่ได้อันดับ 2 กลับเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งไม่ใช่คนดังในพื้นที่ แต่ได้กว่า 2 หมื่นคะแนน

ไชยา วางแผนให้ลูกชายคนเล็ก โหน่ง พาณุวัฒน์ สะสมบารมีชื่อเสียง ด้วยกลยุทธ์ลูกหนังนำการเมือง เหมือนเนวิน ชิดชอบ รอเวลาก็ลงเล่นสนามการเมืองระดับชาติ

ทายาทคนเล็กของไชยา พาณุวัฒน์ จึงเปิดตัวให้คนนครปฐมได้รู้จักผ่านการสร้างสโมสรฟุตบอลอาชีพ ‘นครปฐมยูไนเต็ด’ ฉายาเสือป่าราชา ไต่มาจากไทยลีก 4 ขยับขึ้นไทยลีก 3 และปัจจุบัน ทีมเสือป่าราชา เล่นอยู่ในไทยลีก 2

เลือกตั้ง 2566 โหน่ง พาณุวัฒน์ จะลงสนามเป็นครั้งที่ 2 โดยมีคู่แข่งเป็นคนหน้าใหม่จากพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ซึ่งการต่อสู้ครั้งนี้ คงจะเป็นบททดสอบอันสำคัญของบ้านใหญ่นครปฐม

 

เรื่อง: ชน บทจร

ภาพ: (ซ้าย) จิรวัฒน์ (กลาง) เผดิมชัย และพาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์ ภาพจาก คมชัดลึก, NATION PHOTO