19 ส.ค. 2565 | 18:30 น.
ขณะที่วิกฤตเดิมยังไม่สิ้นสุด สถานการณ์ฉุกเฉินโดยเฉพาะในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เช่น ยูเครน อัฟกานิสถาน ซีเรีย เยเมน ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา รวมถึงวิกฤตที่มักถูกลืมหรือไม่เป็นที่พูดถึง เช่น เวเนซุเอลา ซูดานใต้ เอธิโอเปีย แอฟริกากลาง และความขัดแย้งในภูมิภาคซาเฮล ทำให้เกิดการพลัดถิ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งภัยพิบัติจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ซ้ำให้วิกฤตการพลัดถิ่นและการมอบความช่วยเหลือซับซ้อนยิ่งขึ้น
ใน พ.ศ. 2564 เพียงปีเดียว สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินถึง 40 สถานการณ์ ใน 29 ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้มีผู้ถูกบังคับให้พลัดถิ่น 1 คนบนโลกในทุกๆ 78 คน และนี่คืออัตราที่แทบไม่มีใครเคยคาดการณ์มาก่อนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เราทำงานอยู่ในพื้นที่และพร้อมลงพื้นที่ในสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ เพื่อมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ลี้ภัยทั่วโลกมาตลอด 72 ปี และตอนนี้ เราต้องการความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจากทุกภาคส่วนในสังคมท่ามกลางวิกฤตรอบโลก เพื่อร่วมสร้างการรับรู้และกระตุ้นการช่วยเหลือที่มากขึ้น หากไม่มีการลงมือที่เร่งด่วน เราคาดว่าจำนวนบุคคลในความห่วงใยของเราจะพุ่งสูงขึ้นและต้องเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินใหม่ๆ อีกมาก
UNHCR ได้มอบความช่วยเหลือและความคุ้มครองผู้คนหลายล้านคนในแต่ละปี พร้อมวิเคราะห์สถานการณ์ทั่วโลกล่วงหน้าเพื่อให้เราสามารถรับมือในวิกฤตต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ภายใน 72 ชั่วโมงกำลังเสริมของเราจะเข้าไปช่วยเหลือเพิ่มเติมในพื้นที่เพื่อส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ นำเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าทำงาน และนำกองทุนภาวะฉุกเฉินไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถจัดตั้งที่พักพิง จัดหาอาหาร และลงทะเบียนผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือ
UNHCR ประจำประเทศไทย จึงริเริ่ม “Empathy Emergency Fund กองทุนภาวะฉุกเฉิน” ที่เป็นมากกว่าพื้นที่ส่งต่อความช่วยเหลือ ช่วยส่งต่อความรักและพลังใจให้กับเพื่อนมนุษย์ที่กำลังเผชิญความโหดร้ายและความยากลำบาก ด้วยความเมตตาอย่างแท้จริง และให้คนไทยได้มีส่วนร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลง พร้อมสนับสนุนการตอบสนองการทำงานด้านมนุษยธรรมในสถานการณ์ฉุกเฉินระดับโลก
UNHCR ร่วมกับ คุณฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวรายการข่าว 3 มิติ และผู้ก่อตั้งสำนักข่าวออนไลน์ The Reporters และ คุณนครินทร์ “เคน” วนกิจไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและบรรณาธิการบริหาร THE STANDARD ผู้ผ่านประสบการณ์การลงพื้นที่ในวิกฤตผู้ลี้ภัยที่ร้ายแรงที่สุดในโลกร่วมกับ UNHCR
พร้อมด้วย คุณปณิธิ “โหน่ง” จันทะยาสาคร, ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด, Buddha & Pals, Na Projects, i'M Possible และ ชูใจ กะ กัลยาณมิตร จัดมื้ออาหารกลางวันแบบหลากมิติด้วยอาหารพื้นเมืองจากบ้านเกิดของผู้ลี้ภัย เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ภาวะฉุกเฉินและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยทั่วโลกผ่านมื้ออาหาร เริ่มจาก 'อินทผลัม' ของว่างที่ผู้ลี้ภัยจะเลี้ยงต้อนรับทุกคนที่ไปเยี่ยมพวกเขา 'โรตีและน้ำสะอาด' ที่สะท้อนความเป็นอยู่ของผู้ลี้ภัย 'ฟาลาเฟล' อาหารว่างที่ผู้ลี้ภัยอยากจะมอบให้แทนคำขอบคุณ
และมีอาหารจานหลักอย่าง 'ข้าวหมกไก่ย่าง' และ 'ฟูฟู' ที่ให้ทุกคนร่วมรับประทานไปพร้อมกับการรับรู้เรื่องราวของผู้ลี้ภัยที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน ส่งท้ายด้วย 'พุดดิ้งข้าว' ขนมหวานสไตล์อัฟกานิสถาน และ 'ม็อกเทล' ที่หลอมรวมทุกความแตกต่างมาในรสชาติกลมกล่อม เพื่อส่งมอบคำส่งท้ายที่ UNHCR พอจะทำได้เพื่อเพื่อนมนุษย์ทุก(ข์)คนในโลกใบนี้ได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ และส่งเสริมการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับผู้ลี้ภัยทั่วโลก
นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดเตรียมสิ่งของบรรเทาทุกข์ไว้ล่วงหน้า พร้อมเจ้าหน้าที่จัดการภาวะฉุกเฉินที่ลงพื้นที่ทันที และการมีงบประมาณที่เพียงพอ คือหัวใจหลักของการเข้าช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ช่วยวิกฤตระดับโลก และคุณสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ตามรายละเอียดด้านล่างนี้ โดยเงินบริจาค 100 % ของท่านไม่มีการหักค่าใช้จ่าย และจะนำไปเป็นความคุ้มครองชีวิตทุกด้าน มอบอาหาร น้ำสะอาด สร้างโรงเรียน โรงพยาบาล มอบที่พักพิง คืนครอบครัว และอีกมากมาย
2. บัญชีธนาคาร: ชื่อบัญชี UNHCR SPECIAL ACCOUNT
ธ.ไทยพาณิชย์ เลขบัญชี 004-2-25859-6
ธ.กสิกร เลขที่บัญชี 030-2-88804-3
*เมื่อทำรายการเสร็จแล้วส่งสลิปโอนเงินมาที่ LINE @unhcrdonation เพื่อบันทึกการบริจาคค่ะ
3. SMS พิมพ์ 30 ส่งมาที่ 4642789 (เพื่อบริจาคครั้งละ 30 บาท)