เส้นทางตามหาฝัน 10 ปีของ ‘เจมส์ เจตพล’ มาถึงวันที่ไปถึงฝั่ง ได้แชมป์ ‘เดอะสตาร์’ 2022

• เจมส์ - เจตพล กนิษฐชาต ชนะการประกวดร้องเพลง ‘The Star ค้นฟ้าคว้าดาว 2022’ ช่วงต้นปี 2023 สิ้นสุดเส้นทางการตามหาฝันของนักร้องหนุ่มร่วม 10 ปี
• เส้นทางตามหาฝันร่วม 10 ปีของหนุ่มเจมส์ เจตพล เดินทางมาถึงวันนี้ภายใต้ความพยายามและไม่ย่อท้อ

ประกาศผลออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการแข่งขัน ‘The Star ค้นฟ้าคว้าดาว 2022’ รอบชิงชนะเลิศ เมื่อค่ำคืนของวันอาทิตย์ที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา  ในที่สุดก็ได้ ‘เจมส์ เจตพล กนิษฐชาต’ ผู้แข่งขันหมายเลข 8 เป็นผู้คว้าแชมป์ The Star 2022 ด้วยคะแนนโหวตจากคนไทยทั่วทั้งประเทศอย่างท่วมท้น

โดยในรอบชิงชนะเลิศเป็นการแข่งขันกันระหว่าง ‘ชินจัง ญาณาธิป’ หมายเลข 3  และ ‘เจมส์ เจตพล’ หมายเลข 8 ด้วยโจทย์ ‘มินิคอนเสิร์ต 15 นาที’ 

ชินจัง หมายเลข 3 ประเดิมเวทีแสดงเป็นคนแรกด้วยมินิคอนเสิร์ตที่ชื่อว่า ‘ชินจังจอมเก่ง’ เปิดตัวมาด้วยเพลงประกอบการ์ตูน ‘ชินจังจอมแก่น’ ต่อด้วยเพลง ‘North Star’,  ‘Please’ โจทย์เพลงจากแฟนคลับ และปิดท้ายด้วยเพลง ‘รัก’ เพื่อขอบคุณแฟน ๆ ที่คอยให้การสนับสนุนเสมอมา 

ก่อนจะถึงคิวของ ‘เจมส์ เจตพล’ ที่มาในชื่อ ‘Jame’s 10 Years After’ ที่พาแฟน ๆ ในเมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ ย้อนไปกับเส้นทางความฝัน  เริ่มด้วยเพลง ‘แพ้คำว่ารัก’, ‘ทนพิษบาดแผลไม่ไหว’ เพลงจากแฟนคลิป และปิดท้ายด้วยการโชว์เปียโนในเพลง ‘มีแต่คิดถึง’ เพื่อมอบให้กับแฟน ๆ ที่คอยติดตามและให้การสนับสนุนมาจนถึงตอนนี้

วินาทีแห่งความลุ้นระทึกว่าใครจะได้เป็นแชมป์ The Star ค้นฟ้าคว้าดาว 2022 ที่ตัดสินจากคะแนนโหวตจากคนไทยทั้งประเทศ ผลออกมาพบว่าแฟน ๆ เทคะแนนให้กับ เจมส์ เจตพล หมายเลข 8 อย่างล้นหลาม โดยมี ‘บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ขึ้นมอบถ้วยรางวัลและกล่าวต้อนรับท่ามกลางเสียงปรบมือยินดีกึกก้องทั่วเมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ พร้อมกับเจมส์ที่ได้หลั่งน้ำตาแห่งความดีใจออกมาให้ได้เห็นบนเวที

สำหรับ ‘เจมส์ เจตพล กนิษฐชาต’ เกิดวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2538  ปัจจุบันอายุ 27 ปี เป็นคนที่ชื่นชอบในเสียงเพลงและดนตรีมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม

จุดนี้นี่เองที่เป็นจุดเริ่มที่ทำให้เขาฝึกและสร้างศักยภาพทางด้านดนตรีมานับตั้งแต่วันนั้น ก่อนตัดสินใจเข้าศึกษาในคณะดุริยางคศิลป์ วิชาเอกขับร้อง มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อสานความฝันให้ตัวเอง

ในระหว่างนั้นเจมส์ยังทำหน้าที่เป็นครูสอนร้องเพลงและดนตรีเด็กเล็กอีกทาง เนื่องด้วยครอบครัวประสบปัญหาทางการเงิน เจมส์จึงต้องทำงานพิเศษพร้อมกับฝึกฝนทักษะทางดนตรีไปพร้อมกัน ขณะที่เส้นทางความฝันในการเป็นนักร้องก็ไม่เคยหายไปจากเป้าหมายชีวิตที่ตั้งไว้ เจมส์ตัดสินใจเข้าประกวดตามเวทีต่าง ๆ เพื่อหวังจะเป็นศิลปินและช่วยให้ที่บ้านได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ผ่านการประกวดมาหลายเวที แพ้แต่ก็ไม่เคยหยุดสู้

เจมส์ เจตพล ผ่านเวทีประกวดร้องเพลงมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ‘The Star ค้นฟ้าคว้าดาว ปีที่10’ (พ.ศ. 2556) เข้าไปถึงรอบ 24 คนสุดท้าย

ปี พ.ศ. 2559 เจมส์ เจตพล ไล่ตามความฝันของตัวเองอีกครั้งบนเวที ‘La Banda Thailand ซุป’ตาร์ บอยแบนด์’ ได้ขึ้นโชว์เสียงร้องในเพลง ‘ทำไมต้องเธอ’ ของซูเปอร์สตาร์เบอร์หนึ่งของไทย ‘เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์’ แต่ครั้งนั้นก็ยังไม่สามารถไปถึงฝันได้

ปี พ.ศ. 2560 เจมส์ เจตพล ปรากฎตัวอีกครั้งบนเวที ‘The X Factor Thailand ซีซั่น 1’ รายการเรียลลิตีโชว์แนวประกวดร้องเพลง เพื่อค้นหานักร้องที่มีความสามารถคนใหม่ รายการที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากประเทศอังกฤษและนำมาทำเป็นเวอร์ชั่นของไทย ออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์

โดยเจมส์ เจตพล ปรากฎตัวในตอนที่ 10 ด้วยเพลง ‘แพ้แล้วพาล’ ของ ‘ไอซ์ ศรัณยู วินัยพานิช’ แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าไปนั่งเก้าอี้เพื่อผ่านเข้ารอบได้ รวมถึงรายการ ‘STAGE FIGHTER ไมค์คู่ สู้ฟัด’ ในปี พ.ศ. 2562 ก็เช่นกัน

แม้ว่าจะยังไม่เข้าใกล้ความฝันอย่างการเป็นนักร้องได้ แต่เจมส์ เจตพล ยังไม่หยุดความพยายามของตัวเอง เข้าร่วมประกวดในรายการ ‘The Voice Thailand 2019’ (ปี พ.ศ. 2562) โดยเลือกเพลง ‘ทนพิษบาดแผลไม่ไหว’ ของวง ‘Potato’ มาร้องในรอบออดิชั่น ด้วยน้ำเสียงทรงพลังของเจมส์ ทำให้โค้ชทั้ง 4 กดเลือก และเจมส์เลือกไปเป็นลูกทีมของโค้ช ‘โจอี้ บอย’ ไม่เพียงเท่านั้น เจมส์ยังได้รับคำชมจากวง Potato ที่เป็นเจ้าของผลงานเพลงดังกล่าวอีกด้วย

อีกครั้งที่เจมส์ เจตพล ยังไปไม่ถึงแชมป์ The Voice Thailand 2019 แต่ว่าเจ้าตัวก็ได้รับโอกาสที่ดีมาก ๆ นั่นก็คือ ได้ออกซิงเกิลของตัวเอง อย่างเพลง ‘เวลาที่เหลือ’ ภายใต้การดูแลของ ‘Basecamp Records’ ที่แต่งออกมาด้วยตัวเอง จากประโยคว่า

“ถ้าวันหนึ่งเราอยู่กับคนที่เรารักเป็นวันสุดท้าย แล้วคนที่รักกำลังจะจากเราไป เวลาที่เหลือขอกอดเธอเอาไว้ก่อนได้ไหม”

และหลังจากปล่อยซิงเกิลดังกล่าว เจมส์ห่างหายไปจากวงการประกวดร้องเพลงอยู่พักใหญ่ ก่อนที่เขาจะกลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในการประกวด ‘The Star 2022’

หลังจากที่ผ่านการประกวดมาหลายเวทีแต่ก็ยังเข้าใกล้ความสำเร็จไม่มากพอ กลับมาครั้งนี้ เจมส์ เจตพล ออดิชั่นผ่านเข้ามาเป็นตัวแทนจากภาคกลาง ได้โชว์ศักยภาพและความสามารถในการร้องเพลงให้ทุกคนได้เห็นตลอดระยะเวลา 8 สัปดาห์ที่อยู่ในการแข่งขัน จนในที่สุดก็สามารถชนะใจกรรมการ รวมถึงแฟน ๆ ทั่วประเทศจนได้รับผลโหวตอย่างถล่มทลาย สามารถคว้าแชมป์ The Star 2022 ได้สำเร็จอย่างสมศักดิ์ศรี

 

สิ้นสุดทางฝัน 10 ปี กับความสำเร็จที่ทำได้แล้ว

เจมส์ เจตพล เปิดใจหลังคว้าแชมป์ The Star 2022 ถึงความสำเร็จในตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่เขาได้สู้มา ท่ามกลางความผิดหวังและความท้อจนเกือบจะถอย แต่ในที่สุดเขาก็มาถึงวันนี้

“พูดไม่ออกเหมือนกันนะครับ ตอนนี้ผมทำสำเร็จแล้ว กว่า 10 กว่าปีที่ผมเดินทางต่อสู้มา วันนี้มันสำเร็จ มันเป็นความรู้สึกที่เอ่อล้นมาก ๆ ไม่รู้จะบอกยังไง ดีใจ ตื้นตันใจ น้ำตาที่เห็นบนเวทีมันเป็นน้ำตาของ 10 ปีที่ผ่านมาของผมเลย จริงๆ ผมเป็นคนร้องไห้ยากมากนะครับ ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนไม่ชอบร้องไห้ แต่ถ้าร้องก็คือร้องเลย สิ่งนี้มันมาจากความรู้สึกที่อยู่ข้างในแล้วผมทำมันได้จริงๆ แล้วครับ

ระหว่างทางของผมมันมีแต่ความคาดหวังว่าต้องทำให้สำเร็จนะ ต้องทำอย่างนี้นะ แต่พอมาถึงวันนี้แล้วได้ทำเต็มที่ขนาดนี้ ผมเองรู้สึกว่าทุกอย่างบางทีมันอาจจะขึ้นอยู่กับช่วงเวลาด้วย โชคชะตาด้วย ถามผมถึงความหวัง มันก็มีเหนื่อย มีท้อทุกวัน แต่ไม่งั้นเราก็คงไม่ได้สู้มาจนตรงนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความหวังเล็กๆ แค่ไหน แต่มันก็เป็นความหวังที่จะเปิดประตูไปสู่ความสุขได้ ยังไงผมก็จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ทำให้ทุกคนภูมิใจที่เลือกผมนะครับ

ขอบคุณจริง ๆ ครับ ขอบคุณมากที่อยู่ข้างกัน ส่งความรักให้กัน ผมได้กลับมาร้องเพลงอย่างมีความสุขอีกครั้ง เพราะทุกคนที่คือส่วนหนึ่งของชีวิตผม ขับเคลื่อนชีวิตของผมให้มาถึงจุดนี้ ดีใจมาก ๆ เลยครับ ที่ได้มาร้องเพลงให้ทุกคนฟัง ดีใจมากครับที่ทุกคนรักในเสียงเพลงของผม ผมจะทำให้มันดีขึ้นแน่นอนครับ ขอบคุณมากครับ”

สำหรับเส้นทางของเจมส์ เจตพล หลังจากได้คว้าแชมป์เดอะสตาร์ 2022 ได้สำเร็จแล้ว หลังจากนี้ไปเจ้าตัวก็จะมีซิงเกิลเพลงของตัวเอง ภายใต้การดูแลของ One Music รวมถึงโอกาสในวงการบันเทิงอีกหลายด้านที่รออยู่

แม้จะต้องใช้ความพยายามนานถึง 10 ปี กว่าจะมาถึงฝั่งฝัน แต่ก็เป็นผลจากความพยายามอย่างมุ่งมั่น ทำให้เจมส์ เจตพล กลายเป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่แสดงให้เห็นว่า ‘ความพยายามไม่เคยทรยศใคร’ และน่าจะเป็นตัวอย่างและแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนได้เป็นอย่างดี

 

ภาพ: The Star/ช่องวัน