14 ก.ย. 2565 | 17:02 น.
‘คริส ซู’ นักธุรกิจพันล้านที่ชอบเก็บตัว แต่หลงใหลในแฟชั่นเสื้อผ้าผู้หญิงจนสร้างแพลตฟอร์ม SHEIN
น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก ‘ชีอิน’ (SHEIN) แพลตฟอร์มสัญชาติจีน ที่เวลานี้ขึ้นแท่นเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกับรายใหญ่หลายแบรนด์ เช่น H&M, Zara, Pomelo, Uniqlo ข้อมูลจาก Apptopia SHEIN ระบุว่าเป็นแอปพลิเคชันที่มียอดดาวน์โหลดมากที่สุดเป็นอันดับ 2 เป็นรองแค่ Shopee ในปี 2021
แม้ว่า SHEIN จะเป็นแอปฯ สัญชาติจีน แต่กลับครองตลาดมากถึง 220 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก รวมทั้งสหรัฐอเมริกาที่เป็นคู่ปรับเก่าของจีนมาโดยตลอด จุดเด่นที่คนส่วนใหญ่ติดภาพจำเกี่ยวกับ SHEIN คือเป็นแอปฯ ชอปปิงที่มีเสื้อผ้าผู้หญิงหลากหลาย มีหลายประเภท มีสินค้าผู้ชายและเด็ก ที่สำคัญราคาถูก
เรื่องราวของผู้ก่อตั้ง SHEIN ‘คริส ซู’ (Chris Xu) หรือชื่อภาษาจีนคือ ซู หยางเถียน (Xu Yangtian) นักธุรกิจอเมริกันเชื้อสายจีน มีความน่าสนใจ แต่ก็ยังมีหลายคนที่ไม่รู้ว่าเขาคือใคร เพราะส่วนใหญ่เขามักจะเก็บตัว ไม่ค่อยออกสื่อหรือให้สัมภาษณ์
เป็นคนมีpassionชัดเจนตั้งแต่เด็ก
คริส ซู เกิดในปี 1984 ที่บ้านถือว่าเป็นครอบครัวที่มีฐานะ (แต่มีบางสื่อบอกว่าในอดีตพ่อแม่ของเขาค่อนข้างยากจนและพยายามย้ายมาที่อเมริกาเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น) เขาสำเร็จการศึกษาระดับสูงที่มหาวิทยาลัยวอชิงตัน
เขาเป็นคนที่มี passion มาโดยตลอด มุ่งมั่นที่จะเรียนให้ได้คะแนนสูง ๆ และเป็นคนขยัน ตั้งใจเรียน เขามีความฝันว่าอยากจะเข้าทำงานในบริษัทที่ดี ๆ ที่ได้ประสบการณ์ที่ดี (แต่ไม่ได้นึกถึงการเป็นนักธุรกิจ)
อาชีพแรกกับบริษัทเทรดดิ้ง
จุดเริ่มต้นการทำงานของ คริส ซู เขาไม่ได้ก่อตั้ง SHEIN ตั้งแต่แรก แต่เขาได้ทำงานในฝ่ายการตลาดกับบริษัทเทรดดิ้งชื่อดัง NANJING ADAO ในปี 2007 ซึ่งจุดประสงค์หลัก ๆ เขาต้องการเข้าไปเรียนรู้งานก่อน (มีข้อมูลบอกว่าเมื่อทำงานได้ไม่นานเขาเริ่มรู้สึกว่าอยากทำธุรกิจของตัวเอง)
ขณะเดียวกัน เขาได้ลองเปิดธุรกิจซื้อ-เช่าชุดแต่งงาน โดยเปิดเป็นเว็บไซต์ที่ชื่อว่า ‘Sheinside.com’ ซึ่งเขาตั้งเป้าไปที่ตลาดจีนเพราะเป็นประเทศบ้านเกิดด้วย อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกด้วย
กำไรที่เกิดจากธุรกิจนี้ ทำให้เขามีไอเดียใหม่อยากจะทำธุรกิจเกี่ยวกับฟาสต์แฟชั่นเสื้อผ้าผู้หญิง เพราะคิดว่าน่าจะได้กำไรมากขึ้น หากเทียบกับธุรกิจชุดแต่งงานที่จัดขึ้นตามฤดูกาล
จุดเริ่มต้นของ_SHEIN
ในปี 2008 คริส ซู ใช้เงินจากกำไรที่ได้รับมาขยายเป็นธุรกิจเสื้อผ้าผู้หญิงตามความฝัน โดยใช้ชื่อว่า SHEIN ให้จำง่ายขึ้น และบ่งบอกความเป็นแพลตฟอร์มเพื่อผู้หญิงเป็นหลัก
คริส ซู ใช้ประสบการณ์งานที่มี โดยเฉพาะในด้าน SEO เว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้นหาของ Google นั่นเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งของแบรนด์ SHEIN แต่มากกว่านั้น คริส ซู ต้องการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นด้วยวิธีออร์แกนิค จึงตัดสินใจจ้างดีไซเนอร์จากทั่วโลก, ซัพพลายเออร์ และโรงงานผลิตเพื่อรองรับดีมานด์ของลูกค้าอย่างทั่วถึง
เรียกได้ว่า คริส ซู เป็นผู้ก่อตั้งที่ทำงานหนักมาก เขาพยายามที่จะค้นหาดีไซเนอร์เพื่อออกแบบเสื้อผ้า รองเท้า ฯลฯ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในจีน หรือในเอเชีย เพราะเขามองว่าโอกาสของตลาดฟาสต์แฟชั่นค่อนข้างน่าสนใจ ไม่ว่าเศรษฐกิจโลกจะเป็นอย่างไร แต่อุตสาหกรรมนี้ยังเติบโตได้เสมอ
พนักงานในบริษัท SHEIN พูดถึง คริส ซู ว่า “ไม่ว่าคุณจะไปบริษัทกี่โมง ตี 2 หรือตี 3 คุณก็ยังจะเห็นเขาอยู่ที่ห้องประชุม บางทีก็โต๊ะทำงาน เขาเป็นคนที่ขยันมาก ไม่เคยมีช่วงเวลาที่ขี้เกียจ เขาพยายามเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเองเท่าที่จะเป็นไปได้”
ทั้งนี้ ความพยายามอย่างหนักที่ผ่าน ๆ มาของ คริส ซู ทำให้ SHEIN เป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 10 ปี ซึ่งทั้งหมดที่ก่อร่างสร้างตัวเกิดจาก คริส ซู เพียงคนเดียว
ยิ่งกว่านั้นการระดมทุนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ SHEIN เป็นธุรกิจที่มีมูลค่ามากกว่า H&M และ Zara รวมกันซะอีก
ปัจจุบัน SHEIN ยังเป็นแบรนด์ที่น่าจับตา เพราะเป็นเพียงไม่กี่แบรนด์ที่ยังเติบโตช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ถึงแม้ว่าจะเป็นแบรนด์ที่ถูกตำหนิและเกิดกระแสลบอยู่บ้าง โดยเฉพาะเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อม (ขยะเสื้อผ้าเก่า) และการเลียนแบบดีไซน์เสื้อผ้า แต่ยอดขายของ SHEIN ยืนยันได้ว่า ภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของแบรนด์นี้ยังไม่มีผลกับการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
ภาพ: crunchbase/getty images
อ้างอิง:
https://getinstartup.com/shein-founder-success-story-of-the-founder-of-shein/
