07 ก.ย. 2563 | 17:14 น.
หากจัดอันดับตัวละครจากวรรณกรรมแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่คนเกลียดมากที่สุด ชื่อของ ‘เบลลทริกซ์ เลสแตรงจ์’ แม่มดฝ่ายมืดเลือดบริสุทธิ์จะต้องติดอันดับต้น ๆ ของโพลอยู่เสมอ (แม้คะแนนความเกลียดของเธอจะแพ้ โดโลเรส อัมบริดจ์ ไปบ้าง) เพราะความบ้าคลั่งร้ายกาจจนเรียกได้ว่าเลวบริสุทธิ์ของเธอ ทำให้นักอ่านและนักดูหนังรู้สึกเหม็นขี้หน้าทุกครั้งที่เบลลาทริกซ์ปรากฏตัว แต่ถึงอย่างนั้นเส้นเรื่องของเธอก็น่าสนใจไม่แพ้ตัวละครฝ่ายดีคนอื่น ๆ เลย ย้อนกลับไปก่อนโลกเวทมนตร์อังกฤษเกิดกลียุค เบลลาทริกซ์ แบล็ก (Bellatrix Black) เป็นพี่สาวคนโตของตระกูลแบล็ก เกิดในปี 1951 มีน้องสาวสองคน คือ แอนโดรเมดา แบล็ก กับ นาร์ซิสซา แบล็ก เด็กสาวจากตระกูลแบล็กส่วนใหญ่เติบโตมากับการปลูกฝังความเป็นเลือดบริสุทธิ์เข้าขั้น จึงคิดว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนอื่น ๆ โดยเฉพาะกับพวกมักเกิ้ลและพ่อมดแม่มดที่มาจากครอบครัวมักเกิ้ล ทว่าน้องสาวคนกลางอย่างแอนโดรเมดากลับแต่งงานกับพ่อมดที่เกิดจากมักเกิ้ลชื่อ เท็ด ท็องส์ เบลลาจึงตัดขาดกับน้องสาวและพาลรังเกียจ นิมฟาดอร่า ท็องส์ หลานสาวของตัวเอง วันแรกของการก้าวสู่ฮอกวอตส์ เมื่อหมวกคัดสรรแตะลงศีรษะ เธอถูกส่งไปอยู่บ้านสลิธีรินแทบจะทันที เบลลาเป็นพวกเลือดสลิธีรินเข้าขั้น เด็กสาวตัวสูง ผมดำ หน้าตาสละสลวยเต็มไปด้วยความหยิ่งผยองเพราะเธอเป็นพวกสายเลือดบริสุทธิ์ มีครอบครัวที่มั่งคั่งและออกเดตกับชายที่เหมาะสม หลังเรียนจบเบลลาแต่งงานกับ โรโดลฟัส เลสแตรงจ์ อีกหนึ่งตระกูลผู้วิเศษเลือดบริสุทธิ์บนเกาะอังกฤษ ใช้นามสกุลสามีกลายเป็น เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ (Bellatrix Lestrange) คนส่วนใหญ่มองว่าพวกเขาไม่ได้รักกันมากมายขนาดนั้น แต่ยอมแต่งงานเพราะต้องสืบทอดสายเลือดบริสุทธิ์ ส่วนน้องสาวอีกคนที่เบลลารักใคร่อย่างนาซิสซาร์ ภายหลังแต่งงานกับ ลูเซียส มัลฟอย เด็กสาวบ้านแบล็กจึงไม่มีใครออกนอกกรอบการสืบทอดสายเลือดบริสุทธิ์เลยนอกจากแอนโดรเมดาที่เป็นน้องคนกลาง ดูเหมือนชีวิตของเบลลาอาจไม่แตกต่างจากคนอื่นเท่าไหร่นัก จุดเปลี่ยนของชีวิตเกิดขึ้นเมื่อเธอกับสามีเข้าร่วมกับลอร์ดโวลเดอมอร์ เป็นผู้เสพความตายออกล่าพวกพ่อมดแม่มดที่เกิดจากมัลเกิ้ล ข่มขวัญผู้คนด้วยการบุกไปยังบ้านของคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ทรมานและสังหารพวกเขาเพื่อความสนุก ใช้คำสาปโทษผิดสถานเดียวแบบไม่กลัวโดนจับแล้วค่อยยิงตรามารขึ้นฟ้าเหนือบ้านของผู้เคราะห์ร้าย เวลาก่อเหตุพวกเขามักสวมหน้ากากเอาไว้ ไม่ให้ใครรู้ว่าแท้จริงเหล่าผู้เสพความตายเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมที่ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นพวกฝักใฝ่ศาสตร์มืด บ้างก็เป็นคนในกระทรวงเวทมนตร์ ส่วนใหญ่มาจากตระกูลเลือดบริสุทธิ์อันเก่าแก่“ฉันเคยเป็น และก็ยังเป็นคนใช้ที่จงรักภักดีที่สุดของจอมมาร”
ช่วงที่โวลเดอมอร์เรืองอำนาจ เบลลาเป็นตัวหลักของกลุ่มผู้เสพความตาย เธอได้รับความไว้วางใจจากเจ้าแห่งศาสตร์มืดมากกว่าใคร เขาถึงขั้นลงมือฝึกศาสตร์มืดให้เบลลาด้วยตัวเอง เพราะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะยอมตายเพื่อเขาได้ ความไว้ใจที่จอมมารมีต่อเบลลามากถึงขนาดยอมมอบให้เธอได้ดูแลถ้วยของ เฮลก้า ฮัฟเฟิลพัฟ ที่กลายเป็นฮอกครักซ์เก็บเสี้ยวหนึ่งของวิญญาณ แม้เบลลาอาจไม่รู้ว่าโวลเดอมอร์นำเสี้ยววิญญาณใส่ไว้ในถ้วย แต่เธอก็รู้สึกได้รับเกียรติยศครั้งใหญ่ และนำถ้วยไปเก็บไว้อย่างปลอดภัยในห้องนิรภัยประจำตระกูลที่ธนาคารกริงกอตส์ แตกต่างจากลูเซียส มัลฟอย ที่ได้ฮอครักซ์เวอร์ชันสมุดบันทึก แต่กลับยัดใส่กระเป๋าของจินนี่ วิสลีย์ เพื่อเอาของที่ยืนยันว่าตนเกี่ยวข้องกับจอมมารและศาสตร์มืดไปให้ไกลตัว สิทธิพิเศษและความไว้วางใจที่เธอคิดว่าจอมมารมีให้มากกว่าคนอื่น ๆ ยิ่งทำให้เบลลาหลงใหลในตัวของโวลเดอมอร์ ไม่ว่าเขาต้องการอะไร คิดจะทำอะไร เธอก็ออกปากพร้อมช่วยทุกอย่าง มองเขาด้วยสายตาเทิดทูนไม่สนใจสามีตัวเองแม้แต่น้อย ส่วนทางด้านโวลเดอมอร์ ถึงเขาจะทำเหมือนกับว่าเบลลาเป็นมือขวาคนสนิทที่วางใจ แต่เขาไม่เคยรู้สึกรักผู้หญิงคนนี้เลยแม้แต่นิด “‘ไม่มีความยินดีใด ๆ ยิ่งกว่านี้แล้ว’ มีความหมายมากนะเบลลาทริกซ์ เมื่อมาจากแก”ครั้งหนึ่งเบลลาเคยบอกโวลเดอมอร์ว่าไม่มีความยินดีใดจะเทียบเท่ากับที่ลอร์ดโวลเดอมอร์เลือกอาศัยอยู่ในคฤหาสน์มัลฟอยร่วมชายคาเดียวกับเธอ การที่จอมมารทวนประโยคซ้ำพร้อมยกย่องกลาย ๆ ถึงกับทำให้เบลลาหน้าแดงก่ำ ดวงตาเอ่อล้นด้วยหยาดน้ำตาแห่งความปีติ หัวใจของหญิงสาวซาดิสม์ยึดอยู่กับจอมมารเพียงแค่ผู้เดียว นอกจากเรื่องความหลงรักโวลเดอมอร์แบบหัวปักหัวปำ เบลลาเป็นแม่มดที่เชี่ยวชาญการใช้คำสาปกรีดแทงมากกว่าใคร เธอมีความสุขทุกครั้งเวลาเห็นคนดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด และรู้สึกดียิ่งขึ้นไปอีกเมื่อพวกเขาทรมานจนต้องร้องขอความตาย เธอจะหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้วค่อยทำลายพวกเขาทิ้ง ความสนุกที่ได้ทรมานคนตามใจในยุครุ่งเรืองของโวลเดอมอร์อยู่ได้เพียง 10 ปี เมื่อจอมมารพลาดพลั้งให้กับลิลี่ พอตเตอร์ ที่เสกคาถาป้องกันไว้กับลูกชายวัยทารก แฮร์รี่ พอตเตอร์ เมื่อเขาแตะต้องเด็กเขาจะพ่ายแพ้ โวลเดอมอร์สูญเสียพลังครั้งใหญ่ อ่อนแอเกินกว่าจะสู้กับใครได้จึงต้องรีบหลบซ่อนให้พ้นจากดัมเบิลดอร์และภาคีนกฟินิกซ์ที่ต่อต้านเขา การหายตัวไปของเขาทำให้ยุคสมัยที่เลวร้ายจบสิ้นลง ผู้เสพความตายคนอื่น ๆ ต้องรีบทำตัวปกติให้แนบเนียนที่สุด แม้ผู้เสพความตายส่วนใหญ่จะรักตัวกลัวตาย ทว่าเบลลา สามี พี่ชายของสามี และผู้เสพความตายอีกหนึ่งคนกลับบุกไปยังบ้านของแฟรงก์และอลิซ ลองบัตท่อม ใช้คำสาปกรีดแทงทรมานจนพวกเขาเสียสติ เพราะเชื่อว่าพวกเขารู้ที่ซ่อนของเจ้าแห่งศาสตร์มืด ผลของการทรมานครั้งนั้นทำให้ทั้งคู่ไม่มีวันกลับไปเป็นคนเดิมได้อีกเลย แฟรงก์และอลิซเสียสติ ใช้ชีวิตด้วยตัวเองไม่ได้ ต้องอยู่ในโรงพยาบาลตลอดไป ร้ายสุดคือพวกเขาจำลูกชายของตัวเองไม่ได้อีกเลย การทรมานสมาชิกครอบครัวลองบัตท่อม ทำให้ชุมชนผู้วิเศษออกมาเรียกร้องให้กระทรวงเวทมนตร์จับตัวผู้เสพความตายกลุ่มนี้มาลงโทษให้ได้ ในที่สุดมือปราบมารสามารถจับกุมพวกผู้เสพความตายทั้งสี่คนได้ ระหว่างนำตัวขึ้นศาลเพื่อไต่สวน หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการอย่างบาร์ตี้ เคร้าช์ จูเนียร์ อ้อนวอนบิดาผู้เป็นหัวหน้ากองควบคุมบังคับกฎหมายเวทมนตร์ที่นั่งอยู่ตรงแท่นพิพากษา พร่ำบอกว่าพ่อต้องช่วยเขา ส่วนเบลลาที่ถูกนำตัวมาด้วยกลับนิ่งเฉยไม่ร้องขอความปรานี แม้ถูกล่ามโซ่อยู่บนเก้าอี้ แต่ท่าทางของเธอยังคงเย่อหยิ่งคล้ายกับว่าตัวเองนั่งอยู่บนบัลลังก์ ยืดอกรับทุกการกระทำเลวทราม เธอยังคงเชื่อมั่นว่าสักวันจอมมารจะต้องกลับมา ความผิดมากมายทำให้เบลลาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ทุกวันเวลาที่อยู่ในคุกเธอเชื่อว่าโวลเดอมอร์ยังไม่ตาย ความรู้สึกคลื่นเหียนเจียนตายของผู้คุมวิญญาณไม่สามารถทำอะไรหญิงสาวคนนี้ได้ สถานที่ที่มืดมนและน่าหดหู่ที่สุดในโลกผู้วิเศษก็ไม่สามารถกลืนตัวตนของผู้หญิงคนนี้ได้ สิ่งเดียวที่คุกทำให้เธอเปลี่ยนไปคือหน้าตาจากสาวสวยกลายเป็นผู้หญิงผมกระเซิง หน้าซูบตอบ หมดความงามไปโข“ท่านบอกฉันทุกอย่าง ท่านเรียกฉันว่าคนที่จังรักภักดีที่สุด ซื่อสัตย์ที่สุด”
“ท่านมีฉัน คนที่ยอมอยู่ในอัสคาบันเพื่อท่านหลายปี”
อย่างไรก็ตามเธอถูกขังอยู่ในคุกอัสคาบัน 15 ปี (ค.ศ.1981-1996) ช่วงที่แฮร์รี่ พอตเตอร์ เรียนอยู่ปีห้า เกิดการแหกคุกหมู่ที่อัสคาบัน หนังสือพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ตตีข่าวหน้าหนึ่งภาพใบประกาศจับนักโทษแหกคุก 10 คน ใบหน้าของเบลาที่เป็นแม่มดเพียงคนเดียวสะดุดตาแฮร์รี่มากกว่าผู้เสพความตายคนอื่น ๆ เขาจดจำผู้หญิงผมดำยาวสกปรกที่มีรอยยิ้มหยิ่งยโสคล้ายเหยียดหยามคนอื่นตลอดเวลาได้ขึ้นใจ ณ การพบกันของกลุ่มผู้เสพความตายกับเด็ก ๆ กองทัพดัมเบิลดอร์ที่กระทรวงเวทมนตร์ เบลลาสร้างความประทับใจแรกพบกับเด็ก ๆ ด้วยการล้อเลียน แสดงความบ้าคลั่ง ด่าแฮร์รี่ที่กล้าเอ่ยชื่อของจอมมารและดูหมิ่นเขา “แกอวดดีเอ่ยชื่อท่านด้วยริมฝีปากไร้ค่าของแก แกกล้าทำให้ชื่อท่านเปรอะเปื้อนด้วยลิ้นไอพวกเลือดผสม” นอกจากนี้ยังสั่งให้ผู้เสพความตายคนอื่น ๆ จับตัวจินนี่มาให้เธอทรมาน และพอรู้ว่าเนวิลล์เป็นลูกของแฟรงก์กับอลิซ ลองบัตท่อม เธอก็มีท่าทีที่รุนแรงขึ้น กระปรี้กระเปร่าเพราะตื่นเต้นที่จะได้เล่นสนุกกับเด็กชาย“ลองดูว่าลองบัตท่อมจะทนได้นานแค่ไหนก่อนที่มันจะกลายเป็นบ้าเหมือนพ่อแม่มัน”
เบลลาทริกซ์ใช้คำสาปกรีดแทงกับเด็กอายุ 15 ปี หัวเราะลั่นเมื่อได้เห็นเนวิลล์กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ชักดิ้นชักงอกองอยู่ที่พื้น สะอึกสะอื้นอยู่ตรงแทบเท้าของตัวเอง จากนั้นมีโอกาสได้ดวลตัวต่อตัวกับท็องส์ ลูกสาวของแอนโดรเมดาที่เป็นมือปราบมารและสมาชิกของภาคีนกฟินิกซ์ เมื่อแฮร์รี่หันไปดูการต่อสู้เขาเห็นร่างปวกเปียกของท็องส์หมดสติคว่ำลงกับพื้น หลานสาวไม่สามารถสู้ป้าแท้ ๆ ของตัวเองได้ หลังความพ่ายแพ้ของท็องส์ เธอได้ดวลคาถากับญาตินามสกุลเดียวกันอย่าง ซีเรียส แบล็ก เขาหัวเราะเยาะเมื่อเบลลายิงคาถาพลาด ตะโกนเสียงดังบอกว่าเบลลาต้องทำได้ดีกว่านั้นแน่ ๆ เป็นจริงดังที่ซีเรียสพูด ลำแสงลำที่สองจากไม้กายสิทธิ์ของเบลลาพุ่งเข้ากลางอกเขา ซีเรียส แบล็ก ถึงแก่ความตายลอยหายเข้าไปซุ้มประตู ยังไม่จบเพียงแค่นั้น คนต่อมาที่สู้ตัวต่อตัวกับเธอ คือ คิงสลีย์ ชักเคิลโบลต์ ทว่าคิงสลีย์ก็พลาดพลั้งล้มกระแทกพื้น หลังเบลลาล้มคิงสลีย์ได้เธอรีบวิ่งหนีดัมเบิลดอร์ เสกคาถาป้องกันตัวหักเหคาถาของชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้ ในคืนดวลเดือด ณ กองปริศนาแห่งกระทรวงเวทมนตร์ เบลลาทริกซ์มีชัยเหนือท็องส์ ซีเรียส คิงสลีย์ ป้องกันตัวจากคาถาของดัมเบิลดอร์ สอนแฮร์รี่เรื่องการใช้คำสาปร้ายแรง และเป็นผู้เสพความตายเพียงคนเดียวที่หนีรอดไปได้ในคืนนี้“ไม่เคยใช้คำสาปโทษผิดสถานเดียวมาก่อนใช่ไหมไอ้หนู แกต้องตั้งใจให้มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ แกต้องการให้เกิดความเจ็บปวดจริง ๆ เพื่อจะได้สนุกกับมัน ความโกรธอย่างชอบธรรมไม่ทำให้ฉันเจ็บปวดได้นานหรอก ฉันจะแสดงให้แกดูว่ามันต้องทำยังไง ฉันจะสอนแกเอง”
เธอไม่ได้มีแค่ความซาดิสม์ ความมั่นใจในตัวเอง และความร่ำรวย เบลลาเป็นผู้หญิงฉลาดที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม ในช่วงต้นของภาคเจ้าชายเลือดผสม นาร์ซิสซาดั้นด้นมายังถิ่นของพวกมักเกิ้ลเพื่อขอความช่วยเหลือจากสเนป เบลลาที่มากับน้องค่อนแคะสเนปแม้จอมมารจะไว้ใจเขา แต่เธอกลับรู้สึกว่าจอมมารคิดผิดเรื่องความภักดีของสเนปถึงขั้นพูดว่า “ฉันเชื่อว่าจอมมารทำผิดนะ” นี่อาจเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ทาสผู้ซื่อสัตย์เห็นต่างกับผู้เป็นนาย แถมสิ่งที่เธอคิดถูกต้องเสียด้วย เพราะหลังจากโวลเดอมอร์สังหาร ลิลี่ พอตเตอร์ สเนปก็ไม่เคยภักดีต่อลอร์ดมืดอีกเลย เธอทำงานเต็มที่แบบถวายชีวิตเพื่อโวลเดอมอร์ ไม่สนแม้เขาจะเลวแค่ไหนหรือดูเป็นปีศาจมากเพียงใด นอกจากการทรมานครอบครัวลองบัตท่อมกับการต่อสู้ที่กระทรวงเวทมนตร์ วีรกรรมโหดของเธอยาวเป็นหางว่าว ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเจ้าชายเลือดผสม เวอร์ชันภาพยนตร์ เบลลากับมนุษย์หมาป่า เฟนเรีย เกรย์แบ็ก บุกมาก่อกวนบ้านโพรงกระต่ายด้วยการเสกวงไฟล้อมรอบบ้าน ล่อให้แฮร์รี่กับจินนี่วิ่งออกจากบ้าน จากนั้นระเบิดบ้านโพรงกระต่ายทิ้งท่ามกลางสายตาว่างเปล่าของนางวีสลีย์ นอกจากนี้ในช่วงท้ายของหนังภาคหก เธอเป็นผู้ร่วมบุกโจมตีฮอกวอตส์ กดดันให้เดรโกฆ่าดัมเบิลดอร์ ระเบิดกระจกห้องโถงใหญ่ฮอกวอตส์ ซ้ำยังเผากระท่อมของแฮกริด ทั้งหมดคือการกระทำที่ไม่มีในฉบับหนังสือ แต่ตัวของผู้กำกับและนักแสดงที่รับบทเบลลาทริกซ์ อยากให้ทุกคนได้สัมผัสถึงความเครียดและความกดดันมหาศาลเมื่อพวกบ้าคลั่งมีอำนาจล้นมือ ระหว่างที่แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ กำลังตามหาฮอครักซ์ของลอร์ดมืด แฮร์รี่เผลอเอ่ยชื่อของจอมมารจนถูกเหล่านักต้อนจับได้และพาตัวไปยังคฤหาสน์มัลฟอย ระหว่างตกลงผลประโยชน์นักต้อนกับเบลลามีปากเสียงกัน พอเธอเห็นว่านักต้อนถือดาบของก็อดดริก กริฟฟินดอร์ ที่ควรจะเก็บอย่างปลอดภัยไว้ในตู้นิรภัยประจำตระกูลร่วมกับถ้วยที่โวลเดอมอร์ฝากไว้ เธอจึงสติแตกต่อสู้กับพวกนักต้อน แม้ฝั่งตรงข้ามจะมีถึงสี่คนก็ยังไม่สามารถเอาชนะเธอได้ ความเก่งกาจของเธอมักถูกเล่าถึงอยู่เสมอ ทุกคนต่างรู้ดีว่าเบลลาเป็นแม่มดที่มีความสามารถสูงที่ไร้ซึ่งสำนึกผิดชอบชั่วดีใด ๆแม้จะมีปากเสียงกับนักต้อน แต่พวกเขาก็เอาเหล่าผู้ไม่พึงปรารถนามาส่งถึงที่ เบลลาอยากรีดข้อมูลและเล่นสนุกกับเหยื่อ เธอเลือกทรมานเฮอร์ไมโอนี่เพราะเป็นแม่มดที่เกิดจากครอบครัวมักเกิ้ล ใช้คำสาปกรีดแทงทรมานซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้เฮอร์ไมโอนี่ยอมบอกว่าได้ดาบมาจากไหน ในวันนั้นเธอได้สังหาร ด๊อบบี้ ผู้รับใช้เก่าด้วยกริชเล่มเล็กที่แทงทะลุท้องของเอลฟ์ประจำบ้านตัวน้อย เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ ฆ่าซีเรียสที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง ฆ่าด๊อบบี้เอลฟ์ผู้เป็นไท จากนั้นสังหารนิมฟาดอร่า ท็องส์ หลานสาวของตัวเอง ทรมานผู้คนอีกนับไม่ถ้วน ทั้งหมดเพียงเพราะความพึงพอใจส่วนตัวรวมถึงปณิธานแรงกล้าที่จะช่วยให้จอมมารบรรลุความสำเร็จ เธอเป็นผู้เสพความตายคนสุดท้ายที่ยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างโวลเดอมอร์ ถึงจะโดนเฮอร์ไมโอนี่ จินนี่ และลูน่า โจมตีพร้อมกันแต่ก็ยังรับมือได้แบบสบาย ๆ แต่สุดท้ายพลาดท่าให้กับแม่บ้านที่เธอดูถูก ระหว่างการดวลกับ มอลลี่ วิสลีย์ เธอถูกยิงคาถาเข้ากลางอกระหว่างกำลังยิ้มเยาะ ในที่สุด เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ ลูกสมุนมือขวาสุดซาดิสม์ถูกพิชิตลงแล้ว เรื่องราวของจอมมารกับผู้รับใช้ผู้ซื่อสัตย์เหมือนจะจบลงไป แต่ในหนังสือบทละครเวทีเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ เด็กต้องคำสาป ที่เขียนโดย แจ็ก ทอร์น และ จอห์น ทิฟฟานี่ กลับระบุไว้ชัดเจนว่าก่อนเบลลาจะตายในสงครามฮอกวอตส์ เธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับจอมมารจนมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนชื่อว่า เดลฟีนี หรือที่คนมักเรียกกันว่า เดลฟี (Delphi) เดลฟีเล่าว่าเบลลาคลอดเธอในคฤหาสน์มัลฟอย ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าทั้งสองคนไปมีความสัมพันธ์กันตอนไหน แต่คนส่วนใหญ่เดาว่าทั้งคู่น่าจะมีช่วงเวลาส่วนตัวหลังเหตุการณ์บุกกระทรวงเวทมนตร์เมื่อปี 1996 และจับสังเกตจากตอนที่เบลลาเคยพูดกับนาร์ซิสซาในเล่มเจ้าชายเลือดผสมว่า “เธอน่าจะภูมิใจนะ! ถ้าฉันมีลูกชาย ฉันคงดีใจมากที่จะได้ยกลูกชายทั้งหมดให้รับใช้จอมมาร!” เธอพูดว่า ‘ถ้าฉันมีลูกชาย’ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่มีลูกสาวเสียหน่อย.. โวลเดอมอร์ไม่เคยมีความรักและไม่เคยรักใคร แถมในช่วงที่มีอำนาจเขาทะนงในความเป็นอมตะของตัวเอง ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องมีทายาทสืบทอดความยิ่งใหญ่ ประเด็นการมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเบลลาเพราะอยากมีทายาทอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด ยิ่งเรื่องความรู้สึกรักใคร่ชอบพอในตัวเบลลายิ่งเป็นไปไม่ได้ แฟนคลับแฮร์รี่ พอตเตอร์ หลายคนจึงคาดการณ์เองว่าถ้าทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งจนมีเดลฟี ทั้งหมดอาจเกิดขึ้นเพราะโวลเดอมอร์อยากให้เกียรติยศแก่ทาสผู้ซื่อสัตย์ ด้วยการมอบทายาทที่เป็นเหมือนถ้วยรางวัลให้กับนางเบลาทริกซ์ เดลฟีถูกบรรยายว่าเป็นหญิงสาวหน้าตาสวย มีผมสีสว่าง และมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างน่าประหลาด (เพราะโวลเดอมอร์กับเบลลาช่วงวัยรุ่นหน้าตาดีด้วยกันทั้งคู่) แถมเธอยังมีเชี่ยวชาญคาถาขั้นสูง เหาะอยู่กลางอากาศโดยไม่ต้องใช้ไม้กวาดเหมือนกับผู้เป็นพ่อ แฟนแฮร์รี่บางคนรู้สึกไม่ค่อยชอบเส้นเรื่องของบทละครเวที แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเด็กต้องคำสาป เท่าไหร่นัก เพราะบทละครนี้ไม่ได้เขียนโดย เจ.เค.โรว์ลิง จึงนับว่าเป็นแค่แฟนฟิกชันเฉย ๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ตรวจต้นฉบับและยอมให้บทละครนี้ผ่านฉลุยก็คือตัวของ เจ.เค. โรว์ลิง อยู่ดี ดังนั้น หากบางคนจะนับว่าจอมมารกับเบลลามีสัมพันธ์กันจนมีลูกสาวก็อาจจะไม่ใช่เรื่องผิดอะไรนัก ถึงเบลลาทริกซ์จะร้ายเสียจนใคร ๆ พากันเกลียดชัง แต่เรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจและสุดโต่ง ประกอบกับการแสดงของเฮเลน่า คาร์เตอร์ (Helena Carter) ที่ตีบทแตกจนทำให้นักดูหนังต่างจำภาพของเบลลาได้แม่น แม้เธอจะไม่ได้ปรากฏตัวบ่อยเท่าไหร่นัก ถึงอย่างนั้นผู้หญิงคนนี้ก็มีบทบาทต่อโลกผู้วิเศษอังกฤษมากมายเพราะเธอเป็นทั้งแม่มดเลือดบริสุทธิ์ สืบสายเลือดจากต้นตระกูลเก่าแก่ เป็นผู้เสพความตาย ความคลั่งรัก และการเสพสมกับลอร์ดโวลเดอมอร์เพื่อให้กำเนิดทายาทของจอมมาร ทั้งหมดจึงทำให้เรามิอาจมองข้ามผู้หญิงคนนี้ได้ไปเลย ที่มา https://harrypotter.fandom.com/wiki/Bellatrix_Lestrange https://screenrant.com/bellatrix-lestrange-harry-potter-trivia-facts/ หนังสือ เจ.เค. โรว์ลิง. 2544. แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับถ้วยอัคนี. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ เจ.เค. โรว์ลิง. 2546. แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟีนิกซ์. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ เจ.เค. โรว์ลิง. 2547. แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเจ้าชายเลือดผสม. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ เจ.เค. โรว์ลิง. 2550. แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ เจ.เค.โรว์ลิง. 2559. แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเด็กต้องคำสาป ภาคหนึ่งและสอง. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ เรื่อง: ตรีนุช อิงคุทานนท์“เอาทองของแกไปเลยเจ้าคนขนขยะโสโครก ฉันจะเอาทองไปทำอะไร ฉันต้องการเพียงเกียรติยศ”