เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม เหลนจอมพล ป. ดวงนักแสดง กับความฝันทางดนตรี

เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม เหลนจอมพล ป. ดวงนักแสดง กับความฝันทางดนตรี

เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม เหลนจอมพล ป. ดวงนักแสดง กับความฝันทางดนตรี

“เจเจ” เป็นตัวย่อชื่อเล่นของคุณพ่อและคุณแม่มาผสมกัน “กฤษณภูมิ” เป็นชื่อมงคลสำหรับคนเกิดวันพฤหัสบดี ซึ่งเขาเกิดวันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2539 และ “พิบูลสงคราม” บ่งบอกชัดเจนถึงการเป็นทายาทอดีตนายกรัฐมนตรีคนสำคัญของประเทศไทย จอมพล แปลก พิบูลสงคราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "จอมพล ป.พิบูลสงคราม" โดยคุณพ่อ พิบูลพร พิบูลสงคราม เป็นบุตรชายของพลตรีอนันต์ พิบูลสงคราม ซึ่งเป็นบุตรชายแท้ ๆ ของ จอมพล ป. หากนับตามศักดิ์แล้ว  เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม จึงเป็นเหลนของจอมพลแปลก พิบูลสงคราม นั่นเอง   เจเจ ยอมรับว่าตัวเองไม่ค่อยสนใจอ่านหนังสือประวัติศาสตร์เท่าไหร่ แต่ครอบครัวก็มีการเล่าเรื่องราวของคุณทวดให้ฟังบ้าง และเพิ่งมารู้ลึกๆ ช่วงเรียนวิชาประวัติศาสตร์ในชั้นมัธยมปลาย “ผมมองว่าเขาเปลี่ยนแปลงประเทศเยอะ เขาทำให้ประเทศพัฒนากว่าแต่ก่อนเยอะมาก หลายอย่างกลายเป็นวัฒนธรรมของชาติ แต่เรื่องประวัติศาสตร์พอผ่านมานานๆ มันก็ทำให้เราไม่แน่ใจว่า เรื่องไหนจริง เรื่องไหนไม่จริง ตำราเล่มนี้อาจบอกแบบนี้ ตำราอีกเล่มอาจบอกอีกอย่าง บางเล่มอาจมีการบิดเบือนเสริมแต่ง ฟังจากอาจารย์ก็จะได้ฟังเรื่องเล่าอีกแบบ ฟังจากคนในครอบครัวเราเองก็ได้ฟังเรื่องเล่าอีกอย่าง” เจเจให้สัมภาษณ์ใน Giraffe Magazine ถึงประเด็นประวัติศาสตร์อย่างน่าสนใจไว้ว่า "เรื่องประวัติศาสตร์มันมีรายละเอียดเยอะมาก บางเรื่องเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว มันเลยอาจทำให้เราต่อไม่ติด ยิ่งเป็นเด็กนักเรียนไทยที่ส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจ นอกจากอ่านหนังสือประวัติศาสตร์เพื่อไปใช้ในห้องสอบ ก็เป็นธรรมดาที่เขา (เพื่อนๆ) จะไม่ใส่ใจ" อย่างไรก็ตาม เจเจให้สัมภาษณ์กับสื่ออยู่บ่อยครั้งว่า แม้จะมีนามสกุลดัง แต่งานในวงการบันเทิงได้มาจากดวง โอกาสและความสามารถ มากกว่าเส้นสายของครอบครัว “ที่เข้ามาได้ด้วยโชคมากกว่านามสกุล ลูกหลานนักการเมืองไม่ได้เป็นนักแสดงกันทุกคน ผมว่ามันไม่เกี่ยวกับนามสกุล แต่เป็นเรื่องดวง ที่เราจะขวนขวายความสามารถมากกว่า”   เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม เหลนจอมพล ป. ดวงนักแสดง กับความฝันทางดนตรี ดวงนักแสดง โชคชะตาที่พัดพาเขาเข้าวงการบันเทิง   “ดวง” ที่ว่าคือการได้รับการชักชวนเข้าสู่วงการบันเทิงโดย มะเดี่ยว - ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ที่เห็นเจเจเดินแบบในงานฉลองครอบรอบ 20 ปีของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ขณะยังเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แม้จะพลาดบทในตอนแรก แต่ไม่นานเข้าก็ได้รับโอกาสอีกครั้งใน เกรียน ฟิคชั่น “ตั้งแต่ผมแสดงหนังเรื่องแรก เกรียน ฟิคชั่น มันเปลี่ยนชีวิตผมไปตลอดเลยจนถึงตอนนี้ จุดเริ่มต้นมาจากการที่ผมแคสต์หนังของพี่มะเดี่ยวแต่ว่าไม่ได้ ต่อมามีทีมแมวมองมาที่โรงเรียนผม (โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่) ทำให้ผมได้เล่นหนังเรื่องนี้ ซึ่งการแสดงหนังครั้งแรกค่อนข้างยาก แต่มองย้อนกลับไปเราสู้พอสมควร เรื่องนั้นเรื่องเดียวทำให้ชีวิตและทัศนคติผมเปลี่ยนไป” โชคชะตาพาเจเจก้าวสู่วงการบันเทิงทีละจุดๆ ทั้งภาพยนตร์ ซีรีส์โทรทัศน์ มิวสิกวิดีโอ โฆษณา ฯลฯ ทั้งที่จริงๆ แล้วเขาคิดทำเป็นงานอดิเรก แต่ปัจจุบันอาชีพนักแสดงกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว “ผมไม่เคยคิดฝันถึงเรื่องเข้าวงการมาก่อนเลย พอเราโชคดีได้โอกาสเข้ามาทำงานตรงนี้ก็จะพยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์งานในวงการและรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด” เขากล่าว การเข้าในวงการบันเทิงคือโอกาสที่เรารับมา แล้วก็เปลี่ยนชีวิตเราไปเลย” หลังหมดสัญญาจากสังกัดเดิม เจเจย้ายมาซบ นาดาวบางกอก ประเดิมงานแสดงเรื่องแรกด้วยซีรีส์ ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ ซึ่งยิ่งทำให้เขามีชื่อเสียงมากขึ้นไปอีก เพราะการอยู่ในนาดาวเต็มไปด้วยนักแสดงมืออาชีพจำนวนมาก จึงเป็นแรงผลักดันให้เขาคิดว่า ‘เราต้องไม่แพ้คนอื่น’ “ผมพัฒนาขึ้นเยอะมาก ถือว่าตัวเองมาไกลเหมือนกันในด้านการทำงาน” สำหรับเขา ความยากในการแสดงคือการทำให้คนดู “รู้สึก” ถึงอารมณ์ ไม่ว่าจะผ่านสายตา น้ำเสียง อารมณ์ หรือท่าทางร่างกาย ซึ่งนักแสดงที่ดีต้องจัดการอารมณ์ตัวเองให้ได้ “ถ้าจัดการอารมณ์ตัวเองไม่ได้ มันจะค่อยๆ กัดกินตัวเราไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายแล้วมันจะพังไปเลย” ฉะนั้นแล้ว สำหรับอนาคตอาชีพนักแสดงนั้น เจเจไม่รับปากว่าจะเดินตามเส้นทางตามโชคชะตาตัวเองหรือไม่ เพราะลึกๆ แล้วเขามีความฝันทางดนตรี     เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม เหลนจอมพล ป. ดวงนักแสดง กับความฝันทางดนตรี ดนตรี อีกหนึ่งความฝันที่สานต่อด้วย 9x9   9x9 (ไนน์ บาย นาย) คือโปรเจกต์พิเศษที่รวมตัว 9 หนุ่มสุดยอดไอดอล ต่อ ธนภพ, เจมส์ ธีรดนย์, กัปตัน ชลธร, เติร์ด ลภัส, ปอร์เช่ ศิวกร, แจ็คกี้ จักริน, ไอซ์ พาริส, มิว ชิษณุชา และ เจเจ กฤษณภูมิ ซึ่งแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงต้นปี 2018 เป็นที่เรียบร้อย ทั้ง 9 คนต้องทุ่มเวลาเพื่อฝึกซ้อมอย่างหนัก ทั้งการร้อง การเต้น และการแสดง ประเดิมด้วยผลงานซีรีส์ เลือดข้นคนจาง ที่สร้างกระแสมากมายปีที่ผ่านมาโดยผู้กำกับ ย้ง - ทรงยศ สุขมากอนันต์ ต่อด้วยผลงานเพลง “NIGHT LIGHT” และปิดท้ายด้วยคอนเสิร์ตใหญ่ทั่วประเทศที่จะเกิดขึ้น 9 มีนาคม 2019 นี้ เดิมทีเจเจมีความสามารถทางดนตรีอยู่แล้ว เขาเล่นกีตาร์มาตั้งแต่ช่วงมัธยมศึกษา กระทั่งเคยตั้งวงดนตรี “แมวเซา” พร้อมเพื่อนๆ เพื่อแสดงในงาน Music Night ที่โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัยจัดขึ้นแสดงความสามารถทางดนตรีของนักเรียนทุกระดับชั้น ครั้นเข้ามาในวงการบันเทิงก็เคยเล่นกีตาร์ในวง- Sleep Runway ร้องเพลง Cover, ร้องนำเพลงประกอบซีรีส์ และเคยร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ 20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น “เด็กกระโดดกำแพง” ดีกรีเข้าชิงรางวัลเพลงประกอบยอดเยี่ยมจากเวทีชมรมวิจารณ์บันเทิง เจเจเคยให้สัมภาษณ์กับ The Cloud กับถึงโอกาสในวงการบันเทิงมากมาย แต่สิ่งที่เขาปรารถนามานานแล้วคือการทำงานเพลง โดยมีความชอบเพลงฮิปฮอปเป็นทุนเดิม “ผมชอบร้องเพลง ชอบฟังเพลงอยู่แล้ว แต่ไม่เคยมีโอกาสเอามาพัฒนาจริงจัง จนตอนขึ้นคอนเสิร์ต GTH Star Theque ที่รู้สึกว่า เฮ้ย เราชอบความรู้สึกตอนขึ้นไปยืนร้องเพลงอยู่บนเวทีแบบนั้นแล้วมีคนตั้งใจฟังเราเต็มไปหมด... พอได้ไปออดิชันโปรเจกต์ 9×9 แล้วได้ฝึกเป็นจริงเป็นจังครั้งแรกก็ยิ่งชอบเข้าไปอีก มันตอกย้ำว่าการร้องเพลงเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขจริงๆ ตอนนี้คิดเหมือนกันนะว่าระดับความชอบการร้องเพลงพุ่งขึ้นมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับการแสดงมาก” ขณะที่ทักษะการเต้นของเจเจ เขาบอกว่าตัวเองเริ่มต้นที่ติดลบมากกว่าศูนย์ แต่ในเมื่อโปรเจกต์ 9×9 คือการสร้างศิลปิน เขาจึงต้องมีความสามารถทางการเต้น ซึ่งตัวเองก็พร้อมเรียนรู้และฝึกฝนในสิ่งที่ไม่เคยทำนี้ “จากการที่เราเต้นไม่เป็น... พอฝึกไปเรื่อยๆ ได้เห็นพัฒนาการของตัวเอง แล้วก็พยายามฝึกมาตลอดเพื่อให้เราดีใจกับพัฒนาการของตัวเองได้ต่อไป”   เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม เหลนจอมพล ป. ดวงนักแสดง กับความฝันทางดนตรี พัฒนาประสบการณ์เพื่ออนาคตในวงการบันเทิง   จากเด็กหนุ่มเชียงใหม่ที่เข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่มัธยมฯ ทำให้เขาต้องย้ายทำงานที่กรุงเทพฯ ชีวิตวัยเด็กเขาไม่ได้หายไปไหน เจเจยังคงเป็นเด็กหนุ่มที่ชอบสังสรรค์กับเพื่อนๆ โลกเล็กใบเดิมเริ่มขยับขยายสู่โลกการทำงานที่กว้างใหญ่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของเขาคือ “ครอบครัว” “ผมรู้สึกว่าตอนนี้พ่อแม่เริ่มแก่แล้ว น้องผมก็ยังเด็กอยู่ เขาอาจโตไม่ทันที่จะรับผิดชอบหน้าที่ตรงนั้น ดังนั้นถ้าผมต้องกลับไปช่วยที่บ้าน ต้องกลับไปเรียนรู้งานจากแม่จริงๆ ผมก็อาจต้องกลับ” อย่างไรก็ดี เจเจเองก็ยังอยากพัฒนาการทำงานตัวเองต่อไป ด้วยการเจอบทบาทที่ท้าทายมากขึ้น แม้จะต้องแลกกับความคาดหวังจนทำให้ตัวเองคิดมากเกินไป “บางทีผมคิดมากเกินไปและควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ พอคิดหนักเข้า มันเลยกลายเป็นว่าสิ่งที่แสดงออกมามันถูกคิดเอาไว้ทุกอย่างว่าจะต้องดีจนบางครั้งมันไม่เป็นธรรมชาติ ฉะนั้นถ้ามีเรื่องไหนที่ต้องพัฒนา ผมก็อยากหาบาลานซ์ระหว่างการทำงานให้ได้มากกว่านี้” เขากล่าว “ผมคิดว่าเมื่อเราลงทุนลงแรงกับอะไรไปแล้วก็คงไม่ให้มันอยากสูญเปล่า” การลงทุนลงแรงที่ว่าคือ ความพยายาม ความตั้งใจ และการเรียนรู้ที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในงานด้านวงการบันเทิงต่อไป   ที่มา youtube youtube fungjaizine adaymagazine thairath thestandard readthecloud Giraffe Magazine 37, Color Issue จากคอลัมน์ Face The Hollywood Reporter Thailand, #17 | NOVEMBER 17, 2016