‘แซม แบงก์แมน-ฟรายด์’ (อดีต) ราชันคริปโตตกบัลลังก์จากการล่มสลายของ FTX

‘แซม แบงก์แมน-ฟรายด์’ (อดีต) ราชันคริปโตตกบัลลังก์จากการล่มสลายของ FTX

‘แซม แบงก์แมน-ฟรายด์’ (Sam Bankman-Fried) บัณฑิตฟิสิกส์หนุ่มผู้เติบโตอย่างก้าวกระโดดผ่านการเห็นช่องโหว่การซื้อ-ขายคริปโตเคอร์เรนซี สู่การเป็นผู้ก่อตั้งกระดานเทรดอนุพันธ์คริปโตเคอร์เรนซีที่ (เคย) ใหญ่ที่สุดนามว่า ‘FTX’ และกลายเป็นเศรษฐีด้วยวัยเพียง 27 ปี

ผมมีหน้าที่ต้องอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น ผมไม่เห็นข้อดีของการหมกตัวอยู่ในห้องแล้วแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริง

หลังจากห่างหายจากการออกสื่อและการแถลงข่าวให้กระจ่างชัดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเพียงแค่การทวีตจากเจ้าตัว ในวันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ‘แซม แบงก์แมน-ฟรายด์’ (Sam Bankman-Fried) ก็ได้ปรากฎตัวต่อสาธารณะและพูดคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านสัมภาษณ์ออนไลน์ในรายการ ‘DealBook’ ของสื่อใหญ่อย่าง The New York Times 

ดังประโยคที่เราได้หยิบมาวางไว้ข้างต้น แซมเผยความในใจว่าเขาต้องการที่จะไขความจริงให้กระจ่างกับสิ่งที่เกิดเพิ่งขึ้นไป โดยการออกมาพูดและอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แถมเขายังเสริมอีกว่า เขาจะออกมาพูดเหตุเพราะมันเป็นหน้าที่ของเขา แม้นว่าการกระทำดังกล่าวจะขัดกับสิ่งที่ทนายของเขาแนะนำก็ตาม ซึ่งสิ่งที่ทนายของเขาแนะนำก็คือให้ตัวเขาเงียบไว้และทำตัวให้เหมือนมุดหายเข้าไปในรู

ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ แซมได้เผยว่าต้นตอของปัญหาด้านการใช้จ่ายของ FTX เกิดขึ้นจากการจัดสรรจัดการที่ผิดหลาด นอกจากนั้นเขายังกล่าวอีกว่า ปริมาณรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นสูงนั่นเกิดจากการที่เขาพยายามสรรหาคนที่มีความสามารถ ‘ระดับท็อป’ เข้ามาทำงาน

แอนดรูว์ รอสส์ ซอร์กิน (Andrew Ross Sorkin) ผู้สัมภาษณ์แซม แบงก์แมน-ฟรายด์ในครั้งนี้ก็ยังยิงคำถามไปอีกว่าตัวเขาคิดอย่างไรในส่วนของความผิดทางอาญาที่เขาอาจจะต้องเผชิญ แต่ดูเหมือนว่า แทนที่จะตอบอย่างตรงไปตรงมา ท่าทีของแซมกลับดูตะกุกตะกัก ระหว่างที่เขาพยายามจะตอบปฏิเสธ แซมก็ได้เปลี่ยนเรื่องไปประเด็นอื่น แล้วบอกว่ามันไม่สำคัญ แต่ว่าสิ่งที่สำคัญกว่าคือการผู้ใช้ FTX นับล้านต้องเผชิญกับความเสียหาย และเขาก็พยายามจะกอบกู้สถานการณ์นั้นให้ดีขึ้น ซึ่งในขณะเดียวกันกับการสัมภาษณ์นั้น ภายนอกมีกลุ่มคนก็ได้จับกลุ่มถือป้ายที่เขียนว่า ‘แบงก์แมน-ฟรีดปล้นพวกเราทุกคน’ 

การยื่นล้มละลายของ FTX จากการประสบภาวะขาดสภาพคล่องอย่างหนัก ไม่เพียงสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการคริปโตเคอร์เรนซีของโลก (หลายคนกังวลว่า จะส่งผลให้เกิดโดมิโนที่จะล้มตัวต่อไป) แต่ยังส่งผลใหญ่หลวงต่อผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโออย่าง แซม แบงก์แมน-ฟรายด์

เพราะนอกจากต้องตกบัลลังก์จากอภิมหาเศรษฐีอายุเพียง 30 ปี เจ้าของฉายา ‘ราชันคริปโต’ แล้ว ยังต้องเผชิญกับปัญหามากมาย โดยตอนนี้เขาอยู่ระหว่างถูกไต่สวนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกาว่า ได้กระทำผิดกฏหมายจากการล่มสลายของ FTX หรือไม่ 

การประสบภาวะขาดสภาพคล่องอย่างหนักของ FTX จนนำมาสู่การยื่นล้มละลายนั้น ก็เนื่องจากนักลงทุนแห่ถอนเงินออกมาราว 6,000 ล้านดอลลาร์ ภายในเวลา 72 ชั่วโมง หลังจาก Binance ประกาศถอนการลงทุนทั้งหมดในเหรียญ FTT ที่ FTX เป็นผู้ออก เพราะมีกระแสข่าวไม่ค่อยดีนักเกี่ยวกับงบการเงินบริษัทย่อยของ FTX นั่นคือ Alameda Research 

 

อย่างไรก็ตาม แม้ FTX ต้องเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เรื่องราวและเส้นทางของผู้ก่อตั้งอย่าง แซม แบงก์แมน-ฟรายด์ กับความสำเร็จที่เกิดขึ้นตั้งแต่อายุยังไม่เข้าเลขสามก็เป็นเรื่องน่าสนใจไม่น้อย

 

ชีวิตและการเติบโตท่ามกลางแนวคิด ‘ประโยชน์นิยม’

แซม แบงก์แมน-ฟรายด์ เติบโตมาในครอบครัวที่มีพ่อและแม่เป็นนักวิชาการและอาจารย์มหาวิทยาลัยด้านนิติศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) พ่อของเขา โจเซฟ แบงก์แมน (Joseph Bankman) เชี่ยวชาญและสอนนักศึกษาในด้านนโยบายภาษี ส่วนแม่ของเขา บาบาร่า ฟรายด์ (Barbara Fried) สอนและเขียนเกราบงกับวิชาที่มีการคาบเกี่ยวระหว่างนิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และปรัชญา

ทั้งพ่อและแม่ของแซม สร้างสภาพแวดล้อมที่หล่อหลอมและปลูกฝังแนวคิดแบบประโยชน์นิยม (Utilitarianism) ซึ่งแกนหลักของแนวคิดดังกล่าวคือการให้ความสำคัญกับการกระทำที่จะสร้างประโยชน์และความสุขให้แก่คนหมู่มากให้มากที่สุด หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง แนวคิดดังกล่าวคือความเชื่อว่าประโยชน์ของคนหมู่มากนั้นสำคัญที่สุด

แซมเติบโตมาท่ามกลางที่เชื่อในเรื่องของการขยับขยายและกระจายความสุขให้กว้างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยเหตุนี้จึงหล่อหลอมให้เขามีแนวคิดการแสวงหากำไรที่ไม่ได้หยุดอยู่ที่การสรรหาความสุขเข้ากับตัวเอง แต่ยังทำให้เขาอยากแผ่กระจายไปให้คนอื่น ๆ ที่ต้องการด้วย ด้วยเหตุนี้เอง เงินอันมากมายจากการประสบความสำเร็จของเขาจึงไม่ได้ตกอยู่ในมือของเขาเอง เพราะเขาได้ทำการบริจาคเงินหลายส่วนเข้าสู่องค์กรการกุศล

เหตุที่แซมถูกขนานนามว่าเป็นเบนท์แฮมแห่งวงการคริปโตฯ เป็นเพราะ ผู้ให้กำเนิดแนวคิดประโยชน์นิยมนั้นมีนามว่า ‘เจเรมี เบนท์แฮม’ (Jeremy Bentham) นักปรัชญาชาวอังกฤษที่คิดค้นแนวคิดดังกล่าวจนถูกขนานนามว่าเป็น ‘บิดาแห่งแนวคิดประโยชน์นิยม’ (Father of Utilitarianism) และด้วยความที่แซมเป็นหนึ่งคนที่ยึดหลักแนวคิดดังกล่าวในการดำเนินชีวิตและทำงาน จึงไม่น่าแปลกที่จะมีคนบอกว่าเขาคือเบนท์แฮมแห่งวงการคริปโตฯ

 

จากช่องโหว่ของราคาคริปโตฯ สู่การกำเนิดขึ้นของ FTX

หลังจากที่จบการศึกษาในด้านฟิสิกส์ ณ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology) หรือที่หลายคนอาจจะคุ้นชินในชื่อย่ออย่าง ‘MIT’ เขาก็ได้ไปทำงาน ณ Jane Street Capital เกี่ยวกับการซื้อ-ขายและเก็งกำไรหุ้น 

แต่จุดเปลี่ยนสำคัญดำเนินมาถึงในวันที่แซมเล็งเห็นช่องโหว่ของการซื้อ-ขายในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีระหว่างสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นที่มีราคาต่างกันถึง 10% นั่นจึงทำให้เขาซื้ออีกที่หนึ่ง แล้วนำไปขายอีกที่หนึ่ง เพื่อทำกำไรจากช่องโหว่ดังกล่าว 

ต่อมาไม่นานหลังจากได้ค้นพบความน่าสนใจในตลาดคริปโตฯ แซมก็ได้ก่อตั้งบริษัทแรกเป็นของตัวเองนามว่า ‘Alameda Research’ แต่ความยิ่งใหญ่และความสำเร็จของแซมก็ดำเนินมาถึงจุดพีคในวันที่เขาก่อตั้ง ‘FTX’ แพลตฟอร์มการซื้อ-ขายคริปโตเคอร์เรนซีในเดือนมีนาคม ปี 2019 จนกลายเป็นหนึ่งในกระดานการซื้อขายที่ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญที่สุดในตลาด

ความน่าสนใจของ FTX คือการที่แพลตฟอร์มดังกล่าววางภาพลักษณ์ของแบรนด์ตัวเองว่าเป็น ‘แพลตฟอร์มของนักเทรด ที่ถูกสร้างโดนนักเทรดเอง’ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การวางตัวของแบรนด์ดังที่เราได้กล่าวไปทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่า FTX จะเป็นกระดานการซื้อ-ขายที่มีแนวโน้มที่จะเข้าใจผู้ใช้ เหตุเพราะผู้ที่สรรค์สร้างมันขึ้นมาก็เป็นผู้ใช้เองมาก่อน ซ้ำยังเป็นผู้ใช้ที่เล็งเห็นถึงช่องโหว่ที่ ณ ตอนนั้น ใครหลายคนยังไม่เห็น

เรื่องราวของแบงก์แมน-ฟรายด์ดำเนินเรื่อยมาควบคู่กับควารุ่งโรจน์ของ FTX แต่วันหนึ่งพวกเขาก็ต้องประสบกับปัญหาด้านสภาพคล่อง หลังจากนั้นก็มีข้อเสนอจาก Binance ที่จะเข้ามาซื้อกิจการและควบรวมแพลตฟอร์มทั้งสองเข้าด้วยกัน แต่ท้ายที่สุด หลังจากที่มีการตรวจสอบข้อมูลจนถี่ถ้วน Binance ก็ตัดสินใจที่จะถอยออกจากข้อคกลงดังกล่าว

 

ภาพ: 

SOPA Images / Contributor

Tom Williams / Contributor

 

อ้างอิง:

Sam Bankman-Fried Discusses Collapse of FTX: Live Updates - The New York Times

Crypto billionaire Sam Bankman-Fried blames himself for FTX’s collapse, admits he ‘f---ed up’ - CNBC

The Story of Sam Bankman-Fried’s Backroom Deal With Binance’s CZ - CoinDesk

Icon: The Untold Story Of Crypto Billionaire Sam Bankman-Fried - Forbes

Binance ยุติการเข้าซื้อกิจการ FTX สร้างความโกลาหลให้ตลาดคริปโต - Investing.com

Who Is Sam Bankman-Fried? Downfall of crypto golden boy FTX founder SBF sees billions wiped from his wealth - Capital.com