24 ก.ค. 2565 | 09:56 น.
นายอังกูร ศีลาเทวากูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า จังหวัดราชบุรีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ทางแสนสิริและกสศ. ได้พิจารณาและเห็นว่าพื้นที่จังหวัดราชบุรีมีศักยภาพและเหมาะสมในการเป็นพื้นที่นำร่องของโครงการ 'Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน' เพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาจะสอดคล้องกับพันธกิจและประเด็นยุทธศาสตร์ของแผนพัฒนาจังหวัด เพื่อให้เด็กในจังหวัดราชบุรี หลุดนอกระบบต้องเป็น “ศูนย์” ภายใน 3 ปี และสามารถดูแลช่วยเหลือให้จำนวนเด็กนอกระบบเป็น “ศูนย์” ต่อไปได้ในระยะยาว
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แสนสิริยึดมั่นและให้ความสำคัญกับความเสมอภาค, ความเท่าเทียมและการเข้าถึงได้ในทุกมิติเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาไทย ที่เป็นประเด็นสำคัญทางสังคม และสามารถส่งผลกระทบต่อเยาวชนรวมถึงประเทศชาติในระยะยาว จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลงมือและสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาอย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการ ‘Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน’ ระดมพลังคนไทยเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทยให้เด็กหลุดจากระบบการศึกษาเป็น ”ศูนย์” ให้ได้ใน 3 ปี นำร่องผ่าน ‘ราชบุรีโมเดล’ จังหวัดต้นแบบ โดยตั้งเป้าที่จะลดจำนวนเด็กในช่วงวัยภาคบังคับ (ป.1-ม.3) ใน จ. ราชบุรี ที่หลุดออกจากระบบการศึกษาให้เหลือศูนย์ ด้วยการช่วยเหลือทั้งตัวเด็กเอง
รวมทั้งช่วยสร้างระบบนิเวศที่เอื้อให้ทุกคนเข้าถึงการศึกษาได้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการ‘Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน’ จะสร้างแรงกระเพื่อมให้คนไทย ภาครัฐและภาคส่วนอื่น ๆ ลุกขึ้นมาช่วยเหลือเด็กทั้งประเทศไม่ให้หลุดจากระบบการศึกษา พร้อมสร้างรากฐานสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยขับเคลื่อนไปข้างหน้า และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่องความเสมอภาค เพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้กับประเทศ ให้การศึกษาและเด็กไทยอย่างยั่งยืน”
ดร. ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า หลังจากการทำงานเพื่อเรียนรู้บริบทและสถานการณ์ในพื้นที่จริง พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายภาคีการทำงานระยะยาว ผ่านการออกแบบกลไกการจัดการเชิงพื้นที่ (Area-based) ในช่วงครึ่งปีแรกการประสานความร่วมมือ “3 อาสา จังหวัดราชบุรี” ไม่ว่าจะเป็นอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดราชบุรี (อพม.) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครการศึกษา ที่จะช่วยกันประสานความร่วมมือดูแลฟื้นฟูเด็ก ๆ ในด้านสุขภาพ สภาวะทางครอบครัวสัมคม และด้านการศึกษา อย่างครบทุกมิติ ครั้งแรกของเมืองไทยแล้ว เรายังผนึกกำลังร่วมกับกลไกจังหวัด จัดตั้งคณะกรรมการจัดการศึกษาเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาจังหวัดราชบุรี และคณะกรรมการศูนย์ช่วยเหลือเด็กวิกฤติและคณะทำงานในพื้นที่ ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน, ศึกษาธิการจังหวัด, เขตพื้นที่, ทุกหน่วยงานการศึกษา, สถานศึกษา, ผู้อำนวยการและครู อาสาสมัครการศึกษา เพื่อประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ลงลึกถึงปัญหา สร้างความเข้าใจและทำงานร่วมกัน เป็นการแก้ไขปัญหาเด็กหลุดออกนอกระบบการศึกษาใน จ.ราชบุรีอย่างยั่งยืน เพื่อให้วาระความเสมอภาคทางการศึกษามีแนวทางและกลไกการพัฒนาในจังหวัดสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาวอย่างยั่งยืน โดยในช่วงเปิดเทอมปีการศึกษา 1/2565 ที่ผ่านมา เรายังได้เข้าช่วยเหลือเด็กนักเรียนกลุ่มช่วงชั้นรอยต่อระดับประถมศึกษาปีที่ 6 และระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ใน จ.ราชบุรี ที่มีความเสี่ยงในการหลุดออกจากระบบการศึกษา จากผลกระทบทางเศรษฐกิจและจากสถานการณ์โควิด-19 รวมมากกว่า 700 คน ผ่านการมอบทุนการศึกษารวมมูลค่า 1,100,000 บาท ภายใต้โครงการ 'Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน' เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาให้กับเด็กและครอบครัวอีกด้วย และเป็นการป้องกันการหลุดออกจากระบบการศึกษาด้วยมาตรการเชิงป้องกันที่ต้นทาง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการสู่เป้าหมาย Zero Dropout ที่มีประสิทธิภาพสูงและยั่งยืนที่ กสศ. เตรียมขยายผลสู่การดำเนินการระดับประเทศอย่างเป็นระบบต่อไปในอนาคต