07 ก.ย. 2563 | 17:14 น.
หากจัดอันดับตัวละครจากวรรณกรรมแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่คนเกลียดมากที่สุด ชื่อของ ‘เบลลทริกซ์ เลสแตรงจ์’ แม่มดฝ่ายมืดเลือดบริสุทธิ์จะต้องติดอันดับต้น ๆ ของโพลอยู่เสมอ (แม้คะแนนความเกลียดของเธอจะแพ้ โดโลเรส อัมบริดจ์ ไปบ้าง) เพราะความบ้าคลั่งร้ายกาจจนเรียกได้ว่าเลวบริสุทธิ์ของเธอ ทำให้นักอ่านและนักดูหนังรู้สึกเหม็นขี้หน้าทุกครั้งที่เบลลาทริกซ์ปรากฏตัว แต่ถึงอย่างนั้นเส้นเรื่องของเธอก็น่าสนใจไม่แพ้ตัวละครฝ่ายดีคนอื่น ๆ เลย ย้อนกลับไปก่อนโลกเวทมนตร์อังกฤษเกิดกลียุค เบลลาทริกซ์ แบล็ก (Bellatrix Black) เป็นพี่สาวคนโตของตระกูลแบล็ก เกิดในปี 1951 มีน้องสาวสองคน คือ แอนโดรเมดา แบล็ก กับ นาร์ซิสซา แบล็ก เด็กสาวจากตระกูลแบล็กส่วนใหญ่เติบโตมากับการปลูกฝังความเป็นเลือดบริสุทธิ์เข้าขั้น จึงคิดว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนอื่น ๆ โดยเฉพาะกับพวกมักเกิ้ลและพ่อมดแม่มดที่มาจากครอบครัวมักเกิ้ล ทว่าน้องสาวคนกลางอย่างแอนโดรเมดากลับแต่งงานกับพ่อมดที่เกิดจากมักเกิ้ลชื่อ เท็ด ท็องส์ เบลลาจึงตัดขาดกับน้องสาวและพาลรังเกียจ นิมฟาดอร่า ท็องส์ หลานสาวของตัวเอง“ฉันเคยเป็น และก็ยังเป็นคนใช้ที่จงรักภักดีที่สุดของจอมมาร”
ช่วงที่โวลเดอมอร์เรืองอำนาจ เบลลาเป็นตัวหลักของกลุ่มผู้เสพความตาย เธอได้รับความไว้วางใจจากเจ้าแห่งศาสตร์มืดมากกว่าใคร เขาถึงขั้นลงมือฝึกศาสตร์มืดให้เบลลาด้วยตัวเอง เพราะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะยอมตายเพื่อเขาได้ ความไว้ใจที่จอมมารมีต่อเบลลามากถึงขนาดยอมมอบให้เธอได้ดูแลถ้วยของ เฮลก้า ฮัฟเฟิลพัฟ ที่กลายเป็นฮอกครักซ์เก็บเสี้ยวหนึ่งของวิญญาณ แม้เบลลาอาจไม่รู้ว่าโวลเดอมอร์นำเสี้ยววิญญาณใส่ไว้ในถ้วย แต่เธอก็รู้สึกได้รับเกียรติยศครั้งใหญ่ และนำถ้วยไปเก็บไว้อย่างปลอดภัยในห้องนิรภัยประจำตระกูลที่ธนาคารกริงกอตส์ แตกต่างจากลูเซียส มัลฟอย ที่ได้ฮอครักซ์เวอร์ชันสมุดบันทึก แต่กลับยัดใส่กระเป๋าของจินนี่ วิสลีย์ เพื่อเอาของที่ยืนยันว่าตนเกี่ยวข้องกับจอมมารและศาสตร์มืดไปให้ไกลตัว สิทธิพิเศษและความไว้วางใจที่เธอคิดว่าจอมมารมีให้มากกว่าคนอื่น ๆ ยิ่งทำให้เบลลาหลงใหลในตัวของโวลเดอมอร์ ไม่ว่าเขาต้องการอะไร คิดจะทำอะไร เธอก็ออกปากพร้อมช่วยทุกอย่าง มองเขาด้วยสายตาเทิดทูนไม่สนใจสามีตัวเองแม้แต่น้อย ส่วนทางด้านโวลเดอมอร์ ถึงเขาจะทำเหมือนกับว่าเบลลาเป็นมือขวาคนสนิทที่วางใจ แต่เขาไม่เคยรู้สึกรักผู้หญิงคนนี้เลยแม้แต่นิด “‘ไม่มีความยินดีใด ๆ ยิ่งกว่านี้แล้ว’ มีความหมายมากนะเบลลาทริกซ์ เมื่อมาจากแก”ครั้งหนึ่งเบลลาเคยบอกโวลเดอมอร์ว่าไม่มีความยินดีใดจะเทียบเท่ากับที่ลอร์ดโวลเดอมอร์เลือกอาศัยอยู่ในคฤหาสน์มัลฟอยร่วมชายคาเดียวกับเธอ การที่จอมมารทวนประโยคซ้ำพร้อมยกย่องกลาย ๆ ถึงกับทำให้เบลลาหน้าแดงก่ำ ดวงตาเอ่อล้นด้วยหยาดน้ำตาแห่งความปีติ หัวใจของหญิงสาวซาดิสม์ยึดอยู่กับจอมมารเพียงแค่ผู้เดียว“ท่านบอกฉันทุกอย่าง ท่านเรียกฉันว่าคนที่จังรักภักดีที่สุด ซื่อสัตย์ที่สุด”
“ท่านมีฉัน คนที่ยอมอยู่ในอัสคาบันเพื่อท่านหลายปี”
อย่างไรก็ตามเธอถูกขังอยู่ในคุกอัสคาบัน 15 ปี (ค.ศ.1981-1996) ช่วงที่แฮร์รี่ พอตเตอร์ เรียนอยู่ปีห้า เกิดการแหกคุกหมู่ที่อัสคาบัน หนังสือพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ตตีข่าวหน้าหนึ่งภาพใบประกาศจับนักโทษแหกคุก 10 คน ใบหน้าของเบลาที่เป็นแม่มดเพียงคนเดียวสะดุดตาแฮร์รี่มากกว่าผู้เสพความตายคนอื่น ๆ เขาจดจำผู้หญิงผมดำยาวสกปรกที่มีรอยยิ้มหยิ่งยโสคล้ายเหยียดหยามคนอื่นตลอดเวลาได้ขึ้นใจ ณ การพบกันของกลุ่มผู้เสพความตายกับเด็ก ๆ กองทัพดัมเบิลดอร์ที่กระทรวงเวทมนตร์ เบลลาสร้างความประทับใจแรกพบกับเด็ก ๆ ด้วยการล้อเลียน แสดงความบ้าคลั่ง ด่าแฮร์รี่ที่กล้าเอ่ยชื่อของจอมมารและดูหมิ่นเขา “แกอวดดีเอ่ยชื่อท่านด้วยริมฝีปากไร้ค่าของแก แกกล้าทำให้ชื่อท่านเปรอะเปื้อนด้วยลิ้นไอพวกเลือดผสม” นอกจากนี้ยังสั่งให้ผู้เสพความตายคนอื่น ๆ จับตัวจินนี่มาให้เธอทรมาน และพอรู้ว่าเนวิลล์เป็นลูกของแฟรงก์กับอลิซ ลองบัตท่อม เธอก็มีท่าทีที่รุนแรงขึ้น กระปรี้กระเปร่าเพราะตื่นเต้นที่จะได้เล่นสนุกกับเด็กชาย“ลองดูว่าลองบัตท่อมจะทนได้นานแค่ไหนก่อนที่มันจะกลายเป็นบ้าเหมือนพ่อแม่มัน”
เบลลาทริกซ์ใช้คำสาปกรีดแทงกับเด็กอายุ 15 ปี หัวเราะลั่นเมื่อได้เห็นเนวิลล์กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ชักดิ้นชักงอกองอยู่ที่พื้น สะอึกสะอื้นอยู่ตรงแทบเท้าของตัวเอง จากนั้นมีโอกาสได้ดวลตัวต่อตัวกับท็องส์ ลูกสาวของแอนโดรเมดาที่เป็นมือปราบมารและสมาชิกของภาคีนกฟินิกซ์ เมื่อแฮร์รี่หันไปดูการต่อสู้เขาเห็นร่างปวกเปียกของท็องส์หมดสติคว่ำลงกับพื้น หลานสาวไม่สามารถสู้ป้าแท้ ๆ ของตัวเองได้ หลังความพ่ายแพ้ของท็องส์ เธอได้ดวลคาถากับญาตินามสกุลเดียวกันอย่าง ซีเรียส แบล็ก เขาหัวเราะเยาะเมื่อเบลลายิงคาถาพลาด ตะโกนเสียงดังบอกว่าเบลลาต้องทำได้ดีกว่านั้นแน่ ๆ เป็นจริงดังที่ซีเรียสพูด ลำแสงลำที่สองจากไม้กายสิทธิ์ของเบลลาพุ่งเข้ากลางอกเขา ซีเรียส แบล็ก ถึงแก่ความตายลอยหายเข้าไปซุ้มประตู ยังไม่จบเพียงแค่นั้น คนต่อมาที่สู้ตัวต่อตัวกับเธอ คือ คิงสลีย์ ชักเคิลโบลต์ ทว่าคิงสลีย์ก็พลาดพลั้งล้มกระแทกพื้น หลังเบลลาล้มคิงสลีย์ได้เธอรีบวิ่งหนีดัมเบิลดอร์ เสกคาถาป้องกันตัวหักเหคาถาของชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้ ในคืนดวลเดือด ณ กองปริศนาแห่งกระทรวงเวทมนตร์ เบลลาทริกซ์มีชัยเหนือท็องส์ ซีเรียส คิงสลีย์ ป้องกันตัวจากคาถาของดัมเบิลดอร์ สอนแฮร์รี่เรื่องการใช้คำสาปร้ายแรง และเป็นผู้เสพความตายเพียงคนเดียวที่หนีรอดไปได้ในคืนนี้“ไม่เคยใช้คำสาปโทษผิดสถานเดียวมาก่อนใช่ไหมไอ้หนู แกต้องตั้งใจให้มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ แกต้องการให้เกิดความเจ็บปวดจริง ๆ เพื่อจะได้สนุกกับมัน ความโกรธอย่างชอบธรรมไม่ทำให้ฉันเจ็บปวดได้นานหรอก ฉันจะแสดงให้แกดูว่ามันต้องทำยังไง ฉันจะสอนแกเอง”
เธอไม่ได้มีแค่ความซาดิสม์ ความมั่นใจในตัวเอง และความร่ำรวย เบลลาเป็นผู้หญิงฉลาดที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม ในช่วงต้นของภาคเจ้าชายเลือดผสม นาร์ซิสซาดั้นด้นมายังถิ่นของพวกมักเกิ้ลเพื่อขอความช่วยเหลือจากสเนป เบลลาที่มากับน้องค่อนแคะสเนปแม้จอมมารจะไว้ใจเขา แต่เธอกลับรู้สึกว่าจอมมารคิดผิดเรื่องความภักดีของสเนปถึงขั้นพูดว่า “ฉันเชื่อว่าจอมมารทำผิดนะ” นี่อาจเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ทาสผู้ซื่อสัตย์เห็นต่างกับผู้เป็นนาย แถมสิ่งที่เธอคิดถูกต้องเสียด้วย เพราะหลังจากโวลเดอมอร์สังหาร ลิลี่ พอตเตอร์ สเนปก็ไม่เคยภักดีต่อลอร์ดมืดอีกเลย เธอทำงานเต็มที่แบบถวายชีวิตเพื่อโวลเดอมอร์ ไม่สนแม้เขาจะเลวแค่ไหนหรือดูเป็นปีศาจมากเพียงใด นอกจากการทรมานครอบครัวลองบัตท่อมกับการต่อสู้ที่กระทรวงเวทมนตร์ วีรกรรมโหดของเธอยาวเป็นหางว่าว ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเจ้าชายเลือดผสม เวอร์ชันภาพยนตร์ เบลลากับมนุษย์หมาป่า เฟนเรีย เกรย์แบ็ก บุกมาก่อกวนบ้านโพรงกระต่ายด้วยการเสกวงไฟล้อมรอบบ้าน ล่อให้แฮร์รี่กับจินนี่วิ่งออกจากบ้าน จากนั้นระเบิดบ้านโพรงกระต่ายทิ้งท่ามกลางสายตาว่างเปล่าของนางวีสลีย์แม้จะมีปากเสียงกับนักต้อน แต่พวกเขาก็เอาเหล่าผู้ไม่พึงปรารถนามาส่งถึงที่ เบลลาอยากรีดข้อมูลและเล่นสนุกกับเหยื่อ เธอเลือกทรมานเฮอร์ไมโอนี่เพราะเป็นแม่มดที่เกิดจากครอบครัวมักเกิ้ล ใช้คำสาปกรีดแทงทรมานซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้เฮอร์ไมโอนี่ยอมบอกว่าได้ดาบมาจากไหน ในวันนั้นเธอได้สังหาร ด๊อบบี้ ผู้รับใช้เก่าด้วยกริชเล่มเล็กที่แทงทะลุท้องของเอลฟ์ประจำบ้านตัวน้อย“เอาทองของแกไปเลยเจ้าคนขนขยะโสโครก ฉันจะเอาทองไปทำอะไร ฉันต้องการเพียงเกียรติยศ”